กระดานสนทนาวัดบางพระ

หมวด มิตรไมตรี => บทความ บทกวี => ข้อความที่เริ่มโดย: รวี สัจจะ... ที่ 21 ก.พ. 2553, 11:48:27

หัวข้อ: วิถีีแห่งชีวิต...ความคิด-จิตสำนึก-วิจารณญาณ
เริ่มหัวข้อโดย: รวี สัจจะ... ที่ 21 ก.พ. 2553, 11:48:27
ชายขอบห้วยขาแข้ง ลานสัก อุทัยธานี
๒๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๓
           ชีวิตที่ผ่านไปในแต่ละวัน สารพันเรื่องราวที่เข้ามาให้รับรู้และสัมผัส
ทั้งที่เป็นกุศลและอกุศล ทั้งที่เป็นมงคลและอวมงคล ความสับสนของสังคม
ที่แสนจะวุ่นวายไร้ทิศทางที่แน่นอน มองย้อนกลับไปในอดีตชีวิตที่ผ่านมา
สมัยที่ยังไม่เข้าสู่เส้นทางธรรม ยังอยู่ในวังวนของปุถุชนผู้มากด้วยกิเลสตัณหา
มีปัญญามีความคิด แต่ขาดจิตสำนึกและวิจารณญาณ จึงใช้ความฉลาดในทางที่ผิด
คิดทุกอย่างเข้าข้างตนเอง ยึดถือความคิดตนเองเป็นใหญ่ สร้างความวุ่นวายให้สังคม
ทั้งทางตรงและทางอ้อม เพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้องหมู่คณะ
หลงติดอยู่ในวังวนของกิเลสตัณหา เพื่อให้ได้มาและตอบสนองซึ่ง"กิน กาม เกียรติ"
เบียดเบียนตัวเองและสังคม หลงเพลินในคำสรรเสริญชื่นชมของหมู่คนพาลสันดานหยาบ
       วันเวลาผ่านไปได้เข้าสู่เส้นทางธรรม นำชีวิตที่ผ่านมาเป็นบทเรียนในการคิดพิจารณา
ถามตัวเองเพื่อหาคำตอบ (จิตถามจิต) จนเห็นความคิดและการเปลี่ยนแปลงแหล่งที่มา
จึงรู้ได้ว่า"คนทุกคนนั้นมีความคิด"จิตไม่เคยหยุดนิ่งจากการปรุงแต่งแสวงหาทะยานอยาก
และความคิดนั้นเป็นทั้งกุศลและอกุศล ตามผลแห่งกรรมที่ทำมา ความคิดที่เป็นปัญหานั้น
คือความคิดที่ไร้จิตสำนึกแห่งคุณธรรม จึงคิดเพื่อตัวเองเพื่อให้ได้มาซึ่งความสำเร็จใน
"โลกธรรม คือ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข" จนลืมนึกถึงความทุกข์ของผู้อื่น จิตจึงไร้คุณธรรม
ไม่ละอายและเกรงกลัวต่อบาปกรรม
       แต่บางครั้งนั้น มีความคิด มีจิตสำนึกแห่งคุณธรรมก็ยังไม่เพียงพอเพราะว่าขาดซึ่ง
วิจารณญาณ ทำให้ไม่รู้จักกาลและเวลา กลายเป็นความศรัทธาที่งมงายแล้วเข้าไปยึดถือ
สังคมในทุกวันนี้จึงสับสนและวุ่นวาย ไร้ซึ่งความรักและสามัคคี มีการแบ่งสี แบ่งพวกกัน
โดยการปลุกปั่นของผู้ที่แสวงหาซึ่งผลประโยชน์ การโฆษณาชวนเชื่อ สงครามข่าวสาร
      วิถีแห่งชีวิตของผู้คนในสังคมนี้ จึงมีเพียงความคิด แต่ไร้จิตสำนึกและวิจารณญาณ
ไม่รู้จักกาลเวลาจังหวะโอกาศสถานที่และบุคคล ขาดความเคารพซึ่งเหตุผลของกันและกัน
ซึ่งสิ่งเหล่านั้นเราเคยได้มีประสพการณ์ ได้ผ่านเหตุการณ์เหล่านั้นมาแล้ว ในช่วงหนึ่งของชีวิต
ไม่มีใครถูกและไม่มีใครผิด แต่ทุกคนต่างขาดความคิดที่มีจิตสำนึกแห่งคุณธรรมและวิจารณญาณ
เหตุการณ์จึงได้เห็นอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้...
        ด้วยความปรารถนาดีและไมตรีจิต อยากจะให้ทุกคนมีความคิด มีจิตสำนึกและมีวิจารณญาณ
ในการเสพข่าวสารการรับทราบข้อมูล ที่ต่างฝ่ายต่างโฆษณาชวนเชื่อ เพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์
ของตนเองเป็นใหญ่ "ดีใส่ตัว ชั่วให้คนอื่น"หรือ"การพูดความจริงไม่หมด" ไม่อย่างนั้นแล้วท่านทั้งหลาย
จะกลายเป็นจิ้งหรีดที่เขาปั่นให้กัดกัน ผลประโยชน์นั้นตกแก่ผู้ชมผู้เชียร์และผู้มีส่วนได้เสียในเกมส์พนัน
      เชื่อมั่น-ศรัทธา-ปรารถนาดี-ด้วยไมตรีจิต-แด่มวลมิตรทุกผู้คน
               รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม-สมณะชายขอบ
๒๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๓ เวลา ๒๓.๔๗ น. ณ ชายขอบป่าห้วยขาแข้ง ลานสัก อุทัยธานี
 
 :059:หมายเหตุ...เล่าสู่กันฟังจากประสพการณ์ที่เคยคลุกคลีและทำงานการเมืองมาก่อนที่จะเข้าสู่เส้นทางธรรม
และจดจำอยู่เสมอกับคำนิยามของนักการเมือง "ไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร  ผลประโยชน์เท่านั้นนิรันดรน์"
หัวข้อ: ตอบ: วิถีีแห่งชีวิต...ความคิด-จิตสำนึก-วิจารณญาณ
เริ่มหัวข้อโดย: gottkung ที่ 22 ก.พ. 2553, 01:21:17
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ
และกราบขอบพระคุณสำหรับคำสอนเตือนสติครับผม
หัวข้อ: ตอบ: วิถีีแห่งชีวิต...ความคิด-จิตสำนึก-วิจารณญาณ
เริ่มหัวข้อโดย: ~เสน่ห์ack01~ ที่ 22 ก.พ. 2553, 08:43:56
อยากจะให้ทุกคนมีความคิด มีจิตสำนึกและมีวิจารณญาณ
ในการเสพข่าวสารการรับทราบข้อมูล ที่ต่างฝ่ายต่างโฆษณาชวนเชื่อ เพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์
ของตนเองเป็นใหญ่ "ดีใส่ตัว ชั่วให้คนอื่น"หรือ"การพูดความจริงไม่หมด" ไม่อย่างนั้นแล้วท่านทั้งหลาย
จะกลายเป็นจิ้งหรีดที่เขาปั่นให้กัดกัน ผลประโยชน์นั้นตกแก่ผู้ชมผู้เชียร์และผู้มีส่วนได้เสียในเกมส์พนัน



....กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ ขอบพระคุณที่เมตตาสอน...
หัวข้อ: ตอบ: วิถีีแห่งชีวิต...ความคิด-จิตสำนึก-วิจารณญาณ
เริ่มหัวข้อโดย: derbyrock ที่ 23 ก.พ. 2553, 09:04:52
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ ใช้สติกันให้มากๆจะได้ไม่ตกเป็นเครื่องมือของใครครับ
หัวข้อ: ตอบ: วิถีีแห่งชีวิต...ความคิด-จิตสำนึก-วิจารณญาณ
เริ่มหัวข้อโดย: Tiger Number NINE ที่ 23 ก.พ. 2553, 02:39:33
กราบขอบพระคุณพระอาจารย์ สำหรับแง่คิด และคติเตือนใจมนุษย์ครับ