ผู้เขียน หัวข้อ: ตำนาน...ปู่่่โสมเฝ้าทรัพย์  (อ่าน 7373 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ กระเบนท้องน้ำ

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 275
  • เพศ: ชาย
  • การให้ธรรมะ ชนะการให้ทั้งปวง
    • MSN Messenger - krabentongnam2511@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
    • บ้านกระเบนท้องน้ำ
ตำนาน...ปู่่่โสมเฝ้าทรัพย์
« เมื่อ: 06 ส.ค. 2553, 09:34:04 »

               
                              วัดกุฏิดาว กรุงศรีอยุธยา

กรุงศรีอยุธยาอดีตราชธานีอันยิ่งใหญ่ของไทย ครั้งที่บ้านเมืองยังสงบอาณาประชาราษฎร์ล้วนมีชีวิตที่สุขสบาย ขุนนาง ขุนศึก พ่อค้าและชาวบ้านทั้งหลายยิ้มย่องผ่องใสมีชีวิตรุ่งเรืองถึงขีดสุด จึงต่างเก็บหอมรอมริบ สะสมแก้วแหวนเงินทองมีค่าไว้มากมาย

จนกระทั่งเกิดสงครามถึงคราวพ่ายแพ้แก่พม่า กรุงศรีอยุธยาต้องล่มสลาย ผู้คนและเหล่าทหาร ช้าง ม้า วัว ถูกฆ่าตายกลาดเกลื่อน สมบัติมากมายที่สะสมกันไว้จึงถูกซุกซ่อนฝังไว้ตามจุดต่างๆ

ขุนนาง คหบดีและเจ้านายบางพระองค์ นอกจากจะฝังสมบัติไว้แล้ว ยังถึงกับฆ่าบริวารหรือทหารของตนให้ตายโหงอยู่ตรงที่ฝังสมบัติ เพราะหวังจะให้วิญญาณของผู้ตายกลายเป็นผี "ปู่โสมเฝ้าทรัพย์" เฝ้าสมบัติของตนก็มี

เมืองกรุงเก่าอยุธยานับแต่อดีตถึงปัจจุบันจึงขึ้นชื่อลือชานักในเรื่องของวิญญาณ ที่มักมาปรากฏตามสถานที่โบราณต่างๆ หลายเรื่องน่ากลัว หลายเรื่องฟังแล้วน่าตื่นเต้นดีและทุกเรื่องล้วนเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ดังเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้...

เรื่องนี้เป็นเรื่องเล่าที่เกิดขึ้นจริงในอดีตเกี่ยวกับลายแทงสมบัติอันบ่งบอกจุดที่ซ่อนของขุมทรัพย์มากมาย ภายในอาณาบริเวณอาณาจักรกรุงศรีอยุธยา ลายแทงนั้นบอกว่า พระนครศรีอยุธยามีสมบัติโบราณถูกฝังเอาไว้ถึง 303 แห่ง โดยเฉพาะที่ "วัดกุฏิดาว" มีขุมทรัพย์ฝังอยู่ถึง 16 แห่ง

ลายแทงขุมทรัพย์มีค่ามหาศาลนี้ผู้ที่ได้ครอบครองไว้เป็นเจ้านายระดับพระองค์เจ้า พระองค์หนึ่ง การได้มาของลายแทงนี้ไม่ทราบชัดว่าท่านได้มาอย่างไร...จากใคร...แต่พิสูจน์ได้แน่ชัดว่า ต้องมีทรัพย์มีค่าฝังอยู่ใต้ดินจริงๆ

เพราะพระองค์เจ้าพระองค์นี้ กับพระสหายชาวต่างประเทศได้นำเอาเครื่อง "ไมน์ดีเทคเตอร์" ซึ่งเป็นเครื่องสำรวจหาวัตถุธาตุมาสำรวจตรวจดูแล้ว และปรากฏว่าเครื่องมือดังกล่าวนี้ระบุว่าจุดที่ตรวจค้นมีสมบัติล้ำค่าถูกฝังอยู่ใต้ดินจริงๆ

วัดกุฏิดาวเป็นวัดร้าง มีร่องรอยว่าเคยเป็นวัดที่ใหญ่โตสวยงามในสมัยอยุธยาในลายแทงขุมทรัพย์บอกว่า ที่วัดแห่งนี้มีสมบัติล้ำค่าถูกฝังไว้รอบอุโบสถถึง 16 แห่ง ดังนั้นพระองค์เจ้าพระองค์นี้และพระสหายหลายคน

จึงได้ทำเรื่องเสนอต่อกรมศิลปากร ขออนุมัติดำเนินการขุดค้นหาขุมทรัพย์ดังกล่าว โดยขอแบ่งทรัพย์ที่ขุดขึ้นได้เพียง 10% และอีก 90% จะมอบให้เป็นสิทธิ์ของกรมศิลปากร เมื่อกรมศิลปากรอนุมัติ ท่านจึงเริ่มดำเนินการขุดค้นที่วัดกุฏิดาวเป็นแห่งแรกในปี พ.ศ.2503

น่าประหลาดที่การขุดสมบัติที่วัดกุฏิดาว เมื่อขุดลงไปตรงจุดที่ลายแทงระบุว่ามีสมบัติซ่อนอยู่ กลับไม่พบสิ่งใดเลยแม้แต่ชิ้นเดียว ทั้งที่ก่อนลงมือขุดได้ใช้เครื่องไมน์ดีเทคเตอร์ตรวจสอบดูก่อนแล้ว เครื่องก็ส่งสัญญาณว่ามีสิ่งมีค่าฝังอยู่แน่นอน แต่พอขุดลงไปกลับไม่มีอะไรเลย

การขุดค้นหาสมบัติโบราณที่วัดกุฏิดาวในครั้งนั้น นอกจากจะพบความผิดหวังแล้ว พระองค์เจ้าฯและพระสหายยังพบกับเหตุการณ์อัศจรรย์ที่น่ากลัวอีกหลายอย่าง

นั่นก็คือท่านและพระสหายเห็น "ปู่โสมเฝ้าทรัพย์" มาปรากฏต่อหน้าต่อตากลางวันแสกๆ เป็นร่างของนักรบไทยโบราณ ร่างใหญ่โต แต่ไร้หัว นอกจากนี้ภายในวังของท่านก็ยังมีเสียงคล้ายคนขุดดินตลอดเวลา เสียงนั้นดังชัดเจนได้ยินกันหลายคน

เหตุการณ์น่ากลัวที่เกิดขึ้น ทำให้พระองค์ต้องเชิญอาจารย์ที่นั่งทางในเก่งๆ มาช่วยดู อาจารย์ท่านนั้นก็บอกว่า วิญญาณที่ปรากฏเป็น "ปู่โสมเฝ้าทรัพย์" เขาเป็นเจ้าของสมบัตินั้น และโกรธแค้นมากที่เจ้านายพระองค์นี้ มาทำการขุดค้นสมบัติของเขา จึงมาสำแดงกายให้เห็นทั้งยังสาปแช่งพวกที่มาขุดสมบัติของเขาทุกคน

คำสาปแช่งนั้นต่อมาก็เป็นจริง  เพราะพระสหายคนหนึ่งที่ร่วมทีมขุดสมบัติกับท่านได้เสียชีวิตกระทันหัน  ทั้งๆ  ที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงทุกอย่าง ส่วนประสหายอีกคนก็หายสาบสูญไป โดยไม่ทราบชะตากรรม ส่วนตัวท่านเองทำธุรกิจอะไรก็ขาดทุน

ขุมทรัพย์โบราณที่วัดกุฏิดาว ปัจจุบันก็ยังคงอยู่ที่เดิม เพราะยังไม่มีใครกล้าหาญไปขุดค้น เพราะเกรงว่าวิญญาณที่ยังคงวนเวียนเฝ้าสมบัติ จะมาหลอกหลอนและสาปแช่ง

วัดกุฏิดาวเป็นวัดเล็กๆ ป้ายชื่อวัดไม่มีบอก ต้องอาศัยถามจากชาวบ้าน แถวใกล้วัดกุฏิดาวยังมีวัดใกล้เคียงหลายวัด รวมถึงวัดมเหยงค์ซึ่งขึ้นชื่อว่า "ผีดุ" อีกวัดหนึ่ง

"วัดมเหยงค์"  นี้เคยเป็นวัดร้าง ปัจจุบันเหลือเพียงซากปรักหักพังของอุโบสถซึ่งกระเทาะหลุดร่อนเหลือแต่อิฐแดงๆ แต่ก็ยังมีเค้าโครงให้เห็นว่าเคยเป็นศาสนสถานที่สวยงามในอดีต

วัดมเหยงค์แห่งนี้เคยมีผู้เล่าให้ฟังว่า มีคนเคยได้ยินเสียงสวดมนต์ในท่วงทำนองอันไพเราะ ดังแว่วมาจากอุโบสถ เสียงสวดนั้นดังพร้อมเพรียงเป็นหมู่คณะ สวดช้า และเยือกเย็น ทำนองสวดไม่เหมือนปัจจุบัน และจะดังขึ้นในเวลาเช้าตรู่ ซึ่งพอเดินไปดูที่ต้นเสียงกลับไม่มีใครเลย แล้วเสียงนั้นมาจากไหน ยังเป็นปริศนามาจนทุกวันนี้...





ขอบคุณที่มา : หญิงไทย-แม็ก ดอทคอม
ภาพประกอบเรื่องจากอินเตอร์เน็ต

ออฟไลน์ นายธรรมะ

  • ดีชั่วอยู่ที่ตัวทํา สูงต่ำอยู่ที่ทําตัว
  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 615
  • เพศ: ชาย
  • เหนื่อย ได้แต่อย่า ท้อ
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: ตำนาน...ปู่่่โสมเฝ้าทรัพย์
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 06 ส.ค. 2553, 09:42:23 »
ขอบคุณมากนะครับ สำหรับสิ่งดีๆ
[shake]ศรัทธา ไม่ใช่ ไสยศาสตร์ ศรัทธา เพื่อ ศักดิ์สิทธิ์ เมื่อมีความ ศักดิ์สิทธิ์ ย่อมเกิด ปาฏิหาริย์[/shake]

ออฟไลน์ berm

  • สิ่งที่ควรทำคือความดี..สิ่งที่ควรมีคือคุณธรรม..สิ่งที่ควรจำคือ...บุญคุณ
  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 1008
  • เพศ: ชาย
  • อยู่คนเดียวระวังความคิด อยู่กับมิตรระวังวาจา
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: ตำนาน...ปู่่่โสมเฝ้าทรัพย์
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 07 ส.ค. 2553, 11:43:03 »
  :053:ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆครับ.... :093:ควรจะเป็นสมบัติของชาติและผู้มีจิตใจดี...คนที่โลภไม่น่าจะได้ :043:
ทุกคนย่อมมีปัญหาของตัวเองเกิดขึ้นตลอดเวลา  อยู่ที่ใครเลือกที่จะเดินหนีปัญหา...หรือเลือกที่จะแก้ไขปัญหา