ผู้เขียน หัวข้อ: หลวงเตี่ยสุรเสียง ปัญญาวชิโร สายธรรมหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี  (อ่าน 4567 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ กวงเจา

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 369
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงพ่อเปิ่นองค์เดียวกัน
    • ดูรายละเอียด

"หลวงเตี่ยสุรเสียง ปัญญาวชิโร" หรือพระครูสุนทรธรรมโฆษิต เป็นพระป่ารูปหนึ่งที่ครองตนอยู่ในผ้ากาสาวพัสตร์อย่างสมถะเสมอต้นเสมอปลายและเป็นที่เลื่อมใสของชาวพุทธในวงกว้าง

ท่านเป็นศิษย์สายพระกัมมัฏฐานที่ได้ศึกษาแนวทางปฏิบัติมาจากหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี แห่งวัดหินหมากเป้ง จ.หนองคาย

ปัจจุบันพระครูสุนทรธรรมโฆษิต สิริอายุ 65 ปี พรรษา 21 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดป่าโนนแท่น ต.ตลาด อ.เมือง จ.มหาสารคาม และเจ้าคณะอำเภอกันทรวิชัย (ธรรมยุต) จ.มหาสารคาม

หลวงเตี่ยสุรเสียง มีนามเดิมว่า สุรเสียง แซ่เตี๋ย เป็นคนไทยเชื้อสายจีน เกิดเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2483 ที่ ต.บ้านแป้ง อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี โยมบิดา-มารดา นายเป็งติ่ง และนางเปี่ยม แซ่เตี๋ย

หลังจบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนในหมู่บ้าน ท่านได้ออกมาช่วยเหลือครอบครัวประกอบอาชีพเกี่ยวกับอู่ซ่อมรถ จนอายุย่างเข้าเลขสี่

แต่อุปนิสัยของหลวงเตี่ย เป็นผู้มีจิตใจโน้มเอียงเข้าหาพระธรรม ชอบศึกษาหาเรื่องราวเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา รวมทั้งแนวทางปฏิบัติของพระภิกษุสายกัมมัฏฐาน โดยเฉพาะหลวงเตี่ยให้ความศรัทธาในวัตรปฏิบัติหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี วัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย

ยามใดมีเวลาว่าง มักจะดั้นด้นไปปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่เทสก์ ที่วัดหินหมากเป้งเป็นประจำ เมื่อค้นพบว่าความสุขที่แท้จริงคือการปฏิบัติธรรม

พ.ศ.2527 หลวงเตี่ยสุรเสียงได้ตัดสินใจสละทางโลก มุ่งหน้าเข้าสู่ร่มเงาผ้ากาสาวพัสตร์อุปสมบทกับหลวงปู่เทสก์ ที่วัดหินหมากเป้ง โดยมีหลวงปู่เหรียญ วรลาโภ วัดอรัญพรรพต พระเกจิฯชื่อดังของภาคอีสาน เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูวิชัยวัฒนกิจ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูชุมพล อภิพโล เป็นพระอนุสาวนาจารย์

หลังจากนั้นได้ไปอยู่จำพรรษาที่วัดหินหมากเป้ง เพื่อศึกษาแนวทางการปฏิบัติจากบรมครูหลวงปู่เทสก์ ซึ่งท่านเมตตาคอยให้คำชี้แนะแนวทางการปฏิบัติธรรมแก่หลวงเตี่ยสุรเสียงมาโดยตลอด

หลวงเตี่ยสุรเสียงจำพรรษาอยู่วัดหินหมากเป้ง ได้พยายามมุมานะศึกษาเล่าเรียนปริยัติธรรมจนแตกฉานสอบได้นักธรรมเอก พ.ศ.2531 ด้วยเป็นพระที่มีวัตรปฏิบัติดีปฏิบัติชอบจึงทำให้เริ่มมีชื่อเสียงเลื่องลือ แม้พรรษาจะยังน้อยก็ตาม

ต่อมาพระราชวินยาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดมหาสารคาม (ธ.) ได้ขอตัวหลวงเตี่ยสุรเสียงจากหลวงปู่เทสก์ มาสร้างวัดป่าโนนแท่น ต.ตลาด อ.เมือง จ.มหาสารคาม

หลวงเตี่ยสุรเสียงได้พยายามทุ่มเทพลังกายพลังใจพัฒนาวัดป่าโนนแท่นจนเจริญรุ่งเรืองในเวลาอันรวดเร็ว ปรับปรุงภายในบริเวณวัดให้มีแต่ความร่มรื่นสวยงาม จนกลายเป็นลานธรรม

หลังจากพัฒนาวัดป่าโนนแท่นจนเจริญรุ่งเรืองแล้ว หลวงเตี่ยได้ย้ายไปจำพรรษาอยู่วัดโพธิชัยวราราม อยู่ริมแก่งเลิงจาน อ.เมือง จ.มหาสารคาม เพื่อให้เหมาะสมกับการเจริญภาวนา เช่น จัดหาพระพุทธรูปปางต่างๆ มาประดิษฐานไว้ตามมุมต่างๆ ในวัด ให้พุทธศาสนิกชนที่มาปฏิบัติธรรมได้สักการะบูชา

พ.ศ.2532 ได้รับฐานานุกรมเป็นพระครูปลัดสุรเสียง พ.ศ.2538 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโทที่ "พระครูสุนทรธรรมโฆษิต"

พ.ศ.2546 ได้รับพระราชทานเลื่อนเป็นพระครูชั้นเอก พ.ศ.2547 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นพิเศษในราชทินนามเดิม และได้รับความไว้วางใจจากคณะสงฆ์ ให้ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าคณะอำเภอกันทรวิชัย (ธรรมยุต)

หลวงเตี่ยสุรเสียงจบพระสังฆาธิการชั้นต้น-ชั้นสูง รุ่น 19 ที่วัดบวรนิเวศวิหาร และจบหลักสูตรครูสอนปริยัติธรรมชั้นกลางวัดศรีสะเกษ เป็นต้น

ตลอดเวลาหลวงเตี่ยสุรเสียงยึดแนวทางการปฏิบัติจากหลวงปู่เทศก์อย่างเคร่งครัด สมกับเป็นเนื้อนาบุญของพุทธศาสนาโดยแท้

ขอบคุณที่มา : เว็บพลังจิต
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01 ต.ค. 2553, 02:48:49 โดย กวงเจา »