ผู้เขียน หัวข้อ: ตายเหมือนหมู  (อ่าน 1611 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ~เสน่ห์โจรสลัด~

  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 7913
  • เพศ: ชาย
  • " ถ้ามุ่งมั่นจะเป็นที่หนึ่งคุณจะเป็นที่หนึ่ง "
    • ดูรายละเอียด
ตายเหมือนหมู
« เมื่อ: 16 ก.ย. 2552, 11:42:54 »
ตายเหมือนหมู

ในสมัยพุทธกาลมีชายหนุ่มคนหนึ่งชื่อนายจุนทสูกริก รูปร่างหน้าตาดีมาก ไม่ว่าเขาจะไป แห่งหนใด เมื่อหญิงสาวเห็นเขาแล้ว ทุกคนก็ต้องการที่จะได้มาเป็นคู่ครอง เมื่อนายจุนทสูกริกมีอายุได้ ๒๐ ปี เขาแต่งงานกับหญิงสาวผู้โชคดีซึ่งมีอายุเพียง ๑๘ ปี เมื่อทั้งสองแต่งงานแล้วก็ได้แยกออกมาจากบ้านเดิมของพ่อแม่ มาปลูกบ้านใหม่สร้างครอบครัวอยู่ในหมู่บ้านนั้น

นายจุนทสูกริกประกอบอาชีพด้วยการเลี้ยงหมู ทั้งฆ่ากินเองและขาย เมื่อหมูที่เลี้ยงไว้โตได้ที่แล้ว เขาจะจับหมูตัวนั้นมามัดที่ขาทั้ง ๔ และใช้ค้อนเหล็กตีลง ไปที่หัวของหมู เมื่อหมูถูกทุบด้วยค้อนเหล็กก็ส่งเสียง ร้องดังโหยหวนด้วยความเจ็บปวด เขากระหน่ำตีหมูอยู่ ๒-๓ ครั้ง เพราะรู้ว่าวิธีนี้จะทำให้หมูมีเนื้อที่หนาขึ้นและมีเลือดอันพอดี จากนั้นเขาจึงต้มน้ำให้เดือด แล้วใช้กระบวยตักน้ำร้อนที่กำลังเดือดพล่านนั้น เทกรอกลง ไปในปากหมู เพื่อขับมูตรคูถทั้งหลายในท้องหมูให้ออก มาทางทวาร

เมื่อหมูถูกกรอกน้ำร้อนอันเดือดพล่านเช่นนั้นก็ดิ้นพล่าน ร้องโหยหวน จนขาดใจตาย แต่นายจุนทะก็ยังกรอกน้ำร้อนต่อไปจนกระทั่งเห็นว่าข้างในของหมูสะอาดดีแล้ว จึงเอาน้ำร้อนราดจนทั่วตัวหมู เพื่อลอกหนังดำๆ ออกไป แล้วนำคบหญ้ามาจุดไฟลน ขนหมูให้หลุด จากนั้นจึงเอามีดอันคมกริบตัดคอหมู และนำภาชนะมารองเลือดจนเต็มแล้วจึงยกขึ้นดื่มกิน และตัดเอาเนื้อที่อ่อนนุ่มและตัดเอามันที่อ่อนมาคลุกเคล้ากับเลือดหมู นำไปย่าง เพื่อกินกันในครอบครัว ส่วนเนื้อหมูที่เหลือได้นำไปขายที่ตลาดในเมือง

นายจุนทะประกอบอาชีพเลี้ยงหมู และชำแหละหมู ขายเพื่อเลี้ยงภรรยาและลูกของตนตลอดมาถึง ๕๕ ปี ถึงแม้ว่าเขาจะอยู่ไม่ไกลจากที่ประทับของพระพุทธเจ้าก็ตาม แต่ก็ม่เคยคิดที่จะทำบุญหรือคิดที่จะใส่บาตรด้วยข้าวสักทัพพี ตรงกันข้ามกับภรรยาและลูกของเขาซึ่งพอตกเย็นได้เข้าไปฟังธรรมทุกวัน

วันหนึ่งนายจุนทะได้ล้มป่วยอย่างกะทันหัน เขารู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วร่างกายทั้งภายในภายนอกความร้อนได้ทวีขึ้นทุกขณะ ดุจดังไฟนรกที่กำลังแผดเผาไปทั่วร่าง เขาร้องครวญครางด้วยน้ำเสียงคล้ายหมู และดิ้นพล่านคลานไปรอบๆ ห้องเหมือนหมู เมื่อเขาดื่มน้ำเพื่อหวังดับร้อนในกาย น้ำที่ไหลลงคอกลับเปรียบเสมือนน้ำร้อนที่ยิ่งเพิ่มความร้อนทบเท่าทวีคูณ

นายจุนทะตะโกนร้องดังลั่นด้วยความเจ็บปวด ราวกับถูกทุบด้วยค้อนขนาดใหญ่ และส่งเสียงร้องอยู่อย่างนั้นตลอดเวลา กระทั่งเสียงไป รบกวนบ้านใกล้เรือนเคือง จนแทบไม่มีใครได้หลับได้นอน และเสียงนั้นยังดังไปถึงสถานที่ที่พระพุทธเจ้าประทับอยู่ นายจุนทะส่งเสียงร้องและคลานอยู่เช่นนั้นตลอด ๗ วัน ๗ คืน พอวันที่ ๘ เขาก็สิ้นใจตาย และไปเกิดในอเวจีมหานรก !!

ในเวลาเย็นวันนั้นพระภิกษุทั้งหลายได้เข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้า และได้กราบทูลถามถึงเรื่องนายจุนทะ พระพุทธเจ้าจึงได้ตรัสกับพระภิกษุทั้งหลายว่า นายจุนทสูกริกนั้นเขาได้รับกรรมอัดเผ็ดร้อน ตามกรรมของเขาที่ได้ทำในชาตินี้และได้รับผลแห่งกรรมในโลกหน้า พระพุทธองค์ได้ตรัสต่อไปอีกว่าชื่อว่าผู้ประมาทแล้ว จะคฤหัสถ์ก็ตาม จะเป็นบรรพชิตก็ตาม ย่อมเศร้าโศกในโลกทั้งสอง ว่า

“ผู้ทำบาปเป็นปกติ ย่อมเศร้าโศกในโลกนี้ ละไป แล้วย่อมเศร้าโศก ย่อมเศร้าโศกในโลกทั้งสอง เขาเห็นกรรมเศร้าหมองของตนเองแล้วย่อมเศร้าโศกเขาย่อมเดือดร้อน”

บาป นั้นคือความชั่ว ที่บุคคลได้กระทำ ทั้งการกระทำที่เป็นกายทุจริต เช่น การฆ่าสัตว์ตัดชีวิต การลักทรัพย์ การประพฤติผิดในกาม ฯลฯ การกระทำที่เป็นวจีทุจริต เช่น พูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ ฯลฯและการการทำที่เป็นมโนทุจริต เช่น คิดอาฆาตพยาบาท คิดปองร้าย คิดไม่ซื่อ เป็นต้น คนที่ได้ทำบาปดังนี้ย่อม เกิดความเศร้าโศกเศร้าหมองในจิตใจ หน้าตาไม่ผ่องใส เพราะกรรมชั่วที่ตนได้กระทำแล้วนั่นเอง

เห็นได้ว่ากรรมที่บุคคลทำแล้ว แม้จะมีคนเห็นก็ตาม ไม่มีคนเห็นก็ตาม ทุกคนย่อมหนีไม่พ้นกรรมเหล่านั้น ไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหนก็ตาม กรรมเหล่านั้นจะติดตามตัวไป เหมือนเงาแดดติดตามตัวเราไปทุกแห่งหน กรรมนั้นเป็นการจำแนกสัตว์ทั้งหลาย ทุกคนเกิดมาด้วยกรรมของตนเอง ทุกคนที่ได้รับกรรมอยู่ทุกวันนี้ ก็เพราะการกระทำ

เราอาจเห็นได้ว่าคนทำกรรมชั่วแล้ว ทำไมจึงไม่เห็นผล ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะในอดีตเขาทำกรรมดีไว้ และกรรมดียังให้ผลอยู่ แต่ถ้ากรรมดีหมดแล้ว กรรมชั่วก็จะปรากฏแน่นอน ทุกคนไม่มีใครที่จะหนีกรรมไปได้ เพราะกรรมนั้นจะต้องส่งผลอย่างแน่นอนไม่ช้าก็เร็ว


(จากหนังสือพิมพ์ธรรมลีลา ฉบับที่ 78 เม.ย. 50 โดย พระมหา ดร.ณรงค์ศักดิ์ ฐิติยาโณ วัดใหม่ยายแป้น) ผู้จัดการออนไลน์ 2 พฤษภาคม 2550 16:36 น.

ออฟไลน์ Lizm Club

  • “The one thing you cannot teach a person is COMMON SENSE.”
  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 309
  • เพศ: หญิง
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: ตายเหมือนหมู
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 16 ก.ย. 2552, 03:28:15 »
เวลาสิ้นใจไม่มีอะไรที่เราจะเอาติดตัวไปได้แม้แต่เงินในปากก็เอาไปไม่ได้สิ่งที่เอาไปได้มีเพียงแต่กรรมดี และกรรมชั่วเท่านั้น....ขอบคุณค่ะ
"ก่อนทีท่านจะว่าผู้อื่น ลองหันมองดูตัวเองก่อนเถิดว่าตัวเองนั้นเป็นเช่นไร ถ้าเราไม่ได้ดีกว่าเขาก็อย่าว่าเขาเลย".......

ออฟไลน์ @แปดเศียร@

  • ปัญจมะ
  • *****
  • กระทู้: 106
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: ตายเหมือนหมู
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 16 ก.ย. 2552, 03:42:14 »
ขอบพระคุณมากครับ

ออฟไลน์ yout

  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 1742
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: ตายเหมือนหมู
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 16 ก.ย. 2552, 08:44:56 »
ขอบคุณครับ....... :114: :090: :114:

ออฟไลน์ ~เสน่ห์ack01~

  • ผู้คุมกฎ
  • *****
  • กระทู้: 5330
  • เพศ: ชาย
  • " ไม่เมาเหล้าแล้วเรายังเมารัก"
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: ตายเหมือนหมู
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 16 ก.ย. 2552, 09:50:25 »
ขอบคุณท่านโจรสลัดครับ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม :002:

ทำบุญ วันคล้ายวันเกิด หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ
วันอาทิตย์ ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ 

ออฟไลน์ ~เสน่ห์กวาง~

  • ไม่ใช่คนแรกของหัวใจ..แต่ก็เป็นคนสุดท้ายของชีวิต ^^โฮ๊ะๆ^^
  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 1314
  • เพศ: หญิง
  • เพื่อนกัน..ตลอดกาล..
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: ตายเหมือนหมู
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: 17 ก.ย. 2552, 09:08:17 »
ขอบคุณท่านโจรสลัดค่ะ

เฮ้อ..ทำไปได้ไงหนอ..ฆ่าทารุนอย่างทรมาน
ให้มันดิ้นทุรนทุรายตายไปต่อหน้าต่อตา

เมื่อถึงคราวตนเองตกอยู่ในสภาพแบบนั้น
จะไปโทษใครเค้าได้..เพราะมันเกิดจากกรรมที่เราก็ทำไว้เอง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17 ก.ย. 2552, 09:08:59 โดย ~เสน่ห์จันทร์~ »

..ที่โลกนี้ไม่มี..ก็คือดวงตะวัน..
..ไม่เคยมีให้ฉันในวันที่มองไม่เห็นใคร..
.ที่โลกนี้ไม่มี..ก็คือความรักยิ่งใหญ่..
..ไม่มีคนห่วงใย..หวังดีและผูกพันธ์..