ผู้เขียน หัวข้อ: อาจารย์สักยันต์กับกลยุทธ์ทางการตลาด บทความของคุณสายธาร แห่งพุทธะ  (อ่าน 2190 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Gearmour

  • ที่ปรึกษา
  • *****
  • กระทู้: 1204
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • ลานพิศวง


ด้วยความเคารพครับ ผมได้อ่านบทความของคุณสายธาร แห่งพุทธะ ซึ่งโพสลงในเฟสบุ๊คแล้วรู้สึกว่า
  มันมีประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจในด้านนี้ เลยขออนุญาตนำมาเผยแพร่นะครับ
ผมขออนุญาตที่จะไม่ตัดทอนหรือแก้ไขใดๆในบทความนี้นะครับ หากท่านใดคิดว่ามีความไม่เหมาะสมของภาษาผมขอน้อมรับไว้คนเดียว


อาจาร์สักยันต์หรือนักสักยันต์สมัยนี้ ฟิลลิป คอลเลอร์ เจ้าพ่อการตลาดของโลกต้องชมเลยว่าพวกท่านๆๆไม่เคยมาอบรมกับกูเลยเวลากูมาเมืองไทยหนังสือกูพวกคุณๆๆท่านๆก้ไม่ได้อ่านแต่พวกท่านๆๆเอาหลักที่ผมสอนมาใช้ได้ดีเยี่ยมเลยหลักการตลาดแม่บท คือ 4P
1 PRODUCT 2.PRICE 3. PLACE 4. PROMOTION
PRODUCT ที่พวกเหล่าอาจารย์สมัยนี้ใช้ จะต้องสักลวดลายสวยก่อน มีลายยันต์ที่deatail of product ในแง่ ของ feature advantage and benefit ที่เข้ายุคสมัย เช่น ลายยันต์นี้สักแล้วหยิญเพียบ มีเสหน์ สักแล้วรวยไม่ต้องไปทำงาน แก้ฮวงจุ้ย ๆลๆ มีapplication สี หรือ option9jk'qq เช่น สีขาว สีสะท้อนแสง เรืองแสง น้ำมันดอกทอง ๆลๆ ที่หาในสามโลกแล้วไม่มีมีคนเดียวในโลก บางทีอ่านแล้วขำกลิ้ง บางคนก็มีmessage motivation ไว้ก่อน เช่น พบกับกุมารทองที่ดีที่สุดในโลก หรือตำราดีที่สุดในโลก เร็วๆๆนี้ มันจริงๆๆ
ตัวต่อมาpricing ก็มีการตั้งราคาในระดับpremuim จับตลาด กลุ่มคนclass B-A ดังนั้นราคาไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับคนกลุ่มนี้ คนกลุ่มนี้ชอบนิยาย ดังนั้นการออกวัตถุมงคลหรือสักยันต์แต่ละครั้งจะต้องมีนิยาย เรื่องของเสน่ห์ มาอันดับหนึ่งก่อน รองลงมาใส่้แล้วรวย ยิงฟันไม่เข้า คงกระพันชาตรี จะต้องมีนิยายมาประกอบว่าได้ร่ำเรียนมาจากอาจารย์นั้นอาจารย์นี้ ๆลๆ (จริงๆๆไม่ได้เรียนห่าอะไรมาเลย) target groupคนกลุ่มนี้มันแปลกตรงที่ว่าจะเป็นพวกข้าราชการใหญ่ๆๆทั้งนั้น รองลงมาก้พวกวัยรุ่นที่ดูแต่ข้อมูลในsocial network และที่แปลกพวกนี้ปริญญาโทเยอะ แต่คนกลุ่มนี้ก็จะไปสักยันตฺ หรือซื้อวัตถุมงคล
อีกกลยุทธ ที่สำคุัญอีกประการคือการทำเดินไปตามสายครูบาอาจารย์ที่คนในยุคก่อนนับถือ บางคนก็เคลมว่าได้เรียนกับครูบาอาจารย์โดยตรง แต่พอมีคนถามมากๆๆก้บอกว่าเรียนกับลูกศิษยือีกที่ ก้มีการไปถ่ายรูปยืนยันว่ากูมาจริงที่สำนัก ( เรียนหรือเปล่าไม่รู้แต่ที่รู้ๆๆกูถ่ายรูปคู่)ก็มีเรื่องเล่าขำๆๆ ก็ไปเห็นเฟสของบางท่านหลายเดือนก่อนยังวิ่งไปสำนักโน้น สำนักนี้ ไปถ่ายรูปใกล้ชิดกับอาจารย์ต่างๆๆ วันนี้เป็นอาจารย์ไปแล้ว เห็นมีลงรูปการเชือดและฟันทดสอบ testimonial เป็นคลิปว่าคงกระพันและเหนียวจริงๆๆ ( อยากจะลองไปทดสอบไม่รู้ว่าเขาจะอนุญาตไหม) ก็ยัง งงอยู่ว่า มันทำไปได้ไง ความรู้ทางไสยเวทย์เท่าหางอึ่ง สงสารแต่ครูอาจารย์ที่นายนี่ไปเรียน ไม่รู้เท่าทัน คนประเภทนี้ ว่ามันมาเอาตำราและเอาสายตามหลักการตลาดเลยว่าจะต้องมี reference background หรือback upเผื่อคนมาถามว่าเรียนจากไหน ก็มีข้อมูลที่แน่ มีทั้งรูปถ่ายกับอาจารย์ที่ไปเรียนและตำรา
วันนี้ขอนิทาอาจารย์สักยันต์บางท่านหน่อย เห็นสักรูปภาพสวยงามมากเลย แต่พอเห็นอักขระเลขยันต์อ่านไม่รู้เรื่อง ก็ยังสงสัยว่าตัวอาจารย์ที่มันสักมันรู้ไหมว่ะวิธีเขียนขอมมันต้องอ่อนช้อยไม่ใช่เหลี่ยมๆๆ บล็อกๆๆ ไม่รู้มันเอาวิธีเขียนอักขระเลขยันต์มาจากไหน มันใช่หลักการตลาดจริงในเรื่องตัวสินค้าคือรูปภาพต้องสวย อย่างอื่นช่างมัน บางที่ผมดูแล้วมันสักไปน่าจะอักขระวิบัติ มันจะซวยแก่คนที่ไปสัก
มาเล่าสู่กันฟังต่อ การใช้real time communication กันเยอะ บางคนเวลาไปไหนหรือไปกราบอาจารย์มันก็take a photo แล้วก็บรรยายว่าได้วิชามา วิ่งไปสำนักนี้ สำนักโน้น แล้วที่ดูแล้วขำๆๆก็คือ มันจะบอกว่ามันทำได้ มันทำสำเร็จ สิ่งนี้มันเหมือน certificate ใบรับรอง ว่ากูนี่ของริง แต่ริงๆๆก้ไม่รู้ว่ามันทำได้ไหม แต่มันได้ส่งmessage ออกไปแล้ว เด็กๆๆวัยรุ่นมันก็รับข้อความไปแล้ว พวกนี้มันเก่งจริงๆๆในการสื่อสารให้กับกลุ่มเป้าหมาย prospects บางคนก็ลงลายสักบอกfeature advantage benefit เสร็จเลย เช่น ลายสัก หรือ วัตถุมงคลนี้ ดีทางไหน ๆลๆ
วันนี้พอหอมปากหอมคอก่อน

ไว้ถ้าผู้เขียนเขียนเพิ่มจะนำมาลงครับ

ขอแสดงความนับถือ
Gearmour