ผู้เขียน หัวข้อ: สุดยอดเครื่องลาง เบี้ยแก้ หลวงปู่บุญ  (อ่าน 26502 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ไทยแท้

  • จตุตถะ
  • ****
  • กระทู้: 103
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
                                                            เริ่มกันด้วยประวัติของหลวงปู่กันเลย
                                                         



                                                                            พระพุทธวิถีนายก
                                                        หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม


หลวงปู่บุญ  ขนฺติธโชติ หรือพระพุทธวิถีนายกพระคณาจารย์ชื่อดังของ จ.นครปฐม
อีกองค์หนึ่ง  ที่เกียรติคุณของท่านระบือไกลไปทั่วตั้งแต่ลุ่มน้ำท่าจีนจรดมหาชัย
และไกลไปถึงสุพรรณบุรี
    ด้วยศีลาจารวัตรงดงามทรงไว้ซึ่งสมณสารูป  น่าเคารพเป็นอย่างยิ่งอีกทั้งเชี่ยวชาญ 
ในด้านเวทย์มนต์คาถาทั้งพุทธคุณและไสยศาสตร์    อันยากที่จะหาพระคณาจารย์องค์ใด
มาเสมอเหมือนได้โดยง่ายทั้งยังเป็นสหธรรมมิกที่สนิทสนมกับสมเด็จพระสังฆราช(แพ)
วัดสุทัศน์ฯเจ้าคุณสุนทรวัดกัลยาและยังเป็นศิษย์ร่วมสำนักกันกับหลวงปู่อ๋อย วัดไทร,
หลวงปู่รอด  วัดนายโรงอีกด้วย


 หลวงปู่บุญเกิดเมื่อวันจันทร์  ขึ้น 3 ค่ำ  เดือน 8 ปีวอก ตรงกับวันที่ 3 กรกฎาคม
พ.ศ.2391 ในสมัยรัชกาลที่ 3เป็นบุตรของพ่อเส็ง  แม่ลิ้ม มีพี่น้องทั้งหมด 6 คน  โดยท่าน
เป็นบุตรคนโต เมื่ออายุได้  13 ปี  บิดาได้เสียชีวิต  ป้าของท่านจึงนำไปฝากให้เรียนหนังสือ
อยู่กับพระปลัดทอง ณ วัดกลางบางแก้ว  ซึ่งสมัยนั้นเรียกชื่อวัดว่า  วัดคงคาราม 
ครั้งอายุ 15 ปีบรรพชาเป็นสามเณร แต่เมื่ออายุจะครบใกล้บวชพระ  จำเป็นต้องลาสิกขา
      ล่วงถึงปีพ.ศ.2412 ตรงกับวันจันทร์ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ปีมะเส็งวันที่ 21 มิถุนายน
 เวลา13.00น. ได้อุปสมบทณ พัทธสีมา วัดกลางบางแก้ว  มีพระปลัดปาน วัดตุ๊กตา
(พิไทยทาราม) เป็นพระอุปัชฌาย ์พระปลัดทอง วัดกลางเป็นพระกรรมวาจาจารย์
พระอธิการทรัพย ์วัดงิ้วราย เป็นอนุสาวนาจารย์ ภายหลังจากที่ท่านได้อุปสมบทแล้วได้พำนัก
จำพรรษาอยู่วัดนี้  โดยตลอดกระทั่งมรณภาพ

    สมณศักดิ์และตำแหน่ง
    ปีพ.ศ.2429 ได้รับแต่งตั้งเป็น  พระอธิการ  เจ้าอาวาสวัดกลางฯบางแก้ว
    ปีพ.ศ.2431  ทางคณะสงฆ์ได้แต่งตั้งให้เป็น  พระกรรมวาจาจารย์
    ปีพ.ศ.2442  เป็นเจ้าคณะหมวด (เจ้าคณะอำเภอในปัจจุบัน)
    ปีพ.ศ.2459  วันที่ 27 สิงหาคม  เป็นพระอุปัชฌาย์
                      วันที่ 30 ธันวาคม  เป็นพระครูสัญญาบัตรที่  พระครูอุตรการบดี
                      พร้อมทั้งเป็นเจ้าคณะแขวง(เจ้าคณะจังหวัด)
    ปีพ.ศ.2462 วันที่ 20 ธันวาคม เป็นพระครูพุทธวิถีนายก พร้อมทั้งดำรงตำแหน่ง
                     เป็นประธานกรรมการคณะสงฆ์จ.นครปฐม,สมุทรสาครและสุพรรณบุรี
    ปีพ.ศ.2471  เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่"พระพุทธวิถีนายก"
    ปีพ.ศ.2474  รับพระราชทานยกเป็นกิตติมศักดิ์ที่"พระพุทธวิถีนายก"
    และได้ถึงแก่การมรณภาพเมื่อวันที่ 30 มีนาคม พ.ศ.2478 ตรงกับวันจันทร ์ขึ้น 8 ค่ำ
เดือน 5 ปีชวดเวลา 10.45 น.รวมสิริอายุได้  89 ปี 67 พรรษา

   การศึกษาเล่าเรียน
เริ่มแรกการเรียนด้านคันถธุระ  ได้ศึกษากับพระปลัดทอง วัดกลางบางแก้ว
มาแต่เล็กแม้กระทั่งหลังการอุปสมบท  แล้วส่วนด้านวิปัสสนากมมัฏฐานและพุทธาคมต่างๆ
นั้นมีการกล่าวถึงหรือบันทึกเอาไว้น้อยมากแต่อย่างน้อยสุดกับพระปลัดปานวัดตุ๊กตาผู้เป็น
พระอุปัชฌาย์ท่านต้องได้ศึกษามาบ้างโดยเฉพาะด้านวิปัสสนากัมมัฏฐานอันเป็นการฝึกจิต
ให้เป็นสมาธิเพื่อร่ำเรียนพุทธาคมต่างๆต่อไปแต่เท่าที่ทราบจากคนเฒ่าคนแก่ลูกศิษย์
ที่ใกล้ชิดท่านต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าท่านได้ศึกษามาจากหลายสำนักทั้งในลักษณะการ
แลกเปลี่ยนวิชาซึ่งกันและกันและฝากตัวเป็นศิษย์โดยเฉพาะในช่วงที่ท่านออกเดินธุดงค์
ไปตามสถานที่ต่างๆนั้นน่าจะเป็นช่วงที่ท่านได้ศึกษาเพิ่มเติมอย่างเต็มรูปแบบที่สุดนอกจาก
ี้นี้แล้วท่านได้รวบรวมสรรพคัมภีร์โบราณหลายอย่างของสมเด็จพระวันรัตวัดป่าแก้วที่เก็บรักษา
เอาไว้ที่วัดประดู่ทรงธรรมต่อมาเกิดไฟไหม้ท่านจึงนำมาเก็บรักษานอกจากนี้แล้วยังมีตำรา
จากสำนักวัดสะแกที่ได้รับมา อาทิ ตำราการสร้างประคำปราบหงสาตะกรุโทน  พระผง
จินดามณี เป็นต้น
    จากคัมภีร์โบราณต่างๆเหล่านั้นที่ท่านได้มาและนำมาศึกษาเรียนรู้จนเชี่ยวชาญชำนาญ
ตลอดจนนำมาสู่การสร้างวัตถุมงคลในรูปแบบพิมพ์ทรงต่างๆจนเป็นที่นิยมเล่นหาสะสม
ในปัจจุบันเป็นประจักษ์พยานได้เป็นอย่างดีถึงความรอบรู้ของท่านตลอดถึงความเข้มขลัง
ศักดิ์สิทธิ์ในมงคลวัตถุนั้นๆจนยากที่จะปฏิเสธได้
    ในมงคลวัตถุต่างๆของท่านทั้งประเภทพระเครื่องเนื้อและพิมพ์ต่างๆรวมไปถึงประเภท
เครื่งองรางของขลังหากเอ่ยถึง"เบี้ยแก้หลวงปู่บุญ"ทุกคนต้องร้องอ๋อด้วยมงคลวัตถุชนิดนี้
ของท่านต่างเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีทั้งในแวดวงนักนิยมพระเครื่องลูกศิษย์ลูกหารวมไปถึง
บุคคลทั่วไปที่สนใจและใฝ่รู้เกี่ยวกับพระเครื่อง
    เบี้ยแก้เป็นเครื่องรางชนิดหนึ่งที่ขึ้นชื่อมากของหลวงปู่บุญวงการนิยมเล่นหาสะสม
ด้วยกิตติคุณอันเลื่องลือ
จึงเป็นที่หวงแหนของลูกศิษย์ลูกหายิ่งนัก  เพราะสร้างขึ้นมาทีละตัวนำเบี้ยมาบรรจุปรอท
อุดด้วยชันโรงบรรจุตะกรุดแล้วตีแผ่นตะกั่วหุ้มถักด้วยเชือกหรือด้ายหุ้มตัวเบี้ยเสร็จแล้วนำมา
ลงรักปิดทอง
      อำนาจความศักดิ์สิทธิ์ของเบี้ยแก้นั้นเป็นเครื่องรางของขลังที่ใช้ได้ดีในทุกด้าน 
ไม่ว่าจะอยู่ยงคงกระพันเมตตามหานิยมโชคลาภ  แต่หากพูดถึงพุทธคุณที่โดดเด่นของเบี้ยแก้
คือป้องกันการกระทำคุณไสย์ได้ทุกชนิดรวมทั้งเสน่ห์และวิญญาณร้าย   ประเภทภูติผีปีศาจ
จะเห็นได้ว่าความศักดิ์สิทธิ์ของเบี้ยแก้นั้นมีอยู่ด้วยกันหลายประการ คนโบราณเวลาเดินทาง
ไปไหนมาไหนมักจะมีเบี้ยแก้พกติดตัวไว้เสมอ โดยการแขวนร้อยเข้ากับเชือกคาดเอว
เหมือนตะกรุด
       ตำนานการสร้างเบี้ยแก้การสร้างเบี้ยแก้จะเริมมีการสร้างตั้งแต่ครั้งใดนั้น  ไม่มีใคร
สามารถคาดเดาเพราะไม่สามารถสืบหาหลักฐานที่แน่ชัดมาสนับสนุน  เท่าที่สามารถ
สืบเสาะได้ในปัจจุบันก็ได้จากพระคณาจารย์ต่างๆที่ได้มีการสร้างเบี้ยแก้ขึ้นจนปรากฏกิตติคุณ
ชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักกันทั่วไปเช่นหลวงปู่รอดวัดนายโรง,หลวงปู่บุญวัดกลางบางแก้ว,
หลวงพ่อพักวัดโบสถ์,หลวงพ่อนุ่มวัดนางใน,หลวงปู่คำวัดโพิ์ปล้ำเป็นต้น  ซึ่งแต่ละท่าน
ต่างก็มีที่มาที่ไปของวิชาการทำเบี้ยแก้แตกต่างกันไป   ตามที่ได้รับถ่ายทอดมาและร่ำเรียนมา
    แต่อย่างไรก็ตามเคยมีท่านผู้รู้บางท่านเคยตั้งข้อสังเกตหรือสันนิษฐานไว้น่าสนใจ  ว่าตำรา
การสร้างเบี้ยแก้นี้นั้นคงเป็นหนึ่งในหลายๆสรรพวิชาของสำนักวัดประดู่ในทรงธรรม อันเป็น
สำนักพุทธาคมที่มีชื่อเสียงมาแต่ครั้งยุคกรุงศรีอยุธยา ต่อมาตำราการสร้งเบี้ยแก้คงมี
การสืบทอดแพร่หลายขยายไปยังสำนักต่างๆและได้รับการถ่ายทอดมาถึงยุคปัจจุบันของสาย
สมเด็จพระวันรัตวัดป่าแก้วที่บางอย่างนำมาเก็บรักษาไว้ที่วัดประดู่ในทรงธรรมและบางอย่าง
ตกทอดมาอยู่กรุงเทพฯ เช่น  ตำราการสร้างพระกริ่ง  เป็นต้น
     การสร้างเบี้ยแก้ของวัดกลางบางแก้ว  เบี้ยแก้ของสำนักวัดกลางบางแก้วเป็นเครื่องราง
ของขลังที่สร้างชื่อเสียงให้กับสำนักนี้ควบคู่กันมากับยาวาสนาหรือยาจินดามณี  มีการสร้าง
ติดต่อกันมายาวนาน  นับตั้งแต่สมัยหลวงปู่บุญ เป็นต้นมา (บางกระแสกล่าวว่าพระปลัดทอง
ผู้เป็นอาจารย์ของท่าน    ก็มีการสร้างเบี้ยแก้เช่นกัน)และได้มีการสืบทอดวิชานี้มาจนถึงปัจจุบัน
    หลวงปู่แขก วัดบางบำหรุ  หลวงปู่แขกท่านเป็นพระผู้เฒ่าที่ประวัติความเป็นมาไม่อาจ
สืบเสาะได้ชัดเจน ทราบเพียงว่าช่วงระยะหนึ่ง  ท่านได้มาพำนักจำพรรษาที่วัดบางบำหรุ
และช่วงนั้นหลวงปู่รอดวัดนายโรงปรมาจารย์ผู้เข้มขลังในการสร้างเบี้ยแก้อีกองค์หนึ่ง 
ได้จำพรรษาอยู่วัดบางบำหรุเช่นกันจึงได้ศึกษาวิชาการทำเบี้ยแก้จากหลวงปู่แขก 
 เพราะตามประวัติแล้วหลวงปู่รอดได้บวช  ณ วัดนี้ก่อนย้ายไปอยู่วัดนายโรง
    ซึ่งสายสัมพันธ์ของการศึกษาในสายนี้ของหลวงปู่บุญ  ท่านได้มีโอกาสเรียน
จากหลวงปู่แขกเมื่อใดยากที่จะประมาณการได้ส่วนกับหลวงปู่รอด วัดนายโรงนั้นน่าจะเป็น
การเรียนรู้ศึกษาเพิ่มเติมต่อจากหลวงปู่แขก ให้มีความชำนาญมากยิ่งขึ้นโดยหลวงปู่รอด
เป็นศิษย์ผู้พี่เพราะท่านมีอายุมากกว่าหลวงปู่บุญหลายปีและสามารถเรียกได้ว่าศิษย์ร่วมสำนัก
นอกจากพระคณาจารย์สององค์ดังกล่าว   แล้วท่านยังได้ศึกษาเพิ่มเติมจากฆราวาสท่านหนึ่ง
ซึ่งเป็นชาวมอญที่มาจอดเรืออยู่บริเวณหน้าวัด  และสุดท้ายคือจากตำหรับตำราต่างๆ
ที่ท่านได้มาจากวัดประดูฯเป็นต้น

    องค์ประกอบในการสร้างเบี้ยแก้วัดกลางบางแก้วองค์ประกอบหรือวัสดุอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้
ในการสร้างเบี้ยแก้ที่สำคัญมี  4  ชนิดคือ
    1.เบี้ยจั่นเป็นหอยทะเลชนิดหนึ่งประเภทหอยเบี้ยด้านหลังจะมีสีน้ำตาลแก่ลายสีน้ำตาลแก่
ลายสีน้ำตาลอ่อนเป็นจุดๆด้านท้องปากหอยมีลักษณะคล้ายฟันเป็นซี่ๆ ตามแนวยาวการเลือก
เบี้ยจั่นที่จะนำมาทำเป็นเบี้ยแก้นั้นต้องเลือกเบี้ยที่มีซี่ฟันครบ 32 ซี่และมีขนาดไม่เล็กหรือใหญ่
จนเกินไป พอเหมาะในการที่จะบรรจุปรอทได้น้ำหนักที่ 1 บาท
    2.ปรอทเป็นโลหะเหลวชนิดหนึ่งมีสีขาวบริสุทธ ิ์กรรมวิธีการดักปรอทของคนโบราณ   นิยม
ใช้ไข่เน่าเอาเข็มเจาะเป็นรูเล็กๆ  แล้วนำไปวางไว้ตามบ่อน้ำครำทิ้งไว้ประมาณ 2 วัน แล้วจึงนำ
ไข่ขึ้นมาจะมีปรอทเข้าไปอยู่ในไข่เน่าแต่ปัจจุบันมักนิยมไปซื้อปรอทจากร้านเคมีภัณฑ์มาทำ
    3.ชันโรงใต้ดินตัวชันโรงเป็นแมลงที่มีลักษณะคล้ายผึ้งแต่เล็กกว่าผึ้งมากชอบกินน้ำหวาน
จากเกสรดอกไม้มักจะอยู่รวมตัวกันเป็นกลุ่มตามสถานที่ๆ มีความเงิยบสงบต่างๆ เช่นริม
หน้าต่างโบสถ์วิหารศาลาโรงธรรมเป็นต้นเพราะไม่ชอบให้ใครไปรบกวนเมื่อถ่ายออกมาจะมี
กลิ่นหอมและตัวชันโรงจะนำมาทำเป็นรังของมันเองมีลักษณะคล้ายๆกับครั่งโบราณจารย์ท่าน
นิยมใช้ชันโรงใต้ดินมาเป็นส่วนประกอบในการทำเบี้ยแก้
    4.แผ่นตะกั่ว,ผ้าแดงแผ่นตะกั่วใช้สำหรับตีหุ้มตัวเบี้ยที่ผ่านการบรรจะปรอทและปิดทับด้วย
ชันโรงเรียบร้อยแล้วอีกทั้งใช้สำหรับลงอักขระเลขยันต์ต่างๆ   ส่วนผ้าแดงใช้สำหรับลงอักขระ
เลขยันต์อีกครั้ง   ก่อนนำไปถักเชือกลงรักปิดทองในลำดับสุดท้าย

   กรรมวิธีการสร้าง
   เมื่อได้วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ  ครบถ้วนสมบูรณ์แล้วคณาจารย์ผู้สร้างจะเอาปรอทเทลง
ไว้ในฝ่ามือแล้วจึงบริกรรมเวทย์มนต์จนจบแล้วจึงบริกรรมอีกบทหนึ่ง   ขณะกรอกปรอท
ลงในตัวเบี้ยโดยให้ปรอทวิ่งลงตรงร่องระหว่างฝ่ามือ่ตรงรอยพับใต้นิ้วก้อยลงมาเล็กน้อย   
สำหรับหลวงปู่บุญวัดกลางบางแก้วมีคำเล่าขานสืบต่อกันมานั้น  กล่าวว่าท่านจะเสกปรอท
จนวิ่งเข้าหาตัวเบี้ยได้เองขณะเอาปากหอยมาจ่อตรงร่องฝ่ามือเสมอกัน   ปรอทจะวิ่งเข้าหา
ตัวเบี้ยได้เองขณะเอาปากหอยมาจ่อตรงร่องฝ่ามือเสมอกันปรอทจะวิ่งเข้าหาโดยที่ท่าน
ไม่ได้ยกมือให้ขึ้นสูงแต่ประการใด
     เมื่อผ่านขั้นตอนการบรรจุปรอทเข้าตัวเบี้ยแล้ว    จะใช้ชันโรงใต้ดินอุดปากเบี้ยไว้กันปรอท
ไหลกลับคืนออกมาต่อจากนั้นนำเบี้ยดังกล่าวไปตีหุ้มด้วยแผ่นตะกั่วให้เรียบร้อยสวยงามตาม
ลักษณะของเบี้ยจั่นที่นำมาทำเป็นเบี้ยแก้แล้วจึงลงอักขระเลขยันต์โดยเบี้ยแก้สาย
วัดกลางบางแก้วนั้นใต้ท้องเบี้ยเป็น   ยันต์พุทซ้อน   หรือนะหน้าทอง   อันได้แก่
พระเจ้า 5 พระองค์คือ นะ โม พุทธา ยะ ด้านซ้ายมือลงด้วยตัว อัง แต่บางลูกอาจมียันต์กำเนิด
เฑาะสมาธิหรือเพาะมหาอุด
เป็นหลักใหญ่ บางลูกก็ลงอักขระด้วยยันต์เฑาะขัดสมาธิข้างซ้ายลงตัว มะข้างขวาลงตัว 
อะ ด้านบนลงตัว อุ  หลังจากนั้นลงอักขระบนผ้าแดงห่อหุ้มอีกชั้นหนึ่ง  ก่อนนำไปถักเชือกหุ้ม
ทับหมดทั้งตัวอีกชั้นหนึ่ง  จากนั้นเอาไปลงรักปิดทับชั้นนอกอีกทีเพื่อเป็นการรักษาสภาพ   
โดยปกติเบี้ยแก้สำนักนี้จะมีการสอดห่วงทองแดงไว้บริเวณท้องเบี้ยเพื่อใช้สำหรับร้อยเชือก
คาดเอว
    ขั้นตอนสุดท้ายคือการปลุกเสกเบี้ยแก้   ให้มีมหิทธานุภาพตามโบราณกาล   การปลุกเสก
เบี้ยแก้ของสำนักวัดกลางบางแก้วนั้น   กล่าวไว้ว่าต้องปลุกเสกเบี้ยแก้ให้เคลื่อนไหวได้จริง
เสียก่อนที่จะนำออกมาแจกจ่ายให้ศิษยานุศิษย์ทั้งหลายทั้งปวงต่อไป
     
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10 ก.ย. 2552, 09:18:28 โดย ไทยแท้ »
เงินหมด ยศยังอยู่

ออฟไลน์ ไทยแท้

  • จตุตถะ
  • ****
  • กระทู้: 103
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: สุดยอดเครื่องลาง เบี้ยแก้ หลวงปู่บุญ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 10 ก.ย. 2552, 09:24:59 »
ส่วนตัวพอมีอยู่1ตัวเป็นของปู่ท่านให้ไว้ หลวงพี่ญาท่านเคยเห็นตอนผมเข้ารับการสัก หลวงพี่ท่านพูดค่อนค้างดังว่า เห้ยนี่มันเบี้ยแก้หลวงปู่บุญนี้หว่า ผู้คนในกุฎิต่างยืนดูกัน หันหน้าพูดกันว่าของดี พี่ที่จับหลังให้ผมท่านยังพลิกไปมาดูอยู่นาน จากนั้นหลวงพี่ท่านก็บอกว่า มึงนอนลงเลยๆ ในวันนั้นผมจึงได้หนุมานเชิญธง อีกด้วย

ออฟไลน์ ปุญฺญานุสฺสติ(สิบทัศน์)

  • *โปรดระวัง - สีลัพพตปรามาส, ๗ เดือน ๑๙ วันจะเก็บแต่ความทรงจำที่ดีๆไว้, ตถตา (เช่นนั้นเอง).
  • ...
  • *****
  • กระทู้: 6436
  • เพศ: ชาย
  • ผู้สอนคือผู้ลวง? ผู้เรียนคือผู้หัดที่จะลวง?
    • ดูรายละเอียด
    • เฟสบุ๊ควัดบางพระ (หลวงพ่อเปิ่น)
ตอบ: สุดยอดเครื่องลาง เบี้ยแก้ หลวงปู่บุญ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 10 ก.ย. 2552, 09:30:47 »
บทความแจ้งที่มาไว้สักนิดก็ดีครับ.

porvfc

  • บุคคลทั่วไป
ตอบ: สุดยอดเครื่องลาง เบี้ยแก้ หลวงปู่บุญ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 10 ก.ย. 2552, 09:37:51 »
ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ

ออฟไลน์ ยอดรัก..บางแค

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 587
  • เพศ: ชาย
    • MSN Messenger - yodrak-bo@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: สุดยอดเครื่องลาง เบี้ยแก้ หลวงปู่บุญ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 10 ก.ย. 2552, 09:48:50 »
ขอบคุณสำหรับข้อมูลคร้าบ :054:

ออฟไลน์ เร้กเก้อีสาน

  • ได้สมบัติทั้งปวง ไม่ประเสริฐเท่าได้ตน เพราะตัวตนเป็นที่เกิดแห่งสมบัติทั้งปวง
  • ฉัฏฐะ
  • *
  • กระทู้: 9
  • เพศ: ชาย
  • ผมรักที่จะนับถือ
    • MSN Messenger - suttisrak@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: สุดยอดเครื่องลาง เบี้ยแก้ หลวงปู่บุญ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: 10 ก.ย. 2552, 10:07:35 »
ขอบคุณคับได้ความรู้มากเลยคับ :015:

ออฟไลน์ tom2007

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 462
  • เพศ: ชาย
  • ออแอ อออา เมตตา พุทโธ
    • MSN Messenger - autotom2007@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: สุดยอดเครื่องลาง เบี้ยแก้ หลวงปู่บุญ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: 10 ก.ย. 2552, 11:15:06 »
ขอบคุณครับ
ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ  สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว

ออฟไลน์ cho presley

  • ------> I'm Cho Presley
  • นวมะ
  • ****
  • กระทู้: 2049
  • เพศ: หญิง
  • สุดท้ายก็กาหลง!
    • MSN Messenger - cho.khalong@hotmail.com
    • AOL Instant Messenger - เมืองเสน่ห์กาหลง
    • Yahoo Instant Messenger - มหาเสน่ห์+เมตตา+มหานิยม
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.khalong.com
ตอบ: สุดยอดเครื่องลาง เบี้ยแก้ หลวงปู่บุญ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: 10 ก.ย. 2552, 12:10:29 »
ส่วนตัวพอมีอยู่1ตัวเป็นของปู่ท่านให้ไว้ หลวงพี่ญาท่านเคยเห็นตอนผมเข้ารับการสัก หลวงพี่ท่านพูดค่อนค้างดังว่า เห้ยนี่มันเบี้ยแก้หลวงปู่บุญนี้หว่า ผู้คนในกุฎิต่างยืนดูกัน หันหน้าพูดกันว่าของดี พี่ที่จับหลังให้ผมท่านยังพลิกไปมาดูอยู่นาน จากนั้นหลวงพี่ท่านก็บอกว่า มึงนอนลงเลยๆ ในวันนั้นผมจึงได้หนุมานเชิญธง อีกด้วย
มึงนอนลงเลยๆ ... น่ารักดี..ขอบคุณทุกบทความจากไทยแท้ แน่เสียยิ่งกว่าแน่นะเนี่ย :009:!
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10 ก.ย. 2552, 12:10:44 โดย cho presley »

cho presley       

ออฟไลน์ อชิตะ

  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 3218
  • เพศ: ชาย
    • MSN Messenger - aston_25@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: สุดยอดเครื่องลาง เบี้ยแก้ หลวงปู่บุญ
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: 10 ก.ย. 2552, 01:07:27 »
กราบนมัสการหลวงปู่บุญครับ  ข้อมูลชัดเจนครับ เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังศึกษาประวัิติหลวงปู่และเบี้ยแก้

ผมชอบคำนิยามหรือจะเรียกว่า สรรพคุณของเบี้ยแก้ ซึ่งหลายท่านนิยมนำมาเป็นคาถากำกับเวลาใช้เบี้ยแก้ครับ

"เบี้ย แก้ตัวนี้สำคัญนัก พ่อค้าแม่ขายจักหมั่นไว้บูชา จะไต่เต้าเจ้าสัวแสนทะนาน

จักให้คุณเป็นถึงท้าวเจ้าพระยาพานทอง ทรัพย์สินสิ่งของเต็มวัง

อีกช้าง ม้า วัว ควาย นับได้เหลือหลาย

หลวงปู่เฒ่าเจ้าสั่งสิ่งอาถรรพ์ อาเพศอัปมงคลทุกข์ภัยพิบัติทั้งยาสั่งให้อันตรธานสิ้นไป

ศัตรูปองร้ายให้พ่ายแพ้ภัยตัว ขึ้นโรงขึ้นศาล จะชนะปลอดทุกคดีความ

สิงห์สาราสัตว์สารพัดร้าย ปืนผาหน้าไม้ ผีป่า ผีปอบ ผีโป่ง ทั้งโขยง มิกล้ากล้ำกราย

หากมีเหตุเภทร้ายอันตราย จะบอกกล่าวเตือนว่าจงอย่าไปแลฯ๛




ยาวแต่ขลังนะครับ
:027: :027:

ออฟไลน์ tum72

  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 2246
  • ณ ตลาดพลู
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: สุดยอดเครื่องลาง เบี้ยแก้ หลวงปู่บุญ
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: 10 ก.ย. 2552, 02:41:14 »
เบี้ยแก้ สุดยอดเครื่องรางป้องกันคุณไสย์ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว แต่ก็ไม่ลืมของวัดกลางบางพระด้วยนะครับ
โอม ราศีกูเอ๋ย  จงมาเป็นอาสน์  สีธาวาส  มาเป็นเกียรติ  ศรีชายมาเป็นช่วง
หญิงชายทั้งปวง รักกูมิรู้วาย  ด้วยราศีกูงามคือฟ้า  หน้ากูงามคือพรหม
หญิงเห็นหญิงรัก  ชายเห็นชายทัก  กูอยู่ทุกเมื่อ  ไม่เบื่อแต่สักวัน
โอม หญิงชายทั้งหลายเอ๋ย  มา

ออฟไลน์ tou

  • ทุติยะ
  • **
  • กระทู้: 12
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: สุดยอดเครื่องลาง เบี้ยแก้ หลวงปู่บุญ
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: 10 ก.ย. 2552, 02:53:38 »
ขอบคุณครับ