ผู้เขียน หัวข้อ: รอยทางและรอยธรรม...๒๗ ส.ค..๕๓  (อ่าน 939 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ รวี สัจจะ...

  • รองประธาน
  • *****
  • กระทู้: 1137
  • รวี สัจะ-สมณะไร้นาม-วจีพเนจร
    • ดูรายละเอียด
    • รวี สัจจะ สมณะไร้นาม (เคลื่อนไหวดุจสายลม)
รอยทางและรอยธรรม...๒๗ ส.ค..๕๓
« เมื่อ: 28 ส.ค. 2553, 06:40:30 »
ตถตาอาศรม ริมฝั่งโขง
 ๒๘ สิงหาคม ๒๕๕๓
.......รอยทาง......
                        ฝนยังตกอยู่เกือบตลอดวันตลอดคืน แต่ตกไม่หนัก เป็นเพราะอิทธิพลของพายุ
ฤดูฝน " มิลดอนเล " ยังไม่หมดฤทธิ์ ทำให้ฝนยังตกอยู่ ช่วงนี้จึงต้องหยุดพักงานก่อสร้างไว้ชั่วคราว
อยู่แต่บนศาลาเกือบทั้งวัน เพราะเดินไปไหนมาไหนลำบากน้ำฝนเต็มลานวัด จึงใช้เวลาที่ว่างไปกับการ
อ่านหนังสือ ทวนปาฏิโมกข์บุพพกรณ์และบุพพกิจปวารณา ฟังธรรมบรรยายของครูบาอาจารย์ที่บันทึกไว้
ตั้งแต่เช้าจนเย็น แล้วจึงลงไปดูเด็กๆซ้อมพายเรือ เสร็จแล้วเตรียมตัวทำกิจในภาคค่ำต่อไป
......รอยธรรม......
                       ทบทวนแนวทางการปฏิบัติในมหาสติปัฏฐานสูตร  พิจารณาสภาวะธรรมในแต่ละฐาน
ทำความรู้ความเข้าใจในการพิจารณาในกาย เวทนา จิต ธรรม กำหนดรู้การเกิดขึ้น  ตั้งอยู่ และการดับไป
ทั้งภายนอกและภายใน คือที่เกิดขึ้นทางกายและทางจืต มีสติและสัมปชัญญะควบคู่เสมอกันอยู่ทุกขณะ
เพราะว่าถ้าไปเน้นสติแต่เพียงอย่างเดียวนั้น มันจะนำจิตไปสู่สภาวะธรรมของสมถะกรรมฐาน คือความนิ่งสงบ
มหาสติปัฏฐานนั้นเป็นการปฏิบัติของวิปัสสนากรรมฐาน จึงต้องมีความรู้ตัวทั่วพร้อม คือต้องมีสัมปชัญญะประกอบ
คอยควบคุมจิต มีสมาธิอยู่ในระดับขณิกสมาธิไม่ปล่อยให้ลงลึกจนเกินไปในองค์ฌาน เพราะจะทำให้การพิจารณา
นั้นมันขาดหายไป จิตจะติดอยู่ในความสงบ สภาวะธรรมของสมถะนั้นเป็นไปในองค์แห่งฌานทั้ง ๔ มีสมาธิควบคุมอยู่
จึงรู้เฉพาะที่สิ่งเพ่ง  สิ่งที่พิจารณา แต่วิปัสสนานั้นมันจะเห็นการเกิดดับของสรรพสิ่ง คือก่อนที่จะเกิดขึ้น ขณะเกิดขึ้น
สภาวะที่ตั้งอยู่ และเหตุที่ทำให้ดับไป คือรู้นอก รู้ใน รู้กาย รู้จิต รู้ความคิด รู้การกระทำ มีความรู้ตัวทั่วพร้อมกับกายและจิต
มันเป็นการตามดู ตามรู้ ตามเห็น มันไม่ตื่นเต้นเหมือนการเจริญสมถะกรรมฐาน ที่มี วิตก วิจาร ปิติ สุข และเอตคตารมณ์
จึงเป็นเรื่องยากสำหรับผู้ที่เคยปฏิบัติสมถะกรรมฐานมาก่อนในการที่จะยกจิตขึ้นสู่วิปัสสนา เพราะส่วนใหญ่จะติดอยู่ในอารมณ์
ของสมถะ พึงพอใจในความสงบนิ่งของอารมณ์สมาธิ ไม่อยากจะคิด ไม่อยากจะพิจารณา เหมือนที่เคยกล่าวไว้ในเรื่องการปฏิบัติ
ที่ว่า " ทำสิ่งที่ไม่มีให้มีขึ้น  รักษาสิ่งที่มีนั้นไม่ให้เสื่อมหาย ทำสิ่งที่มีนั้นให้เหมือนกับไม่มี " นี้คือขบวนการทางจิตแห่งการปฏิบัติ
" สูงสุดคืนสู่สามัญ " เพราะการเจริญวิปัสสนานั้นดูจากภายนอกแล้ว เหมือนกับไม่ได้ทำอะไรเลย เพราะเป็นการกระทำที่จิต....
มันไม่มีรูปแบบภายนอกที่ตายตัว ว่าต้องมีท่าทางอย่างนั้น ท่าทางอย่างนี้ จึงจะเป็นการปฏิบัติวิปัสสนา มันอยู่ที่จิตคือการมีสติและ
สัมปชัญญะ ควบคุมการจิต ควบคุมความคิดและการกระทำ มันเป็นการทำภายใน รู้ได้เฉพาะตนเท่านั้นเอง ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่
กำลังคิดอะไรอยู่ และสิ่งที่คิดและที่ทำนั้นเรามีเจตนาอย่างไร เป็นไปโดยชอบประกอบด้วยกุศลหรือไม่ " ไม่มีใครรู้ซึ้ง เท่าหนึ่งจิต "
ในสิ่งที่กำลังคิดและกำลังกระทำเท่าตัวของเราเอง ถ้าเรามีสติและสัมปชัญญะที่สมบูรณ์อยู่ทุกขณะจิต...
......รอยกวี......
                      ใช่หวัง จะดังเด่น    จึงมาเป็น สมณะ
                    เพียงหวัง จะลดละ    ซึ่งมานะ อุปาทาน
                    ดูกาย   และดูจิต      ดูความคิด และการงาน
                    ดูธรรม  นำประสาน    นี่คือการ   เจริญธรรม
                    ไม่หวัง  ซึ่งคำชม      ความนิยม ว่าเลิศล้ำ
                    สิ่งที่  เรากระทำ       เพื่อจะนำ  สู่ความดี
                    ความดี  อยู่ที่จิต      อยู่ที่คิด    ไม่ผิดที่
                    คิดดี   และทำดี       ใจเรานี้    รู้แก่ใจ
                                              ดูกาย และดูจิต     ปรับความคิด  เราเสียใหม่
                                              สิ่งที่  กระทำไป     เป็นอย่างไร   ดีหรือเลว
                                              ชีวิต เคยผิดพลาด   แต่ไม่อาจ   ให้ล้มเหลว
                                              รู้ตน  ให้รวดเร็ว      แล้วละเลว   มาทำดี
                                              สร้างคุณ บุญกุศล    เป็นมงคล   แก่ชีวี
                                              สร้างบุญ บารมี        ในทุกที่   ทุกเวลา
                                              ทุกอย่าง เริ่มที่ใจ     แล้วแผ่ไป ทั่วกายา
                                              ให้จิต เป็นสัมมา       กล่าววาจา ที่ดีงาม
                   พูดแล้ว  ต้องกระทำ   ไม่กล่าวคำ  ที่ต้องห้าม
                   แทะโลม และลวยลาม กล่าวคำพล่าม คำไม่ดี
                   ดูกาย และดูจิต         ดูความคิด  ไปทุกที่
                   รักษา  ซึ่งความดี       ให้มันมี   ในใจเรา
                   ละซึ่ง  ความงมงาย     ที่จะกลาย เป็นโง่เขลา
                   ทำใจ  ให้โปร่งเบา      โดยไม่เอา เป็นอารมณ์
                   ความโลภ เราต้องละ    เอาธรรมะ เข้ามาข่ม
                   ละทุกข์ ที่โศกตรม      แล้วชื่นชม อยู่กับธรรม
                                              เอาธรรม นั้นนำทาง   เป็นแบบอย่าง  ที่เลิศล้ำ
                                              ให้บุญ   กุศลนำ       โดยเอาธรรม   นั้นนำทาง
                                              นำทาง สร้างชีวิต      เปลี่ยนความคิด ตามแบบอย่าง
                                              ก้าวเดิน ให้ถูกทาง    ไปเพื่อสร้าง  ซึ่งกรรมดี
                                              ต้นทุน บุญกุศล         จะตามตน   ไปทุกที่
                                              ทส    บารมี             คือสิ่งที่   ต้องบำเพ็ญ
                                              สะสม  วันละนิด        ทำให้ติด  ทำให้เป็น
                                              ตามดู  และรู้เห็น        ให้มันเป็น ความเคยชิน....
                                                      ......................................
                                                  เชื่อมั่น-ศรัทธา-ปรารถนาดี-ด้วยไมตรีจิต
                                                            รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม
๒๘ สิงหาคม ๒๕๕๓ เวลา ๐๗.๔๐ น. ณ ศาลาน้อย ริมน้ำโขง ชายขอบประเทศไทย
                                                       
                                               
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28 ส.ค. 2553, 07:40:44 โดย รวี สัจจะ... »
ใช่หวังจะดังเด่น  จึงมาเป็นสมณะ
เพียงหวังจะลดละ  ซึ่งมานะและอัตตา
เร่ร่อนและรอนแรม ไปแต่งแต้มแสวงหา
สัญจรร่อนเร่มา  ผ่านร้อยป่าและภูดอย
ลาภยศและสรรเสริญ  ถ้าหลงเพลินจิตเสื่อมถอย
พาใจให้เลื่อนลอย  จิตเสื่อมถอยคุณธรรม
       ปณิธานในการปฏิบัติธรรม

ออฟไลน์ ~@เสน่ห์เอ็ม@~

  • ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย พระคุณบิดามารดาผู้มีพระคุณ แล ครูบาอาจารย์ผู้เกื้อหนุน สาธุ..
  • เด็กวัด
  • *****
  • กระทู้: 5894
  • เพศ: ชาย
  • ศิษวัดบางพระ
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๒๗ ส.ค..๕๓
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 28 ส.ค. 2553, 08:57:08 »
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน  :054:

กราบขอบพระคุณคำสอนสำหรับวันนี้มากครับ ศิษย์ขอนอบน้อมใว้เป็นแนวทางต่อไป  :054:

ออฟไลน์ NONGEAR44

  • นวมะ
  • ****
  • กระทู้: 669
  • เพศ: ชาย
    • MSN Messenger - en2005f@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๒๗ ส.ค..๕๓
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 28 ส.ค. 2553, 10:37:33 »
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ ขอบพระคุณครับ

ออฟไลน์ nsp8428

  • ก็หมวยนี่คะ
  • ฉัฏฐะ
  • *
  • กระทู้: 193
  • เพศ: หญิง
  • ชีวิตก้าวไปข้างหน้า วันเวลาไม่เดินถอยหลัง
    • ดูรายละเอียด
    • www.nsp8428@hotmail.com
    • อีเมล
ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๒๗ ส.ค..๕๓
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 28 ส.ค. 2553, 08:57:17 »
กราบนมัสการพระอาจารย์และกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะ