กระดานสนทนาวัดบางพระ

หมวด ผู้ทรงวิทยาคุณ (เกจิอาจารย์) => ผู้ทรงวิทยาคุณ (เกจิอาจารย์) ภาคต่างๆ => เกจิอาจารย์ภาคเหนือ => ข้อความที่เริ่มโดย: โยคี ที่ 08 ส.ค. 2550, 12:00:46

หัวข้อ: หลวงปู่ไข่ วัดเชิงเลน (บพิตรพิมุข)
เริ่มหัวข้อโดย: โยคี ที่ 08 ส.ค. 2550, 12:00:46
ประวัติ ของท่านบางส่วน ที่พอหาได้ครับ
เป็นเกจิ ที่คนย่านการค้า จักรวรรดิ์ สำเพ็ง พาหุรัด รู้จักกันดี
ตามลิงค์ http://www.uamulet.com/showAmuletBoardDetail.asp?qid=26367

ส่วนผม มีเหรียญ สร้างปี 2515 ทั้ง 2 แบบนะโม 3 จบ นะโม พุทธายะ มิอุมิ


[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]
หัวข้อ: ตอบ: หลวงปู่ไข่ วัดเชิงเลน (บพิตรพิมุข)
เริ่มหัวข้อโดย: •••--สายัณ--••• ที่ 09 ส.ค. 2550, 09:28:02
(http://img409.imageshack.us/img409/9629/113460us1.gif) (http://imageshack.us)

หลวงปู่​ไข่​ ​อินฺทสโร​ ​วัดบพิตรพิมุขวรวิหาร​ (วัดเชิงเลน) ​สัมพันธวงศ์​ ​กรุงเทพฯ​ ​เป็น​ชาวแปดริ้ว​ ​บ้านเกิด​อยู่​บริ​เวณประตูน้ำ​ท่า​ไข่​ ​อ​.​เมือง​ ​จ​.​ฉะ​เชิงเทรา


​ใน​ปัจจุบัน​ ​หลวงปู่​เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่​ ๕ ​มิถุนายน​ ๒๔๐๒ ​ตรง​กับ​ขึ้น​ ๕ ​ค่ำ​ ​เดือน​ ๗ ​ปีมะ​แม​ ​เป็น​บุตรของนายกล่อม​ ​นางบัว​ ​จันทร์สัมฤทธิ์​ ​มีพี่น้องกี่คน​ไม่​ปรากฏ​

เมื่ออายุ​ ๖ ​ขวบ​ ​บิดานำ​ไปฝาก​เป็น​ศิษย์หลวงพ่อปาน​ ​วัดโสธร​ ​คือวัดโสธรวราราม​ ​ใน​ปัจจุบัน​ ​เพื่อ​ให้​เรียนหนังสือ​ ​ต่อมา​จึง​บรรพชา​เป็น​สามเณร​ ​เมื่อบรรพชา​แล้ว​ก็หัดเทศน์มหาชาติ​ ​และ​เทศน์ประชัน​ ​กล่าว​กัน​ว่า​ "หลวงปู่​ไข่มี​ความ​สามารถ​ใน​การเทศน์มหาชาติกัณฑ์กุมาร​และ​กัณฑ์มัทรี​ได้​ไพเราะกังวานจับใจ​ผู้​ฟังยิ่งนัก"

นอก​จาก​นี้​แล้ว​ท่าน​ยัง​เป็น​พระ​เกจิอาจารย์ที่มี​ความ​สามารถ​สูง​ใน​ทางวิปัสสนากรรมฐาน​ ​เจริญพระกรรมฐาน​เป็น​อารมณ์​ ​จน​สามารถ​รู้​เห็นเหตุการณ์​ได้​ล่วงหน้า​ ​อีก​ทั้ง​ท่าน​ยัง​มี​ความ​สามารถ​ทางแพทย์​แผนโบราณ​ด้วย​ ​ท่านเคยรักษาคน​เป็น​บ้าหายมาจนนับ​ไม่​ถ้วน​

ศิษย์ท่านมี​ทั้ง​ไทย​ ​จีน​ ​และ​ยัง​มี​แขกซิกข์อีก​ด้วย​ ​เวลา​เจ็บไข้มัก​จะ​มาหาท่าน​ให้​ช่วย​รักษา​ ​ซึ่ง​ท่านก็​ช่วย​ทุกครั้ง​ไม่​เคยแบ่งแยกเชื้อชาติ​ ​ศาสนา​ ​ไม่​เลือกที่รักมักที่ชัง​ ​จิตใจของท่านบริสุทธิ์สูงสุดจริงๆ​ ​นับว่าหลวงปู่ทำ​กุศล​ให้​กับ​คนทุกชนชาติ​ ​โดย​ไม่​แบ่งแยกชาติตระกูลว่า​เป็น​ใครมา​จาก​ไหน​ ​ด้วย​เหตุนี้​เองทำ​ให้​วัตถุมงคลของท่าน​เป็น​ที่​แสวงหาของ​ผู้​นิยมสะสมพระ​เครื่อง​ ​ไม่​ว่า​จะ​เป็น​พระ​เครื่อง​ ​ธง​ ​ตะกรุด​

โดย​เฉพาะ​ "พระอะระหัง​ ​กลีบบัว" ​เมื่อประมาณ​ ๓๐ ​กว่าปีก่อน​ ​มีนักสะสมพระ​เครื่องบางท่าน​เข้า​ใจผิดคิดว่า​เป็น​พระของวัดราชาธิวาส​ ​สร้าง​ใน​สมัยสงครามอินโดจีน​ ​ซึ่ง​เป็น​ข้อมูลที่ผิดๆ​ ​โดย​ปราศ​จาก​หลัก​ความ​เป็น​จริง​ ​แต่​ความ​จริงก็หนี​ความ​จริงไป​ไม่​พ้น​

"พระอะระหัง" ​หลวงปู่​ไข่นี้ท่านสร้าง​ไว้​และ​ปลุกเสกอย่างแน่นอนอีก​ด้วย​ ​ซึ่ง​ก็มีการซื้อขาย​กัน​อยู่​เสมอ​ ​องค์ละ​เป็น​หมื่นๆ​ ​บาทที​เดียว​ ​และ​ไม่​แน่​ใน​อนาคตอาจ​จะ​ทำ​ให้​ราคา​เป็น​แสนๆ​ ​หรือ​ล้านบาทขึ้นไป​ ​โดย​ปรากฏ​เป็น​ความ​จริง​

พุทธลักษณะ​ ​เป็น​รูปทรงหยดน้ำ​ ​มีปีกเนื้อล้น​โดย​รอบ​ ​ตรงกลาง​เป็น​รูปพระพุทธรูปปางสมาธิ​ ​ประทับนั่งบนอาสนะบัวค่ำ​บัวหงาย​ ​นับ​ได้​ ๑๑ ​กลีบ​ ​ล่างสุด​เป็น​ยันต์อ่าน​ได้​ความ​ว่า​ "อะระหัง" ​เป็น​ภาษาขอม​ (ประวิสรรชนีย์)

ด้านหลังบนสุด​เป็น​ยันต์​ "อุณา​โลม" ​ตรงกลาง​เป็น​ยันต์พระ​เจ้าห้าพระองค์​ ​ผูก​เป็น​ยันต์ตามช่อง​ ​เป็น​ภาษาขอม​ ​อ่าน​ได้​ความ​ว่า​ "นะ​ (ตัวบน) ​โม​ (ตัวล่าง) ​พุท​ (ตัวหน้า) ​ธา​ (ตัวกลาง) ​ยะ​ (ตัวหลัง)​" ​และ​ "มิ​ ​อุ​ ​มิ​"

การ​ใช้​เหรียญหลวงปู่​ไข่​ ​เมื่อ​ได้​อาราธนาว่า​ "พุทธัง​ ​อาราธนานัง​ ​ธัมมัง​ ​อาราธนานัง​ ​สังฆัง​ ​อาราธนานัง" ​แล้ว​ตาม​ด้วย​คาถาหลวงปู​ไข่ที่ว่า​ "นะ​ ​โม​ ​พุท​ ​ธา​ ​ยะ​ ​มิ​ ​อุ​ ​มิ​" ​ให้​ทำ​จิตใจสงบ​แล้ว​ ​นึกอาราธนาหลวงปู่​ไข่​ ​ใน​การเดินทาง​ ​ประกอบธุรกิจ​ ​หรือ​หา​โชคลาภ​ ​ขอ​ให้​ท่านคุ้มครองป้อง​กัน​บันดาล​ให้​ประสบผลสำ​เร็จทุกสถาน​ใน​ระยะ​แรก​

มี​เรื่องเล่า​กัน​สืบต่อมาว่า​ ​พระอะระหังกลีบบัว​ ​เป็น​พระที่มีประสบการณ์มาก​ ​เป็น​ที่ยอมรับ​ใน​สมัยก่อน​ ​เช่น​ ​มีจีนจับกัง​ใส่​พระชุดนี้​โดนเครนเรือล้ม​ใส่​ ​แต่ก็​แคล้วคลาด​ได้​ ​อย่างอัศจรรย์​

การอาราธนาพระอรหังกลีบบัว​ ​พระคาถาของหลวงปู่​ไข่​ ​โดย​เฉพาะพระอะระหังกลีบบัว​ ​ว่า​ "อรหังพุทโธ​ ​อิติปิ​โส​ ​ภควา​ ​น​ ​เมตตาจิต" ​แล้ว​สงบจิตนึก​ถึง​สิ่ง​นั้น​ ​ชื่อ​นั้น​ (ออกชื่อ​ด้วย)​ ​จัก​เป็น​ไปตาม​ความ​ปรารถนา​แล​

ส่วน​คาถา​หรือ​ยันต์ที่ปรากฏบนเหรียญทุกรุ่น​ ​รวม​ทั้ง​รุ่นล่าสุดที่​ ​นายสมคิด​ ​ตั้งธนชัย​ ​จัดสร้างถวายเมื่อปี​ ๒๕๔๔ ​คือ​ "นะ​ ​โม​ ​พุท​ ​ธา​ ​ยะ​" ​หรือ​ "​แม่ธาตุ​ใหญ่​" ​ขณะ​เดียว​กัน​อาจ​จะ​เรียกว่าคาถา​ "พระคาถาพระ​เจ้า​ ๕ ​พระองค์​" ​คาถาบทนี้ถือ​เป็น​คาถาที่​เกจิอาจารย์​ทั้ง​หลาย​ใช้​แทบ​ทั้ง​นั้น​ ​ด้วย​เหตุที่ว่า​ "มีพุทธคุณดีทุกด้าน" ​หรือ​ที่​เรียกว่า​ "มีพุทธคุณครอบจักรวาล"

คาถาบทนี้มักพบว่า​ ​จะ​ใช้​คู่​กับ​คาถาอีก​ ๒ ​บท​ ​คือ​ "นะ​ ​มะ​ ​พะ​ ​ทะ​" ​หรือ​ "ธาตุ​ ๔" ​บางเกจิอาจ​จะ​ตาม​ด้วย​ ​"​จะ​ ​ภะ​ ​กะ​ ​สะ​" ​หรือ​ "ธาตุกรณี​" (หัวใจ​ ๑๐๘)

นะ​ ​คือ​ ​ธาตุน้ำ​ (อา​โปธาตุ) ​หล่อเลี้ยงอินทรีย์ร่างกาย​และ​ดวงจิต​

โม​ ​คือ​ ​ธาตุดิน​ (ปฐัวีธาตุ) ​ให้​ความ​คงทน​ ​เนื้อหนัง​

พุท​ ​คือ​ ​ธาตุ​ไฟ​ (เตโชธาตุ) ​ให้​ความ​อบอุ่นกาย​ ​รักษากาย​

ธา​ ​คือ​ ​ธาตุลม​ (วา​โยธาตุ) ​หายใจ​ ​เข้า​-​ออก​ ​เป็น​อารมณ์​

ยะ​ ​คือ​ ​อากาศธาตุ​ ​อากาศมีที่​ใด​ ​ทำ​ให้​มีชีวิตชีวา​ ​ความ​สุข​เข้า​อากาศธาตุดี​

ใน​ธาตุ​ทั้ง​ ๕ ​กองนี้​ ​เฉพาะอากาศธาตุมี​อยู่​โดย​รอบ​ ​ใน​ส่วน​ "อันว่างเปล่า​" ​ฉะ​นั้น​จึง​พิจารณา​แต่ธาตุ​ ​ดิน​ ​ธาตุ​ ​น้ำ​ ​ธาตุ​ ​ลม​ ​และ​ธาตุ​ ​ไฟ​ ​รวม​ ๔ ​กอง​ ​เรียกว่า​ ​ธาตุ​ ๔ ​เท่า​นั้น​

อย่างไรก็ตาม​ ​หาก​เป็น​ "พระคาถาพระ​เจ้า​ ๕ ​พระองค์​" ​ยันต์​แต่ละตัว​จะ​มี​ความ​หมายดังนี้​

๑.​นะ​ ​คือ​ ​พระกุกกุสันโท​

๒.​โม​ ​คือ​ ​พระ​โกนาคม​

๓.​พุท​ ​คือ​ ​พระกัสสปะ​

๔. ​ธา​ ​คือ​ ​พระสมณะ​โคดม​

๕.​ยะ​ ​คือ​ ​พระศรีอาริยะ​เมตตรัย​

ส่วน​คาถา​ "มิ​ ​อุ​ ​มิ​" ​แล้ว​แต่อุปเท่ห์ของเกจิ​จะ​พิจารณาอารมณ์​ (วางอารมณ์​ ​จิต) ​นึก​ถึง​ธาตุต่างๆ​ ​คุณธรรมต่างๆ​ ​มา​ใส่​ใน​จิต​ ​แล้ว​ ​ปลุกเสก​ ​โดย​กระ​แสจิตของท่าน​ให้​มี​ ​พลัง​ ​เสริมวัตถุมงคล​

"มิ​" ​น่า​จะ​เป็น​การนำ​ตัวท้ายของคาถา​ "พุทธัง​ ​สรณัง​ ​คัจฉามิ​" ​มาพิจารณา​เสก​ "มิ​" ​คล้าย​กับ​การเขียนยันต์ของหลวงแช่ม​ ​วัดตาก้อง​ ​จ​.​นครปฐม​

"อุ​" ​น่า​จะ​เป็น​การนำ​ตัวแรกของคาถา​ "อุ​เมตตา​ ​จะ​มหาราชา​ ​สัพพะสะ​เน่หา​จะ​ปูชิ​โต" (ทางเมตตา)

อย่างไรก็ตาม​ ​การเขียน​ ​ยันต์​อยู่​บนห่วงร้อย​กัน​ ​หรือ​ที่​เรียกว่า​ "ยันต์ปิด" ​ผู้​สร้าง​ "มุ่งพุทธคุณด้านมหาอุด" ​การเขียนคาถาที่​เป็น​ยันต์ปิด​อื่นๆ​ ​ที่ปิดหางปิดหัว​ให้​เข้า​ได้​เรียกว่า​ "​เน้นพุทธคุณด้านมหาอุด"


--------------------
หมู​ ​มรดกไทย
หัวข้อ: ตอบ: หลวงปู่ไข่ วัดเชิงเลน (บพิตรพิมุข)
เริ่มหัวข้อโดย: •••--สายัณ--••• ที่ 30 เม.ย. 2551, 10:00:33
เอามาประกบกันเล่นๆ ;D ;D ;D
หัวข้อ: ตอบ: หลวงปู่ไข่ วัดเชิงเลน (บพิตรพิมุข)
เริ่มหัวข้อโดย: ~@เสน่ห์เอ็ม@~ ที่ 01 พ.ค. 2551, 01:19:47
เหรียญ ไม่หน้าทัน หลวงพ่อสร้างนะครับ อิอิ ;)