ผู้เขียน หัวข้อ: หลวงพ่อครน วัดบางแซะ  (อ่าน 7805 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ pepsi

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 325
  • เพศ: ชาย
  • ทําดี คิดดี พูดดี
    • ดูรายละเอียด
    • http://sbntown.com/forum/group.php?groupid=33
หลวงพ่อครน วัดบางแซะ
« เมื่อ: 17 ก.ย. 2553, 04:20:28 »


พระปิดตาเนื้อผงคลุกรัก ที่โด่งดังของจังหวัดทางภาคใต้ และเป็นพระปิดตาที่หายากมากๆ ในปัจจุบัน คือพระปิดตาหลวงพ่อครน วัดบางแซะ ซึ่งปัจจุบันนี้กลายเป็นอาณาเขตของประเทศมาเลเซียไปแล้ว เนื่องจากเราสูญเสียดินแดนให้แก่อังกฤษ ในปีพ.ศ.2452 แต่คนเชื้อชาติไทยก็ยังมีอาศัยอยู่ในดินแดนแถบนี้มาจนถึงปัจจุบันนี้ วันนี้เราจะมาคุยกันถึงหลวงพ่อครนและต้นกำเนิดพระปิดตาอันลือลั่นของท่านกันครับ

พระวิจารณญาณมุนี วัดอุตตมาราม (วัดบางแซะ) หลวงพ่อครนท่านเป็นชาวบ้านบางแซะโดยกำเนิด เกิดเมื่อปีพ.ศ.2419 โยมบิดาชื่อโยมชุม โยมมารดาชื่อโยมแก้ว นามสกุล ราษฎร์เจริญ หลวงพ่อครนท่านอุปสมบทที่วัดบางแซะ ต่อมาท่านก็ได้กราบลาพระอุปัชฌาย์มาศึกษาเล่าเรียนทั้งปริยัติและปฏิบัติที่จังหวัดสงขลา โดยหลวงพ่อครนท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดหัวใจ ในช่วงนี้เองที่หลวงพ่อได้ศึกษาพระเวทวิทยาคมจากพระเกจิอาจารย์สำคัญๆ ในภาคใต้ เช่น หลวงพ่อปาน วัดโคกสมานคุณ หาดใหญ่ หรือแม้แต่หลวงพ่ออินทร์ อำเภอตากใบ และสันนิษฐานว่าท่านได้ไปศึกษาที่เขาค้อด้วย

ประวัติของหลวงพ่อครนนั้นยังไม่ค่อยปะติดปะต่อกันมากนัก เนื่องจาก บางแซะได้กลายไปเป็นพื้นที่ของมาเลเซียในเวลาต่อมา แต่เท่าที่ทราบก็คือหลังจากท่านได้เป็นเจ้าอาวาสวัดบางแซะแล้ว ท่านก็เริ่มพัฒนาวัดบางแซะโดยความร่วมมือของชาวบ้านในแถบนั้น และท่านก็ได้เปิดการสอบบาลีนักธรรมและกรรมฐานแก่พระภิกษุ สามเณร โดยท่านเป็นผู้สอนเอง การสอนกรรมฐานในครั้งนั้นนับเป็นครั้งแรกในรัฐกลันตัน เพราะก่อนหน้านี้ไม่มีพระอาจารย์รูปใดเคยสอนมาก่อน ต่อมาในปีพ.ศ.2476 หลวงพ่อก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์เพื่ออุปสมบทและบรรพชาให้แก่ชาวบ้านบางแซะ และตำบลใกล้เคียง ปีพ.ศ.2488 หลวงพ่อก็ได้เลื่อนจากพระครูชั้นพิเศษฝ่ายวิปัสสนาขึ้นเป็นพระราชาคณะสามัญฝ่ายวิปัสสนาธุระ โดยได้รับพระราชทานทินนามที่ "พระวิจารณญาณมุนี" และดำรงตำแหน่งเจ้าคณะใหญ่ในรัฐกลันตัน นับเป็นพระราชคณะรูปแรกของรัฐกลันตัน

หลวงพ่อครนท่านเป็นคนพูดน้อย มีศีลจารวัตรงดงาม เป็นที่เลื่อมใสของผู้คนที่ได้พบเห็นหลวงพ่อให้ความเมตตาต่อทุกผู้ทุกนามโดยไม่เลือกชั้นวรรณะหรือแม้แต่ศาสนา ในยามเมื่อเขาเดือดร้อนตกอยู่ในกองทุกข์ หลวงพ่อก็จะช่วยเหลือปัดเป่าให้พ้นทุกข์ได้เสมอ อีกทั้งท่านยังมีความรู้เรื่องเครื่องยาสมุนไพรอย่างแตกฉาน ช่วยเหลือผู้เจ็บไข้ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งวิทยาคมของท่านก็เข้มขลังเป็นที่ประจักษ์ต่อชาวบ้านในแถบนั้นเป็นอย่างดี จึงเป็นที่เคารพเลื่อมใสศรัทธาในตัวท่านเป็นอย่างมาก ต่อมาจนถึงปีพ.ศ.2505 หลวงพ่อครนก็มรณภาพลง สิริอายุได้ 88 ปี พรรษาที่ 67

หลวงพ่อครน วัดบางแซะท่านเป็นเกจิอาจารย์ที่มีรูปร่างสูงใหญ่ ดวงตาแฝงไว้ด้วยแววแห่งอำนาจ ลิ้นของท่านเป็นปานสีดำ ชาวบ้านจึงเรียกท่านกันอีกชื่อหนึ่งว่า หลวงพ่อลิ้นดำ มีวาจาสิทธิ์ เป็นที่เคารพและเกรงขามทั้งชาวพุทธศาสนิกชน และมุสลิม

ขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.tumsrivichai.com
กาลเวลาเป็นเครื่องชี้ตัวตนแห่งคน