:059:ตื่นนอนตอนตีสี่ ทำชีวีเป็นนักข่าว
เสพซับทุกเรื่องราว ที่เขากล่าวในทีวี
ฟ้าสางรุ่งอรุณ เวลาหมุนทุกนาที
แต่งองค์ทรงเครื่องดี จรลีจากอาราม
ออกรับบิณฑบาตร มิได้ขาดทั่วเขตคาม
เลาะทุ่งมุ่งไปตาม กลับอารามตามเวลา
กลับมาบันทึกธรรม เป็นประจำที่ทำมา
เล่าความตามสัญญา ที่ผ่านมาในหนึ่งวัน
โมงครึ่งทำกิจสงฆ์ เวลาตรงไม่แปรผัน
ทำวัตรสวดมนต์กัน หลังจากนั้นฉันภัตตา
เสร็จจากภัตตากิจ รวมหมู่มิตรมาปรึกษา
เรื่องราวในวัดวา สนทนาปรึกษากัน
เปลี่ยนจิตเป็นโฟร์แมน มาเป็นแกนสานสัมพันธ์
ร่วมด้วยและช่วยกัน ร่วมสร้างสรรค์พัฒนา
สั่งงานการก่อสร้าง ทุกทุกอย่างเข้าจัดหา
ตามกาลตามเวลา พัฒนาประกอบการ
ออกแบบและวางผัง กุฏิตั้งโบสถ์วิหาร
วางแผนการทำงาน เพื่อสืบสานเจตนา
ว่างมาก็ขีดเขียน ตามที่เรียนและศึกษา
ลิขิตรจนา เป็นภาษาบทกวี
บางครั้งเป็นหมอจิต ให้ข้อคิดคอยแนะชี้
บางครั้งเป็นหมอผี ตามที่มีผู้ขอมา
บางคราวต้องวางแผน เป็นตัวแทนที่ปรึกษา
ติดต่อเจรจา เคลียร์ปัญหาให้ผู้คน
ทำไปเพื่อฝึกจิต ใช้ความคิดหาเหตุผล
ช่วยเหลือผู้ทุกข์ทน ให้หลุดพ้นทรมา
ตกเย็นเป็นพระสงฆ์ เพื่อดำรงค์ศาสนา
สวดมนต์ภาวนา ตามเวลาทำวัตรเย็น
กลางคืนจนดื่นดึก ทบทวนนึกสิ่งที่เป็น
ได้รู้และได้เห็น ทุกประเด็นที่ผ่านมา
ตีหนึ่งจึงจำวัตร ปฏิบัติสืบกันมา
นอนลงแล้วหลับตา ภาวนาจนหลับไป
...หนึ่งวันของชีวิต ภาระกิจที่ทำไว้
ตื่นมาแล้วหลับไป ที่เหลือไว้...คือผลงาน....
:016:แด่ชีวิตที่ไร้รูปแบบ แต่ไม่ไร้ซึ่งสาระ
:060:แด่สายฝนที่ตกมา ทำให้มีเวลาแต่งบทกวี
รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม
๑๗ กรกฎาคม ๒๕๕๒ เวลา ๑๑.๐๔ น. ณ ศาลาน้อยริมน้ำโขง ชายแดนประเทศไทย