ผู้เขียน หัวข้อ: พลังญาณวิเศษ...  (อ่าน 6170 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ กระเบนท้องน้ำ

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 275
  • เพศ: ชาย
  • การให้ธรรมะ ชนะการให้ทั้งปวง
    • MSN Messenger - krabentongnam2511@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
    • บ้านกระเบนท้องน้ำ
พลังญาณวิเศษ...
« เมื่อ: 03 มี.ค. 2553, 10:27:15 »
 
 พลังญาณวิเศษ

            พระอาจารย์จำเนียร สีลเสฏโฐ วัดถ้ำเสือจังหวัดกระบี่ เป็นผู้มีฤทธิ์ มีญาณวิเศษมาตั้งแต่เล็ก ๆ ว่ายน้ำเป็นเมื่ออายุแค่หนึ่งขวบ เมื่ออายุได้ ๓-๔ ขวบ พ่อได้ฝึกให้นั่งสมาธิเป็นประจำ โดยให้เหตุผลว่า เมื่อจิตเป็นสมาธิ จะทำให้เรียนดี จำดี คิดดี ทำอะไรก็ได้ผล และหากอำนาจสมาธิสูงขึ้น จะสมารถแสดงฤทธิ์ได้ ระลึกชาติหนหลังได้ มีหูทิพย์ ตาทิพย์ รู้จิตผู้อื่นได้

            พ่อของพระอาจารย์จำเนียรเคยบวชเรียนเป็นพระธุดงค์อยู่ ๑๓ พรรษา เป็นพระหมอรักษาคนได้ เก่งทางคาถาอาคม เคยธุดงค์ไปเจอช้าง เจอเสือ เจอผีดุ เคยหลวงอยุ่ในป่า ๕-๑๐ วันโดยไม่ได้ฉันอะไรเลย สามารถรู้วาระจิตคนอื่นได้ ภายหลังสึกออกมาแล้วได้แต่งงานกับแม่ของพระอาจารย์จำเนียร์ และได้สอนให้ฝึกสมาธิจนแม่ของพระอาจารย์จำเนียรรู้วาระจิตของคนอื่นว่ากำลังคิดเรื่องอะไรอยู่

            ขณะนั่งสมาธิพ่อสอนให้หายใจเข้านึกคำว่า พุท หายใจออกให้นึกคำว่า โธ  ให้นึก พุท-โธ ตลอดเวลาทุกลมหายใจเข้า-ออก   วันหนึ่งพระอาจารย์จำเนียรรู้สึกเบื่อขึ้นมา มันคัน มันปวดเมื่อย อยากไปโดดน้ำเล่น อยากไปชักว่าวเล่ ฯลฯ ก็เลยนึกในใจขึ้นว่า ไปชักว่าเล่นดีกว่าแทนคำว่า พุท-โธ เท่านั้นแหละก็ได้ยินเสียงพ่อพูดขึ้นว่า "จำเนียรอย่านึกว่าไปชักว่า บอกให้หายใจเข้า พุท  ออก โธ"   "เอ๊ะ ทำไมท่านรู้นะ ลองใหม่ดีกว่า จึงนึกในใจว่าปีนไปที่ปลายไม้ริมคลอง กระโดดลงในน้ำ ทีแรกเอาหัวลง ทีที่สองม้วนตัวแบบลูกมะพร้าว" "จำเนียรอย่างคิดเรื่องเรื่องกระโดดน้ำ ต้องนึกว่า พุท-โธ-พุท-โธ"   เอ ท่านรู้จริง ๆ ด้วย แบบนี้ดีถ้าเราฝึกให้เก่งเหมือนพ่อ เพื่อน ๆจะโกหกเราไม่ได้ แต่ลองนึกดูอีกทีสิ จึงนึกขึ้นว่า "ไปตีกลองตุ้ง ๆ ๆ ดีกว่า"  "อย่านึกว่าตีกลอง เดี๋ยวกูตีหัวมึงเท่านั้นเอง พูดไม่รู้เรื่อง"  เท่านั้นแหละ เลยเลิกคิดเรื่องอื่นเพราะกลัวพ่อตีหัว

            วันหนึ่งพ่อต้องออกไปรักษาคนไข้สองวัน จึงสั่งแม่ให้ดูแลพระอาจารย์นำเนียรในการนั่งสมาธิ พ่อไม่อยู่แม่คงไม่รู้อะไร พอตอนนั่งสมาธิก็นั่งยิ้มอยู่ในใจ แล้วนึกถึงว่าวตัวใหญ่ ๆ พาวิ่งเลย ติดลมแล้วชักว่าวสนุก สักพักได้ยินเสียงแม่ "จะเนียรพ่อมึงสั่งให้นึก พุท-โธ อย่านึกชักว่าเลย" เอ๊ะ แม่ก็รู้เหมือนกันนี่ รู้จริงหรือเปล่าลองดูใหม่ จึงนึกว่า "เอาทางมะพร้าวมาทำเป็นวัวเล่นในน้ำ เจาะจมูกแล้วลากไปมาในคลองสนุกดี" จำเนียรอย่างคิดเรื่องเอาทางมะพร้าวมาทำวัวเล่นน้ำ ต้องคิด พุท-โธ เดี๋ยวถูกตี เดี๋ยวพ่อมาแม่ไม่กล้าโกหกพ่อเอ็งหรอก" โอ แม่คงรู้จริง ๆ ด้วย คิดอะไรก็ตามแม่รู้ทุกอย่าง แล้วก็มานึกได้ว่าแม่ก็ชอบนั่งสมาธิเหมือนกัน คงรู้เหมือนพ่อ จึงไม่กล้าคิดอย่างอื่น นึกแต่ พุท-โธ ๆๆ อย่างเดียว

            ตอนอายุได้ ๕ ขวบเศษ พ่อได้สอน คาถาป้องกันจระเข้ ป้องกันสัตว์ร้ายและบุคคลอื่นให้เกิดความเมตตาต่อตัวเรา เรียกว่า "คาถาเมตตาพุทโธ" ซึ๋งอาจารย์จำเนียรก็ได้ท่องจำจนขึ้นใจ อยู่มาวันหนึ่ง มีชาวบ้านไปตักน้ำในคลอง ซึ่งในขณะนั้นก็มีจระเข้พากันลอยคอโผล่หัวสลอนน่ากลัวมาก มีคนวิ่งไปบอกพ่อของอาจารย์จำเนียร ท่านจึงรีบมาพร้อมกับชวนพระอาจารย์จำเนียรและพี่ชายมาด้วย พอมาถึงพ่อได้แกล้งโยนขวานลงไปในคลองแล้วบอกว่า "ลงไปงมเอาขวานขึ้นมาให้ข้า" พี่ชายและอาจารย์จำเนียรต่างก็ผวาหน้าซีด ใครบ้างที่ไม่กลัวจระเข้คาบเอาไปกิน แต่พ่อกลับบังคับให้อาจารย์จำเนียรลงไปพร้อมกับบอกว่า "ข้าสอนคาถาป้องกันสัตว์ร้ายทุกชนิดให้เอ็งแล้ว จำไม่ได้หรือ คาถานั้นป้องกันจระเข้ได้ด้วย เอ็งท่องคาถาแล้วลงไปงมเอาขวานขึ้นมาได้เลยข้ารับรองว่าจระเข้ไม่กล้าทำอะไรเอ็งหรอก

            อาจารย์จำเนียรกลัวพ่อมากกว่ากลัวจระเข้ จึงหลับตาพนมมือบริกรรมคาถาป้องกันสัตว์น้ำปลุกใจตัวเองให้เกิดความกล้าหาญ แล้วกระโจนลงไปในน้ำดังตูม แต่ก็แปลกมาก น่าอัศจรรย์ใจ จระเข้มันไมทำอะไร ได้แต่มองดูเฉย ๆ จนในที่สุดก็สามารถงมขวานเอามาคืนพ่อได้ ต่อมาได้เรียนรู้เคล็ดลับในการป้องกันจระเข้กัดเวลาอยู่ในน้ำและบนบกอีกด้วย คือพยายามทำใจให้กล้าหาญไม่กลัวตาย ทรงตัวไว้ตรง ๆ ถ้าอยู่ในน้ำก็พยายามยืนตรง ๆ ใช้เท้าทั้งสองพยุงตัวไว้ ถ้าอยู่บนบกก็ยืนตัวตรง ๆ จระเข้มันไม่ชอบตะแคงตัวงับเหยื่อไม่ถนัด มันจะงับตรง ๆ ถ้าเราทรงตัวตรง ๆ มันจะงับไม่ได้ แต่ถ้าเราว่ายน้ำมันจะงับได้ง่าย จระเข้มีจุดอ่อนอยู่ที่ตรงมุมปากของมัน ถ้าสามารถขึ้นนั่งคร่อมหลังของมันได้ให้รีบใช้สองมือกดตรงมุมปาก โดยให้สี่นิ้วทั้งสองข้างกดมุมปาก แล้วใช้หัวแม่มือสองข้างกดที่ลูกตาสองข้างของจระเข้ จากนั้นจะลากดึงมันไปทางใหนมันก็จะหางลู่ลม เหมือนงูเหลือมแพ้เชือกกล้วยนั้นเอง

            นอกจากนี้อาจารย์จำเนียรยังได้มีโอกาสเรียน "วิชาจับจระเข้" จากอาจารย์ท่านหนึ่ง เป็นคนนครศรีธรรมราช อยู่ใกล้ววัดชะเมา เป็นอาจารย์ของ นายเย้า นักจับจระเข้ปัจจุบันอยู่ฟาร์มจระเข้จังหวัดสมุทปราการ เมื่อเรียนรู้วิชาจับจระเข้แล้วก็จับจระเข้ขายพอได้เงินมาช่วยครอบครัว ขายตัวหนึ่ง ๔๐๐-๕๐๐ บาท แต่วันหนึ่ง ๆ ก็ได้ไม่มากเพราะยังเด็กตัวเล็ก สู้นายเย้าไม่ได้ นายเย้าจับจระเข้ตัวใหญ่ ๆ ได้ ส่วนอาจารย์จำเนียรจับได้แต่ตัวย่อม ๆ ไม่ใหญ่นัก แต่คนเขาร่ำลือกันว่าอาจารย์จำเนียรจับจระเข้เก่ง

            สำหรับจระเข้ตัวใหญ่ ๆ นั้นดุ พออาจารย์จำเนียรจับได้แล้ว แต่ก็ผูกปากไม่ได้พราะตัวมันใหญ่ ถ้าจะแทงมันตายก็กลัวว่ากรรมจะตามสนอง จึงจับแต่จระเข้เป็น ๆ ไปขาย คนแก่ได้ขอร้องว่า "จำเนียรอย่าไปฆ่ามันนะ เดี๋ยวตายกับจระเข้ เขาว่าหมองูตายเพราะงู หมอจระเข้ตายเพราะจระเข้" จระเข้น้ำลึกน่ากลัวมาก แต่มันไม่กล้ากัดอาจารย์จำเนียร เพาะท่องคาถาสีตัว คือ "อะ อึ ลึก ลือ" ตอนลงไปอยู่ในน้ำก็ว่า "อะ" คือ ตัวเรา "อึ" คือ จระเข้ เมื่ออยู่ในน้ำก็ว่า "ลึก" คือสะกดไว้ แล้วเข้าไปจับจระเข้ได้ แต่ตอนว่าคาถานี้อาจารย์ต้องเอาพระหรือก้อนหินมาอมเพื่อหุบปาก กันการอ้าปากถ้ามันอ้าปากมันกัดทันที
           
            ถ้าท่องคาถามาถึงคำว่า "ลือ" แล้วยังไม่ได้จับมัน มันจะผุดหนีไปได้ แต่ถ้าไม่ว่า "ลือ" มันก็นอนอยู่อย่างนั้น บางทีก็ลืมต้องสั่งคนหนึ่งคนใดไปบอกด้วยคาถาว่า "ลือ" ซึ่งเขาจะบอกหรือไม่ก็ตามแต่จระเข้ก็มีสิทธิ์ไปหากินได้แล้วตั้งแต่ออกคำสั่ง ไม่อย่างนั้นมันจะนอนอยู่อย่างนั้นเป็นวัน ๆ ไม่ไปใหน มันแพ้อะไรก็ไม่รู้ "อะ อึ ลึก ลือ" คาถาสี่ตัวนี้ วิธีฝึกจับจระเข้ จระเข้ดุมากต้องฝึก ถ้าเอาไม้ไปแหย่นิดเดียว มันกัดเลย ที่อาจารย์เขาฝึก เขามีบ่อให้ไปขี่หลังมัน จระเข้มันหันมากัดไม่ได้เพราะคอมันแข็ง ทีนี้พอวิ่งไปขี่มัน มันก็จะไปข้างหน้า แต่ถ้าอยู่หลังหางมันจะฟาด ถ้าอยู่ในน้ำตัวตรง ๆ มันจะฟาดให้ลม แล้วมันถึงจะกัด มันตะแคงไม่เป็น เวลาลงไปในน้ำไปหามันนี่ จะลงไปตัวตรง ๆ เพราะจะทำให้มันกัดไม่ได้ แต่ถ้ามันฟาดเอาถูกเข้าก็ทำให้คอหักเหมือนกัน แต่ต้องหลบให้ทัน ทำตัวกลมม้วน แล้วก็ยืนตัวตรงอีก มันก็กัดไม่ได้ ทีหลังมันไม่กล้ากัดอีกแล้ว

            เวลาขึ้นฝั่ง ถ้าก้มมันกัดทันที มันฉลาด ต้องถอนหลังขึ้น มันไม่กล้ากัด มันเห็นสู่ไม่มันก็เลยไม่กล้ากัด ที่มุมปากมันไม่มีเขี้ยว เมื่อเอามือจับไว้ที่มุมปากมันงับกรึ้ม ๆ แต่ไม่ถูกมือหรอก เพราะข้างในไม่มีเขี้ยว แล้วให้พยายามเอามือกดที่ลูกตาทั้งสองข้าง พอจับได้ให้มันพาลงน้ำลึกก็กดลูกตา พาหัวเชิดขึ้นแล้วมันก็พาเข้าฝั่ง มันหมดแรงก็พาเข้าฝั่ง นี่เป็นเพียงตอนหนึ่งของพลังญาณวิเศษของพระอาจารย์จำเนียร สีลเสฎโฐ เท่านั้น..

   
คลองหน้าบ้านที่จระเข้ขึ้นมาฟาดคนแล้วพ่อสั่งให้หลวงพ่อจำเนียรดำลงไปงมขวาน     คลองนี้เมื่อสมัยเด็กจระเข้ชุกชุมหลวงพ่อจำเนียรสมัยเด็กจับจระเข้ขาย



ขอบคุณที่มา...http://www.watthumsuakrabi.com/temp3.htm

ออฟไลน์ yout

  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 1742
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: พลังญาณวิเศษ...
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 03 มี.ค. 2553, 11:48:04 »
ขอบคุณครับ............ :090: :090: :114: :090: :090:..............

ออฟไลน์ อภิรัตน์

  • เห็นรอยเท้าพ่อก้มลงดู เห็นรอยเท้าครูก้มลงกราบ
  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 692
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: พลังญาณวิเศษ...
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 03 มี.ค. 2553, 05:06:08 »
ขอบคุณครับ  :054: