ผู้เขียน หัวข้อ: วัวธนู ควายธนู ของขลังสายเขมร  (อ่าน 27516 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ปุญฺญานุสฺสติ(สิบทัศน์)

  • *โปรดระวัง - สีลัพพตปรามาส, ๗ เดือน ๑๙ วันจะเก็บแต่ความทรงจำที่ดีๆไว้, ตถตา (เช่นนั้นเอง).
  • ...
  • *****
  • กระทู้: 6436
  • เพศ: ชาย
  • ผู้สอนคือผู้ลวง? ผู้เรียนคือผู้หัดที่จะลวง?
    • ดูรายละเอียด
    • เฟสบุ๊ควัดบางพระ (หลวงพ่อเปิ่น)
วัวธนู ควายธนู หลวงพ่อน้อย ของขลังสายเขมรที่ไม่ธรรมดา


          วัวธนู ควายธนู เครื่องรางของขลัง หลวงพ่อน้อย ซึ่ง วัวธนู ควายธนู เครื่องรางของขลัง หลวงพ่อน้อย นี้เป็นของขลังสายเขมรที่ไม่ธรรมดา อยากรู้รายละเอียดเกี่ยวกับ วัวธนู ควายธนู เครื่องรางของขลัง หลวงพ่อน้อย ลองอ่านดูครับ(ข้อมูลจาก ไทยโพสต์)




          แท้จริงแล้วเรื่องของวัวและควายธนู เป็นเครื่องรางของขลังทางฝั่งลาวและเขมร แต่ต่อมาได้เข้ามาสู่แผ่นดินสยามเมื่อคราวมีการอพยพไพร่พลเข้ามา

          หลวงพ่อน้อย วัดศรีษะทอง นครปฐม ท่านเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในพระเวทย์สายนี้เป็นอย่างมาก ท่านสร้างและปลุกเสกวัวธนูและควายธนูเอาไว้เฝ้าบ้านป้องกันเสนียดจัญไรจากคุณไสยลมเพลมพัด

          หลวงพ่อน้อย ท่านเอาทองแดงมาขึ้นเป็นรูป จากนั้นพอกด้วยครั่งผสมผงอาถรรพ์ 108 ลงรักปิดทองก็มี ท่านเสกด้วยคาถาที่เข้มขลังจากสายลาว เสกจนวัวธนู-ควายธนูหันหัวไปซ้ายไปขวาได้ พระเกจิรุ่นเก่าท่านขลังศักดิ์สิทธิ์จิตสูงจึงทำได้

          คนโบราณเรียกวัวของท่านว่า วัวปั้นหุน ดังคำภาษิตที่เขายกเอาไว้ให้เป็นเบญจภาคีเครื่องรางของขลังว่า "ปลัดขิกหลวงพ่อเหลือ เสือหลวงพ่อปาน หนุมานหลวงพ่อสุ่น วัวปั้นหุ่นหลวงพ่อน้อย ศรีษะทอง เบี้ยแก้กันของวัดนายโรง"

          เคยเห็นมากับตาตอนที่เดินจากตราดเข้าสู่เขมรทางด้านเกาะกงและอ่าวปอ ด้วยเราเป็นเพียงพระหนุ่มเณรน้อยที่ยังอ่อนนักกับพระเวทย์และอาคมในยุคนั้น ได้เดินทางไปพักที่อ่าวปอเพื่อรอวันพรุ่งจะไปเฝ้าสังฆราชเขมร ซึ่งเป็นสหธรรมิกกับพระอาจารย์สอนกรรมฐานที่อยู่เมืองนครศรีธรรมราช

          ที่อ่าวปอนี้มีวัดหนึ่งที่ในหลวงรัชกาลที่ 5 ทรงสร้างเอาไว้ ทราบจากที่หน้าบันโบสถ์มีรูปตราประจำพระองค์ และเลข 5 ไทย ภายใต้มหามงกุฎปรากฏ อย่างนี้ก็ทำให้เราได้อุ่นใจขึ้นบ้างว่าโบสถ์หลังนี้พระราชสมภารเจ้า เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินของเราสร้างขึ้น คงจะพอนอนได้หลับลงสนิท ไม่คิดมากถึงเรื่องไสยอันลึกลับเสียเท่าไหร่นัก

          ไม่น่าเชื่อ สองทุ่มเศษที่เงียบราวกับป่าช้าที่ผีดุ ในใจก็กลัวอยู่แต่พอข่มด้วยสมาธิให้อยู่พอประคองไหว ราวเที่ยงคืนเศษไม่รู้สุนัขทำไมเห่าหอนนัก ทั้งๆ ที่นี่ไม่มีเลือกตั้งผู้แทน สักครู่ได้ยินเสียงอะไรไม่ทราบดังขึ้นตุบๆๆ อยู่หน้าโบสถ์ นึกในใจเป็นตายก็ไม่ออกไปดู โบสถ์ทรงแบบมหาอุดเข้าออกทางเดียวยังไม่น่าเกรงเท่าไหร่ แต่ในใจลึกๆ นึกไว้ว่าทหารเขมรมาเราไม่กลัว แต่ถ้าหากเป็นผีเขมรนี่คงลำบาก เพราะคงพูดกันไม่รู้เรื่องแน่

          แต่คืนนั้นก็รอดผ่านพ้นไปด้วยดี พอเช้าแล้วเปิดประโบสถ์ออกไปดู เห็นมีเศษหนังชิ้นใหญ่เท่าฝ่ามือวางเรียงกองอยู่ตรงใกล้ๆ ธรณี ประมาณ 3-4 ชิ้น พระในวัดที่พอสื่อกันได้พูดไทยสำเนียงเขมรบอกว่า เมื่อคืนนี้เขาเห็นมีคนมาปล่อยของลองอาคม แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เลยหล่นอยู่หน้าโบสถ์ พอได้ฟังแล้วขนลุกซู่ และพนมมือขึ้นนึกถึงพระบารมีพระราชสมภารเจ้าในหลวงรัชกาลที่ 5 เพราะลำพังพระหนุ่มเณรน้อยอย่างเราคงไม่รอดพ้นแน่

          พอเดินไปดูหลังประธาน ก็รู้สึกแปลกใจว่าทำไมมีคอกของวัวและควายธนูอยู่บนโต๊ะหมู่เล็กๆ ถามว่ามีไว้ทำไม เขาบอกว่าโยมเอามาถวายไว้ เวลาวันโกนโยมเขาจะมาถือศีลนอนในโบสถ์นี้ รุ่งเช้าเป็นวันพระ ก็ทำบุญใส่บาตรและภาวนาจนสิ้นวันพระ เขามีเอาไว้กันคนที่เป็นมิจฉาทิฐิมาทำของใส่อย่างเมื่อคืนนี้แหละ ผมจึงเชื่อว่าแม้วันนี้โลกเปลี่ยนไปปานใด แต่ทว่าเรื่องของคุณไสยยังมีอยู่จริง

          ที่เขมร วัวธนูและควายธนูเป็นเครื่องรางที่ป้องกันคุณไสยได้เยี่ยมนัก ใครมีบูชาต้องตั้งเป็นคอก มีแก้วน้ำและกอหญ้าสดวางไว้เป็นเครื่องเซ่น เพียงเท่านี้ก็ไม่ต้องเกรงกับสิ่งที่มองไม่เห็นอีกต่อไป แม้เราจะอยู่ในโลกวิทยาศาสตร์แล้ว แต่บางครั้งวิทยาศาสตร์ก็กลายเป็นสิ่งที่จำกัดกั้นไม่ให้เราเข้าถึงกับสิ่งที่นอกเหตุเหนือผลที่มีอยู่จริงได้เหมือนกัน

....................................................

สำหรับวัวธนูในภาพ เป็นของ หลวงพ่อจืด สำนักสงฆ์โพธิ์เศรษฐี (ศิษย์สายหลวงพ่อน้อย วัดศีรษะทองและศิษย์เอก หลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลา) ครับ :015:





ออฟไลน์ ~เสน่ห์โจรสลัด~

  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 7913
  • เพศ: ชาย
  • " ถ้ามุ่งมั่นจะเป็นที่หนึ่งคุณจะเป็นที่หนึ่ง "
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: วัวธนู ควายธนู ของขลังสายเขมร
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 18 ม.ค. 2551, 08:37:17 »
ขอบคุณมากครับ  ;D

ออฟไลน์ Samphong

  • ปฐมะ
  • *
  • กระทู้: 1
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: วัวธนู ควายธนู ของขลังสายเขมร
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 09 ก.พ. 2551, 12:21:34 »
อาจารย์ทางภาคอีสานคือที่จังหวัดศรีสะเกษอำเภอกันทรลักษณ์ มีหลวงพ่อสังข์สุริโยวัดนากันตมที่ทำควายธนูพุทธคุณดีมากท่านเปนเกจิอาจารย์พบง่ายพูดภาษาพื้นบ้านโดยเฉพาะด้านเมตตามหานิยมขนาดนกกานกกระยางมาอาศัยอยู่ที่วัดของท่านมากมายเครื่องลางของขลังท่านมากมายหลายรูปแบบส่วนมากพวกคุณหญิงคุณนายและผู้มีอันจะกินจากกรุงเทพจะได้ไปเยอะแยะท่านให้ฟรีนะครับส่วนเงินแล้วแต่จะถวายท่านพระเครื่องของท่านก็หลากหลายมีทั้งเนื้อโลหะเนื้อผงทีผสมผงวัดระฆังวัดบางขุนพรหมเพราะท่านทำสมเด็จพิมพ์ใหญ่กลางเล็กเล่นหากันหลายเงิน สมัยนั้นถนนหนทางไม่ดีต้องซื้อเหล็กซื้อปูนอุปกรณ์ก่อสร้างจากจังหวัดศรีสะเกษใช้เวลาเป็นวันๆ กว่าจะถึงวัด การสักยนต์ของท่านก็สักเหมือนกันว่ากันว่าการสักยันต์ของท่านนั้นปลิงเกาะไม่ติด ลูกศิษย์ของท่านคนหนึ่งที่สร้างชื่อเสียงมากคือ ทหารเหล็กไปรบที่เมืองลาว(ประเทศลาว)โดนยิงหลายต่อนัดไม่เป็นอะไรนั้นก็ลงของและแขวนพระเครื่องของหลวงพ่อสังข์ ปัจจุบันสามารถไปสอบถามได้ที่บ้านนากันตม  อีกประสบการณ์หนึ่งคือสมัยนั้นผู้กองจักรเพชร ของค่ายทหาร ศปศ24 เอาน้ำไปส่งทหารบนเขาพระวิหารขึ้นรีนะครับไม่มีการเก็บเงินโดยผู้เขียนไปกับรถหน่วยเสนารักษ์ วันนั้นผู้กองท่านเดินพลาดตกกลิ้งลงมาตั้งแต่บรรไดขั้นสุดท้ายของปราสาทชั้นที่หนึ่งที่มีหลายสิบขั้นโดยไม่มีแผลแม้แต่นิดนิดเดียว และประสบการณ์อีกมากมาย หลายท่านอาจจะเคยเห็นเหรียญรุ่นแรก รุ่นสอง รุ่นสาม ของท่านออกมาตามสนามพระ ระวังครับปลอมก็มีมาก แท้ก็มีมากในอำเภอกันทรลักษ์เล่นกันหลักพัน หลักร้อย  อีกประสบการณ์หนึ่งคือพายุเกย์ถล่มทำให้คนตายเยอะก็มีลูกศิษย์(แขวนเหรียญรุ่นแรกปี 2512 )ไปลงเรือเรือล่มมีเหรียญเดียวติดตัวเขาไม่ตายไม่มีบาดแผลอยู่ในทะเลหลายวันจนมีคนพบนำเข้าฝั่งเถ้าแก่รู้ก็รีบมาดูสอบถามเหตุการณ์และถามว่าในตัวมีอะไรดีจึงรอดมาได้ก็เห็นเหรียญรุ่นแรกยากได้ขอลูกน้องแต่ลูกน้องบอกที่หมู่บ้านมีเยอะให้ไปเอาที่บ้าน เถ้าแก่จึงทำผ้าป่ามาวัดนากันตมและหาเช่าเหรียญรุ่นแรกไปเยอะมากทำให้เหรียญรุ่นแรกราคาขยับขึ้นถึง ห้าหกพันบาททันที จึงทำให้มีของปลอมออกตามมา  ว่างๆ ก็จะเขียนมาเล่าให้ฟังอีก