หมวด มิตรไมตรี > รูปภาพและวีดีโอสายวัดบางพระ

บุญเพ็ง หีบเหล็ก

<< < (4/4)

~เสน่ห์กวาง~:
เอ..พี่เจมส์คะ ที่เค้าทำรูปปั้นอนุสรณ์ของบุญเพ็ง
..เพราะเค้าเป็นนักโทษคนสุดท้ายที่ได้รับโทษประหารชีวิตด้วยการบั่นศีรษะ รึเปล่าคะ
หรือด้วยเหตุผลอื่น.. :062:

kill:
ข้อมูลเพิ่มเติม





ศาล “บุญเพ็ง หีบเหล็ก” ที่วัดภาษี ความศักดิ์สิทธ์ที่ต้องพิสูจน์
ที่วัดแห่งนี้ตั้งอยู่บนถนนเอกมัย ในกรุงเทพมหานคร ที่แห่งนี้เคยเป็นลานประหารนักโทษสมัยรัชกาลที่ 6 ประหารชีวิตด้วยการตัดศีรษะหรือว่า “กุดหัว” และพิธีนี้ถูกยกเลิกไปแล้วโดยมีนักโทษคนสุดท้ายคือ “บุญเพ็ง” หรือ “บุญเพ็งหีบเหล็ก” ต้องโทษด้วยคดีฆ่าหั่นศพใส่หีบเหล็กมากว่า 7 ศพ เป็นผู้ปิดตำนานลานประหารแห่งนี้ แต่ด้วยวิชาอาคมและของศักดิ์สิทธ์ทำให้เพชฌฆาตไม่สามารถตัดหัวของนายบุญเพ็งได้ แต่สุดท้ายก็ต้องจบชีวิตลงเมื่อเขายอมคลายพระที่อมอยู่ในปากออกมา ซึ่งในปัจจุบันได้ตั้งศาลของบุญเพ็งไว้ที่วัด โดยมีผู้คนกราบไว้ขอพรกันเป็นจำนวนมาก เพราะเชื่อกันว่าหากบนบานสิ่งใดไว้ ก็จะสมความปรารถนา




เรื่องจะเล่าให้ฟังต่่อไปนี้เป็นคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นเมื่อ 80-90 ปีก่อน

เป็นข่าวฮือฮามากในสมัยนั้นเพราะสมัยก่อนคดีฆ่ากันตายไม่เยอะเหมือนปัจจุบัน

แถมขั้นตอนการฆ่ายังแปลกประหลาดสะเทือนใจประชาชนที่ทราบข่าว

บุญเพ็งหีบเหล็ก (แต่ก่อนคนยังไม่มีนามสกุล หีบเหล็กเป็นฉายาของแก)

เป็นลูกกำพร้าอาศัยอยู่กับญาติผู้ใหญ่ แกเป็นคนหน้าตาดีเป็นที่รักใคร่ของสาวๆ

บุญเพ็งคลั่งไคล้ในไสยศาสตร์ภายหลังได้บวชเป็นพระ

จำพรรษาอยู่หลายวัดทั้งในกรุงเทพฯและจังหวัดนนทบุรี

ต่อมาวันหนึ่งมีคนพบเห็นหีบเหล็กลอยปริ่มน้ำหน้าวัดไทรม้า

จ.นนทบุรี (ใกล้สะพานพระนั่งเกล้า) และอีกหีบที่คลองบางกอกน้อย

มีศพผู้หญิงถูกมัดอยู่ภายในหีบ (ศพขึ้นอืดทำให้หีบลอย)

หลายแหล่งมักบอกว่าแกฆ่าหลายคน ที่จริงมีไม่กี่คน

ตำรวจจึงทำการสืบสวนตามหาผู้ร้าย

จนได้เบาะแสนำจับบุญเพ็งหีบเหล็กในที่สุด

แกรับสารภาพว่าได้ฆ่าผู้หญิงจริงเพราะต้องการทรัพย์สินของผู้ตายที่มาติดพัน

โดยการฆ่าแล้วเอาศพยัดลงในหีบเหล็กนำไปทิ้งลงแม่น้ำ

บุญเพ็งถูกตัดสินให้รับโทษประหารชีวิต

มีหลายคนเข้าใจว่าแกเป็นนักโทษคนสุดท้ายที่โดนตัดหัว

ที่จริงไม่ใช่แต่เป็นชายหญิงอีกคู่ที่ทำความผิดภายหลังบุญเพ็งตายแล้ว

ศพของบุญเพ็งถูกฝังอยู่วัดภาษี กรุงเทพฯ ทุกวันนี้ยังมีศาลแกตั้งอยู่




เรื่องของบุญเพ็ง นี้ต่อมาได้นำมาสร้างเป็นหนังเมื่อพ.ศ 2510

นำแสดงโดย: สมบัติ เมทะนี, ปริศนา ชบาไพร

Toyy:
ขอบคุณมากนะครับที่นำมาเล่าให้ฟัง
เรื่องนี้เป็นอุธาหรณ์ใด้ดีจริงๆ

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[*] หน้าที่แล้ว

Go to full version