กระดานสนทนาวัดบางพระ

หมวด ธรรมะ และ นอกเหตุ เหนือผล => สนทนาภาษาผู้ประพฤติ, กฎแห่งกรรม และ ประสบการณ์วิญญาณ => ประสบการณ์วิญญาณ => ข้อความที่เริ่มโดย: กระเบนท้องน้ำ ที่ 01 ต.ค. 2554, 08:31:39

หัวข้อ: ประสบการณ์ลี้ลับ…ภาค6…ปาฏิหาริย์ธาตุกายสิทธิ์และพระธาตุเสด็จ (ต่อ)
เริ่มหัวข้อโดย: กระเบนท้องน้ำ ที่ 01 ต.ค. 2554, 08:31:39
หลังจากภาคที่แล้ว…เอ๋ผู้จัดการร้าน…ของพี่บัติได้ธาตุกายสิทธิ์แบบลูกแก้วสีขาวใส
ซึ่งแบ่งแยกออกมาจากธาตุกายสิทธิ์ของพี่นวล

ต่อมา….หลังจากที่พี่ต๋อย และพี่นวลกลับกันแล้ว และใกล้จะปิดร้านแล้วก็ได้มี
นายผอม ซึ่งเป็นผู้ช่วยกุ๊กอยู่ในครัวและยังเป็นญาติของท่านอาจารย์ชาเข้ามาขอ
ของดีจากท่านอาจารย์ชาบ้าง

ท่านอาจารย์ชา ตอบว่าได้แต่มีข้อตกลงกันก่อนว่า จะต้องปฏิบัตินั่งสมาธิก่อน
นอนทุกวันๆละห้าถึงสิบนาทีก็ได้ จะทำได้มั้ย นายผอมก็รับคำว่าได้ด้วยความตั้งใจ

หลังจากนั้นท่านอาจารย์ชา ได้ให้นายผอมยื่นมือและให้แบฝ่ามือไว้
หลังจากนั้นท่านอาจารย์ชา ก็ใช้ฝ่ามือของท่านวางคว่ำไว้บนฝ่ามือ
ของนายผอมโดยไม่ติดกัน ซึ่งมีระยะห่างกันประมาณ 2-3 นิ้ว แล้ววนไปวนมา

หลังจากนั้นสักพักนึง เมื่อท่านอาจารย์ชา นำฝ่ามือออกก็มีพระธาตุจำนวน 1 องค์
มาอยู่บนฝ่ามือทำให้นายผอม เกิดอาการตกตะลึงและดีใจมาก

เมื่อหันมาบอกกับข้าพเจ้า และกำลังดีใจอยู่นั้นเมื่อก้มกลับลงมองบนฝ่ามืออีกครั้ง
อัศจรรย์มากกับมีพระธาตุเสด็จเพิ่มมาอีก 3 องค์รวมเป็น 4 องค์ พอรีบจะ
ห่อกระดาษและใส่ในซองพลาสติกใส่ยานั้น กับลดลงอีกเหลือแค่ 3 องค์เท่านั้น

ข้าพเจ้าจึงกล่าวว่ารีบๆ เก็บนะ แล้วอย่าลืม…
ปฏิบัติตัวตามที่ได้สัญญาและรับปากไว้กับท่านอาจารย์ชา และอย่าผิดสัญญาไม่งั้น
พระธาตุเสด็จกลับหมด อย่าลืมว่าเสด็จมาได้ก็เสด็จกลับได้เหมือนกัน

หลังจากนั้นต่อมาเมื่อปิดร้านแล้ว ข้าพเจ้าผู้เขียนก็ได้แยกย้ายกลับบ้านไป และ
เวลาประมาณ 5 ทุ่มกว่าท่านอาจารย์ชา ก็ได้โทรมาหาข้าพเจ้าถามว่า ตอนที่ยก
พานบายศรีบรมครูไปให้ท่านอาจารย์ที่ห้องนั้น เห็นอะไรผิดสังเกตุหรือไม่
ข้าพเจ้าตอบว่าไม่เห็นมี ก็ปกติดี หลังจากนั้นท่านอาจารย์ชาก็ได้เล่า…

ให้ข้าพเจ้าฟังว่าเห็นเหล็กไหลสายฟ้ามาปักเสียบอยู่ข้างเทียน บนยอดของบายศรี
พรุ่งนี้ลองเข้ามาดูว่าใช่ตัวเดิมที่หาย ไปตอนเวียนทักษิณาวัตร รอบองค์พระแก้ว
มรกตหรือไม่


(http://bp.or.th/uploads/data/image/lsd54k-cce69c.jpg)

(http://bp.or.th/uploads/data/image/lsd53i-1ad302.jpg)
เหล็กไหลสายฟ้ามาปักเสียบอยู่ข้างเทียน บนยอดของบายศรี



วันรุ่งขึ้นที่ 5 กันยายน 2554 ข้าพเจ้าได้เข้าไปดูเหล็กไหลสายฟ้า ที่ร้านรำมะนา
ค๊อฟฟี่ และได้บอกกับท่านอาจารย์ชาว่าใช่ ตัวเดิมแน่นอนเหมือนกันเปี้ยบ

ต่อมา…ตอนเย็น พี่บัติเข้ามาที่ร้าน…ท่านอาจารย์ชาจึงได้ให้พี่บัติดูและได้ถ่ายรูปไว้
เพื่อที่ข้าพเจ้าได้มีรูปภาพประกอบเรื่อง…ในภาคที่2 และภาคที่3
เพราะว่าก่อนหน้านั้นไม่ได้ถ่ายรูปเหล็กไหลสายฟ้าไว้เลย

ต่อมา…คืนนั้นเองมุกภรรยาท่านอาจารย์ชา ได้นั่งสมาธิและได้ส่งจิต ไปหาหลวงปู่
วิไลที่วัดถ้ำพญาช้างเผือก และได้เกิดเห็นนิมิตว่าธาตุกายสิทธิ์ ทุกอย่างทุกชนิด
ของมุกแตกกระจายเป็นผงไม่มีชิ้นดี

มุกตกใจและเสียใจมาก ต่อมา…ได้ยินเสียงของหลวงปู่วิไล ได้เทศน์สอนธรรม
มาว่า “ไม่มีอะไรเที่ยงแท้แน่นอน” เพียงประโยคเดียวแต่กินใจ

ต่อจากนั้นมุกก็มีความรู้สึกว่ามีอะไรหล่นมาบนมือ ที่กำลังนั่งสมาธิอยู่นั้น จึงสงสัย
และได้ถอยออกจากสมาธิและลืมตาก้มลงดู ผลปรากฏว่าเป็นธาตุกายสิทธิ์สีแดง
ขนาดเล็กรูปทรงแบบแฮมเบอร์เกอร์อยู่บนฝ่ามือ และรีบเปิดกระเป๋าดูธาตุกายสิทธิ์
สีชมพูว่ายังอยู่สภาพเหมือนเดิมหรือไม่ เมื่อเห็นว่าอยู่ในสภาพที่ดี และไม่ได้แตก
กระจายเป็นผงเหมือนในนิมิต ทำให้มุกดีใจมาก และกราบขอบพระคุณหลวงปู่วิไล
ที่ได้เมตตาสั่งสอนธรรม เพื่อให้มุกได้คิดและสะกิดใจ


(http://bp.or.th/uploads/data/image/lsd5a8-a2a408.jpg)
ธาตุกายสิทธิ์สีแดงที่มุกได้ขณะนั่งสมาธิ


และมุกคิดว่าครั้งนี้ธาตุกายสิทธิ์คงมาจากที่พิพิธภัณฑ์ของหลวงปู่…ที่วัดเป็นแน่!!!



วันรุ่งขึ้นวันที่ 6 กันยายน 2554 เอ๋ได้มาเล่าให้ข้าพเจ้าผู้เขียนฟังในตอนเย็นๆว่า
ได้เห็นท่านอาจารย์ชา คว้าลูกแก้วขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ประมาณ 3-4 นิ้วจาก
ในอากาศมาให้ชม เห็นแล้วสวยและงดงามมาก และกำลังตกตะลึงอยู่แทบควบคุม
สติไว้ไม่อยู่ จึงไม่ได้ขอจากท่านอาจารย์ชาไว้ ลูกแก้วจึงได้หายไป…

หลังจากนั้นข้าพเจ้าผู้เขียนจึงได้สอบถามท่านอาจารย์ชาว่า ที่เอ๋เล่ามานั้นจริงเท็จ
ประการใด ท่านอาจารย์ชาเล่าว่า…

วันนี้ช่วงกลางวัน ไม่มีแขกที่ร้าน…และอยู่กับเอ๋เพียงสองคน จึงรู้วาระจิตของเอ๋
ว่าที่ทำพิธีแยกธาตุกายสิทธิ์ให้เอ๋ ครั้งก่อนนั้น เอ๋ยังไม่เชื่อเต็มร้อยเปอร์เซนต์
และเห็นว่าเป็นคนนอกศาสนาพุทธ จึงได้แสดงให้เอ๋ดูว่า ของเหล่านี้มีอยู่จริงและ
เห็นต่อหน้าต่อตาแบบนี้คงจะปฏิเสธยาก

และหวังเพื่อที่จะสอดแทรกธรรมะให้เอ๋ ได้เข้าใจเพื่อจะได้ไม่เชื่ออะไรผิดๆ แบบ
งมงาย และไม่มีเหตุผลและยังบอกกับเอ๋อีกว่าไม่ได้ให้เอ๋ เลิกนับถือศาสนาอิสลาม
หรือเปลี่ยนศาสนา มานับถือศาสนาพุทธ เพราะทุกศาสนา ต่างก็สอนให้คนเป็น
คนดีเพียงแต่ได้ชี้ให้เห็นว่าส่วนไหน และสิ่งไหนที่จะนำไปสู่ความหลุดพ้นและ
ความสุขที่แท้จริงของมนุษย์เท่านั้น

ต่อมา…ในวันที่ 7 กันยายน 2554 ข้าพเจ้าผู้เขียน ได้เข้ามาที่ร้านรำมะนา
ซึ่งเป็นร้านของพี่บัติและพี่บัติได้มอบให้ท่านอาจารย์ชาดูแล และบริหารจัดการอยู่

ได้นั่งสนทนา กับท่านอาจารย์ชาและพี่บัติ จนกระทั่งข้าพเจ้าได้เอ่ยถึงเจ้าเหล็กไหล
สายฟ้าว่าเป็นยังไงบ้าง เพื่อที่จะขอชมบารมีอีก ท่านอาจารย์ชาจึงได้บอกว่า
“มันไปเสียแล้ว” ท่านจึงได้สื่อถามเจ้าเหล็กไหลว่าเป็นเพราะอะไรถึงได้ไป มัน
ตอบมาว่าไม่อยากกลับไปที่เดิม แล้วหลังจากแยกตัวออกมา และตอนนี้มันเป็นตัว
ของตัวเองแล้ว จะไปเที่ยวที่ไหนก็ได้ และไม่มีใครเป็นเจ้าของแล้ว

เมื่อถึง…ตอนค่ำๆ ของวันนั้นเอง ได้มีพี่อู๊ดกับพี่ปุ๊ก เพื่อนที่ทำงานสมัยอยู่โตโยต้า
กับพี่เต่าเข้ามาที่ร้าน…มานั่งสนทนาและปรึกษาอยู่กับท่านอาจารย์ชา

สักพักพี่เต่าได้ตามเข้ามาที่ร้าน…และได้นั่งสนทนากัน
จนมาถึงเรื่องที่พี่เต่าได้ของดีคือธาตุกายสิทธิ์และได้เล่าเรื่องคร่าวๆที่พวกเรา…ไปได้
ของเหล่านี้มา จึงทำให้พี่อู๊ดอยากจะได้บ้าง

หลังจากนั้นข้าพเจ้ารู้สึกแปลกประหลาดคือรู้สึกเมตตาและสงสารอยากจะให้ธาตุกาย
สิทธิ์กับพี่อู๊ดมาก จึงได้ออกปากถามท่านอาจารย์ชาว่า ผมอยากจะให้ธาตุกายสิทธิ์
สีม่วงของผมแบ่งแยกให้กับพี่คนนี้จะได้มั้ย

ท่านอาจารย์ชา บอกว่าต้องลอง ให้เขาอธิษฐานจิตขอต่อธาตุกายสิทธิ์สีม่วงดู
ซึ่งข้าพเจ้าได้ตั้งชื่อธาตุกายสิทธิ์สีม่วงนี้แล้วว่า ” แก้วไชยสิทธิ์ รัตนมณี “

ต่อมา…หลังจากที่พี่อู๊ดได้ทำการอธิษฐานจิต ต่อแก้วไชยสิทธิ์แล้วนั้น ก็ได้ยื่น
ส่งให้ท่านอาจารย์ชา
ท่านอาจารย์ชา ได้นำธาตุกายสิทธิ์ลูกแก้วสีเหลือง และบอกให้นำธาตุกายสิทธิ์สี
ชมพูของมุกมาช่วยกันด้วยเพราะกำลังไม่พอ

จากนั้นท่านอาจารย์ชาได้ให้พี่อู๊ดยื่นและแบฝ่ามือไว้ ต่อจากนั้นได้นำธาตุกายสิทธิ์
ทั้งสามชนิดวางลงบนฝ่ามือของพี่อู๊ด และได้ทำลักษณะเหมือนกับทุกๆครั้งที่ผ่านมา
ต่อมาสักพักนึง เมื่อพี่อู๊ดค่อยๆ แง้มมือออกเพื่อลุ้น ผลปรากฏว่า ธาตุกายสิทธิ์สี
ม่วงได้คลอดหลานออกมาสีม่วง มีขนาดเล็ก รูปร่างลักษณะกลมแบบลูกแก้ว


(http://bp.or.th/uploads/data/image/lsd5bh-eacc51.jpg)
ธาตุกายสิทธิ์สีม่วงที่พี่อู๊ดได้


ทำให้พี่อู๊ดทั้งตื่นเต้น อัศจรรย์ใจ และดีใจเป็นอย่างมาก ข้าพเจ้าจึงได้ข้อสังเกต
ว่าธาตุกายสิทธ์ทุกชนิดที่ผ่านมาเมื่อเวลาแบ่งแยก หรือคลอดหลานออกมาแล้วนั้น
จะมีลักษณะรูปร่างไม่เหมือนกับตัวแม่และตัวลูกเลย

ต่อมาพี่ปุ๊กเพื่อนพี่อู๊ด อยากจะได้บ้าง ท่านอาจารย์ชาจึงบอกว่าจะให้เป็นพระธาตุ…
จะเอามั้ย พี่ปุ๊กจึงได้บอกว่าเอาค๊ะ แต่จะขอให้พี่ชายไปบูชา 1 องค์ และ
สำหรับตัวเองหนึ่งองค์

ท่านอาจารย์ชา จึงให้แบฝ่ามือไว้ และได้ทำลักษณะเหมือนเมื่อครั้งที่เคยทำให้พี่
หมูและผอม หลังจากที่พี่ปุ๊กได้พระธาตุแล้ว ก็ได้ถามว่าเป็นพระธาตุขององค์ไหนค๊ะ
ท่านอาจารย์ชาเมื่อดูแล้วได้บอกว่าเป็นของพระอัญญาโกญฑัญญะ


(http://bp.or.th/uploads/data/image/lsd5cy-94145c.jpg)
พระธาตุที่พี่ปุ๊กได้ 2 องค์


หลังจากนั้น…เมื่อได้เวลาพอสมควรแล้ว พี่อู๊ดพี่ปุ๊กและพี่เต่า ก็ได้กราบลาท่าน
อาจารย์ชากลับบ้านไป

ต่อจากนั้นข้าพเจ้าได้สอบถามท่านอาจารย์ชาว่าข้าพเจ้าผู้เขียนมีความเกี่ยวพันอะไร
กับพี่อู๊ดในอดีตชาติหรือไม่

ท่านอาจารย์ชาได้ตอบว่าเกี่ยว ในชาติที่เจ็ดนั่นแหละที่ข้าพเจ้าเป็นขุนพลแม่ทัพอยู่
พี่อู๊ดก็อยู่ภายในเมืองและใกล้ชิดกับข้าพเจ้าพอสมควร

หลังจากนั้นท่านอาจารย์ชาได้กล่าวอีกว่าเรื่องราวทั้งหมดที่พวกเราได้มาพบเจอกัน
และได้ประสบเหตุการณ์ต่างๆที่ผ่านมานั้น    ล้วนเป็นเพราะกรรมเชื่อมโยงกันทั้งสิ้น





โปรดคอยติดตามอ่านกันต่อไปใน

ประสบการณ์ลี้ลับ…ภาค7…เหล็กไหลสายฟ้า…กลับมา