ผู้เขียน หัวข้อ: ลงยันต์น้ำมัน... ตำรับ... หลวงพ่อวงศ์ วัดประชาวงศาราม  (อ่าน 5550 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ กระเบนท้องน้ำ

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 275
  • เพศ: ชาย
  • การให้ธรรมะ ชนะการให้ทั้งปวง
    • MSN Messenger - krabentongnam2511@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
    • บ้านกระเบนท้องน้ำ





การสักลวดลายบนผิวหนังที่เรียกว่าสักลายหรือสักยันต์เป็นวัฒธรรมอย่างหนึ่งของไทยที่มีมาช้านานในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยถานพ.ศ.๒๕๒๕เขียนว่า"สัก" คือการเอาเหล็กแหลมแทงลงด้วยวิธีการหรือเพื่อประโยชน์ต่างๆกันใช้เหล็กแหลมจุ่มหมึกหรือน้ำมันงาผสมว่าน๑๐๘ชนิดเป็นต้นแทงที่ผิวหนังให้เป็นอักขระเครื่องหมายหรือลวดลายถ้าใช้หมึกเรียกว่าสักหมึกถ้าใช้น้ำมันเรียกว่าสักน้ำมัน

ส่วนเหตุผลที่การสักยังคงมีอยู่คือหลายคนยังเชื่อว่าการสักจะทำให้มีโชคและอยู่ยงคงกระพันพ้นอันตรายรูปแบบของการสักแต่ละชนิดจะมีความขลังที่แตกต่างกันลายสักหรือยันต์บางชนิดสามารถช่วยผู้ที่สักให้รอดพ้นจากสถานการณ์ที่ยุ่งยากได้สัญลักษณ์บางอย่างของลายสักสามารถทำให้ผิวหนังเหนียวได้ศัตรูยิงไม่ออกฟันไม่เข้าเชื่อว่าการสักจะช่วยให้รอดพ้นจากสถานการณ์อันเลวร้ายได้ด้วย

นอกจากนี้การสักทางไสยศาสตร์ยังเชื่อมโยงกับการระวังอันตรายและความปลอดภัยทำให้แคล้วคลาดต่ออันตรายต่างๆศิลปะพื้นบ้านประเภทนี้อาจจะกระตุ้นความรู้สึกให้เกิดศรัทธาความเชื่อมั่นเกิดความมั่นใจ

วิธีหรือประเภทของการสักยันต์นั้นเป็นที่ทราบกันดีในหมู่คนนิยมชมชอบการสักยันต์ว่าการสักยันต์ลงอักขระเลขยันต์มีอยู่๒อย่างคือ

๑.การสักหมึกนิยมใช้หมึกจีนมาฝนกับน้ำพระพุทธมนต์สมัยก่อนนิยมหาดีเสือ, ดีหมี, ดีงูเห่าเป็นส่วนผสมและ๒.การสักน้ำมันส่วนมากจะใช้น้ำมันจันทน์หอมแช่ว่านหรือน้ำมันงาขาวบางสำนักจะผสมน้ำมันช้างตกมันน้ำมันเสือโคร่ง

การสักน้ำมันคนสมัยนี้นิยมกันมากเพราะเป็นการสักยันต์โดยร่างกายไม่มีลวดลายให้เห็น

ทั้งนี้การสักหมึกและสักน้ำมันมีขั้นตอนการลงเข็มสักยันต์เหมือนกันคืออาจารย์ผู้สักจะให้ลูกศิษย์กดผิวหนังที่จะสักให้ตึงแล้วใช้เข็มสักแทงตามรูปแบบพิมพ์นั้นปากก็บริกรรมคาถาไปตลอดเวลาที่สักเป็นการส่งกระแสถ่ายทอดพระเวทลงไปในรูปยันต์นั้นระยะเวลาสักยันต์แล้วแต่รูปยันต์ที่สัก


อย่างไรก็ตามการสักยันต์ด้วยน้ำมันนั้นยังมีอีกวิธีหนึ่งคือการทาน้ำมันลงบนผิวหนังจากนั้นจะใช้เหล็กจารเขียนยันต์ลงไปเลยซึ่งปัจุบันนี้ไม่พบให้เห็นมากหนัก

อย่างเช่นการลงยันต์น้ำมันของพระครูชัยวงศ์วุฒิคุณหรือหลวงพ่อวงศ์ เจ้าคณะอำเภอพุนพิน และเจ้าอาวาสวัดประชาวงศาราม ต.กรูด อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี

ปีหนึ่งๆหลวงพ่อวงศ์จะลงยันต์น้ำมันให้เพียงครั้งเดียววันเดียวเฉพาะวันไหว้ครูซึ่งตรงกับวันพฤหัสบดีแรกของเดือน๖ไทยในปี๒๕๕๒นี้ตรงกับวันที่๓๐เมษายนขึ้น๗ค่ำเดือน๖โดยเริ่มไหว้ครูก่อนเวลาประมาณ๐๗.๑๙น. ส่วนใหญ่ฤกษ์ลงยันต์จะไม่เกินบ่ายโมง

หากใครพลาดโอกาสต้องรอปีถัดไปการสักยันต์ของหลวงพ่อวงศ์จะไม่มีลูกศิษย์คอยเขียนยันต์ให้ก่อนแล้วไปให้ท่านเป่าทีหลังเหมือนสำนักอื่นๆที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือลูกศิษย์ที่ลงยันต์จะเลือกหรือขอให้หลวงพ่อวงศ์ลงยันต์ตัวหนึ่งตัวใดไม่ได้



พิธีกรรมลงยันต์ในวันไหว้ครูนั้นหลวงพ่อวงศ์เริ่มจุดเทียนธูปบูชาพระรัตนตรัยบูชาครูบาอาจารย์และทวยเทพเทวาจากนั้นท่านจะอ่านโองการบวงสรวงและกล่าวนำบูชาครูตามตำราของท่านให้พวกเรากล่าวตามอยู่นานพอสมควร
เสร็จพิธีบูชาครูแล้วท่านจะเตรียมโถแก้วใบหนึ่งภายในบรรจุน้ำมันมนต์ที่มีหัวว่านมงคลด้านคงกระพันสารพัดชนิดแช่อยู่เต็มโถออกมาตั้งพร้อมบริกรรมพระคาถา

น้ำมันมนต์โถนี้ท่านทำไว้หลายปีแล้วเพื่อนำมาลงยันต์สักน้ำมันบนแผ่นหลังให้กับศิษย์ที่ต้องการเสร็จจากการบริกรรมพระคาถาในโถน้ำมันท่านจะหันมาบอกว่า“เอ้า...ใครจะลงก็เข้ามา"

หลังจากจะใช้น้ำว่านลูบบนแผ่นหลังท่านจะใช้เหล็กจารเขียนยันต์ให้ส่วนจะเป็นยันต์ตัวใดนั้นท่านดูให้เองว่าคนไหนควรลงยันต์อะไร




เท่าที่ทราบท่านจะลงยันต์หัวใจต่างๆเช่น๑.พระเจ้า๕พระองค์(นะโมพุทธายะ) ๒.ยันต์มหาลาภประกอบด้วยยันต์หัวใจพระสิวลียันต์หัวใจมนุษย์ยันต์หัวใจพระฉิม๓.ยันต์หัวใจอิติปิโสยันต์หัวใจพระนิพพาน(อะระหัง) ๔.หัวใจยอดศีลคือพุทธะสังมิ๕.หัวใจสัตตะโพชฌงค์คือสะธะวิปิปะสะอุ๖.หัวใจพระรัตนตรัยคืออิสะวาสุ๗. หัวใจพาหุงคือพามานาอุกะสะนะทุ๘.หัวใจพระพุทธเจ้าคืออิกะวิติ๙.หัวใจแม่พระธรณีคือเมกะมุอุและ๑๐.คาถาแคล้วคลาดป้องกันอันตรายต่างๆปราศจากศัตรูเป็นต้น

ส่วนค่าขันบูชาครูนั้นไม่มีและไม่ต้องใช้เครื่องบูชาครูเหมือนสำนักอื่นๆสุดแล้วแต่ใครจะศรัทธาทำบุญ

สำหรับข้อปฏิบัติและข้อห้ามของคนลงยันต์ไปแล้วนั้นนอกจากต้องถือศีล๕แล้วข้อห้ามอย่างหนึ่งคือห้ามกินมะเฟืองเพราะจะไปล้างว่านและคาถา
สำหรับชาติภูมิของหลวงพ่อวงศ์ท่านเกิด เมื่อวันที่๖มีนาคม ๒๔๗๒ที่ต.บางมะเดื่ออ.พุนพินจ.สุราษฎร์ธานี ชื่อเดิมวงศ์ตาลประสิทธิ์เ ป็นบุตรนายเขียนนางบุญมาก



อุปสมบท เมื่อวันที่๒๐มิถุนายน ๒๔๙๙เมื่ออายุ๒๖ปีที่วัดทองนพคุณ กทม. มีหลวงพ่อพระสังวรวิมลเป็นพระอุปัชฌาย์เจ้าคุณหลวงพ่อภัทรมุณีเป็นพระกรรมวาจาจารย์หลวงพ่อพระกิตติสารโสภณเป็นพระอนุสาวนาจารย์

หลังจากบวชได้๒พรรษาท่านได้เริ่มออกธุดงค์เมื่อวันที่๖มีนาคม๒๕๐๑ก่อนออกธุดงค์ท่านได้ไปกราบพระประธานในอุโบสถพร้อมอธิษฐานต่อหน้าพระในใจว่า“ขอมอบกายถวายชีวิตนี้ให้แก่ชาติศาสนาพระมหากษัตริย์จะขอยึดเอาเพศบรรพชิตไปตลอดชีวิตจะไม่สิกขาลาเพศออกไปครองเรือนตลอดชีวิต”

ทั้งนี้หลวงพ่อวงศ์ออกธุดงค์ไปทางภาคเหนือประมาณ๗-๘ปีพบอาจารย์ทั้งที่เป็นพระเกจิและฆราวาสจอมขมังเวทหลายท่าน

ในจำนวนนี้มีอยู่ท่านหนึ่งที่ขึ้นชื่อว่าเป็นฆราวาสจอมขมังเวทแห่งปากน้ำโพคือปู่โทนรำแพนซึ่งมีชื่อเสียงในการเสกกระดาษเป็นธนบัตร

โดยท่านได้ขอให้ปู่โทนเสกกระดาษให้ดูเพื่อให้เห็นด้วยตาจริงๆจากนั้นท่านก็ฝากตัวเป็นศิษย์เรียนวิชากับปู่โทน

นอกจากนี้ยังเรียนวิชากับจากพระอาจารย์ชาวเขมรอีกหลายรูป...



ขอบคุณที่มา: คมชัดลึก
__________________

ออฟไลน์ ~เสน่ห์ack01~

  • ผู้คุมกฎ
  • *****
  • กระทู้: 5330
  • เพศ: ชาย
  • " ไม่เมาเหล้าแล้วเรายังเมารัก"
    • ดูรายละเอียด
โอว...เห็นแล้วเจ็บแทนจริงๆครับ จารลึกมากเลย :075:

...ขอบคุณสำหรับเรื่องราวพิธีกรรมการลงจารน้ำมัน หลวงพ่อวงศ์ วัดประชาวงศารามครับ...

ทำบุญ วันคล้ายวันเกิด หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ
วันอาทิตย์ ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ 

ออฟไลน์ RIVER

  • ทุติยะ
  • **
  • กระทู้: 11
    • ดูรายละเอียด
ขอคุณครับสำหรับข้อมูล มานี่ไม่ผิดหวังเลย

ออฟไลน์ umpawan

  • ก้นบาตร
  • *****
  • กระทู้: 3112
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์วัดบางพระ
    • ดูรายละเอียด
เห็นแล้วเสียวครับ  หลวงพ่อท่านจารเต็มหลังเลย


เลือดไหลซิบๆ     :073: 

ออฟไลน์ ~เสน่ห์โจรสลัด~

  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 7913
  • เพศ: ชาย
  • " ถ้ามุ่งมั่นจะเป็นที่หนึ่งคุณจะเป็นที่หนึ่ง "
    • ดูรายละเอียด
โอ้ ..... ทนไปได้ ของดีนะครับ มีใครบ้างไม่อยากได้ ยอมรับเลย หวาดเสียวแทน ...  :016: