ผู้เขียน หัวข้อ: วันนี้ครับ  (อ่าน 1268 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ 8

  • นับถือเพราะมีราคา
  • ประธาน
  • *****
  • กระทู้: 136
  • ฤา คุณค่านั้นมาจากใจ
    • ดูรายละเอียด
วันนี้ครับ
« เมื่อ: 10 ก.ค. 2549, 06:28:07 »
 :001: :001: :001: :001:อาสาฬหบูชา
         ประวัติความเป็นมา
     วันอาสาฬหบูชา ตรงกับวันเพ็ญ เดือน 8 ก่อนวันเข้าพรรษา 1 วัน เป็นวันที่พุทธศาสนิกชนแสดงความเคารพต่อพระสงฆ์
อาสาฬหเป็นชื่อเดือน ๘ อาสาฬหบูชาย่อมาจากคำว่าอาสาฬหบูรณ มีบูชา แปลว่า การบูชาพระในวันเพ็ญเดือน ๘ ถ้าปีใดมีเดือน ๘ สองครั้ง ก็จะ เลื่อนไปเป็นวันขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๘ หลัง

     หลังจาก สมเด็จพระพุทธองค์ ได้ตรัสรู้ในวันเพ็ญ เดือน 6 แล้ว ได้ทรงใช้เวลาทบทวนสัจธรรมและทรงคำนึงว่าธรรมะที่พระองค์ตรัสรู้นี้ลึกซึ้งมาก ยากที่ผู้อื่นจะรู้ตาม แต่อาศัยพระกรุณานี้เป็นที่ตั้ง จึงทรงพิจารณาแบ่งบุคคลออกเป็น 4 ประเภท(บัว 4 เหล่า) คือ
๑. อุคฆฏิตัญญู ดอกบัวที่อยู่พ้นน้ำ
๒. วิปัจจิตัญญู ดอกบัวที่อยู่ปริ่มน้ำ
๓. เนยยะ ดอกบัวที่อยู่ใต้น้ำ
๔. ปทปรมะ ดอกบัวที่จมอยู่กับโคลนตม

      จึงทรงมีพระกรุณาธิคุณ ระลึกอาฬารดาบสและอุททกดาบสว่า มีกิเลสเบาบางสามารถตรัสรู้ได้ทันที แต่ท่านทั้ง 2 ได้ตายแล้ว จึงทรงระลึกถึงปัญจวัคคีย์ ได้ทรงแสดงพระธรรมเทศนาแก่ปัญจวัคคีย์ ทั้ง 5 คือ โกณฑัญญะ วัปปะ ภัททิยะ มหานามะ และอัสชิ ซึ่งล้วนแล้วแต่ เป็นผู้อุปฐากพระพุทธเจ้าเมื่อครั้งยังทรงบำเพ็ญทุกข์กิริยาอยู่ พระธรรมที่ พระพุทธองค์ทรงเทศนาในครั้งนี้มี ชื่อ ธรรมจักกัปปวัตนสูตร ซึ่งมี อริยสัจ ๔ หรือความจริงอันประเสริฐ ๔ ประการได้แก่
๑. ทุกข์ ความไม่สบายกาย ไม่สบายใจ
๒. สมุทัย เหตุให้เกิดทุกข์
๓. นิโรธ ความดับทุกข์
๔. มรรค ข้อปฎิบัติให้ถึงความดับทุกข์

         และหลังจากแสดงพระธรรมเทศนาแล้ว ท่านโกณฑัญญะได้ดวงตาเห็นธรรม เป็นคนแรก ได้กราบฑูลขอบวชและพระพุทธองค์ก็ทรงอนุญาต โดยทรงทำการอุปสมบทให้แบบ เอหิภิกขุอุปสัมปทา นับเป็น"ปฐมสาวก" ของพระพุทธเจ้า

         ดังนั้นในวันนี้จึงเป็นวันแรกที่มี พระรัตนตรัยครบองค์สาม คือ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ เนื่องจากพระพุทธองค์ทรงเทศนาเป็นกัณฑ์แรก จึงเรียกเทศฯกัณฑ์นี้ว่า "ปฐมเทศนา" หรืออีกนัยหนึ่งอาจจะกล่าวได้ว่านับเป็นวันแรก ที่พระพุทธเจ้าทรงประกาศพระพุทธศาสนา
 
     

จะเห็นได้ว่า ปรากฏการณ์สำคัญ ๆ ในวันนี้มีถึง 4 ประการ ด้วยกันคือ
1. เป็นวันแรกที่พระพุทธองค์ทรงแสดงปฐมเทศนา
2. เป็นวันแรกที่พระพุทธองค์ทรงได้ปฐมสาวก
3. เป็นวันแรกที่พระสงฆ์เกิดขึ้นในโลก
4. เป็นวันแรกที่บังเกิดรัตนะครบสาม เป็นพระรัตนตรัย คือ พระพุทธรัตนะ พระธรรมรัตนะ พระสังฆรัตนะ

 
   
  กลับหน้าแรก วันเข้าพรรษา 
http://www.learntripitaka.com/History/asalha.html
 :001: :001: :001: :001: :001:
someone like this..........

ออฟไลน์ 8

  • นับถือเพราะมีราคา
  • ประธาน
  • *****
  • กระทู้: 136
  • ฤา คุณค่านั้นมาจากใจ
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: วันนี้ครับ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 10 ก.ค. 2549, 06:35:54 »
 :001: :001: :001: :001: :001:http://beam.to/buddha



 
พระผู้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ ในการประดิษฐานพุทธศาสนาขึ้นในโลก
เพื่อนำมวลมนุษยชาติไปสู่สันติสุข อันไม่มีสุขอื่นใดในโลกเสมอเหมือน
 
 
[ Home ] [ มหัศจรรย์แห่งพุทธศาสนา ] [ พระพุทธเจ้า ] [ พระพุทธเจ้าทรงสอนอะไร ] [ พุทธประวัติ ] [ พุทธศาสนาในเมืองไทย ] [ วันสำคัญ ]
 
 วันจันทร์ที่ 10 กรกฎาคม 2549
 
นามของพระพุทธเจ้า
 คำแปล คำอธิบายเพิ่มเติม
พระพุทธเจ้า
 พระผู้ตรัสรู้เองโดยชอบ แล้วสอนผู้อื่นให้รู้ตาม ในภัทรกัปปัจจุบันนี้ มีพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นในโลกแล้ว
๔ องค์ คือ พระกกุสันธะ พระโกนาคมน์ พระกัสสปะ และ
องค์ปัจจุบัน คือพระโคดมพุทธเจ้า ซึ่งศาสนาของพระองค์
จะมีอายุ ๕,๐๐๐ ปี จากนั้นพระเมตเตยยะหรือพระศรี
อริยเมตไตรย จะมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าองค์ต่อไป
พระโคตมพุทธเจ้า  พระพุทธเจ้าที่มีโครตสกุลว่าโคตม
 ทรงมีพระราชประวัติโดยย่อ ตามที่ปรากฏในพระสูตร คัมภีร์พุทธวงส์ แห่งขุททกนิกาย ดังนี้.-
                พระองค์เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่าโคดม (โคตมพุทธ) เจริญในศากยสกุลพระนครอันเป็นถิ่นกำเนิด ชื่อกบิลพัสดุ์ พระบิดาคือพระเจ้าสุทโธทนะ พระมารดามีพระ นามว่ามายาเทวี
            มีปราสาท ๓ หลังชื่อ สุจันทะ โกกนุท และ โกญจะ มเหสีพระนามว่ายโสธรา โอรสพระนามว่าราหุล ทรงครอง ฆราวาสอยู่ ๒๙ ปี
           ทอดพระเนตรเห็นนิมิต ๔ ประการแล้ว เสด็จออก   ผนวชด้วยม้าเป็นราชยาน
           บำเพ็ญทุกรกิริยาอยู่ ๖ ปีบรรลุสัมโพธิญาณที่ ควงไม้อัสสัตถพฤกษ์ (คือต้นโพธิ์ได้แก่ไม้อัสสัตถะ) ประกาศธรรมจักรที่ป่าอิสิ ปตนมฤคทายวัน แขวงเมืองพาราณสี
           พระอัครสาวกทั้งสอง คือ พระอุปติสสะ (พระสารีบุตร) และพระโกลิตะ (พระมหาโมคคัลลานะ) พุทธอุปัฏฐากชื่อว่า
พระอานนท์ พระอัครสาวิกาทั้งสองคือ พระเขมาและพระอุบล วรรณา อุบาสกสองผู้เป็นอัครอุปัฏฐาก คือ จิตตคฤหบดี
และหัตถกอุบาสก ชาวเมืองอาฬวี อุบาสิกาสองผู้อัครอุปัฏฐา ยิกา คือนันทมารดาและอุตราอุบาสิกา   
           มีสาวกสันนิบาต (การประชุมพระสาวก) ครั้งใหญ่ ครั้งเดียว ภิกษุผู้เข้าร่วมประชุม ๑,๒๕๐ รูป
           คำสั่งสอนของพระองค์ผู้เป็นศากยมุนี เจริญแพร่หลาย กว้างขวาง งอกงามเป็นอย่างดี บริสุทธิ์ผ่องแผ้วเป็นประโยชน์ แก่ประชาชนจำนวนมาก

         (ต้องการทราบโดยละเอียด คลิกที่นี่)
 ตถาคต   เป็นคำที่พระพุทธเจ้าทรง แปลความหมายได้หลายนัย เช่น
   เรียกหรือตรัสถึงพระองค์เอง - พระผู้เสด็จมาแล้วอย่างนั้น คือเสด็จมาทรงบำเพ็ญพุทธ 
    จริยา เพื่อประโยชน์แก่ชาวโลก เป็นต้น
    - พระผู้ตรัสอย่างนั้น (หรือมีพระวาจาที่แท้จริง)
    - พระผู้ทำอย่างนั้น คือ ตรัสอย่างใดทำอย่างนั้น ทำอย่างใด 
    ตรัสอย่างนั้น 
สุคโต  เสด็จไปดีแล้ว คือทรงมีทางเสด็จที่ดีงามอันได้แก่อริยมรรค เสด็จที่ใดก็ทรง
    ทำประโยชน์ให้แก่มหาชนในที่นั้น 
โลกวิทู  ทรงรู้แจ้งโลก คือทรงรู้แจ้งสภาวะแห่งโลก คือสังขารทั้งหลาย ทรงทราบ
    อัธยาศัยสันดานของสัตวโลกที่เป็นไปต่างๆ ทำให้ทรงบำเพ็ญ
    พุทธกิจได้ผลดี 
 
 :001: :001: :001: