ผู้เขียน หัวข้อ: ผงยาวาสนาจินดามณี  (อ่าน 25885 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ โยคี

  • เด็กวัด
  • *****
  • กระทู้: 1361
  • เพศ: ชาย
  • เมตตาธรรมค้ำจุนโลก
    • ดูรายละเอียด
ผงยาวาสนาจินดามณี
« เมื่อ: 01 ธ.ค. 2549, 02:54:29 »
คัดลอกเขามานะ

 สูตรการสร้างยาจินดามณี

เมื่อกล่าวถึงผงยาจินดามณี ต่างก็ทราบกันดีอยู่แล้วว่า เป็นสูตรการสร้างวัตถุมงคล ที่ส่งให้ชื่อเสียง
ของวัดกลางบางแก้ว โดยเฉพาะหลวงปู่บุญโด่งดังขจรขจาย อุปเท่ห์การใช้ยาจินดามณีนั้นมีคุณครอบ
จักรวาล แม้แตาสามารถฉุดกระชากจิตวิญญาณที่ใกล้จะดับสูญ ให้กลับฟื้นคืนสติขึ้นมาสั่งเสียข้อความต่างๆ
แก่ญาติโยมได้ สูตรการสร้างยาจินดามณีนี้ เป็นของเก่าแก่ดั่งเดิมสืบทอดมาหลายชั่วอายุคนแล้ว สำหรับ
หลวงปู่บุญนั้นท่านก็ได้รับสืบต่อมาจากพระปลัดทอง ซึ่งเป็นอุปัชฌาย์อาจารย์ของท่าน

กรรมวิธีการสร้างนั้น ประกอบด้วยพิธีกรรมและเครื่องยาแยกเป็นสองส่วน ส่วนที่เป็นเครื่องยานั้น
ตำรับโบราณได้พรรณาเอาไว้อย่างกว้างๆ ตามตำราว่า

"จินดามณีโอสถอันพิลาส" ประกอบดอกคลาด ดอกจันทร์เกสรบุษบัน เปราะหอม กำยานโกฐสอ
โกฐเขมา ทองน้ำประสาน เปลือกกุมชลธาร กรุงเขมาเท่ากัน ผสมแล้วตำบดพิมเสน ชะมดน้ำผึ้ง รวงรัน
กฤษณา น้ำมะนาว น้ำมะเขือขื่นคั้นผสมยาเข้าด้วยกัน บดปั้นตากกินเป็นยาวาสนาเลิศล้ำตำราในโลกแผ่นดิน
อุปเท่ห์กล่าวไว้ ผู้ใดได้กินจะสวัสดิโสภิณกว่าคนทั้งหลาย พัสดุเงินทองจักพูนกูลนองกว่าโลกหญิงชาย
นำมาบูชาอหิวาต์ก็มิวาย ระงับอันตรายทั้งสี่กิริยาโทษหนักเท่าหนัก มาตรแม้นประจักษ์ถึงกาลมรณา
ถ้าแม้นใครกินซึ่งยาวาสนากลับน้อยถอยคลาเคลื่อนคลายหายเอย

นอกจากนี้ยังได้แยกเครื่องยาไว้อย่างละเอียดว่า สมุนไพชนิดใดจะเอาส่วนไหนประกอบกับอะไร
บดเป็นผงละเอียด เคล้ากับตัวประสานสมุนไพรนั้นมีมากมายหลายชนิด แยกออกเป็นสันส่วนว่า ส่วนไหน
ใช้เท่าใด และให้ลงหรือเสกด้วยคาถาอย่างไรบ้าง เมื่อปลุกเสกเครื่องยาแต่ละส่วนตามคาถาที่กำกับแล้ว
ก็เอาเครื่องยามาผสมกับมีคาถาฤาษีประสมยาประกอบไว้อีกโสดหนึ่ง ในเรื่องสัดส่วนของสมุนไพรตลอดจน
สมุนไพรนอกจากที่ได้กล่าวไว้ในเบื้องต้นนั้น และพระคาถากำกับการเสกสมุนไพรมากมายหลายบท

จากนั้นท่านได้แจกแจงรายละเอียดเอาไว้ในส่วนการลงลูกหินและแม่หิน ซึ่งจะใช้บดยาว่า
"แม่หินต้องลงอักขระเลขยันต์อีกแบบหนึ่งและมีคาถาประกอบขณะบดยา"

การจัดพิธีท่านให้เลือกเอาวันเพ็ญขึ้น ๒๕ ค่ำกลางเดือน ๑๒ ซึ่งหากปีใดได้ราชาฤกษ์หรือเพชรฤกษ์
จัดว่าดีเยี่ยมให้จัดเครื่องสังเวยเทวดาบัตรพลีต่างๆ รวมทั้งราชวัตร ฉัตรธงภายในพระอุโบสถ และมีสายสิญจน์
รอบพระอุโบสถแต่ละทิศให้ลงยันต์ประจำทิศด้วยผ้าแดง ด้านหน้าพระอุโบสถแต่ละทิศ ให้ลงยันต์ตรีนิสิงเห
และยันต์จินดามณีประกอบไว้เป็นพิเศษด้วย เมื่อได้ฤกษ์ให้ชุมนุมเทวดา แล้วให้พระภิกษุและฆราวาส
ที่ร่วมพิธีพร้อมกัน โดยเฉพาะฆราวาสนั้น หากเป็นหญิงให้ใช้สาวพรหมจารีย์ ซึ่งรักษาศีลอุโบสถ (ศีล ๘)
มาแล้ว ๓ วัน ส่วนชายก็ให้รักษาศีลอุโปสถเช่นกัน

ผู้ร่วมพิธีปั้นเม็ดยา หรือกดพิมพ์พระจะต้องภาวนาพระคาถาไปด้วย ไม่ว่าเม็ดยา หรือพระพิมพ์ที่ปั้น
และกดเสร็จแล้วจะต้องนำไปปลุกเสกด้วยมนต์ขลังอีกอย่างน้อย ๗ เสาร์ ๗ อังคาร

การสร้างยาจินดามณีนี้ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "ยาวาสนา" ซึ่งมิใช่มีเฉพาะตำหรับของวัดกลางบางแก้ว
เท่านั้น วัดอื่นก็มีสร้างกัน เช่น วัดปากครองบางครก อ.บ้านแหลม จ. เพชรบุรี ก็มีการสร้างในสมัยของ
หลวงพ่อโศก (พระครูอโศกธรรมสาร) เกจิอาจารย์ผู้พระเดื่องนาม ในการสร้างปลัดขิก พระขรรค์และ
ผ้ายันต์ราชสีห์เส้นคู่ ตำหรับการสร้างผงยาจินดามณีของวัดปากคลองบางครกนี้ ก็มีกรรมวิธีการสร้างและ
อุปเท่ห์การใช้อย่างเดียวกันกับของวัดกลางบางแก้ว ผู้เขียนเข้าใจว่าคงเป็นตำราที่สืบทอดแตกแยกกัน
ออกไป เมื่อได้พูดถึสูตรผงยาจินดาตรีของทั้ง ๒ สำนักแล้ว ก็อยากจะนำอุปเท่ห์การใช้มาเขียนลงไว้
อย่างชัดเจน โดยขอกล่าวถึงอุปเท่ห์การใช้ยาจินดามณีตำหรับวัดกลางบางแก้วก่อน

ใครได้รับประทานยาจินดามณีแล้วจะบันดาลให้เกิดศิริสวัสดีและลาภผล หากบูชาเอาไว้จะป้องกัน
และรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ แม้แต่อหิวาตกโรคผู้ใดมีไว้จะปราศจากอันตรายใดๆ ในทุกอิริยาบถผู้ใดต้อง
โทษทัณฑ์ก็จะบรรเทาเบาบางลงได้ ผู้ใดป่วยหนักแม้แทบจะสิ้นชีวิต หากได้รับประทานอาจินดามณีแล้ว
ก็จักรอดตายฟื้นหายจากโรคนั้นสำหรับวิธีการใช้ยาขอยกเอามาเพียงบางส่วนดังนี้

ถ้าใช้รักษาอหิวาตกโรคให้เอายอดทับทิมต้มผสมกับกานพลูและน้ำปูนใส แล้วฝนเม็ดยาใส่ลงไป
ดื่มรับประทานหายจากโรคแล

แก้โรคเสมหะดีขึ้น(คนป่วยถ้าเสมหะตีขึ้นแล้ว มักจะไม่รอด) ให้ใช้ดีหมีผสมน้ำร้อน แล้วใส่ยาจินดามณี
ผสมลงไปรับประทาน

ถ้าเกิดคดีความขึ้นโรงขึ้นศาล ให้เอายาใส่น้ำเสกด้วย "เอกัง จินดามณีมันตัง" เป็นเมตตามหานิยม
แล้วเอาน้ำประพรมศรีษะ เอาเม็ดยาอมไว้ตลอดเวลา จะชนะความทั้งสิ้นแล

หากจะให้ปัญญาดี ให้เสกด้วยพระคาถาต่อไปนี้ ๓ คาบ
"ตะโตโส ปัณฑิโต ปิหิโส อัตถะ ทัสสีมะโหสะ โถ" แล้วอมยาจะท่องมนต์คาถาสารพัดวิชา จำได้สิ้น
ที่หลงลืมก็จะระลึกได้อุปเท่ห์การใช้ผงยาจินดามณี ของวัดกลางบางแก้วนี้ยังมีอีกมาก เอาไว้กล่าวถึงใน
บทเฉพาะเกี่ยวกับพระคาถาอาคมของหลวงปู่บุญ

สิทธิการิยะ จะกล่าวถึงสรรพคุณวิเศษของยาจินดามณี ตำหรับวัดปากคลองบางครก (อันที่จริง
ก็ตำรับเดียวกันนั่นแหละครับ เพียงแต่แตกแยกออกไปเท่านั้น)

แก้โรคในจักษุ ๖ แก้ในจมูก ๓ ประการในลิ้น ๖ ประการ ในฟันในท้อง ๔ ประการ แก้ไขบั้นปลาย
ก็ได้แก้ลมมหาสดมภ์ แก้ลมราชยักษ์กุมภัณฑ์ยักษ์ แก้อ่อนเปลี้ยเพลียใจ คลื่นไส้เอาเจียรเป็นยาครรภ์
รักษา แก้หัวพิษ หัวกาฬ ละลอกน้ำ ละลอกไฟ

ผิวเป็นอัมพฤก อัมพาต ตายไปทั้งตัวก็ดีฝ่ายซ้ายขวาก็ดี ตีนมือ คาง ขากรรไกร ก็ดีหาสมประดี
ไม่ได้ไซร้ ให้เอาหญ้าฝรั่ง พิมเสนทองคำ บดด้วยยาละลายกรองลงไปได้สติลืมตามีน้ำตาไหล น้ำลายยืด
แล้วหายแล ถ้าคนไข้บีบมือเหมือนจะออกคำ แต่ออกมิได้ให้เอาดีหมีก็ได้ถ้าไม่มีดีงูก็ได้ ต้มน้ำให้ละลาย
ประมาณครึ่งถ้วยพริก ใส่เหล้าครึ่งให้กินเถิดถึงเสลดหางวัวตีขึ้นก็จับกลับหาย หายมากแล้ว

ถ้าผู้บ่าวสาว ชักดิ้นงักงอ หมดสติตีนมือเกร็ง มีมายาต่างๆ เหมือนผีสิงก็ดีกัดฟันหน้าเบี้ยว ให้เอาพิมเสน
มาบดด้วยยาใส่ฝิ่นรำหัส ให้ต้มน้ำขิงทุบ เอาน้ำอุ่นเยี่ยวหนูให้กิน ถ้ามิฟังให้เอาหัวหอม ๓-๔ หัวตำ คั้นน้ำ
บดยาให้กิน แก้กำหนัดกามราคะขึ้น เป็นลมเบื้อนสูงสงบและเลือดระดูทำพิษให้เอาเสนียด คำฝอยต้ม

แก้สวิงสวาย หน้ามืดตาลาย กระวนกระวายเป็นทุกข์ระส่ำทรวง หัวใจเต้นดังตีปลาเหงื่อกาฬแตก
บดยาใส่น้ำดอกไม้สด น้ำมะลิ บังหลวง กระดังงาก็ได้ ทั้งกินทั้งดมหายใจแลแก้ร้อนใน น้ำดอกไม้เทศ
แก้ทราง ละลายน้ำพ่น ชะโลมตัวหายแล

แก้เลือดตก น้ำมะขามเปียกครึ่งชามแกงแซกเหลือตัวผู้ แก้ลมบ้าหมู น้ำมะนาว แก้ไอมะนาวแทรกเกลือ

ตกลงป่วง ลงราก โรคห่า ละลายน้ำยา ด้วยน้ำฝนกินให้อิ่มหายพลัน ถ้ามิฟังเอาเปลือกมะม่วง ๓
เปลือก ต้มใส่ปูนน้อยหนึ่ง ต้ม ๓ เอา ๑ ละลายกินเถิดหาย

แก้บิดมูกเลือด ขมิ้นข้น ๓ แว่น ทายาฝิ่นหรือขี้ยากรอบงโรยลงปิ้งไฟเกรียม บดด้วยน้ำปูนใสใส่ยา
๑ เม็ดกิน ๓ ที หายดีนัก แก้จุกเสียดแน่นเฟ้อใช้น้ำขิงต้ม

แก้โรค อุปทม ทุเลาวสา มุตกิต มุตฆาต ยักน้ำกระสายธาตุ ๔ ต้ม ให้ถ่ายใช้เกลือหนัก ๑ ชั่ง
ธาตุหนักก็เพิ่มขึ้น ใบมะขามต้มเป็นกระสาย

องคชาติปวดแสบในลำปัสสาวะ เมื่อปัสสาวะเป็นกำลังบานไม่รู้โรยขาว ทั้งห้าต้นแทรกสารส้ม
รำหัสละลายยากินเถิดหาย มักหนักถ่วงท้องน้อย บางครั้งมีแน่นให้เอาใบมะดัน ๙ ใบลงด้วยนวหรคุณต้ม
แทรกสารส้มกินหาย เมื่อทุเลาแล้วแต่งยาชื่อกษัยองคสุตรกินเสียหายแล

แก้หัวพิษ หัวกาฬ หัวละลอก ใช้น้ำครำฝนยาทาใช้น้ำขี้เถ้าดินเผาไฟก็ได้ใบมหากาฬตำก็ได้

แก้บาดทะยัก เอาผักปราบตำใส่ปูน น้ำมะนาวบีบลงในยานี้ทาหาย ถ้าชักกระตุกแล้วให้รีบทาเถิด
ยักยาอื่นตายแล

อนึ่งทารกแรกเกิด ให้เอายาฝนกับน้ำผึ้งรวงแล้วหยอดให้ทารกนั้นกิน ๓ วันแรกเสียงจะดีนักแล
เลี้ยงง่ายปัญญาดีแล

ถ้าให้มีปัญญาพาที ให้เสกด้วยพระคาถานี้ ๓ จบ แล้วอมยาไว้จะเล่าบ่นมนต์คาถาสารพัดวิชาจำได้สิ้น
ที่เลือกลืมหลงก็นจะรำลึกได้แล

ให้เสกด้วยมนต์มหาจินดาติดตัวไปเป็นเสน่ห์บังเกิดลาภผลที่ตนปรารถนาแล

ให้เสกด้วย พัสสมิงกิเนนโตฯ สู้ความชนะ

ให้เสกด้วย เอกจินดา มณีมนตํ ติดตนไปเป็นมหานิยมภาวนา อุอากะสะ ทำการไร่นามิเหนื่อยแล

ให้ภาวนาด้วยบท ยันทุนนิมิตตัง จบหนึ่งเอายาติดตัวไว้กลัวลางนิมิตร้ายแล

อมยาแล้วนั่งเหนือลมภาวนา อิตถีจิตตํ ปิยํ มะมะ รักและหลงเรา จากไปมิได้แล

เมื่อจะเดินทางไปสารทิศ เข้าหายเจ้านายผู้ใหญ่ ใช้ยานี้แช่น้ำใช้น้ำนั้นสระหัวอมยา แล้วภาวนา
สัตถาเทวมนุสสานัง พุทโธ ภควาติ ๗ คาบผู้ใหญ่ เจ้านายหายโกรธ ช่วยเหลือเราทุกทางเลย

ถ้าเผชิญด้วยหมู่ศัตรูหมู่ร้าย ให้อมยาแล้วภาวนาพามานา อุกะสะนะทุ ๘ คาบ ชนะศัตรู ศัตรูทำร้าย
มิได้ แคล้วคลาดสารพัดแล

เอายาติดตัวไปป้องกันสรรพโรคภ้ย ป้องกันเสนียดจัญไร กันย่ำยีด้วยคุณไสย คุณผี คุณคน สารพัด
พิษ ผิดสำแดง เมื่อต้องยาเบื่อมา เอารากมะปรางหนึ่ง หัวนุมานกระทบแท่งหนึ่ง ฝนทำน้ำกระสาย หรือ
เอาแต่อย่างหนึ่งก็ได้กินเถิดมิเป็นไรอย่าประมาทเลย เคยแก้ยาสั่งมาแล้ว ถ้าติดตัวไปมิต้องเราแล

ให้มีติดตัวถึงราวอับจนจะได้ใช้ ตามืด หูมืด ใช้ได้ทุกเมื่อ มีอำนาจวิเศษคุณมากตีค่าไว้ถึง ๘ ชั่งทองแล

ที่ต้องเอาเกล็ดและฝอยของยาจินดามณีหรือยาวาสนาตำรับวัดปากคลองบางครก อ.บ้านแหลม
จ.เพชรบุรี มาลงไว้เสียยืดยาว ก็เพราะว่าต้องการให้ผู้อ่านเทียบเคียงกันดูว่าทั้งตัวยาและอุปเท่ห์การใช้นั้น
มีส่วนเหมือนและคล้ายคลึงกันมากซึ่งก็ไม่ใช้เรื่องแปลก เพราะสูตรดั่งเดิมของการสร้างยาจินดามณีนั้น
เป็นศัตรูเก่าแก่ครั้งกรุงศรีอยุธยา เพียงแต่แตกสาขาออกไปหลายสาย โดยเฉพาะสายวัดกลางบางแก้วนั้น
ได้สืบทอดมาแต่ท่านเจ้าคุณวัดราชนัดดาที่มามีชื่อเสียงแพร่หลายกว่าสายอื่นนั้น ก็คงเนื่องจากตบะบารมี
ของหลวงปู่บุญท่านสูงส่งและแก่กล้ากว่าเท่านั้นเอง แต่ก็ใช้ว่าสูตรยาจินดามณีของสำนักอื่นไม่มีหรือมี
แต่จะด้อยสรรพคุณกว่าก็หาไม่ เพราะอันพระเถราจารย์เจ้าในยุคเก่าๆ นั้น ท่านเชี่ยวชาญเข้มขลังไม่แพ้กัน
หรอกครับ แต่ละท่านต่างก็ยกย่องซึ่งกันและกัน แต่มาชั้นหลังรุ่นพวกเราเหล่าลูกศิษย์ชักจะมีคติถือครูบา
อาจารย์ถือสำนัก แบ่งพรรคแบ่งพวกกันเสียแล้ว ผู้เขียนไม่เห็นด้วยเลยครับ อย่างไรเสียก็ควรจะช่วยกัน
รักและอนุรักษ์ของเก่าแก่ดั่งเดิมเอาไว้เถอะครับ แม้จะต่างวัด ต่างสำนักกันก็อย่าได้มองข้ามหรือดูแคลน
กันนักเลย
 พระคาถาเสกยาจินดามณี

"จินดามณี ปิยังมันตัง ยะสังธาสังโกนัง อุปะสันติ สิเนหัง มาตาปิตาวะ โอระหัง ปะโพตันจะ
มหาราชา ตะวังมังโปสัตถุ โนทีปัง กาเรเทโว สุโป เสทิ กิญจิ เทโว เย สักโก ปัชชัง ทัสมิง กินเนวา
ทัตตาปิยัง กันตัง สาริปุตโต ภวันตุ เม สิทธิลาภัง ชนานะเย มณีจินดา ปิยัง จะ ธะนังสัพเพชะนา
พหูชะนา ปิยังมะมะ"

มนต์จินดาบทนี้มีคุณเป็นเอนกประการ ขอให้ผู้มีเม็ดยาหรือพระยาจินดามณี หมั่นท่องบนภาวนาเป็นประจำ
จะช่วยเสริมอิทธิฤทธิ์และบุญฤทธิ์ของยาให้บังเกิดสรรพคุณเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ แต่หากท่านยังไม่มีเม็ดยา
หรือพระยาจินดามณี ถ้าจะจดจำเอาไว้สวดภาวนาอยู่เป็นนิจก็ไม่ถือว่าเป็นความผิด พุทธคุณนั้นมากหลาย
โดยจะขอจำแนกแจกแจงตามวิธีใช้ดังต่อไปนี้

ขอทบทวนบทที่เขียนไปแล้ว ๒ บทด้วยคือ

ถ้าเกิดคดีความขึ้นโรงขึ้นศาล ให้เอายาใส่น้ำเสกด้วย "เอกัง จินตามณีมันตัง" เป็นเมตตามหานิยม แล้ว
เอาน้ำปะพรมศรีษะ แล้วอมเม็ดยาไว้ตลอดเวลาจะชนะความสิ้นแล และเป็นเมตตามหานิยมแก่คนทั้งปวง

ถ้าให้ปัญญาดีเสกด้วยคาถาบทนี้ ๓ จบ "ตะโต โส ปัณฑิโต ปีหิโส อัตถะทัสสิ มะโหสะโถ" แล้วอมยา
จะท่องบ่นมนต์คาถาสารพัดวิชาจำได้สิ้นที่หลงลืมก็จะรำลึกได้

ถ้าป้องกันงูและสัตว์พิษ ให้ท่องมนต์บทนี้ "เอกัง จินตามณี นาคา มันตัง" งูทุกชนิเจะไม่อาจทำอันตรายได้

ถ้าอยากจะให้ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยในการงานท่านให้ภาวนามนต์ต่อไปนี้ "อุ อา กะ สะ"

ถ้าต้องการให้เหตุร้ายกลายเป็นดี ท่านให้ภาวนามนต์ต่อไปนี้ ให้ภาวนาด้วยบท
"ยันทุนนิมิตตัง อวมังคะลัญจะ"

ถ้าอยากให้คนรัก รักเราเป็นนิรันดร์ท่านให้อมเม็ดยาเอาไว้ แล้วนั่งเหนือลมภาวนามนต์
"อิตถี จิตตัง ปิยัง มะมะ"

เมื่อจะเดินทางไปสารทิศใด เข้าหาเจ้านาย ผู้ใหญ่ ให้เอายาแช่น้ำ ใช้น้ำนั้นสระผม อมเม็ดยา ไว้แล้ว
ภาวนา "สัตถา เทวะมนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ" ๗ คาบ ผู้ใหญ่เจ้านายหายโกรธ ช่วยเหลือเราทุกเมื่อ

ถ้าเผชิญศัตรูหมู่ปัจจามิตร ท่านให้อมเม็ดยาแล้วภาวนาว่า "พามานา อุ กะ สะ นะ ทุ" ๘ คาบ ชนะศัตรู
ศัตรูทำร้ายเรามิได้ แคล้วคลาดสารพัดแล
อิติ สุคคะโต อะระหัง พุทโธ นะโมพุทธายะ  ฐิตคุโณ อาจาริโย จะมหาเถโร
มหาลาโภ สัพพะสุขขัง จะมหาลาภัง สัพพะโภคัง สัพพะธะนัง ภะวันตุเม

ออฟไลน์ โยคี

  • เด็กวัด
  • *****
  • กระทู้: 1361
  • เพศ: ชาย
  • เมตตาธรรมค้ำจุนโลก
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: ผงยาวาสนาจินดามณี
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 01 ธ.ค. 2549, 03:09:52 »
ผงยาวาสนาจิดามณี ของวัดบางพระ ก็มี 1.ชุดพระผงสมเด็จ / รูปเหมือน ประมาณปี 32-33 
2. รุ่น หลวงพ่อเปิ่น ขี่เสือรุ่นแรก 3. ขี่เสือ ห้าเสาร์ 4. ชุดฤๅษีรุ่นไหว้ครู ปี 44  เป็นต้น

ออฟไลน์ หมาป่าพเนจร

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 76
  • เพศ: ชาย
  • -
    • MSN Messenger - chokchai385@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: ผงยาวาสนาจินดามณี
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 01 ธ.ค. 2549, 04:26:14 »
ได้ความรู้มากครับ
ทุกอย่างสิ้นสุดด้วยความตาย วุ่นวายทำไม

ออฟไลน์ ~EN13~

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 301
  • เพศ: ชาย
  • รักและเคารพ ศิษย์วัดบางพระทุกคนครับ^ ^
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: ผงยาวาสนาจินดามณี
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 01 ธ.ค. 2549, 06:51:20 »
เจ๋ง ดีคับ


สิ่งสำคัญที่สุดของชีวิต

ออฟไลน์ โยคี

  • เด็กวัด
  • *****
  • กระทู้: 1361
  • เพศ: ชาย
  • เมตตาธรรมค้ำจุนโลก
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: ผงยาวาสนาจินดามณี
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 28 ก.พ. 2550, 06:59:42 »
ผงยาวาสนาจินดามณี​ ​ตำ​รับหลวงปู่บุญ​ ​วัดกลางบางแก้ว

มื่อวันอาทิตย์ที่​ 26 ​พฤศจิกายน​ 2549 ​เวลา​ 13.30 ​น​. ​พระ​เจ้าหลานเธอพระองค์​เจ้าพัชรกิตติยาภา​ ​ได้​เสด็จไป​เป็น​ประธาน​ ​ใน​การปรุง​และ​ปั้น

ยาวาสนาจินดามณี​ ​ณ​ ​อุ​โบสถวัดกลางบางแก้ว​ ​โดย​มีหลวงปู่​เจือ​ ​ปิยะสี​โล​ ​เป็น​ผู้​ปรุง​และ​บดยาวาสนาจินดามณีถวาย​ ​พระ​เจ้าหลานเธอพระองค์​

เจ้าพัชรกิตติยาภา​ ​ทรงปั้นเม็ดยาวาสนาจินดามณี​ ​ใน​การดำ​เนินการพิธีครั้งนี้​ ​ยาวาสนาจินดามณี​  ​ส่วน​หนึ่งหลวงปู่​เจือ​ ​ปิยะสี​โล​ ​ได้​ทูลเกล้า

ถวายพระ​เจ้าหลานเธอพระองค์​เจ้าพัชรกิตติยาภา​ ​และ​อีก​ส่วน​หนึ่ง​ได้​นำ​ไปสร้างพระยาวาสนาจินดามณี​ ​ซึ่ง​จะ​ประกอบพิธี​ให้​ทำ​บุญ​ใน​งานทำ​

บุญฉลองอายุครบ​ 81 ​ปี​ ​ใน​วันที่​ 14 ​พฤษภาคม​ 2550


ยาวาสนาจินดามณี​ซึ่ง​หลวงปู่​เจือ​ ​ปิยะสี​โล​ ​ปรุงครั้งนี้ครบถ้วนตามตำ​รับหลวงปู่บุญ​ ​ถูก​ต้อง​ตามตำ​รา​เครื่องสมุนไพรตัวยาครบถ้วนสมบูรณ์​แบบ​

​และ​เป็น​รุ่นแรกของหลวงปู่​เจือ​ ​ปิยะสี​โล​ ​วัดกลางบางแก้ว​ ​พระ​เครื่องก็​จะ​สร้าง​จาก​ยาชุดนี้​ ​สำ​หรับงานฉลองอายุ​ 81 ​ปี​ ​เท่า​นั้น​  ​นับ​เป็น​ครั้งแรก

ที่หลวงปู่​เจือ​ ​ปิยะสี​โล​ ​สร้างยาวาสนาจินดามณี​  ​ที่ถูก​ต้อง​ตรงตามตำ​รับครบเครื่อง​ทั้ง​สมุนไพรใบยา​ ​ฤกษ์ยามถูกตาม​ ​กำ​หนดภาย​ใน​ราชวัตร

ฉัตรธง​ ​และ​ลูกหิน​-​แม่หินลงยันต์ครบถ้วน


ก่อนๆ​ ​นั้น​ใคร​จะ​เอายาอะ​ไรมา​ให้​ท่านเสก​ ​ท่านใจดีก็​เสก​ให้​ ​แล้ว​ก็อ้างว่า​เป็น​ยาวาสนาจินดามณีของวัดกลางบางแก้ว​ (วัดกลางบางแก้ว​ไม่​เคย

มอบยาวาสนาจินดามณี​ให้​ที่​อื่น​ใด​ไปสร้าง​ทั้ง​สิ้น) ​ถ้า​เป็น​ยาวาสนาจินดามณีของวัดกลางบางแก้ว​ ​เครื่องยามิ​ใช่​หา​ได้​ง่ายๆ​ ​ใช้​เงินมหาศาล​ ​

ฤกษ์ยาม​ต้อง​ตามกำ​หนดมิ​ได้​ทำ​กัน​มั่วๆ​ ​และ​ต้อง​ทำ​ใน​อุ​โบสถ​ ​มีการบวงสรวง​ ​มีการเจริญพระพุทธมนต์มหาจินดามณีมนตราคม​ ​ตามกำ​หนดก

ฎเกณฑ์​ ​มียันต์​แม่หินลูกหิน​  ​ยันต์​แวดวงสายสิญจน์​ ​และ​รายละ​เอียด​อื่นๆ​ ​อีกมากมาย

ใน​ชีวิตของหลวงปู่​เพิ่มทำ​ได้​เพียงครั้งเดียว​ ​สมัยอาจารย์​ใบทำ​ได้​สองครั้ง​ ​และ​ ​หลวงปู่​เจือ​ ​ปิยะสี​โล​ ​ครั้งนี้​เป็น​ครั้งแรกที่ทำ​ถูก​ต้อง​ใน​นามวัด

กลางบางแก้ว​ ​โดย​มี​ ​พระ​เจ้าหลานเธอ​ ​พระองค์​เจ้าพัชรกิตติยาภา​ ​ทรงเสด็จมา​เป็น​ประธานปรุง​และ​ปั้นยา​เป็น​สิริมงคลแก่หลวงปู่​เจือ​ ​ปิยะสี​โล​ ​

และ​วัดกลางบางแก้วยิ่งนัก


ถามว่าหากอยาก​ได้​จะ​ทำ​อย่างไร​ ​ตอบว่า​ให้​คอย​ ​วันที่​ 14 ​พฤษภาคม​ 2550 ​วันเกิดหลวงปู่​เจือนั่นแล​...


(คัดลอกมาจากนิตยสาร​ ​ลานโพธิ์​ 966 ​เดือนมกราคม​ 2550 ​โดย​... ​แฉ่ง​ ​บางกระ​เบา)

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

ออฟไลน์ โยคี

  • เด็กวัด
  • *****
  • กระทู้: 1361
  • เพศ: ชาย
  • เมตตาธรรมค้ำจุนโลก
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: ผงยาวาสนาจินดามณี
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: 02 มี.ค. 2550, 01:29:08 »
อยากให้ได้ ของดีก็บไว้ใช้ทางไวัดกลางบางแก้ว
 เข้าท่านา นครชัยศรี เลี้ยวขวา ไปประมาณ 1.5 กม. ถึงวัด กุฎิหลวงพ่อเจือ ริมน้ำ
ถ้าไปวัดบางพระ
เลี้ยวซ้าย ไปห้วยพลู
เม็ดยา เม็ดละ 25 บาท ถ้าไปซื้อศูนย์พระ 5 เม็ด 250 บาท