ผู้เขียน หัวข้อ: คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๑๕ กย. ๕๔ ...  (อ่าน 1369 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ รวี สัจจะ...

  • รองประธาน
  • *****
  • กระทู้: 1137
  • รวี สัจะ-สมณะไร้นาม-วจีพเนจร
    • ดูรายละเอียด
    • รวี สัจจะ สมณะไร้นาม (เคลื่อนไหวดุจสายลม)
คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๑๕ กย. ๕๔ ...
ตถตาอาศรม เขาเรดาร์ บ้านบึง ชลบุรี
ศุกร์ที่ ๑๖ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๔
..........คนเรานั้นต้องมีความหวัง เราต้องหวังให้ไกลและเราต้องไปให้ถึง
แม้ว่าหนทางนั้น ยังอีกยาวไกลเพราะว่าความสำเร็จนั้นมิได้อยู่ที่จุดเริ่มต้น
ความผิดพลาด ความล้มเหลว ความสูญเสีย มิใช่ข้อยุติ สิ่งเหล่านั้นล้วนแล้ว
นำมาซึ่งประสพการณ์ของชีวิต เป็นบทเรียนของชีวิต ที่จะทำให้เราเข้มแข็ง
และกล้าแกร่งยิ่งขึ้น ขอเพียงให้เรายึดมั่นในอุดมคติของเราอย่าได้หวั่นไหว
เพราะหนทางที่จะก้าวไปสู่ความสำเร็จนั้น มันต้องฟันฝ่าและเผชิญต่ออุปสรรค
และปัญหาอยู่ตลอดเวลา อุปสรรคและปัญหาเหล่านั้นคือบทเรียน บททดสอบ
สติปัญญาและคุณธรรมของเรา ดั่งที่ครูบาอาจารย์ท่านได้กล่าวไว้ว่า....
"ทุกข์ไม่มา ปัญญาไม่มี บารมีไม่เกิด" เราต้องข้ามผ่านด่าน แต่ละด่าน
เพื่อเป็นการทดสอบกำลังของเรา การที่เราเผชิญอุปสรรคปและปัญหา
และผ่านมาได้แต่ละครั้งนั้น มันทำให้จิตใจของเราพัฒนาขึ้นไปกว่าเดิมทุกครั้ง.......
...........ฉะนั้น จงอย่าตกใจ เสียใจและหวั่นไหวต่ออุปสรรค และปัญหา
จงเดินหน้าต่อไป เพื่อให้ถึงซึ่งจุดหมาย รางวัลแห่งความสำเร็จของชีวิต
มิได้วางไว้ที่จุดเริ่มต้น ตราบใดที่ยังมีลมหายใจ การเดินทางนั้นยังไม่สิ้นสุด
จงพยายามเตือนสติตนเองนั้นอยู่เสมอ เพื่อให้มีความพร้อมของกายและใจ
ที่จะต้องเผชิญกับอุปสรรคปัญหา เพราะว่าเมื่อก่อนนั้นเราจะต้องพบกับ
อุปสรรคปัญหาและเกิดความทุกข์ขึ้นมาเสียก่อน เราจึงจะระลึกได้ คือต้องเจ็บก่อน
แล้วมัน ถึงจะจำ หรือบางครั้งพลาดเผลอสติไปแล้ว จึงจะมาระลึกได้ซึ่งบางครั้ง
อาจทำให้เสียใจในภายหลัง ในสิ่งที่ได้กระทำลงไป....
........เราจึงต้องมาฝึกเจริญสติกันใหม่ ให้สตินั้นระลึกได้เร็วขึ้นกว่าเดิม
จนมีความเต็มรอบสมบูรณ์อยู่ทุกขณะจิต โดยการสร้างจังหวะการระลึกรู้
จากอาการทางกายจากหยาบๆคือการเคลื่อนไหวเช่นการยืน การเดิน การนั่ง
การนอน การกิน การทำงานต่างๆ จนมีความชำนาญแล้ว จึงเพิ่มกำลังสร้าง
จังหวะของสติการระลึกรู้กับสิ่งที่ละเอียดยิ่งขึ้น เช่นลมหายใจของตัวเรา
หรือความรู้สึกนึกคิดของเราเอง สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นแนวทางของการฝึกจิต......
.....ฝากไว้เป็นข้อคิด แด่มิตรสหาย ผู้ใคร่ธรรม.....
... เชื่อมั่น-ศรัทธา-สามัคคี-ปรารถนาดี-ไมตรจิต...
..........รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม-วจีพเนจร............
๑๖ กันยายน ๒๕๕๔ เวลา ๐๕.๓๐ น. ณ ตถตาอาศรม บ้านบึง ชลบุรี
ใช่หวังจะดังเด่น  จึงมาเป็นสมณะ
เพียงหวังจะลดละ  ซึ่งมานะและอัตตา
เร่ร่อนและรอนแรม ไปแต่งแต้มแสวงหา
สัญจรร่อนเร่มา  ผ่านร้อยป่าและภูดอย
ลาภยศและสรรเสริญ  ถ้าหลงเพลินจิตเสื่อมถอย
พาใจให้เลื่อนลอย  จิตเสื่อมถอยคุณธรรม
       ปณิธานในการปฏิบัติธรรม

ออฟไลน์ boomee

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 339
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๑๕ กย. ๕๔ ...
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 16 ก.ย. 2554, 07:46:21 »
กราบนมัสการครับพระอาจารย์

ปล.เข้ามาอ่านทุกวันสบายใจดีครับ
หากตัวท่านไรซึ่งความหวัง  กายท่านจะคงอยู่เพื่อสิ่งใด

ออฟไลน์ berm

  • สิ่งที่ควรทำคือความดี..สิ่งที่ควรมีคือคุณธรรม..สิ่งที่ควรจำคือ...บุญคุณ
  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 1008
  • เพศ: ชาย
  • อยู่คนเดียวระวังความคิด อยู่กับมิตรระวังวาจา
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๑๕ กย. ๕๔ ...
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 16 ก.ย. 2554, 08:42:28 »
อ่านทุกเช้าเหมือนได้ปรับแต่งจิตให้ทันต่อโลก
ทุกคนย่อมมีปัญหาของตัวเองเกิดขึ้นตลอดเวลา  อยู่ที่ใครเลือกที่จะเดินหนีปัญหา...หรือเลือกที่จะแก้ไขปัญหา

ออฟไลน์ derbyrock

  • คณะกรรมการ
  • *****
  • กระทู้: 2494
  • เพศ: ชาย
  • สติมา ปัญญาเกิด........ปัญหามา ปํญญามี.......
    • MSN Messenger - derbyrock@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๑๕ กย. ๕๔ ...
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 16 ก.ย. 2554, 09:45:16 »
ทุกข์ไม่มา ปัญญาไม่มี บารมีไม่เกิด
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ ชีวิตผมกว่าจะมีปัญญา(ถึงจะมีอยู่น้อยนิด)ก็ต้องทนทุกข์มายาวนาน ตั้งใจฝึกฝนให้มีปัญญา ให้มีบารมี จะได้บอกลาความทุกข์อย่างเป็นทางการซะที

ความสุขที่แท้จริงรอคอยคุณอยู่.......เพียงแค่คุณนั่งลงแล้วหลับตา