หมวด มิตรไมตรี > รูปภาพและวีดีโอสายวัดบางพระ
มาชมกันอีกซักครั้งครับ กับการสักของชาวไทยภาคเหนือ
gottkung:
ส่วนใหญ่ค่านิยมการสักขาลาย ของหนุ่มๆทางเหนือนี่ค่อนข้างเป็นแฟชั่นยอดฮิตในสมัยนั้น
เพราะถ้าใครไม่มีลายสักที่ขาแล้ว ผู้หญิงเค้าก็จะไม่แลครับ แหะๆๆ
(จะมีแฟนซักคนต้องแลกกับความเจ็บปวดด้วยนะนี่) ^ ^
รูปนี้คือการสักที่พุงครับ จะสักตั้งแตพุงลงไปจนถึงเข่าหรือขาอ่อนครับ (ในสมัยรัชกาลที่ห้า เรียกกลุ่มผู้ที่สักแบบนี้ว่าลาวพุงดำครับ)
ยอมรับในความอึดจริงๆครับ เพราะสักตรงนี้เจ็บมากกกกกกกก :074:
อันนี้ด้านหลังคับ
อีกรูปครับเกือบถึงหัวเข่าเลย :075:
รูปนี้ของคุณตาอีกท่านนึงครับ
:074:
การสักขาลายของทางเหนือ จะแบ่งเป็นหลักๆดังนี้ครับผม สักข่ามคง คือสักให้คงกระพันหนังเหนียว
สักข่ามพิษ คือสักเพื่อป้องกันอันตรายจากสัตว์มีพิษ หรือสัตว์กัดต่อย
สับขาลาย (สักขาลาย) สักเป็นคล้ายๆกับแฟชั่นสมัยนี้ครับ ไม่ได้ลงอักขระคาถาแต่อย่างใด
ไม่ได้มีแต่ผู้ชายที่สักนะครับ แม้แต่ผู้หญิงก็สักด้วย แต่จะสักเน้นไปทางข่ามพิษครับ ผู้หญิงสักไม่เยอะเท่าผู้ชาย :095:
ทางเหนือนี่วัฒนธรรมการสัก ได้ยินว่าเริ่มจากพวกเงี้ยวครับ ต่อมาก็แพร่กระจายไป ถึงชาวไทยลื้อ ชาวไทยใหญ่(เรียกตัวเองว่าคนไต)
คนเมือง(คือชาวเชียงใหม่นี่แหละครับ) ^ ^
ผิดพลาดประการใด ขอภัยด้วยครับ
ข้อมูลจากหนังสือ ว่าด้วยรอยสักไทยใหญ่ ของผมเอง(เป็นหนังสือของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ครับ) :006:
gottkung:
ข้อมูลเพิ่มเติมครับ จากhttp://www.fm100cmu.com/blog/sai_tarn_silp/content.php?id=585
ประเพณีการสักหมึกของชายล้านนา
วัฒนธรรมประเพณีของล้านนาที่สืบทอดกันมาในสังคมคนเมืองตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันนั้น มีอยู่หลายอย่างที่ยึดถือปฏิบัติกันมาตลอด แต่ก็ยังมีวัฒนธรรมล้านนาอีกหลายอย่างที่ถูกมองข้าม ทั้งแง่เอกลักษณ์และระบบสัญลักษณ์ที่ผู้ทำได้พยายามสื่อความออกมา อย่างเช่น การสับหมึก หรือ การ ?สัก?ลวดลายลงบนร่างกาย ซึ่งนอกจากจะมีความเชื่อเรื่องการอยู่ยงคงกระพันแล้ว การสักหมึกยังมีความสำคัญต่อการเลือกคู่ครอง ของชายล้านนาอีกด้วย
ในอดีตการสักหมึก เป็นการแสดงออกถึงความเป็นลูกผู้ชาย หากชายใดขาขาวเพราะไม่สักหมึก สาวๆจะไม่เหลียวแล การสักหมึกของชายหรือ ?บ่าว? ในล้านนานิยมสักตั้งแต่บริเวณเอวลงมาจนถึงเหนือหัวเข่า หากมองไกลๆจะเห็นเป็นแถบสีดำ อันเป็นที่มาของชื่อเรียก ?ลาวพุงดำ? ที่ชาวภาคกลางใช้เรียกขาน
ชาวล้านนาในอดีต ชายล้านนานิยมการสักขาลายมาก เมื่อมีอายุย่างเข้าสู่วัยรุ่นจะทำการสักแทบทุกคน การสักชนิดนี้ใช้หมึกสีดำไม่มีการเสกคาถากำกับแต่อย่างใด เพราะเป็นการสักเพื่อความสวยงามตามจารีตประเพณีนิยม เป็นเอกลักษณ์ที่แสดงถึงความเข้มแข็งของลูกผู้ชาย ทั้งนี้เนื่องจากในอดีตคนส่วนใหญ่จะนิยมอาบน้ำในแม่น้ำหรือลำห้วย โดยแบ่งกลุ่มเป็นกลุ่มผู้ชายและกลุ่มผู้หญิง ในสมัยนั้นผู้ชายที่มีรอยสักหมึกตามร่างกาย โดยเฉพาะที่ขาต้องสักขาลายด้วยจึงถือว่าเป็นผู้ชายเต็มตัว หากชายคนใดไม่ได้สักขาลาย ถ้าไปอาบน้ำก็จะถูกล้อเลียนว่าขาขาวเหมือนผู้หญิงควรจะไปอยู่กับกลุ่มผู้หญิง ทำให้ชายผู้นั้นได้รับความอับอายมากและผู้หญิงก็ไม่ชอบผู้ชายขาขาวถือว่าเป็นคนอ่อนแอไม่สมควรเอามาเป็นคู่ครอง ด้วยเหตุนี้ผู้ชายในสมัยนั้นจึงนิยมสักขาลายแทบทุกคน
ส่วนความเชื่ออื่นๆ ที่เกี่ยวกับการสักหมึก ตัวอย่างเช่น ความมั่นใจ อยู่ยงคงกระพัน ให้โชคลาภหรือรักษาโรคภัยไข้เจ็บ เป็นต้น จะพบน้อยมากเป็นเพราะว่าเป็นความเชื่อเฉพาะบุคคล ไม่ได้เป็นเหตุผลสำคัญ จึงไม่มีอิทธิพลต่อผู้สักเท่าไหร่ จะพบเพียงไม่กี่คนที่สักเพื่อจุดมุ่งหมายเฉพาะตัว
การสักขาลายทุกครั้งนั้นจำเป็นต้องใช้เวลาและความอดต่อความอดทนต่อการเจ็บปวดที่ได้รับ
จากการสัก บางคนบอกว่าเจ็บพอทนได้ บางคนบอกว่าเจ็บเหลือประมาณ โดนหลักสักแทงไม่กี่ครั้งก็บอกเลิกกลางคันก็มี การสักนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะใช้หลักสักซึ่งเป็นเหล็กแหลม ทำจากเหล็กทั้งแท่งตรงปลายแหลมมาก และข้างในเป็นรูกลวงมาตามยาวเพื่อใส่สี ซึ่งมีความยาวตั้งแต่ 30-50 เซนติเมตรส่วนหัวหล่อทองเหลืองเป็นรูปต่างๆ เทวดาบ้าง สิงห์บ้าง แตกต่างกันออกไป เพื่อให้มีน้ำหนักในการกระแทกเหล็กสัก จิ้มให้เป็นลวดลายต่างๆ ลงไปใต้ผิวหนังในเนื้อขาซึ่งมีความเจ็บปวดมาก ฉะนั้นผู้ที่ถูกสัก จะต้องดื่มเหล้า สูบฝิ่น หรือสูบกัญชา เพื่อให้เมาและมึนเสียก่อน เพื่อระงับความเจ็บปวด ลักษณะการสักหมึกบนร่างกาย มีชื่อเรียกที่แตกต่างกันไปดังนี้
หมึกขาตัน คือการสักหมึกที่สักจนดำเป็นพืดทั้งขา
หมึกขาลาย คือสักลายสัตว์ต่างๆ ในกรอบไว้ห่างๆ พอเห็นเนื้อหนังได้บ้าง
หมึกขายาว คือสักลายจากเอวถึงกลางน่อง
หมึกขาก้อม คือสักลายจากเอวถึงต้นขา
ซึ่งการสักลายในแต่ละแบบนั้น ก็เป็นการแสดงถึงความอดทน เข้มแข็งทั้งกายและใจด้วย
จนในบางครั้งอาจจะได้ยินคำหยอกล้อกันในหมู่ชายล้านนาว่า... ?น้ำหมึกขายาว เอาไว้แป๋งฮาวผ้าอ้อม น้ำหมึกขาก้อมเอาไว้กล่อมแม่ญิงนอน?
ลวดลายส่วนใหญ่มักจะสักเป็นรูปสัตว์ต่างๆ คือ เสือ แมว ลิง ค้างคาว ช้าง มอม ที่เด่นอยู่ในบรรดาสัตว์ร้ายทั้งหลายก็คือ ราชสีห์ในนิยาย แต่มีบางพื้นที่ในแถบลุ่มน้ำโขง เช่นเมืองลื้อสิบสองปั้นนา เมืองหลวงพระบาง มักจะสักเป็นลายเกล็ดนาค เพราะเชื่อว่าพวกตนเป็นลูกหลานของพญานาค ซึ่งการสักลายดังกล่าว ก็เพื่อให้พญานาคที่ตนนับถือ มาปกป้องคุ้มครองตน นอกจากนี้ก็ยังมียันต์ต่างๆ ซึ่งเชื่อกันว่าจะทำให้อยู่ยงคงกะพัน โดยส่วนใหญ่จะสักเฉพาะขาถึงเข่า แต่บางคนก็สักทั้งตัว ชายล้านนารวมไปถึงพื้นที่ใกล้เคียงนิยมสักหมึกกันอย่างแพร่หลาย และกลายเป็นเอกลักษณ์ของคนแถบนี้ โดยเห็นได้จากตอนที่สยามเข้ามามีบทบาทการปกครองหัวเมืองเหนือ โดยเรียกล้านนาว่า มณฑลพายัพ เมื่อข้าหลวงของสยามเข้ามามีบทบาทในพื้นที่แถบนี้ ก็พบเห็นการสักของชายล้านนา จนเป็นที่สนใจของข้าหลวงชาวสยามและเรียกชาวมณฑลพายัพว่า ลาวพุงดำ เพราะชายชอบสักมอม ตั้งแต่พุงไปถึงเข่า
จากงานเขียนของคาร์ล บอร์ค นักธรรมชาติวิทยาชาวนอร์เวย์ ที่เข้ามาสำรวจดินแดนไทยทางด้านภูมิศาสตร์ ในปี ค.ศ. 1881(พ.ศ. 2424) ในสมัยรัชกาลที่ ๕ ซึ่งเป็นชาวยุโรปคนที่สองที่ได้เดินทางขึ้นมาถึงล้านนา ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับการสักของคนเมืองไว้ในหนังสือท้องถิ่นสยามยุคพระพุทธเจ้าหลวงไว้ว่า การสักใช้เป็นเครื่องหมายแสดงความเป็นลูกผู้ชาย ความกล้าหาญและความอดทนที่สามารถฝึกฝนให้เคยชินต่อความเจ็บปวดได้ด้วยความสมัครใจ เหมือนดังที่ผู้หญิงดยัคส์(ในเกาะบอร์เนียว) นิยมสักร่างกายไว้ล่อใจชาย พวกชายลำปางก็สักไว้ล่อใจหญิง ธรรมเนียมนี้เป็นที่แพร่หลายทั่วไป จนยากที่จะหาชายไหนที่ไม่ได้สัก
การสักหมึก ไม่ว่าจะสักเพื่อจุดประสงค์ใดก็ตาม รูปรอยที่ปรากฏออกมาย่อมแฝงไว้ซึ่งความงามทางด้านทัศนศิลป์ เป็นที่ตรึงตาตรึงใจแก่ผู้พบเห็น การสักลายมิใช่แค่เน้นในด้านความสวยงาม แต่มีความเชิงแอบแฝงมากับลวดลายต่างๆ ที่สักอีกด้วย ในสังคมล้านนาประมาณ 60 ปีให้หลังนี้ พบว่าการสักขาลายนั้น ไม่เป็นที่นิยมและไม่ทำการสักกันอีกแล้ว เพราะการเปลี่ยนแปลงของสภาพสังคมเมืองล้านนา ไปเป็นสังคมเมืองที่ศิวิลัย การเลือกคู่ครองของหญิงสาวชาวล้านนา จึงไม่ต้องพึ่งพาความเจ็บปวดที่เกิดจากสักขาลายของชายอีกต่อไป เนื่องจากปัจจัยทางสังคมใหม่ๆ ได้กลับกลายมาเป็นตัวเลือกให้กับหญิงสาวเลือกคู่ครอง ซึ่งทำให้แนวความคิด ประเพณีปฏิบัติการสักขาลายของชายล้านนาหมดไปจากสังคมนี้โดยสิ้นเชิง เหลือเพียงร่องลอยสักเก่าๆ บนผืนหนังอันเหี่ยวแห้ง ของพ่ออุ๊ยที่ยังคงฝากฝังไว้ให้เราได้เห็น ได้ศึกษากันในปัจจุบัน
gottkung:
ลายสักสิงห์มอม หรือตัวมอม สัตว์ในวรรณคดียอดนิยมของล้านนาครับ เข้มปึ้ดเลย
อชิตะ:
:016: :016: สุดยอดครับ น้องก๊อต ข้อมูลแน่นมาก
"ลูกผู้ชายขาขาว สาวบ่สน" :005: :005:
ชลาพุชะ:
ขนาดผมคนเหนือแท้ๆศึกษาเรื่องสักมายังไม่เคยเจอรูปสวยๆแบบนี้ท่านเจ้าของกระทู้เก่งจริงๆหามาได้ไง สุดยอด :053:
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
Go to full version