แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - พัน ร. มทบ.๑๑

หน้า: [1]
1
ต้องใช้อะไรในการเป็นตัวประสานในการผสมมวลสารมงคลที่เตรียมไว้บ้างคับ
และขั้นตอนทำอย่างไรบ้างเวลาอุดมวลสารมงคลไว้ด้านหลังครับ

ขอบคุณครับ

2
ภาพที่1ด้านบนยันต์9ยอด
ภาพที่2ตรงกลางยันต์โสฬสมงคล
ภาพที่3ด้านล่างลายยันต์อะไรครับ.....ไม่เคยเห็นเลยครับ
ขอบคุณเจ้าของภาพลายยันต์นี้ด้วยนะครับ

ขอบคุณครับ


3
ในวันพฤหัสบดี 01/03/55 ไหว้พ่อปู่ฤาษีกาลสิทธิ์ วัดบางพระ


5
เห็นงานไหว้ครูในปีก่อนๆจะมีเสียงของหลวงพ่อเปิ่นด้วยครับ

6




ได้จัดนำมาบูชา1ดอกปลุกเสกในวันคล้ายวันเกิด ๒๕ มกราคม ๒๕๕๕
ตะกรุด นี้ท่านได้นำแผ่นตะกั่วที่รองฐานพระ รองตำราอักขระเลขยันต์ รองเศียรปู่สมิงพราย
ที่ใช้ครอบครูและสรรพวิชาของท่านเมื่อปี ๕๔
แผ่นตะกั่วทั้งหมดอยู่ฐานรองครูบาอาจารย์ท่าน ๑ ปี ท่านว่าไมเสกก็ขลัง ครูกูทำให้ทุกวัน เสกให้ทุกคืน
ท่านจารยันต์ คงมหาคง ลงในตะกรุดทุกดอก ปลุกเสกแบบปิดทวาร ข่มอาวุธ ข่มเขี้ยวงา เสี้ยนหนามทั้งปวง
หยุดเคาระห์ภัย หยุดศาสตราวุธ หยุดอันตรายทั้งอันเกิดจากคน สัตว์ สิ่งของ วิญญาณร้ายๆ

7
หนึ่งปีที่ได้ผ่านไปก็เหมือนกับแสงแห่งเทียนที่กำลังใกล้จะดับลงไปในวันข้างหน้า

8
แจกเหรียญแบบไหนในพานครูครับมีแบบเหรียญไหว้ครูบูรพาจารย์ หลวงพ่อเปิ่น ยังครับ

10
ชีวิตมนุษย์ เกิด แก่ เจ็บ และตายเป็นทุกๆคนที่จะต้องเจอและคงหนีไม่พ้น
ชาวสมาชิกเว็บวัดบางพระกลัวความตายในวันข้างหน้าหรือไม่ครับ

11
เหรียญล้อแม๊กซ์หลวงพ่อเปิ่นใส่กรอบทอง
รุ่นประสบการณ์เมื่อ5-6ปีมาแล้วหลังเดอะมอล์ท่าพระ เคยโดนวัยรุ่น3-4คนเข้ามารุมทำร้าย
เคยโดนตีด้วยขวดเบียร์ลีโอขวดแตกคามือแต่มือไม่เป็นอะไรเลยครับไม่เจ็บเลือดก็ไม่ออกครับแถมเกือบโดนขวดน้ำปลาด้วยแต่พวกวัยรุ่นเหมือนเห็นอะไรอยู่ข้างหลังผมด้วยวิ่งหนี้ขึ้นรถมอไซต์ที่พวกๆมันจอดไว้ครับ  
ผมคิดว่าครั้งนั้นรอดมาได้ก็เพราะเหรียญรุ่นนี้ครับ





12
เสือปืนแตกยันต์กลับ เนื้อตะกั่วพิเศษใหญ่สร้าง 995 ตัวแบ่งเนื้อตะกั่วใหญ่พิเศษออกมาไว้ในถาด96ตัว

ให้พระเกจิครับที่มาปลุกเสกเสือปืนแตกยันต์กลับจำนวน30รูปเจิมแป้งเพื่อความเข้มขลังมากยิ่งขึ้นครับ

ผมมีเสือปืนแตกยันต์กลับเนื้อตะกั่ว1ตัวที่ไม่เจิมแป้งและตอนปลุกเสกอยู่ใต้ถาดตรงหน้าพระเกจิ
และเสือปืนแตกยันต์กลับเนื้อตะกั่วอีก1ตัวผ่านมือพระเกจิเจิมแป้งลงบนเสือปืนแตกยันต์กลับให้ครับ













13
บูชาเนื้อตะกั่วมาอีก1ตัวทองแดง1ตัวเสือปืนแตกยันต์กลับ ฉลองอายุครบ ๘ รอบ พระผงหลวงปู่แย้มได้รับฟรีครับ  






14
ตร.บ้านรอดตาย ถูกวัยรุ่นกระหน่ำยิง เชื่อบารมีหลวงปู่ทวดคุ้มครอง


 เมื่อเวลา 03.00 น.วันที่ 20 พ.ย. ที่ จ.นครศรีธรรมราช  ร.ต.อ.เอกวิทย์ ศรีเกิด ร้อยเวร สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุยิงกันที่หน้าร้านสะอวกซื้อแห่งหนึ่งใน ต.ท่าวัง อ.เมือง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน ผู้บาดเจ็บ คือ นายสำราญ เสือทอง อายุ 30 ปี ชาวนครศรีธรรมราช ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .357 เข้าแขนขวา 2 นัด เจ้าหน้าที่จึงรีบนำส่ง รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช

 

 นายสำราญฯ กล่าวว่า ตนเป็นตำรวจบ้านทำงานประสานงานกับตำรวจในเขต อ.เมืองนครศรีธรรมราช ก่อนเกิดเหตุตนเองได้ขับรถจักรบยานยนต์ไปรับภรรยาทำงานที่โรงแรมแห่งหนึ่งแล้วได้แวะไปซื้อเบียร์ที่ร้านสะดวกซื้อในตลาดท่าวัง เมื่อจอดรถ ได้มีคนร้ายวัยรุ่นน่าจะไม่ต่ำกว่า 3 คน ขับรถยนต์กระบะไม่ทราบยี่ห้อทะเบียนมาจอดใกล้ๆ แล้วใช้อาวุธปืนขนาด .357 ยิงใส่ตน ครั้งยิง 2 นัด แต่ปืนด้าน ตนจึงหันไปดู แล้วได้ด่าวัยรุ่นดังกล่าว พอสิ้นเสียงด่าปืนก็ลั่นทันที 4
นัดซ้อน กระสุนโดนแขน 2 นัด เฉี่ยวท้อง 2 นัด


 จากนั้น คนร้ายก็ขับรถหลบหนีไปด้วยความเร็ว จึงแจ้งให้ตำรวจทราบเพื่อสกัดจับคนร้าย ส่วนสาเหตุตนเองไม่ทราบจริงๆ ว่าเหตุใดวัยรุ่นกลุ่มนี้ตามยิงตนเพราะไม่เคยมีเรื่องขัดแย้งกับใครรุนแรงถึงขั้นต้องตามเอาชีวิตกัน โชคดีที่ตนแขวนพระเครื่องหลวงปู่ทวด (รุ่นหลังเตารีดรุ่นปี 05) ทำให้กระสุนด้าน แต่พอตนด่าคนร้ายด้วยถ้อยคำหยาบคาย ทำให้ปืนลั่นทันที แต่กระสุนไม่โดนจุดสำคัญทำให้รอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด

ที่มา:ข่าวสด

15
อยากให้วัดบางพระจัดสร้างวัตถุมงคลโดยมีงานพิธีพุทธาภิเษกบ้างครับ



โดยล่าสุดวันที่ 21 ตุลาคม 2554 วัดกลางบางพระได้จัดให้มีพิธีพุทธาภิเษก
"วัตถุมงคลหลวงพ่อพุฒ รุ่นเหลือกินเหลือใช้มีไว้ไม่จน"
ประกอบด้วย พระบูชาหลวงพ่อพุฒ, พระเศรษฐีนวโกฏิ 3 นิ้ว, นางกวักสองมือ, วัวธนู, ตะกรุดต่างๆ โดยมี
หลวงปู่แย้ม วัดสามง่าม จุดเทียนชัย พร้อมพระเกจิอาจารย์ดังทำพิธีพุทธาภิเษก อาทิ หลวงพ่อปรีชา วัดเขาอิติสุคโต, หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน, หลวงพ่อชำนาญ วัดบางกุฎีทอง, หลวงปู่นิ่ม วัดพุทธมงคล, ครูบาสันยาสี และปู่ฤๅษีเกตุแก้ว เป็นต้น

16
1.เนื้อทองสตางค์และจะตอกเพียง 2 โค๊ต ซึ่งเรียกกันว่า “เสือกฐิน” ซึ่งทางวัดได้นำมวลสารก่อนจะจัดทำเสือ
ได้ให้หลวงปู่แย้ม วัดตะเคียนอธิษฐานจิตไว้เรียบร้อยแล้วครับ

2.ส่วนเสือ3ตัวในกล่องจำนวนหนึ่งจะถูกจัดอยู่ในกลุ่ม "จันทร์เพ็ญ" ซึ่งจะปลุกเสกเต็มวาระตามกำหนดการ จะตอก 3 โค๊ต
ซึ่งจะเรียกเสือรุ่นนี้ว่า "เสือจันทร์เพ็ญ" / "เสือยันต์กลับ" สร้าง 999 ชุด


















เสือรุ่นนี้ดูเข้มขลังสวยงามมากๆเลยครับมีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังทั่งเมืองไทยปลุกเสก24วัน1คืน
มีทั้งด้าน มหาอุตม์ คงกระพันชาตรี และเมตตามหานิยม

17
หลวงพ่อตี๋ วัดหูช้างทำพิธีเดือนพ็ญ ปี 54 วัดตะเคียนเป็นพิธีเงียบแต่เข้มขลัง
เพราะหลวงพ่อตี๋ท่านเป็นพระเถระที่รอบรู้ในวิทยาคม ขนาดหลวงปู่แย้ม ท่านยังชื่นชม


 













ในที่สุดก็ปลุกเสกเสร็จแล้ว24วัน1คืนเดือนเพ็ญส่วนผมก็รอทางศูนย์พระเข้าไปรับเสือรุ่นนี้ครับเพราะกติกาทุกศูนย์ต้องมารับจากมือจากท่านพระครูสมุห์สงบเท่านั้นไม่รับจากที่อื่นๆ จึงเชื่อมั่นได้ว่าเงินทุกบาททุกสตางค์
ที่ท่านบูชาจากศูนย์ฯ เป็นเงินที่มาถึงวัดจริง สมที่ทุกท่านตั้งใจ ขอขอบคุณเจ้าของภาพด้วยนะครับ



18
ต้นตำรับมนต์ขลังของเขมร

หลวงพ่อกอย วัดบึงเก่า(วัดเขาดินใต้) อำเภอบ้านกรวด บุรีรัมย์

คาถาบูชา  ปลุกเสกด้วยคาถากุมารทองให้เข้มขลังทรงพลัง

โอมปู่เจ้าฤาษีผู้มีฤทธิตาไฟ

ของจงถอดดวงใจใส่สถิตติดรูปกุมารทอง

กุมาระจุติ กุมาระกาโร โหติ สัมภะโว จงบังเกิดเป็นกุมารทองคะนองฤทธิ์

จิเจรุนิ จิตตัง เจตะสิกัง รูปัง นิมิตตังกุมาโร อาคัจเฉยยะ อาคัจฉาหิ เอหิ นะมะพะทะ สุมะโมโส

เจ้ากุมารทองเอ๋ย อย่าได้ละเลย ข้าจะใช้เจ้าไปหาเงิน

ขอให้เงินมา ข้าจะใช้เจ้าไปหาทอง ของให้ได้ทองมา ข้าจะให้เจ้าไปหาลาภ ขอให้ได้ลาภมา ข้าจะใช้ให้เจ้าไปหาโชค ขอให้พิชิตโชค

นาโมสังสิ นามานัง สะมาโส

อีกำนัลอยู่ใต้ฝ่าตีนข้า โอมพิชิต โอมชนะ อะยะมหาลาโภ มหาลามิ ลาภมา โอมรวยๆ ข้าใช้เจ้าให้ออกไปดึงทรัพย์ มาให้ขา ณ บัดนี้แล้ว

 อาคะโต อาคัจเฉยยะ อาคัจฉาหิ เพี้ยง!

19
พอดีได้ไปทำบุญมาครับเลยนำภาพในพิธีมาให้ชมครับ








20
ภาพพิธีงานปลุกเสือปืนแตก ๘ รอบ บารมี ๙๖


















21
"หลวงปู่ขุ้ย" พระเกจิเพชรบูรณ์มรณภาพแล้ว
เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม พระอธิการวิชัยรัตน์ ฐิตธัมโม หรือ "หลวงปู่ขุ้ย" เจ้าอาวาสวัดซับตะเคียน ต.ท่าด้วง อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์
เกจิอาจารย์ชื่อดังของ จ.เพชรบูรณ์ มรณภาพแล้วหลังเกิดอาการอาพาธจนต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาล เพชรบูรณ์เป็นเวลานาน
กระทั่งเมื่อเวลา 15.07 น.ของวันที่ 26 สิงหาคม หลวงปู่ขุ้ยอาการเริ่มทรุดหนัก เนื่องจากอาการติดเชื้อในกระแสโลหิต ประกอบกับชราภาพ
จึงได้ละสังขารไปด้วยสิริอายุรวม 91 พรรษา พระราชพัชราภรณื เจ้าคณะจังหวัดเพชรบุรณ์ พร้อมด้วยพระอาจารย์ลอย ธนปัญโญ รักษาการ
เจ้าอาวาสวัดซับตะเคียนและพระลูกวัด รวมทั้งนายสุชาติ ราษฎร์ดุษฎี ปลัดจังหวัดเพชรบูรณ์ นำสังขารของหลวงปู่ขุ้ยเดินทางกลับไปที่
วัดซับตะเคียนเพื่อตั้งบำเพ็ญกุศล โดยในวันที่ 27 สิงหาคม จะทำพิธีรดน้ำศพ โดยเปิดโอกาสให้ลูกศิษย์หลวงปู่ได้กราบไหว้

ที่มา: มติชนออนไลน์

22
ไม่ทราบว่าถ้าไปหาบูชาเศรียรพ่อแก่แถวๆวัดราชนัดดาแล้วนำมาให้พระเกจิอาจารย์ทางสายวัดบางพระเบิกเนตรจะได้ไหมครับ...แล้วต้องเตรียมอะไรบ้างครับ

23
ขอพระพุทธโธอยู่ในดวงจิต
พระธัมโมอยู่ในดวงใจ
พระสังโฆอยู่ในดวงหฤทัย
ส่องแสงสัจธรรมสว่างประกาย
ในจิตจนโชติช่วงชัชวาล
ด้วยธรรมศักดิ์สิทธิ์
สัมฤทธิ์ผลบันดาลดลสมปราถนาทุกป​ระการ

ขอขอบคุณนิตยสารพระเครื่องด้วยครับ

24
มีคนฝากถามครับทุกๆวันพระทางวัดบางพระรับสักยันต์ไหมครับ

25
หลวงพ่อเปิ่นรุ่นบูรณะศาลาการเปรียญ ปี35 พอดีได้มาฟรีครับ





ขอบคุณครับ


26
ผ้ายันต์ตรีนิสิงเหแจกงานเป่ามหายันต์ตรีนิสิงเห 19/5/54  ครั้งที่  ๑  ประจำปี  ๒๕๕๔

หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน สร้างมาตั้งแต่ปี ๒๕๔๘





27
สอบถามครับ

ฝากงานบุญต่างๆให้ทางทีมงานประชาสัมพันธ์ให้2งานแล้วไม่เห็นทางทีมงานประชาสัมพันธ์ให้เลยครับ  

เช่นงานฝากประชาสัมพันธ์งานที่1เป่ายันต์พรหมสี่หน้าครั้งที่11ของ หลวงพ่อชำนาญ วัดบางกุฎีทอง ก็ไม่ได้ประชาสัมพันธ์

ผมเลยตั้งกระทู้งานเป่ายันต์พรหมสี่หน้าครั้งที่11 ของ หลวงพ่อชำนาญ วัดบางกุฎีทอง ลงกระทู้เองเลยและก็โดนลบตามเคย

เจอแบบนี้ทุกครั้ง การตั้งกระทู้ใดๆ ที่เกี่ยวกับการเชิญชวนประชาสัมพันธ์ หรือโฆษณาบอกประกาศ รวมถึงบริจาคทำบุญในลักษณะต่างๆ ให้ส่งข้อความ (pm) แจ้งรายละเอียดไปที่ Contact Us เพื่อตรวจสอบก่อน เมื่อตรวจสอบความถูกต้องแล้วเห็นว่าสมควร ทางทีมงานจะเป็นผู้ตั้งกระทู้ให้เอง หากสมาชิกมีการตั้งกระทู้เองทีมงานขอลบทิ้งทั้งหมด

พิธีที่ประชาสัมพันธ์ก็เป็นงานของพระเกจิที่มีประชาชนคนไทยให้ความนับถือกันเป็นอย่างมากนะครับ

ในงานพิธีที่ประชาสัมพันธ์ก็ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้นอยู่แล้วและยังได้รับวัตถุมงคลแจกฟรีหลังเสร็จพิธีทุกๆครั้ง

แค่อยากให้สมาชิกเว็บวัดบางพระได้เข้าไปร่วมพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์โดยไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้นเท่านั้นเองครับ


ขอบคุณครับ

28
คาถาปลุกเพิ่มพลังให้กุมารทอง

ตั้งนะโม3จบ  

จิเจรุนิ จิตังเจตะสิกัง รูปัง นิมิตตังกุมาโรวากุมารีวา  อาคัจฉายะ  อาคัจฉาหิ เอหิ  เอหิ นะมะพะทะ  จะภะกะสะ  นะมะอะอุ  

นะโมพุทธายะ สิทธังพุทโธ  พุทธัง พุทธะ ลาภัง พุทโธ  พระอะระหัง  พุทธะนิมิตตัง  อิติ

29
:086:พี่น้องเว็บวัดบางพระมีท่านใดได้เคยไปกราบพระครูสุวรรณศีลาธิคุณ (หลวงพ่อพูน  ฐิตสีโล)วัดบ้านแพนบ้างครับ
วัดบ้านแพน  อำเภอเสนา  จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จากกรุงเทพ ต้องนั่งรถเดินทางสายไหนครับแล้วไปอย่างไรครับ
ช่วยแนะนำเส้นทางการเดินรถให้หน่อยครับ :086:

ขอบคุณครับ

30
ตะกรุดสัตตนาเค เป็นวิชาตะกรุดที่ 3
 พอหลวงพ่อทำสำเร็จแล้วท่านได้ทำตะกรดทองคำบูชาครู ทั้ง ๙ ดอก ๙ วิชา และตะกรุดทั้ง ๙ วิชานี้
หลวงพ่อจะจัดสร้างในงานไหว้ครูเป่ายันต์พรหมสี่หน้า ตะกรุดทั้ง ๙ ตำรามีดังนี้ ๑.อัฎฐอรหันตา ๒.พญาราชสีห์ ๓.สัตตนาเค ๔.นวะเทวา ๕.เอกยักขา ๖.ปัญจะพรหมมา ๗.ปัญจอินทรา ๘.เพรชฉลูกรรณเจวะ ๙.จตุเทวา


เป่ายันต์พรหมสี่หน้าครั้งที่ ๑๑ ปีกะต่าย มีฤกษ์สร้างตะกรุด สัตตนาเค
เป็นตะกรุดบารมีใหญ่ไม่ธรรมดา เพราะคำว่า สัตตนาเค แปลว่า พญานาคพิภพผู้ประเสริฐทั้ง ๗ หมายถึงพระพุทธเจ้า ๗ พระองค์
หรือ เรียกว่า" สัตตนาเคสัตตะโพชณังคาเจระ " หมายถึง " จักรพรรดิแห่งนาคา " หลวงพ่อลงยันต์องค์พระทั้ง ๗ แทรกด้วยมอญคาถา ม้วนถักลงว่านคลุมผิว


รูปอาจารย์เฮง ไพรยวัลย์ งานพิธีเป่ายันต์พรหมสี่หน้าครั้งที่11  




เหรียญ สร้างบาร มีเจริญพร เนื้อทองแดงและเนื้อนวะและเนื้อตะกั่วด้านหลังยันต์หลวงพ่อชำนาญท่านจารมือ





ผ้าเช็ดหน้า มูลนิธิพระพรหมหลวงพ่อชำนาญ







31
วันงานงานเป่ายันพรหมสี่หน้าครั้งที่ 11 หลวงพ่อชำนาญ วัดบางกุฎีทองผมได้ไปมาขลังมากจริงๆครับได้เจอกับตัวเองเลยครับ

[youtube=425,350]I-buqD9Kmzw[/youtube]



[youtube=425,350]O0Si9l6A5M8[/youtube]




[youtube=425,350]Q-SvrMLOfZ8[/youtube]



พอดีไปเจอมาในYouTube ขอขอบคุณ คนนำมาลงให้ชมด้วยครับ


32
9.30 หลวงพ่อชำนาญ อุตตมปัญโญ วัดบางกุฎีทอง จ.ปทุมธานี ปลุกเสกวัตถุมงคลมีดังนี้

1.ตะกรุดสัตนาเค
2.เหรียญ สร้างบาร มีเจริญพร
3.ผ้าเช็ดหน้า มูลนิธิพระพรหมหลวงพ่อชำนาญ
4.รูปอาจารย์เฮง ไพรวัลย์  งานพิธีเป่ายันต์พรหมสี่หน้าครั้งที่11




สิ่งศักดิ์สิทธ์ในบริเวณรอบๆวัดบางกุฎีทอง จ.ปทุมธานี










หลวงพ่อชำนาญอัญเชิญภาพครูบาอาจารย์ในงานนี้มี อ.เฮง ไพรวัลย์ และ หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ และภาพครูบาอาจารย์ท่านอื่นๆ
อีกมากๆมายครับ




33

Thanks: ฝากรูป

1.จำไว้คนเราไม่สำคัญหรอกว่า เราเกิดมาจะเป็นอย่างไร หรือจะมีอะไรเกิดขึ้นกับชีวิต

มันสำคัญที่ว่าเมื่อมีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นแก่ชีวิตเราแล้ว

เราคิดกับมันอย่างไรต่างหาก ถ้าใจเราคิดว่าดี มันก็ดี คิดว่าสุข มันก็สุข

ถ้าคิดว่ามันทุกข์ มันก็จะทุกข์ตลอด อย่าไปอาวรณ์กับเรื่องไม่ดีหรือน้อยใจกับเรื่องราวต่างๆที่ผ่านเข้ามา

เราจะต้องอยู่ต่อไปเพื่อทำสิ่งดีๆ ไปเรื่อยๆ


2.พวกเอ็งจำไว้ คนเราไม่มีใครอยู่จีรังยังยืน ทุกคนกำลังเดินไปสู่จุดจบทั้งนั้น หมั่นทำความดี  อย่างข้าหากเป็นอะไรไป
จะมีคนสองจำพวกมาหา พวกหนึ่งก็ว่า “เออ... ตายไปซะก็ดี ชอบบ่นเยอะจัง” อีกกลุ่มก็ว่า “ท่านไม่น่าตายเลย”

พวกเอ็งเลือกเอา จะเป็นพวกไหน จะนอนให้เขาว่าอย่างไหน ข้าไปข้าไม่ต้องกังวล ข้าไม่เคยทำบาป ข้าไม่เคยว่าร้ายคน
ช่วยเหลือคนตลอด พวกเอ็งล่ะ พยายามเร่งทำความดีไว้เยอะๆเถอะ เวร กรรม นรก สวรรค์ มีจริงนะหนีไม่พ้น

ขอขอบคุณ ลูกศิษย์หลวงพ่อชำนาญ อุตตมปัญโญ วัดบางกุฎีทอง ด้วยครับ



34
“หนุ่มกำแพงเพชรหนังเหนียว” คนร้ายดักยิง 2 นัด ไม่เข้า แค่ถลอก เชื่อหลวงพ่อเงินคุ้มครอง



วันนี้( 4 พ.ค.)ร.ต.อ.จักราวุฒิ สุภาพรประดับ ร้อยเวรสภ.เมืองกำแพงเพชร ได้รับแจ้งเหตุมีคนยิงได้รับบาดเจ็บมารักษาที่โรงพยาบาลกำแพงเพชร จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบคนเจ็บอยู่ในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล ชื่อนายขรรค์ชัย อินไหว อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16/1 บ้านมอเจริญ หมู่ที่ 13 ตำบลนาบ่อคำ อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร ได้รับบาเจ็บที่ข้อแขนซ้าย 2 แห่ง ที่หน้าท้อง 1 แห่ง ที่เหนือราวนมซ้าย อีก 1 แห่ง  ที่ นิ้วชี้ และหลังมือซ้าย บาดแผลมีลักษณะ เป็นรอยผิวหนังถลอกยาว 3 เซนติเมตร บางรอยแค่ผิวกำพร้าถลอกเป็นรอยจ้ำมีเลือดซึมออกมาเพียงเล็กน้อย แพทย์พยาบาลได้ทำความสะอาดบาดแผล และนำตัวเข้าห้องเอ็กซเรย์ตรวจภายในเนื่องจาก ผู้บาดเจ็บบอกว่าหายในไม่สะดวก แต่ไม่พบอาการผิดปกติแต่อย่างใด แพทย์ได้ให้นอนพักฟื้นดูอาการ
    สอบสวนนายสีมา อินไหว อายุ 58 ปี ญาติให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ก่อนหน้านี้ นายขรรค์ชัย และตนได้ไปช่วยบ้านงานบวชพระในหมู่บ้าน พอดึกต่างก็แยกย้ายเดินทางกันกลับบ้าน สักพักได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด นายขรรค์ชัย อินไหว ได้เรียกให้ตนช่วย จึงรีบออกไปดู พบนายขรรค์ชัยวิ่งถอดเสื้อมาหาตน พร้อมกับบอกว่าถูกคนร้ายดักซุ่มดักยิงขณะที่อยู่ข้างบ้านใกล้คอกวัว โดยเล่าให้ฟังว่ากำลังสะพายแบตเตอรี่ฉายไปไฟไล่ตุ๊กแก จากนั้นได้ยินเสียงดังคล้ายปืน 1 นัด นายขรรค์ชัยคิดว่าแบตเตอรี่ที่สะพายระเบิด จึงเดินขึ้นบ้าน จากนั้นมีเสียงปืนดังขึ้นอีก 1 นัด กระสุนทะลุฝาไม้บ้าน และสังกะสี จึงรู้ว่าดักซุ่มยิง จากนั้นได้รีบถอดเสื้อออกเพราะสีขาว กลังคนร้ายจะมองเห็นได้ชัด พร้อมเรียกให้ตนเข้าไปช่วย จากนั้นได้นำตัวส่งโรงพยาบาลดังกล่าว ขณะเดียวกันนายประพนธ์จอมคีรี อายุ 37 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 13 ได้เก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุส่งให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นปลอกกระสุนปืนลูกซองที่ยิงแล้ว เบอร์ 12 จำนวน 1 ปลอก และแบตเตอรี่ 1 ลูก สภาพถูกคมกระสุนทะลุไว้เป็นหลักฐาน
นอกจากนี้ยังมีพระที่นายขรรค์ชัยคล้องขณะเกิดเหตุ เป็นรูปหล่อหลวงพ่อเงิน 1 องค์ และตะกรุด 1 คู่ พร้อมกับเสื้อของคนเจ็บที่มีรอยกระสุนปืนทะลุ โดยเชื่อว่าเป็นเพราะพุทธคุณของหลวงพ่อเงินและตะกรุดที่ช่วยคุ้มครองให้คมกระสุนยิงไม่เข้า เพียงแค่ระคายผิว
ส่วนสาเหตุในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบข้อมูลว่าผู้บาดเจ็บ มีข้อพิพาทเรื่องปักเสาเขตล้ำที่นากัน  และมีเรื่องแย่งน้ำทำนา มีเรื่องลูกหลานทะเลาะวิวาทกับผู้อื่น และนำเรื่องลักอึ่งของคนอื่นมาพูดคุย จึงอาจเป็นสาเหตุให้ฝ่ายตรงข้ามเกิดความโกรธแค้น และแอบมาดักซุ่มยิงหลังจากกลับมาจากบ้านงานบวชพระกลางดึก แต่โชคดีที่ยิงไม่เข้า จึงบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยดังกล่าว.

ที่มา "หนังสือพิมพ์เดลินิวส์"

35
มีปาฎิหารย์เกิดขึ้นด้วยครับได้ยินคนรอบูชาพยัคราชเสาร์๕มหาเมตามหาอำนาจในวัดปริวาสราชสงครามพูดกันว่าเมื่อพิธี16/4/54ตอนปลุกเสกพยัคราชเสาร์๕มหาเมตามหาอำนาจได้ยินเสียงเสือคำรามของเสือตรงบริเวรที่ปลุกเสกครับ
คนมาร่วมพิธีได้ยินเสียงกันหมดครับส่วนพยัคราชเสาร์๕ 23/4/54ปลุกเสกใส่หัวใจเสือครั้งสุดท้ายครับ



Thanks: ฝากรูป


หลวงพ่อวงษ์ วํสปาโล วัดปริวาสราชสงคราม อาจารย์ของหลวงพ่อสมชาย  วัดปริวาสราชสงคราม

Thanks: ฝากรูป



หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว จ.พระนครศรีอยุธยา ครับ

Thanks: ฝากรูป


Thanks: ฝากรูป


หลวงพ่อสมชาย  วัดปริวาสราชสงคราม

Thanks: ฝากรูป


Thanks: ฝากรูป




Thanks: ฝากรูป


Thanks: ฝากรูป


หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว จ.พระนครศรีอยุธยา เตรียมประพรมน้ำพระพุทธมนต์ให้วัตถุมงคลครับ


Thanks: ฝากรูป




Thanks: ฝากรูป

รอรับเสือพยัคราชเสาร์๕มหาเมตามหาอำนาจหลังเสร็จพิธีครับ

Thanks: ฝากรูป

เสือพยัคราชเสาร์๕บูชามาครับเป็นเนื้อใบพัดเรือเก่าโบราณ
ส่วนตัวเล็กผมได้มา3ตัวหลวงพ่อสมชายท่านแจกฟรีหลังเสร็จพิธีครับ


Thanks: ฝากรูป


Thanks: ฝากรูป



37
จุดธูปขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์เทวดารักษาพระพุทรูปว่าเป็นไทยนี่แหละลูก!
ลูกขอสรงน้ำพระและเจริญพุทธานุสติขณะสงนำดุจได้อุปัฎฐากพระพุทธ
องค์ขอเทพเทวดาโปรดอนุโมทนายินดีเจ้าครับ
สรงน้ำเสร็จเสร็จแล้วก็จุดธูปอธิฐานดังนี้
สาธุ ลูกสรงน้ำพระจัดหิ้งพระใหม่ขอบารมีพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์พระธรรม
พระอริสงฆ์ เทพ พรหม พระโพธิญาณโปรดบัลดาลมงคลมาสถิตในองค์พระขอให้ลูกอยู่เย็นเป็นสุขและเจริญก้าวหน้าทรัพย์สินเงินทองข้าวของโชคลาภใหลมาเทมาตลอดปีนับแต่บัดนี้เป็นต้นไป สาธุ อิทธิฤทธิพุทธะนิมิตตังขอเดชะเดชังขอเดชเดชะจงมาเป็นที่พึ่งแก่ มะ อะ อุนี้ด้วยเทอญ สาธุ.

ที่มา..google

38
วันที่23/4/54ทางวัดบางพระมีงานพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคล เสาร์ 5 ไหมครับ

39
ฮือฮาปาฏิหาริย์ หลวงปู่ทวด กระสุนปืนไม่ลั่น

เฒ่าวัย 71 ปี เมาสุราไปเกลี้ยกล่อมสาวหมอนวดแผนโบราณ ให้ไปอยู่กินด้วยในฐานะภรรยา สาวเจ้าไม่เล่นด้วย โมโหชักปืนลูกซองสั้นจ่อยิงระยะประชิด 2 นัด แต่ปาฏิหาริย์กระสุนปืนไม่ลั่น ทำเอาตะลึงกันทั้งร้าน เชื่อพุทธคุณรูปหล่อลอยองค์หลวงปู่ทวดที่ห้อยคอ…

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 5 เม.ย. พ.ต.ท.ฉันทลักษณ์ จันวดี สารวัตรเวร สภ.นาโยง จ.ตรัง รับมอบตัวนายพันธ์ เหลือรักษ์ อายุ 71 ปี อยู่บ้านเลขที่ 104 ม.2 ต.นาชุมเห็ด อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ผู้ต้องหาคดีพยายามฆ่าผู้อื่น

นายพันธ์ ให้การว่า เมื่อเวลา 22.30 น.วันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้ใช้อาวุธปืนลูกซองสั้นจ่อยิง นางจารุวรรณ จินดาแจ้ง อายุ 49 ปี อาชีพหมอนวดแผนโบราณ อยู่บ้านเลขที่ 222/49 ม.6 ต.ภูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยพยายามสับไกปืน จำนวน 2 ครั้ง แต่เกิดมีปาฏิหาริย์กระสุนไม่ลั่น เหตุเกิดบริเวณหน้าร้าน ส.โพธิ์เวชนวดแผนโบราณ ตั้งอยู่เลขที่ 162/5 ม.4 ต.นาโยงเหนือ เขตเทศบาล ต.นาโยงเหนือ หลังหายตกตะลึงจึงขับรถหลบหนีไป ก่อนเข้ามอบตัวดังกล่าว

ด้านนางจารุวรรณ หมอนวดแผนโบราณผู้เสียหาย ให้การว่า นายพันธ์ ได้มาหาตนที่ร้าน พยายามพูดจาเกลี้ยกล่อมจะพาไปอยู่ด้วยในฐานะภรรยา แต่ตนปฏิเสธ ทำให้นายพันธ์ ซึ่งมีอาการมึนเมาสุรา โกรธ ชักปืนออกมาจ่อยิงตนในระยะประชิด ลั่นไกปืน 2 ครั้ง ท่ามกลางเสียงหวีดร้องของเพื่อนหมอนวดภายในร้าน โดยที่ตนได้จับสร้อยคอซึ่งห้อยรูปหล่อลอยองค์หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด ไว้แน่น คิดว่าต้องตายแน่แล้ว แต่ปรากฏว่ากระสุนปืนด้าน จึงวิ่งหลบหนีเข้าไปในร้าน แล้วรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่.

ที่มา ไทยรัฐออนไลน์



40
วัดคณิกาผลวันนี้3/4/53งานบุญงานมหากุศลเสริมสิริมงคลชิวิตดีมากๆสวดสะเดาะเคราะห์ร้ายให้เป็นเคราะห์ดีและได้สวดมนต์ถวายให้ในหลวงด้วยครับพร้อมสวดมนต์ไปให้ประเทศญี่ปุ่นและภาคใต้ให้มีแต่สิ่งที่ดีๆครับและวันนี้ได้ร่วมบุญเล็กๆน้อยสร้างตึกของวัดคณิกาผลพร้อมบูชาวัตถุมงคลมหากุศลราคาถูกเพื่อช่วยสร้างตึกเพื่อทำกิจของสงฆ์ครับแต่วัตถุมงคลแจกฟรีมากมายแตผมสู้แรงเบียดของคนไม่ไหวเหนื่อยครับเพราะแบกพระหลวงปู่ทวดคุ้มดวงไปปลุกเสกด้วยเลยได้วัตถุมงคลแจกฟรีได้มานิดหน่อยเองครับชมภาพเลยครับพร้อมของแจกมากมาย วัดคณิกาผลอยู่ตรงข้าม สน.พลับพลาไชย1ครับ


พระเศรษฐีนวโกฎิขนาด5นิ้วมวลสารปลุกเสกโดยหลวงปู่ผล วัดอินทราราม



พระกริ่งเนื้อกระเบื้องนิตยสารศักดิ์สิทธิ์สร้างและนำรายได้ทำบุญมอบถวายวัดคณิกาผล




วัตถุมงคลแจกฟรี

พระพิฆเนศ3สี



41
พอดีจะไปบูชาของแท้ไหมครับ







ต้องขอบคุณภาพจากเว็บPra4U

ขอบคุณครับ

42
พอดีเคยไปเลี่ยมอัดกรอบกันน้ำชั้นเดียวแต่เลี่ยมไม่ค่อยดีพอแกะออกมาแตกเลยครับ
ควรนำพระผงหลวงพ่อเปิ่นไปไว้ที่ไหนดีครับ
:054:

43
วัตถุมงคลทางวัดบางพระราคาบูชาเบาๆจริงๆครับเหมาะสำหรับนักสะสมบูชาจริงๆครับ
ผมว่าถ้านำวัตถุมงคลวัดบางพระลงในนิตยสารพระเครื่องได้เป็นดีเลยครับรู้สึกว่าสมัยก่อนตอนหลวงพ่อเปิ่นท่านยังอยู่รู้สึกว่าลงในนิตยสารนะโมนะครับ อยากให้ทั่วประเทศได้รู้ว่าวัดบางพระยังมีอะไรดีๆอีกมากมายแม้หลวงพ่อเปิ่นท่านจะมรณภาพไปนานแล้วก็ตามและจะได้เอาเงินมาบำรุงทางวัดบางพระสืบต่อไป

44
พอดีได้มาจานิตยสารพระเครื่องก่อนงานไหว้ครูปี54ครับของแท้ ไหมครับ





45
ได้มาแบบไม่ได้ตั้งตัวเลยอยู่ดีๆกล้วยบินมาหาครับ :075:




ของในวันบูชาครูปี54พี่ๆที่ทำงานเขาฝากครับผมว่ากำไลสวยดี

46
อย่าเสียใจในเรื่องอดีต
อย่าลังเลในเรื่องอนาคต
อย่าทุกข์ใจในเรื่องปัจจุบัน
จงมุ่งมั่นในสิ่งที่ตั้งใจ
ก้าวต่อไปในรากฐานของความดี

พระอาจารย์เกษมสุข เขมสุโข วัดประดู่ธรรมธิปัตย์ บางซื่อ กทม.เป็นศิษย์หลวงพ่อจำเนียร สีลเสฎโฐ วัดถ้ำเสือวิปัสสนา จังหวัด กระบี่.

47
ช่วยแนะนำสถานที่วัดเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงตั้งชื่อหน่อยครับ

48
จิ้งจก2หางทำจากกระดูกช้าง หลวงพ่อเอื้อน วัดวังแดงใต้ ต.วังแดง อ.ท่าเรือ จ.อยุธยา




49







ตะกรุดโทนพระเจ้าอมโลกวัดจัดสร้างครั้งเดียวเท่านั้น หลวงพ่อโฉม วัดตําหนัก ปทุมธานีบอกลูกศิษย์ว่าตะกรุดโทนพระเจ้าอมโลกทำยากมากๆผมไม่รู้เหมือนกันนะครับท่านบอกมา...สร้าง420..ดอกยาวประมาณ 3 นิ้ว..




50
:086:เสียใจและเครียดเหลือเกินพอดีไปพูดคำที่ไม่สุภาพไปใส่เขาเธอเลยหนีออกจากบ้านไปเช่าห้องอยู่แล้วผมอยากให้เธอกลับมาผมได้แฟนอายุมากกว่า3ปีไม่เป็นไรใช่ไหมครับผมขอโทษเธอก็แล้วครับสุดความสามารถจริงๆเหมือนเขาโกรธมากๆมีวิธีสริมดวงความรักคู่ครองบ้างไหมครับ :086:

51
ภาพงานพิธีสวดภาณยักษ์ 22-23 ประจำปี 2554 ณ วัดสว่างอารมณ์(แคแถว) จ.นครปฐม
เจ้าพิธีโดย..หลวงพ่อสูง และพระอาจารย์แป๊ะ (เจ้าอาวาสวัดสว่างอารมณ์)
ประวัติหลวงพ่อสูง เจ้าพิธีประวัติพระครูวรเวทวิศิษฏ์ (ประสิทธิ์ ปสิทฺธิโก) หรือชาวบ้านเรียกกันว่า "หลวงพ่อสูง" ที่มาของชื่อก็เนื่องมาจากความสูงของร่างกายท่านนั่นเอง เมื่อวัดความสูงของร่างกายตั้งแต่ปลายเท้าถึงศีรษะวัดได้ 2.32 เมตร ซึ่งนับได้ว่าท่านเป็นบุคคลที่สูงที่สุดในเอเชีย หรือหากนับในความเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนาแล้วท่านก็จะเป็นพระภิกษุที่สูง ที่สุดในโลก


คลิกชมที่ภาพเพื่อขยายใหญ่ดูได้เลยครับ

































ประวัติการสวดภาณยักษ์
การสวดภาณยักษ์ นั้นก็คือ การสวดพระอาฏานาฏิยปริตร โดยพระปริตรนี้ แบ่งเป็น2ภาค คือภาคภาณพระ และภาคภาคยักษ์ โดยตามพระพุทธประวัติกล่าวว่า หลังจากพระมหาบุรุษตรัสรู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วนั้น ท้าวจตูโลกบาลก็มาเข้าเผ้า พระพุทธเจ้าก็ตรัสกล่าวถึงพระพุทธวงศ์ คือพระนามพระพุทธเจ้าที่เคยตรัสรู้มาแล้ว (ภาณพระ) จากนั้นท้าวจตุโลกบาลก็มีดำริว่าบริวารของตนนั้นมีมากมาย ทั้งที่เป็นยักษ์ กุมภัณฑ์ นาค และคนธรรพ์ ซึ่งมีมายมากที่ไม่มีจิตเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา กลัวว่าจะมารบกวนพระสงฆ์สาวกที่ไม่มีฤทธิ์ ขณะจาริกและปฏิบัติวิปัสนากรรมฐานให้ได้ความเดือดร้อน จึงถวายพระปริตรนามว่า อาฏานาฏิยปริตร แด่พระพุทธเจ้า เพื่อให้พระสงฆ์นำไปสวดกัน(ภาณยักษ์) โดยในพระปริตรดังกล่าวจะกล่าวถึงพระนามของท้าวจตุโลกบาล ทั้งนี้เมื่อบริวารของท้าวจตุโลกบาล เมื่อได้ยินพระนามท้าวเธอก็ย่อมจะเกรงกลัวและเร้นกายไปไม่มารบกวน ดังนั้นความเชื่อของชาวพุทธ เวลาเกิดเหตุการณ์ร้ายไม่มีในบ้านเมืองก็จะนิมนต์ให้พระสงฆ์สวดภาณยักษ์ อย่างเช่นในสมัยต้นกรุงฯได้เกิดโรคห่า ยุดนั้นก็มีการสวดภาณยักษ์กันมากมาย แต่จริงๆแล้ว พระอาฏานาฏิยปริตร นั้นเวลาเรานิมนต์พระมาเจริญพระพุทธมนต์เย็น พระท่านก็จะสวดอยู่แล้ว เพราะพระปริตรดังกล่าวนั้นได้รวมอยู่ทั้งใน จุลราชปริตร(สวด 7 ตำนาน) และมหาราชปริตร(สวด 12 ตำนาน) อยู่แล้ว

การ สวดภาณยักษ์ได้เริ่มมีขึ้นในประเทศไทย เข้าใจว่ามีมาตั้งแต่สมัยของพ่อขุนรามคำแหง รับมาจาก พระสงฆ์ทางลังกาสายเถรวาท โดยเริ่มเข้ามาทางด้านจังหวัดนครศรีธรรมราช จนถึงสมัยของรัชกาลที่ ๕ เสด็จนครศรีธรรมราชจึงได้นำมาจัดเป็นพิธีประจำปี สำหรับพระนครเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่พระนคร และแก่พระเจ้าแผ่นดิน เพราะมีความเชื่อกันมาว่า บ้านเมืองหนึ่งๆ จะมีผีที่ดี และผีที่ไม่ดีอาศัยอยู่ ผีที่ไม่ดีเรียกว่า ภูติผีปิศาจ ส่วนผีที่ดีเรียกว่า เทพยดา และที่บ้านเมืองมีเหตุเพทภัยต่างๆเกิดขึ้น ก็เป็นเพราะเกิดจากภูติผีปิศาจ กลั่นแกล้งบันดาลให้เป็นไป ดังนั้นเมื่อสิ้นปีหนึ่งไป จึงได้ทำพิธีสวดภาณยักษ์ เพื่อเป็นการขับไล่ภูตผีกันสักครั้ง เพื่อความเป็นสิริมงคล และความร่มเย็นเป็นสุขของบ้านเมือง และแก่ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินทั้งปวง จึงเป็นสาเหตุ ที่มีการทำพิธีสวดภาณยักษ์กันขึ้นมานั่นเอง ภาณ หมายถึงการสวด สมัยก่อนการสวดภาณยักษ์มีอยู่สองแบบคือ สวดภาณวาร และสวดภาณยักษ์ ซึ่งการสวดทั้งสองอย่างนี้มีความแตกต่าง ภาณวาร เป็นการสวดแบบมีทำนองครุ ลหุ คือมีการเน้นเสียงหนักเบา ใช้น้ำเสียงสวดที่ไพเราะไม่ กระแทกกระทั้นดุดันเหมือนการสวดภาณยักษ์ ภาณยักษ์ เป็นการสวดที่มีน้ำเสียงกระแทกกระทั้นดุดันเกรี้ยวกราด และน่ากลัวจึงได้เรียกว่าสวดแบบภาณยักษ์นั่นเอง ใช้สวดเพื่อขับไล่ยักษ์หรือภูตผีต่างๆ  การสวดทั้ง สองแบบนี้ได้นำมาจาก อาฎานาฏิยสูตร ซึ่งเป็นพระสูตรที่อยู่ในพระไตรปิฎกว่าด้วยเรื่องของยักษ์ต่างๆ ที่พระพุทธเจ้าทรงปราบ มาดัดแปลงทำนองให้ดุดันและโหยหวน เพื่อเป็นการขับไล่สิ่งที่ไม่ดีให้ออกไป มีการจุดปืนใหญ่สมทบ เพื่อให้ภูตผีปิศาจเกิดความกลัวจะได้หนีไป แต่ในปัจจุบันใช้การจุดประทัดแทน บางตำนานก็บอกว่าการสวดภาณยักษ์นั้น เกิดจากเมื่อครั้งที่พระพุทธองค์ท่านได้ทรงโปรดเทศนาธรรม ให้กับพญายักษ์ที่มีชื่อว่า ท้าวเวสสุวัณ ซึ่งเป็นจ้าวแห่งภูตผีปิศาจทั้งหลาย แค่เอ่ยชื่อเพียงอย่างเดียว พวกภูตผี ปีศาจที่มีฤทธิ์เดชทั้งหลายยังต้องเกรงใจ ไม่กล้ายุ่งเกี่ยวต่อกรด้วย หลังจากที่ยักษ์ท้าวเวสสุวัณได้ฟังพระธรรม จากพระพุทธเจ้า ก็บังเกิดความซาบซึ้งในรสพระธรรมขึ้น จึงได้แต่งพระคาถาน้อมถวายแก่พระพุทธเจ้า ซึ่งก็คือคาถาสวดภาณยักษ์นั่นเอง เมื่อสวดคาถาบทนี้เมื่อใด เหล่าภูตผีปิศาจไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ก็ต้องยอมศิโรราบให้ เพราะเกรงกลัวในบารมีของท่านท้าวเวสสุวัณ พากันเผ่นหนีกันจ้าละหวั่นไปกันหมดท่านท้าวเวสสุวัณ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ท้าวกุเวร เป็นเทวาธิราชพระองค์หนึ่ง เป็นจอมเทพที่มีศักดาอานุภาพ และอิทธิฤทธิ์มาก ถึงแม้ว่าจะเป็นยักษ์(บางตำนานก็ว่าหน้าเป็นคน)ก็เป็นยักษ์ที่ใจดีมีเมตตา และมีศีลธรรมประจำใจ ด้วยฤทธิ์เดชอำนาจอันมากมายที่มีอยู่ จึงเป็นที่กลัวเกรงของเหล่าบรรดาภูตผีทั้งปวงและบรรดาเหล่ายักษ์มารทั้งหลาย รวมทั้งเทวดาชั้นผู้น้อย ทำหน้าที่ปกครองดูแลเทพเทวาในนครอันดับที่สี่ ซึ่งอยู่ในสวรรค์ชั้นที่หนึ่ง ในสวรรค์ชั้นนี้ก็มี เทพเทวดา อสูร นาค ราคสด คนธรรพ์ และพวกสัมพเวสีอาศัยอยู่ ดังที่ได้กล่าวมาดังนี้แล......
ที่มาจาก...วัดสว่างอารมณ์



52
คาถาหลวงพ่อทวีศักดิ์ ชุตินฺธโร (อดีตเสือดำ)
คาถามหาจินดามนต์ ค้าขายรุ่งเรือง
ปัญฺจะโมนิยา สุวะนัง วิถี โยสุวะโน ชาโต ธรรมมา จัตตังวา บุปผัง วาทังวา ราชะกุมาโรวา ราชากุมารีวา บัณฑิตโตวา บัณฑิตโจวา อิทธิโยวา ปิโสวาทา สะ ตาสีตาสัง พรมฺมณีวา พรมํมณีวา
สะมะเนโรวา ณ ราจุมา เอหิ เอหิ มานิ มามา ณ อะอุเมตตา จะ มหาเสนา ณ อะอุเมตตา จะ มหาชะนา ณ อะอุเมตตา จะ มหาราชา ณ อะอุเมตตา จะ มหาราชินี วาสัพพะ สเหน่หา จะ ปุชิตา สัพพะ ตุนา เมตตา จิตติ จิตตัง ภะวัน ตุตะระเตหิ จิตตัง มณีมา ปวงประชา เห็นหน้าข้าพเจ้า เมตตา จิตตัง มนุษย์ตัง หิยัง คะติตัง ภะเวราชา สัพเพ ชะนาพะหู ชะนา ตะเปติสา ตะมาคะตา การะโภชนา วิ การะโภชนา เอหิ มะมา เอหิ อิถถี เอหิ สะมาพรมฺมา อาภะ ลาภา เอหิ เอหิ เอหิ อิยังมามะ เอหิ

53
ชาวเว็บวัดบางพระท่านใดมีใครเคยผ่านช่วงเบญจเพศแล้วบ้างครับ และท่านชาวเว็บวัดบางพระแก้เบญจเพศด้วยวิธีใดบ้างครับ

54
ศิษย์ไม่มีครูเหมือนงูไม่มีพิษ          ศิษย์มีครูเหมือนงูมีพิษ

ศิษย์มีหลายครูเหมือนงูมีหลายพิษ   ศิษย์คิดล้างครูเหมือนงูที่หมดพิษ

ที่มา..หนังสือนิตยสารพระเครื่องนะโม

55
ทั้งหมดนี้คือเรื่องจริงครับ
มีใครเคยเห็นสัมพาเวสีบ้างครับพอดีแฟนผมเขาเคยเจอหน้าห้องครับตอนเช้าเลย8.00น.นั่งกลับพื้นครับตาแดง
และสัมพาเวสีเขาขอให้แฟนทำบุญให้เขาด้วยครับ ส่วนผมเคยเอาน้ำมนต์ไปสาดตรงประตูห้องแฟนผมไปดูหมอแบบใช้จิตองค์เทพนะครับ
เขาบอกว่าสัมพาเวสีที่อยู่หน้าห้องบอกว่าร้อน เมื่อโดนน้ำมนต์ผมครับอย่าราดน้ำมนต์ได้ไหม
และการทำบุญให้สัมพาเวสีต้องทำอย่างไรบ้างครับ

56
:017:กว่าผมจะได้พระผงขรัวโตหลังโต๊ะหมู่มาลำบากไม่ใช่เล่นเลยครับ
เพราะคนมารอรับพระผงขรัวโตหลังโต๊ะหมู่มากมายจริงๆครับ :017:








57
สมเด็จพระพุฒาจารย์ (ขรัวโต) วัดระฆังโฆสิตาราม ที่รฤก ชาตกาล
 “ขรัวโต” ครบรอบ ๒๒๒ ปี


คนไปร่วมพิธีมหาจักรพรรดิมหาพุทธาภิเษกพระอุโบสถวัดระฆังโฆสิตารามมากเหมือนกันครับ





ภายในพิธีมหาจักรพรรดิมหาพุทธาภิเษกพระอุโบสถวัดระฆังโฆสิตาราม

















ผู้คนที่เข้าร่วมพิธีรอรับของดีครับและมีภาพถ่ายติดดวงไฟลึกลับครับ













ขอบคุณครับ










58
แหวนหนุมาน รุ่นแซยิด 89 ปี บารมี ฟู ฟู ฟู หลวงพ่อฟู วัดบางสมัคร จ.ฉะเชิงเทรา เทพเจ้าแห่งลุ่มแม่น้ำบางปะกง








59


คอลัมน์ หน้าต่างศาสนา

ปราณสุวีร์ อาวอร่ามรัศมิ์ กองพุทธสารนิเทศ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ



พุทธศาสนิกชน ที่เคยร่วมพิธีประกอบการบุญการกุศลในทางพระพุทธศาสนา คงได้เคย "กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศล"

'กรวดน้ำ' ตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน ให้ความหมายไว้ว่า "แผ่ส่วนบุญด้วยวิธีหลั่งน้ำ"

ตามประเพณีไทยใช้หลั่งลงในภาชนะอย่างใดอย่างหนึ่ง ในเวลาประกอบการกุศล เช่น การให้ทานเสร็จแล้ว ตอนที่พระอนุโมทนา คือ สวดบท ยถา วาริวหา ฯลฯ ก็เริ่มกรวดไปหยุดตอนถึง มณิ โชติรโส ยถา ก็นำน้ำที่กรวดแล้วนั้นไปเทลงบนแผ่นดิน

ในตำราเก่าๆ รวบรวมไว้โดย 'นาค ใจอารีย์' กล่าวถึงจุดประสงค์ของการกรวดน้ำเพื่อแสดงเจตนาบริจาคอย่างแท้จริงและเด็ดขาด ปราศจากความตระหนี่เหนียวแน่น เป็นการบริจาคด้วยน้ำใจอันบริสุทธิ์ มิได้หวังผลใดๆ ตอบแทนจากผู้รับบริจาคเลย เหมือนน้ำใสสะอาดปราศจากมลทิน ที่ได้หลั่งออกนั้น

เพราะคำว่า กรวดน้ำ บางที่เราก็ใช้เลยไปถึงหมายความว่าตัดขาดก็มี เช่น ในเมื่อมีใครมายืมเงินหรือสิ่งของของเราแล้ว เผอิญผู้นั้นไม่ได้ใช้แล้วตายไป เมื่อเราจะสละให้เขาเสียเด็ดขาด ไม่ทวงถามอีกต่อไป เรามักจะกล่าวกันว่า กรวดน้ำคว่ำขันให้เขาไปเสีย

บางครั้งเพื่อแสดงความปรารถนาอันเป็นความตั้งใจมั่นซึ่งเรียกว่า อธิษฐาน ที่ตนต้องการผลสำเร็จอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น พระเวสสันดรบริจาคพระโอรสและพระธิดาแก่ตาเฒ่าชูชกก็ตั้งปรารถนาว่า "ด้วยเดชผลทานในครั้งนี้ จงสำนึก จงสำเร็จแก่พระสร้อยสรรเพชรพุทธรัตนอนาวรญาณในอนาคต กาลโน้นเถิด"

เพื่อแสดงถึงความเป็นผู้มีใจกว้างขวาง ประกอบด้วยเมตตาธรรม โดยตั้งใจอุทิศส่วนกุศลที่ตนได้ทำนี้ เผื่อแผ่ไปในญาติมิตร สหาย และสรรพสัตว์ทั่วไป ไม่เลือกหน้า ดังจะเห็นได้ว่าในบทกรวดน้ำทุกบทจะมีคำแผ่ส่วนกุศล ให้คนและสัตว์ตลอดถึงเทพเจ้าทั่วไป ให้ได้มีส่วนได้รับผลบุญที่ตนได้กระทำเสมอ

อีกประการหนึ่งเชื่อกันว่า น้ำที่กรวดนี้เมื่อนำไปเทลงบนแผ่นดินแล้วแม่พระธรณีจะรับด้วยมวยผมเก็บรักษาไว้ให้เพื่อเป็นพยานว่า ผู้นั้นได้ทำบุญกุศลไว้มากน้อยเท่าไหร่ เมื่อถึงคราวคับขันที่มีความจำเป็นจะต้องขอความช่วยเหลือให้ขจัดปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายทั้งหลาย จะได้อ้างเป็นพยาน ช่วยปราบปรามเหล่าปัจจามิตรให้พินาศพ่ายแพ้ไปได้ เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราได้เคยทรงอ้างมาแล้ว แม่พระธรณีก็ได้มารีดมวยผมให้น้ำท่วมเหล่ามารร้ายพ่ายแพ้ไป

นี่ท่านกล่าวเปรียบเทียบให้เห็นเป็นตัวบุคคลขึ้น แต่ถ้าจะกล่าวเป็นทางธรรม แม่พระธรณีนั้นก็คือ บารมีอันได้แก่คุณงามความดีต่างๆ ที่พระองค์ได้ทรงบำเพ็ญสะสมมาในอเนกชาติ แม้ด้วยการกรวดน้ำเพียงนิดหน่อย แต่ละครั้งที่ทำบุญกุศล

ก็มากมายเหลือเกินจนเทียบได้กับน้ำในมหาสมุทร

ที่มา ขอขอบคุณข่าวสดรายวันด้วยครับ

60





สมาชิกวัดบางพระท่านใดมีใครรู้จักพระฤาษีพยัคฆราชมุนี(อาจารย์พล พยัคฆราช) บ้างครับ
มีคนพูดกันว่าท่านสามารถเป่าทองคำเปลวให้ทะลุกระดาษโดยไม่ต้องเปิดออกเข้าไปในกระโหลกได้ด้วยครับและท่านสามารถเรียกทองในตัวออกมาได้ด้วยครับ

61

รูปหล่อโบราณ ขนาดห้อยคอ รุ่นแรก จัดสร้าง 500 องค์ หล่อนำฤกษ์

หลวงพ่อพูน เจ้าอาวาสวัดบ้านแพน เจ้าคณะอำเภอเสนา

ชนวนเก่าของวัดบ้านแพนที่เหลือจากการเททอง

พระพิชิตมารโมลีโลก และ พระพุทธสีหิงค์ ผ่านพีธีพุทธาภิเษก พ.ศ.2502  ณ.วัดบ้านแพน











62
กำไลรวยใหญ่-กำไรงาม เป็นกำไล สมัยใหม่ที่ไม่เหมือนกำไลพระ ใส่แล้วเป็นเครื่องประดับแนวแฟชั่นได้ ใต้ทองกำไลมีคำว่า "ความสุข ร่ำรวย กำไร ห้ามจน ความเจริญ" โยงไปโยงมา ใครจะปรารถนาคำไหนก็เชิญได้ไม่ผิดกติกา วัดบางกุฎีทอง ถนนติวานนท์ ต.บางกะดี อ.เมือง จ.ปทุมธานี








63






หลวงพ่อสร้างจากชนวนเก่าชั้นดี ระฆังเก่าขันลงหิน ชนวนพระกริ่งก่อนปี 2500 หลายวัด พระเก่าๆ มากมาย ท่านจึงปลุกเสกและนำมาสร้างรูปเหมือนปั๊มรุ่นนี้ ช่างแกะพิมพ์ห่มผ้าแบบ ห่มมังกร" ดี มีอำนาจ พอแกะแบบเสร็จ และลงมือปั๊มตัวอย่างมี เม็ดกลมเล็กๆ มือหลวงพ่อมีลูกแก้วอยู่บนมือ ท่านบอกว่า ไม่ต้องเอาออกถือลูกแก้วนี่ดีอยู่แล้ว แก้วสารพัดนึกดี ขอได้ตามใจปรารถนา เห็นผลเร็วดี

64
เหรียญพรหม 4 หน้า" หลังมีคำว่า "ร่ำรวยร้อยล้าน การงานรุ่งเรือง มีชัยทุกทิศ วาสนาดีทุกที่" ลงจารทุกองค์







65
พระปิดตาแห่งโชคลาภ รุ่น คูณ ๘๘ มหาเศรษฐี หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ วัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา
 และพระเกจิคณาจารย์อธิฐานจิตมวลสาร 108 รูป มีพระอาจารย์อภิญญา (หลวงพี่ญา) วัดบางพระ ด้วยนะครับ












66


คนร้ายรัว M16 กว่า 30 นัด ถล่มผู้ใหญ่บ้านชื่อดัง อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง ดับคารถ ระหว่างกลับจากปัตตานี คาดปมขัดแย้งธุรกิจถมที่

       เกิดเหตุยิงกันตายที่หลัก กม.ที่ 44 หมู่ 2 อ.นาหม่อม จ.สงขลา หลังตำรวจ สภ.นาหม่อม เข้าไปตรวจสอบพบรถยนต์กระบะโตโยต้า วีโก้ สี่ประตู สีดำ ทะเบียน กย 6271 สงขลา ซึ่งเสียหลักตกลงไปอยู่ในคูข้างทาง โดยที่ บริเวณรอบๆ ตัวรถมีร่องรอยของกระสุนปืน M16 ยิงจนพรุน กว่า 20 นัด ภายในรถพบ นายอำพล คงเนียม อายุ 40 ปี หรือ ผู้ใหญ่พล ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 8 ต.ดอนประดู่ อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง เป็นผู้ใหญ่บ้านชื่อดังของ อ.ปากพะยูน เสียชีวิตจมกองเลือด อยู่ที่เบาะที่นั่งคนขับ โดยถูกยิงด้วยอาวุธปืน M16 เข้าที่ศีรษะและลำตัวจนพรุน 10 นัด ในตัวยังพบอาวุธปืน 11 ม.ม. รวมทั้งยังมีเสื้อกันกระสุนอีก 1 ตัว ซึ่งคาดอยู่ที่เบาะหลัง รวมทั้งพระเครื่องเกจิดัง อีก 5 องค์ ที่ถูกยิงจนขาดจากคอ นอกจากนี้ยังพบผู้เสียชีวิตอีก 1 คน คือ นางสมพิตร หรือ สาว ปลาทอง เพื่อนสาวของผู้ตายที่นั่งมาด้วยกัน

      จากการสอบสวนทราบว่าขณะเกิดเหตุ นายอำพล พร้อมเพื่อนสาวซึ่งทำธุรกิจร่วมกัน ได้เดินทางกลับจากทำธุระที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งคาดว่ามีคนร้ายอย่างน้อย 3 คน ขับรถยนต์กระบะไม่ทราบชนิด ตามประกบยิง เบื้องต้นตำรวจเชื่อว่าน่าจะมีสาเหตุมาจากความขัดแย้งเกี่ยวกับธุรกิจรับ เหมาถมที่ ซึ่งนายอำพล ทำอยู่ ซึ่งจะสอบสวนและหาเบาะแสของคนร้ายต่อไป


ขอขอบคุณข้อมูลจาก




67
สีผึ่งเมตาค้าขายรวม 999 อาจารย์ในประเทศไทย
ผมได้สีผึ่งเมตาค้าขายมานิดเดียวเองครับผม สีผึ่งเมตาค้าขายหอมๆครับ






69
ก่อนนอนหลับทุกครั้ง หรือทุกคืน ก่อนนอน 1 ช.ม. หรือ 2 ช.ม.บวกเวลาท่านหลับอีก 6-7 ช.ม. รวมแล้วเกือบ10 ช.ม. ยกมือไหว้พระ ถ้าเจ็บมือ ยกมือไม่ได้ ก็ไม่ต้องยกมือ ใช้ใจนึกถึงพระพุทธรูปที่เรานับถือ ขอถือศีล5ตั้งแต่เวลานี้จนถึงตื่นนอน
การสมาทานศีล5หรือศีล8
ก่อนนอนนี้ไม่จำเป็นต้องทำในห้องพระและไม่ต้องจุดธูปเทียน ท่านนอนตรงไหนขอให้ถือศีลตรงนั้น
เช่นนอนบนโซฟา นอนบนโต๊ะหรื่อนอนที่ไหนๆก็ตามทำได้หมดเมื่อท่านหลับไปแล้วถือเป็นผู้ทรงศีล มีศีลที่บริสุทธิ์ เพราะท่านไม่ผิดศีลสักข้อเลย   

:017:ที่มาการทำบุญง่ายๆในขณะนอนหลับ โดยพระอาจารย์เกษมสุข เขมสุโข วัดประดู่ธรรมธิปัตย์ :017: 

70
ทุกครั้งที่มีคนรอดชีวิตจากอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็นทางรถยนต์ รถไฟ เครื่องบิน เรือ รวมทั้งรอดจากการถูกทำร้าย ประชาชนส่วนมากไม่ว่าจะเป็นตำรวจ อาสาสมัคร นักข่าว และผู้ประสบเหตุการณ์ที่ผ่านมา มักจะสอบถามว่า "ห้อยพระอะไร" หรือ "มีของดีของขลังอะไรติดตัว"

ขณะเดียวกัน ผู้รอดตายจำนวนไม่น้อยก็มักจะโชว์ของขลังที่ติดตัว ถ่ายลงหน้าปกหนังสือพิมพ์ชั้นนำหน้าหนึ่งให้เห็นอยู่เป็นประจำ

นอก จากนี้แล้ว ในคอลัมน์ "พระเครื่องคู่ใจคนดัง" ของหนังสือพิมพ์ "คม ชัด ลึก" หลายท่านยืนยันว่า "วัตถุมงคลเคยแสดงปาฏิหาริย์ช่วยชีวิตตนเอง"

ถ้า เชื่อว่า พระเครื่องและวัตถุมงคลแสดงปาฏิหาริย์ได้ แล้วในกรณีของชาวต่างชาติ เขาก็มีอุบัติเหตุและมีคนรอดตายจากอุบัติเหตุ เขาเหล่านั้นไม่มีวัตถุมงคล
หรือพระเครื่องของไทย หรือมีเครื่องรางของขลังทางศาสนาของเขาติดตัวแต่ก็รอดตายอย่างปาฏิหาริย์ เช่นกัน

ในขณะที่คนไทยจำนวนไม่น้อยรอดตายโดยไม่มีวัตถุมงคลติดตัวเลยสักชิ้นเดียว ผู้ที่รอดตายเหล่านี้มีอะไรดีกว่าวัตถุมงคลหรือ

" ต้องเอาเรื่องบุญที่ทำไว้ในอดีตชาติและชาติปัจจุบันมาอธิบาย โดยเฉพาะบุญที่ว่าด้วยการช่วยชีวิตคน ช่วยชีวิตสัตว์ให้รอดตายอย่างหวุดหวิดบุญนี้จะติดตามตัวผู้นั้นไปและรอการ ส่งผลบุญอาจชาตินี้หรือชาติต่อๆ ไป เมื่อเขาผู้นั้นต้องตกอยู่ในอันตราย บุญที่เคยช่วยชีวิตคนให้รอดตายอย่างตายอย่างปาฏิหาริย์ พระพุทธเจ้าทรง ตรัสสอนไว้ว่า สัตว์โลกต้องเป็นไปตามกรรมที่ตนกระทำทั้งดีและไม่ดี กุศลกรรมและ(อกุศลกรรม) และวิบากกรรม คือ ต้องได้รับผลของกรรมไม่ช้าก็เร็ว ไม่ชาตินี้ก็ชาติต่อๆ ไป"

นี่คือคำอธิบายของ พระอาจารย์เกษมสุข เขมสุโข พระลูกวัดประดู่ธรรมธิปัตย์ บางซื่อ กทม. พระนักจัดรายการวิทยุ และผู้แต่งเทศน์เพลง

ทั้ง นั้นพระอาจารย์เกษมสุข อธิบายให้ฟังว่า การช่วยชีวิตคนมี ๓ ประเภทใหญ่ๆ คือ
๑.การช่วยชีวิตคนด้วยกาย
๒. การช่วยชีวิตคนด้วยวาจา และ
๓. การช่วยชีวิตคนด้วยใจ

การ ช่วยชีวิตคนด้วยกายกับวาจา ประชาชนท่านผู้อ่านพอจะเดาได้ เช่น หมอช่วยรักษาจนรอดตายหรือบางคนพูดช่วยจนคนหนึ่งไม่ต้องถูกฆ่าตายเพราะคนนั้น มาพูดขอร้องไว้หรือขอชีวิตไว้ ทำให้เขาคนนั้นๆ รอดตาย

การ ช่วยชีวิตคนด้วยวาจาอีกวิธี เช่น เราว่ายน้ำไม่เป็นแต่พบคนตกน้ำ ตะโกนร้องให้คนอื่นมาช่วยแล้วมีคนมาช่วยทัน ถ้าเราไม่ตะโกนบอกคนที่มาช่วยเขา ไม่ เห็นเหตุการณ์ จึงไม่ได้วิ่งมาช่วย คนนั้นก็จมน้ำตายไปแล้ว หรือพบไฟไหม้บ้านตึกแถวมีเด็กผู้หญิงติดลูกกรงเหล็ก ตะโกนบอกให้คนมาช่วยเป็นเหตุให้เขารอดตาย จากไฟไหม้ หรือนั่งอยู่เห็นรถพุ่งเข้ามาบนฟุตบาทเข้าหาคนนั่งกินอาหารหันหลังให้รถ
คน เห็นเหตุการณ์ตะโกนบอกให้คนนั่งหลบรถ เขาจึงหลบทัน เขารอดตายหวุดหวิด เราได้บุญแบบช่วยชีวิตคนด้วยวาจาแต่ได้บุญน้อยกว่า
คน ที่ช่วยชีวิตคนด้วยกาย เพราะ เขาทุ่มเทและเสี่ยงมากกว่าคนแค่ร้องตะโกน หรือรีบไปบอก ไม่ว่าจะเป็นคนดีหรือคนร้ายให้รีบหนี เพราะมีคนจะมาฆ่า

หรือ ตำรวจจะมาทำวิสามัญฯโจรรีบหนีไปได้หวุดหวิด คนมาบอกจะมาเองหรือโทรศัพท์มาบอกหรือส่งคนมาบอก อยู่ในกลุ่มช่วยชีวิตคนด้วยวาจา (มีทั้งคนดีและคนร้าย) บุญนี้จะติดตามตัวเขาไปอาจให้ผลในชาตินี้หรือชาติต่อๆ ไป

การ ช่วยชีวิตคนด้วยกาย มีหลายกรณี เช่น ขับรถผ่านไป พบผู้ประสบอุบัติเหตุ หลายคนไม่กล้าช่วย กลัวเลือดเปื้อนรถ กลัวตายในรถ กลัวผี กลัวถูกกล่าวหาว่า เป็นคนชนคนเจ็บ คนมีน้ำใจจิตเมตตาจึงช่วยคนเจ็บ ส่งโรงพยาบาล ถ้ามาถึงโรงพยาบาล ช้ากว่านี้ คนป่วยจะเสียชีวิต การช่วยชีวิตคนให้รอดตายด้วยกายอีกวิธีเช่น พบคนจะจมน้ำแล้วโดดลง ไปช่วยทำให้เขารอดตายอย่างหวุดหวิด

"การทำบุญด้วยชีวิต ถือว่าเป็นบุญอันยิ่งใหญ่ สิ่งที่ทุกคนทำได้ คือ การบริจาคโลหิต บริจาคพลาสม่า บริจาคอวัยวะ ร่วมทั้งบริจาคร่างกาย
หลัง จากหมดลมหายใจแล้ว เพื่อต่อชีวิตให้ผู้อื่น ส่วนการช่วยชีวิตสัตว์ก็มีอานิสงส์เช่นกัน เพียงแต่ว่าได้บุญน้อยกว่าการช่วยชีวิตคน" พระอาจารย์เกษมสุขกล่าว

ทั้งนี้พระอาจารย์เกษมสุข ได้อธิบายถึงการช่วยชีวิตคนด้วยใจด้วยว่า ไม่ใช่ส่งใจไปช่วยใครแค่นี้ไม่สำเร็จผล การสำเร็จผลต้อง

ทำ ให้เขาผู้นั้นรอดชีวิตจาก อุบัติเหตุได้จริงด้วยพลังจิต พลังจิตจะต้องแก่กล้าถึงฌานสมาบัติ อย่างน้อยต้องได้ถึงฌาน ๔ ขึ้นไปแล้วอธิษฐานจิตลงไปในพระเครื่อง หรือวัตถุมงคลขอให้วัตถุมงคลนี้ คุ้มครอง อุบัติเหตุอันตรายอย่างเกิดขึ้นกับผู้ที่มีติดตัว พระอาจารย์เกษมสุข พูดไว้อย่างน่าคิดว่า "เมื่อผ่านไปพบ ผู้ประสบอุบัติเหตุไม่ว่า ด้วยเหตุอะไรก็แล้วแต่ จง หยุดช่วยเขาก่อน อย่าคิดว่าธุระไม่ใช่ เดี๋ยวคนอื่นๆ ก็จะมาช่วยเขาเอง การรอคนอื่นมาช่วยอาจะทำให้เขาเสียชีวิตก่อนที่จะถึงมือหมอก็ได้ และ หากวันใดวันหนึ่งท่านต้องประสบอุบัติเหตุบ้าง ร้องขอให้คนมาช่วยชีวิตแล้วไม่มีใครช่วย ท่านอาจจะฉุกคิดได้ว่ารู้อย่างนี้น่าช่วยคนอื่นก่อน แต่มันก็สายไปเสียแล้ว"


71
หลวงปู่ทวดคุ้มดวง-สมเด็จพระพุทธจารย์โตคุ้มดวงมวลสารใต้ฐานดีมากๆเลยครับ







พระอาจารย์เกษมสุข เขมสุโข วัดประดู่ธรรมธิปัตย์ บางซื่อ กทม. ท่านได้ศึกษาอาคมต่างๆมาหลายพระเกจิอาจารย์ครับ

72
:054:ถ้าท่องคำขอบวชพระไม่ได้แล้วจะได้บวชพระหรือไม่ครับอยากบวชสัก15วัน
ต้องท่องคาถาอะไรบ้างครับกลัวจำไม่ได้ครับเพราะกลัวตื่นเต้นครับ
 แต่ส่วนตัวผมสามารถท่องคาถาชินบัญชรโดยไม่ต้องดูหนังสือได้นะครับ :054:

73
ตะกรุดโทน หลวงพ่อเพี้ยน อคฺคธมฺโม จารด้วยมือหลวงพ่อเองทุกดอก และม้วนถักเชือก ปลุกเสกเดี่ยวตลอดไตรมาส ปี 53 ในพรรษา 3 เดือน









ขอขอบคุณข่าว วัดเกริ่นกฐิน ลพบุรี

74
 :086:การซักเสื้อผ้ารวมกับกางเกงทำงานกางเกงในด้วยที่ใส่ทกๆวันและได้ใส่พระเครื่องต่างๆเครื่องรางทุกๆวันคิดว่าผิดหรือไม่ :086:

75







หลวงพ่อเปิ่นที่ติดตัวเวลาไปทำงานทุกๆวันครับ




76
MV ขอความสุขคืนกลับมา

[youtube=425,350]abMuqCqSPn8[/youtube]



:090: ผมขอให้คนไทยทุกๆคนมีความสุขตลอดไปครับ  :090:

77




น่าอัศจรรย์ ! หลวงพ่อชำนาญเจิมและเชิญธงขึ้นเหนือมณฑลพิธีเป่ายันต์พรหมสี่หน้า ครั้งที่ 10
ฝนหยุดตก ฟ้าเปิดในทันทีท่ามกลางศิษยานุศิษย์กว่าหมื่นคน


























ปิดท้ายด้วยมหกรรมความวุ่นวายเล็กน้อยที่เกิดขึ้นท่ามกลางคนหมู่มากที่เบียดเสียดกันเพื่อเข้าแถวเข้าไปรับวัตถุมงคลจากองค์หลวงพ่อชำนาญที่ท่านเมตตามอบให้จากมือท่านเองครับ


78






พระผงหลวงปู่ทวด เนี้อดินกากยายักษ์ผสมผงไม้งิ้วดำ
พีธีพุทธาภิเษก ณ มณฑลพีธีวัดเขาแหลม วันเสาร์ที่ 13 ต.ค. 50 และ ประกอบพิธีพุทธาภิเษกอีกครั้ง ณ คณะ 1 วัดสุทัศน์ วันที่ 20 ต.ค.50

79


ชานหมากถักลายธงชาติ หลวงปู่ขุ้ย วัดซับตะเคียน

ผมได้ไปบูชาชานหมากหลวงปู่ขุ้ยถักลายธงชาติแบบฟรีๆครับ

80



หลวงพ่อเสาร์ วัดดอนหญ้านาง ตะกรุด ลูกปืน โปร่งฟ้า



หลวงพ่อจำลอง  วัดเจดีย์แดง  จ.อยุธยา



ตะกรุดนะจับจิต-พระเจ้าจับใจ หลวงปู่ขุ้ย วัดซับตะเคียน จ.เพชรบูรณ์

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


81
หากคุณเป็นคน ๆ หนึ่งที่เล่นของไม่ขึ้น หรือใช้เครื่องรางของขลังไม่ได้ผล ไม่ว่าจะบูชาอะไรไปที่เขาว่าแรงว่าดีเขาใช้ได้ผลกันแต่พอบูชาไปแล้วเฉย ๆ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เป็นเพราะ

1. เคยลบหลู่พระรัตนตรัย พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เคยลบหลู่บุญคุณบิดามารดา ผู้ที่ควรเคารพบูชา หรือเคยลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทพเทวดา หรือครูบาอาจารย์ หากไม่แน่ใจว่าเราเคยทำมาหรือไม่ ให้หาพวงมาลัยดอกไม้ ธูปเทียน หรือทำขันธ์ขอขมาต่อท่านทั้งหมดที่กล่าวมา

2. เป็นคนที่จิตมีความลังเลสงสัยมากเกินไป สงสัยไปหมดจนจิตลังเลไม่เชื่อถือในของที่บูชา อำนาจของเครื่องรางของขลังเป็นสิ่งที่เกิดจากอำนาจจิตของผู้ที่ปลุกเสก หากจิตคนที่นำไปบูชาไม่ยึดมั่นถือมั่นศรัทธาในของขลังนั้นจะได้ผลได้อย่างไร ตัวสงสัยนั่นแหละเป็นตัวกั้นให้ไม่ได้ผล

3. เป็นคนที่มีจิตใจด้านเกินไป จนจิตไม่สื่อกับอำนาจของเครื่องรางของขลัง เช่น ไม่เชื่อว่าสิ่งเหล่านี้มีอยู่จริงอันนี้ปิดเลย

4. เป็นคนมีจิตใจชอบลองของลองดีแบบลบหลู่ด้วย อันนี้หนักไม่ได้ผลเลยอาจจะมีโทษอีกต่างหาก หรือไม่ก็เป็นแบบอยากใช้ของๆเขาอยากเอาผลจากของ ๆ เขาแต่ตัวเองไม่ศรัทธาอาจารย์ที่สร้างไม่เชื่อว่าของๆ เขาศักดิ์สิทธิ์จริง หรือมีลักษณะของจิตใจทื่อๆด้านๆเห็นเครื่องรางของขลังเหมือนกับคอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์มือถือที่เอามาใช้ปุ๊บต้องได้ผลตามที่ต้องการปั๊บโดยที่ตัวเองยังไม่ศรัทธาแท้ ไม่ยึดมั่นถือมั่นศรัทธาแท้ในศาสตร์ของเขา ข้อนี้เท่าที่เห็นมาเป็นกันเยอะ

5. มีครูบาอาจารย์หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์รักษาอยู่แล้ว แต่ใช้เครื่องรางของขลังที่เป็นสายที่ขัดแย้งกับครูบาอาจารย์หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่รักษาอยู่ ข้อนี้เกิดขึ้นกับเฉพาะบางคนมีไม่มาก

6. ของนั้นไม่แรงหรืออาจารย์ผู้เสกปลุกเสกไม่เป็นไปตามนั้นเช่นปลุกขุนแผนแทนที่จะเสกทางเสน่ห์เมตตา ก็เป็นแคล้วคลาดคงกระพันอย่างนี้เป็นต้น อาจารย์หรือพระบางองค์เก่งไม่เหมือนกันบางองค์เก่งทางเมตตา บางองค์เก่งทางคงกระพันแคล้วคลาด บางองค์เก่งหลายอย่างเป็นต้น บางทีอาจารย์บางองค์เก่งทางคงกระพัน แต่ทำของทางเสน่ห์เมตตาออกมาให้ลูกศิษย์บูชาพลังก็ไม่เป็นไปทางเสน่ห์ เมตตา แต่ออกไปทางคงกระพันตามที่ตัวเองถนัดอย่างนี้ใช้ยังไงก็ไม่ได้ผล  ของแรงไม่แรง หรือของแต่ละอย่างดีอย่างไรอย่าไปดูคำโฆษณาตามที่เขาโปรโมทกันในหนังสือเพราะที่ศักดิ์สิทธิ์จริงก็มีที่ยกกันขึ้นมาก็มี ให้ดูจากผลที่ผู้บูชาไปแล้วว่าเป็นอย่างไร

7. ใช้ของผิดสาย เช่น ตัวเองเป็นคนบำเพ็ญบุญไปทางพระพุทธคุณไปทางมนต์ขาว แต่ดันไปใช้ของต่ำเกินไปเป็นมนต์ดำไสย์ดำ เช่น น้ำมันพราย หรือใช้พวกของสายผีสายพรายที่เป็นสายต่ำ (สายพรายมีทั้งสูงและต่ำ) ใช้ของที่ขัดแย้งกับบุญของตัวเองอย่างนี้ก็ไม่ได้ผล

8. ไม่มีวาสนามากับของพวกนี้ ไม่มีวาสนามากับเครื่องรางของขลัง ในอดีตชาติหรือชาตินี้ไม่เคยทำบุญร่วมมากับครูบาอาจารย์ไม่เคยนับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่เคยทำบุญให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือครูบาอาจารย์เลย ให้แก้ไขโดยการทำบุญถวายสังฆทาน หรือตักบาตรให้ครูบาอาจารย์และเทพเทวดาที่รักษาเครื่องรางของขลังนั้นอยู่

9. มีกรรมกั้นขวางอยู่ ทำให้ใช้ของไม่ได้ผล ให้แก้โดยการอุทิศบุญกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวร
หากคุณเป็นคน ๆ หนึ่งที่ใช้ของขลังไม่ได้ผล ลองสำรวจดูว่าตัวเองเป็นประเภทไหน แล้วก็แก้ไขไปตามที่แก้ไขได้ หากยังต้องการใช้เครื่องรางของต่อไป

ที่มาของเนื้อหาต้องขอขอบคุณ เว็บเพื่อนบ้าน ครับ

82
ลูกกรอก สุริยะเดชา เครดิตเว็บเพื่อนบ้าน




83
ลองชมดูนะครับ



[youtube=425,350]is2RrcayhEU&feature[/youtube]

84


ตะกรุดพญาราชสีห์ถักเชือกลาย 4 เสา ลงรักปิดทอง เป็นตะกรุดที่ดีทางมหาอำนาจ วาสนา ตบะเดชา  มีหมายเลขและโค้ดกำกับ
เหรียญพระพรหมหรือเหรียญทศบารมี มีหมายเลขและโค้ดกำกับทุกเหรียญ

ในวันงานมีแจกวัตถุมงคลหนุมานเนื้อตะกั่วหล่อและแจกเหรียญพระพรหมทศบารมีโดยจะนำเหรียญพระพรหมใส่ปนกับหนุมานตะกั่วหล่อที่เตรียมไว้
หลวงพ่อชำนาญจะหยิบอะไรให้ก็ได้องค์นั้นไป ขึ้นอยู่กับดวงของแต่ละคนว่าหลวงพ่อชำนาญท่านจะหยิบวัตถุมงคลอะไรให้ครับ

85




ด้านหลังอุดผงครูไพรฝังตะกรุดหนังงูเหลือม ดอกรักซ้อนรุ่นนี้ถือว่าแรงมากเพราะมีครบทั้งตะกรุดหนังงูเหลือม มุกน้ำค้าง ตะกรุดเสน่ห์เงิน พลังเสน่ห์แรงมาก ครับ


86
ลองเข้ามาชมกันดูนะครับ

[youtube=425,350]vLa9swqIPEk&feature[/youtube]

87




ปลัดขิกนางพิม หลวงพ่ออั๊บ วัดท้องไทร









ปลัดขิกหัวชะมด หลวงพ่อเอิบ วัดหนองหม้อแกง



89







เหรียญเสด็จกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ด้านหนึ่งของเหรียญเป็นรูปเหมือนหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท
หลวงพ่อเปิ่นท่านเป็นองค์ประธานปลุกเสกจุดเทียนชัย 24 ม.ค.2545 เพื่อเป็นทีระลึกในงานผูกพัทธสีมาปิดทองฝังลูกนิมิตของวัดนก
และ เป็นการปลุกเสกครั้งสุดท้ายของหลวงพ่อเปิ่น ครับ นั่งอธิษฐานปลุกเสกนานมากๆ ขนาดหยุดปลุกเสกปั๊บต้องใช้อ็อกซิเจนทันทีคิดเอาเองนะครับทำไม
หลวงพ่อเปิ่นท่านถึงอัดเต็มๆกับเหรียญเสด็จกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ถึงเพียงนี้แต่รับรองว่าหลวงพ่อเปิ่นท่านรู้...ครับ

90





หลวงพ่อฟู วัดบางสมัคร พระเกจิอาจารย์แนวหน้ายุคปัจจุบันที่โดดเด่น ชื่อเสียงโด่งดังมากโดยเฉพาะเรื่องของปลัดขิก อาจจะเป็นเพราะหลวงพ่อเกิดท่ามกลางพระเกจิอาจารย์ที่โด่งดังเชี่ยวชาญวิชาด้านนี้ ทั้งหลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก จ.ฉะเชิงเทรา หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ จ.ชลบุรี
และท่านก็ร่ำเรียนวิชาทางด้านนี้จากพระเกจิอาจารย์หลายรูปทั้งสายหลวงพ่อเหลือ หลวงพ่ออี๋ แต่ไม่เรียนโดยตรงเพราะอาจารย์เหล่านั้นมรณภาพก่อน แต่เป็นการเรียนต่อจากลูกศิษย์ ทั้งสายหลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส หลวงพ่อเริ่ม วัดจุกกะเณอ อาจารย์ฆราวาส ที่สำคัญองค์หลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว พระอุปัชฌาย์อาจารย์ที่ถ่ายทอดวิชาต่างๆ และท่านฝึกฝนจนเชี่ยวชาญมีพลังพุทธาคม









หลวงพ่อพูนวัดบ้านแพน อยุธยา เจ้าของตำนานตะกรุดดอก (ไม้) ทอง ครับ



91
คาถาอาคม / คาถาความรวย
« เมื่อ: 21 เม.ย. 2553, 12:30:15 »
คาถาความรวย

ความขยัน อดทน ไม่ยอมแพ้
ความใฝ่รู้ ริเริ่ม แก้ไข
อด ออม พอเพียง ไม่เห็นแก่ตัว
ความศรัทธา ความเชื่อ ไม่งมงาย



92








แหวนพระราหูเป็นเนื้ออัลปาก้า ครับ

93
เหรียญหลวงพ่อเปิ่นรุ่นเสาร์ ๕ ปี ๒๕๓๙








94
หลวงพ่อแม้น วัดหน้าต่างนอก









 เสือแซยิด 72

หลวงพ่อแม้น กำหนดจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 13 มีนาคม 2553 เวลา 16.00 น.
ปลุกเสกวัตถุมงคล ณ มณฑลพิธี วัดหน้าต่างนอก โดยพระเกจิอาจารย์ชื่อดังร่วมอธิษฐานจิตปลุกเสก อาทิ หลวงพ่อรวย วัดตะโก, หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว,
หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน, หลวงพ่อหวล วัดพุทไธศวรรย์, หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม, หลวงพ่อชำนาญ วัดบางกุฎีทอง และหลวงพ่อแม้น วัดหน้าต่างนอก



 เสือหลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ









หลวงพ่อทองหยิบ วัดบ้านกลาง

พญาเสือพยนต์ รุ่นแรก















95
[youtube=425,350]SAFkAEV_DoE[/youtube]

ที่บ้านผมก็ได้ไปบูชามาแล้วเรือแม่ตะเคียนทอง ครับ





วัดพุน้อย ต.ชอนม่วง อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี

วัดพุน้อยเด่นในเรื่องเมตตามหานิยมโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการค้าขาย ที่หลวงปู่แบนได้สร้างเรือพุทธคุณขึ้นมา ซึ่งใครได้ไปบูชาจะประสบผลสำเร็จกันแทบทุกคน จึงมีพุทธศาสนิกชนเดินทางมาที่วัดพุน้อยกันอย่างเนืองแน่นในแต่ละวัน แต่การจะได้รับเรือไปบูชานั้นต้องเข้าพิธีด้วยตนเอง ถ้าท่านยกเรือขึ้นย่อมหมายจิตศรัทธาท่านได้สำผัสถึงรุขเทวดา เรือจึงพร้อมให้ท่านนำไปบูชาได้ นอกจะมีเรือพุทธคุณที่ให้โชคในทางค้าขายแล้วยังมีต้นตะเคียนต้นใหญ่ ชาวบ้านเรียกกันว่า แม่ตะเคียนทอง เอาไว้ให้คนที่ชอบในเรื่องของการเสี่ยงโชคและได้เดินทางมาที่วัดพุน้อยได้ขอโชคลาภด้วยการบนบานขอให้ถูกหวย ถูกล๊อตเตอรี่ มีผู้ที่โชคดีถูกสลากกินแบ่งรัฐบาลกันหลายราย ก็จะนำเงินที่ได้มาทำบุญที่วัด พร้อมกันนี้ก็จะนำผ้าไหมซึ่งตัดเป็นชุดไทยกับตัวหุ่น นำมาถวายแม่ตะเคียนทองเพื่อเป็นการแก้บน ทำให้ปัจจุบันวัดพุน้อยชุดผ้าไหมไทย มากมายหลายหลากสีและมีความสวยงามมีจำนวนนับเป็น หมื่นชุด จนทางวัดต้องสร้างห้อง ไว้เก็บโดยเฉพาะ สำหรับชุดผ้าไหมไทย ที่มีอยู่ สามารถสร้างประโยชน์ให้กับท้องถิ่นรวมถึงสถานศึกษาและทางราชการอย่างมาก ส่วนใหญ่จะมาขอยืมทางวัดเพื่อใส่ในการแสดง ซึ่งเป็นการช่วยเหลือสังคมและท้องถิ่นโดยทางวัดไม่คิดค่าเช่าแต่อย่างใด แต่ใครจะบริจาคให้วัดก็แล้วแต่กำลังศรัทธา

96
ลองคลิกชมคลิปกันดูเลยนะครับ


[youtube=425,350]iF-PGyVlic8[/youtube]






97
จากหนังภาพยนต์นาคปรกครับใกล้ๆตอนจบมีแง่คิดที่ดีๆผมเลยนำมาแบ่งปันนะครับ


พุทธศาสนาถือว่าเงินเป็นดั่งอสรพิษทรัพย์สินเงินทองไม่ใช้สาระสำคัญของความสุข
ขอเพียงรู้จักคำว่าพอชิวิตเราก็จะไม่ร้อนรนด้วยกิเลสตัณหาความอยากได้ทำให้มีไม่สิ้นสุด
มีแต่หยุดเท่านั้นจึงจะเป็นได้ความสุขไม่ได้อยู่ไกลจากตัวเราเลยแต่แท้จริงแล้วอยู่ที่ใจ
นี่คือธรรมมะที่พระพุทธศาสนาสอนผมดังนั้นไม่ว่าจะกี่ภพกี่ชาติก็ขอให้ผมได้เกิดเป็นมนุษย์ในพุทธศาสนา
มีโอกาศได้ฟังธรรมอันประเสริฐภายใต้ร่มกาเสาวาภัทรตลอดไป

98






ประวัติโดยสังเขป หลวงพ่อลออ วัดหนองหลวง จ.นครสวรรค์ เกจิผู้สืบสายพุทธาคม หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค หลวงพ่อลออ ฐานวโร หรือ กรรมการรุ่นใหญ่ สมัยหลวงพ่อพรหม แห่งวัดช่องแคเป็นหัวเรียวหัวแรงใหญ่ในการจัดสร้างเสนาสนะ และวัตถุมงคล หลายรุ่นของวัดช่องแคโดยหลวงพ่อลออได้รับความไว้วางใจจากหลวงพ่อพรหมให้เป็นผู้ดำเนินการจัดสร้างวัตถุมงคลเช่นรูปเหมือนปั๊มหลวงพ่อพรหม รุ่นก้นระฆัง อันลือลั่น และรูปเหมือนปั๊ม เนื้อทองระฆังรุ่นต่างๆเช่น เข่ากว้างหลังเต็ม หลังเตารีด ตัดชิด หลังเข็มกลัดและอีกหลายรุ่นมากมาย โดยที่หลวงพ่อพรหม ไว้วางใจให้หลวงพ่อจัดสร้างและถ่ายทอดวิชาต่างๆให้กับหลวงพ่อลออ ซึ่งหลวงพ่อลออ ก็สามารถเรียนรู้และประสิทธิ์ทั้งหมด
โดยหลวงพ่อพรหม เอ่ยปากชมว่า ต่อไปวิชาของหลวงพ่อพรหมจะตกอยู่กับหลวงพ่อลออ    

ที่มาจากลูกศิษย์หลวงพ่อลออ วัดหนองหลวงครับ

99
เคยเห็นมีคนตั้งกระทู้บอกว่าวัดบางพระ
ปลุกเสกวัตถุมงคลเสาร์ 5 วัดบางพระปี 53 ตอนนี้ข่าวเงียบหายไปเลย

100






หลายๆท่านที่เเขวนพระหรือเครื่องรางต่างๆ ก็อาศัยจากคำบอกเล่ากันต่อๆมาถึงสรรพคุณของพระเครื่องของหลายๆหลวงพ่อว่า ท่านใด เด่นทางไหน เป็นต้นเเต่ถ้าบางท่านที่เคยฝึกสมาธิก็อาจใช้วิธีสัมผัสโดยใช้พลังจิต หรืออาจใช้การปลุกพระเป็นต้นเพื่อเป็นการอนุรักษ์วิชาเก่าๆที่หลวงพ่อกวยท่านได้บันทึกไว้
กระทู้นี้ของลงคาถาปลุกพระที่หลวงพ่อกวยท่านได้เขียนไว้ท่านที่จะเอาไปใช้ ก่อนใช้ ควรจุดธูปเทียน บอกกล่าวหลวงพ่อกวยท่านเพื่อเป็นการขออนุญาตเเละขอเรียนจะดี
ของเเบบนี้ อยู่ที่ใจเเละศรัทธาบวกกับจิตที่เป็นสมาธินะครับ
ถ้ามีสมาธิสูงก็ดีนะครับ อยากเอาไปจับพระหลายๆหลวงพ่อดู ว่าดีทางไหนบ้าง ของเเบบนี้ ไม่ควรมองข้าม เพราะถ้าไม่ดีจริง ครูบาอาจารย์ท่านคงไม่มีการเรียนหรือบัมทึกไว้สืบทอดกันต่อๆมา
คนโบราณท่านมักใช้คาถาได้ผลเพราะ จิตท่านบริสุทธิ์กว่าคนสมัยนี้มาก นอกจากนี้คนรุ่นเก่าๆยังมีความเชื่อมั่น จิตใจไม่วอกเเวก เขาบอกบางทีคนรู้มาก ก็จะเรื่องมากตาม เเละทำให้เกิดความลังเล ความเชื่อมั่นจึงลดน้อยลง สมาธิก็น้อยลงตาม จึงทำให้ใช้ไม่ได้ผลสุดท้ายนี้ ใครอยากรู้ก็ต้องลองเองครับ
มันเป็น ปัจจัตตัง รู้ได้เฉพาะตนครับ


ขอขอบคุณลูกศิษย์หลวพ่อกวยด้วยครับ



101
อยากชมภาพวัตถุมงคลจังเลยครับ :017:

102
การบูชาพระรัตนตรัย

พระธรรมอยู่ที่ใจ พระเครื่องอยู่ที่กาย ทั้ง 2 อย่างเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวทางด้านจิตใจของชาวพุทธทุกผู้ทุกนามได้ บางคนลึกซึ้งในเรื่อง "พระธรรม" จึงมีความจำเป็นจะต้องศึกษาเรียนรู้เพื่อเข้าถึง แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องใช้ควบคู่กันไปด้วยคือ การสวดมนต์บูชาพระรัตนตรัย

"พระเครื่อง" ก็เช่นกัน ก่อนอาราธนานิมนต์ขึ้นคอก็ต้องสวดมนต์บูชาพระรัตนตรัย

การบูชาพระประจำวัน ภารกิจที่ชาวพุทธควรประพฤติปฏิบัติประจำวันให้เป็นนิสัย อันได้แก่การระลึกนึกถึงหรือการบูชาพระรัตนตรัย

ธรรมดาชาวพุทธ ย่อมมีชีวิตจิตใจ เนื่องด้วยพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งเป็นที่ระลึกในการดำเนินชีวิตประจำวัน เพื่อให้มีความประพฤติดีประพฤติชอบ มีความเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า พ้นจากความเป็นอยู่เป็นทุกข์นานาประการ

ดังนั้น จึงนิยมเคารพสักการบูชาพระรัตนตรัยเป็นประจำวัน วันละ 2 ครั้ง เป็นอย่างน้อย คือ ตอนเช้า ก่อนออกจากบ้านไปประกอบภารกิจการงาน และตอนกลางคืน ก่อนนอนพักผ่อน

ในที่นี้ เราจะกล่าวถึงการบูชาพระรัตนตรัยก่อนออกจากบ้าน

ทุกวันเวลาเช้า ก่อนออกจากบ้านไปประกอบภารกิจการงานต่างๆ เมื่อแต่งกายเรียบร้อยแล้ว

ชาวพุทธทั้งหลายผู้เคร่งต่อศาสนา ย่อมนิยมเข้าห้องพระหรือไปที่บูชาพระ นั่งคุกเข่า จุดเครื่องสักการบูชาพระ คือ จุดเทียนเล่มขวาของพระพุทธรูปก่อน แล้วจุดเทียนเล่มซ้ายและจุดธูป 3 ดอก

ปักธูปที่กระถางแล้วกราบพระรัตนตรัยแบบเบญจางคประดิษฐ์ คือ ตั้งหน้าผาก ฝ่ามือทั้งสองและหัวเข่าทั้งสองจรดลงพื้น 3 ครั้ง ประนมมือกล่าวคำบูชาพระรัตนตรัย ดังนี้

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (ว่าสามจบ)

อิมินา สักกาเรนะ พุทธัง อะภิปูชะยามิ

อิมินา สักกาเรนะ ธัมมัง อะภิปูชะยามิ

อิมินา สักกาเรนะ สังฆัง อะภิปูชะยามิ

แล้วตั้งจิตอธิษฐานขออำนาจคุณพระรัตนตรัยโปรดคุ้มครองป้องกันอภิบาลรักษาให้ตนมีจิตใจมั่นคง อยู่ในคุณงามความดี ปราศจากอุปสรรคภัยอันตรายทุกประการ กราบเบญจางคประดิษฐ์อีก 3 หน พร้อมกับระลึกถึงพระรัตนตรัย ดังนี้

กราบครั้งที่ 1 ระลึกว่า พุทโธ เม นาโถ "พระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง ของเรา"

กราบครั้งที่ 2 ระลึกว่า ธัมโม เม นาโถ "พระธรรมเป็นที่พึ่งของเรา"

กราบครั้งที่ 3 ระลึกว่า สังโฆ เม นาโถ "พระสงฆ์เป็นที่พึ่งของเรา"

เมื่อเคารพกราบพระรัตนตรัยครบ 3 ครั้งแล้ว นิยมดับเทียนเสียก่อน เป็นอันเสร็จพิธีบูชาพระ

ก่อนออกไปประกอบภารกิจงานประจำวัน   ที่มาหนังสือพิมพ์ข่าวสด

103
                               
                                ลูกกรอกคนองฤทธิ์ชมภาพแล้วน่ากลัวจริงๆ

104
:086:อยากทราบว่าบูชาวัตถุมงคลของวัดบางพระทางไปรษณีได้ไหมครับ
พอดีวันนั้นได้ไปร่วมพิธีบูชาครูได้บูชาไปบางส่วนแล้วเงินหมดพอดีครับอยากบูชาอีกจริงๆครับ ขอบคุณครับ  :086:

105
คาถาปลุกเสกวัตถุมงคลได้ทุกๆสำนัก

ได้ไปอ่านหนังสือนิตยสารพระเครื่องแล้วเจอมานะครับ

เป็นคาถาเก่าของ หลวงพ่อมี เขมธัมโม วัดมารวิชัย จ. อยุธยา



ตั้งนะโม 3 จบ

อิสวาสุ  ตะโนติ  กุสะลังธัมมังตะโนติ

ธัมมะเทสะนัง  กุสะลังธัมมังตันหายะ  วิจะรันตานัง

ตันหานะคาตัง  นะมามิหัง

ท่องคาถาปลุกเสกวัตถุมงคล 3-5-7-9

พุทธังอาราธนานัง  ธัมมังอาราธนานัง  สังฆังอารธนานัง

ข้าพเจ้าขออาราธนา  คุณพระพุทธเจ้า  คุณพระธัมมเจ้า  คุณพระสังฆเจ้า

คุณพระบิดามารดา  คุณครูอุปัชฌาย์อาจารย์  คุณพระพรหม

เทพเทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายจงดลบันดาลให้ข้าพเจ้า.......ขอได้1ข้อเท่านั้น

สรรพพุทธาประสิทธิ  สรรพธัมมาประสิทธิ  สรรพสังฆาประสิทธิ  สรรพสิทธิพระวันตุเม

106
อยากทราบว่าทำไมวัตถุมงคลของทางวัดบางพระจึงไม่มีการตอกโค็ดตัวเลขในการจัดสร้างว่าวัตถุมงคลของวัดบางพรจะจัดสร้างจำนวนเท่าไรและอาจทำให้มีคนจัดสร้างวัตถุมงคลเสริมขึ้นมาใหม่โดยไม่มีการปลุกเสกได้เลย

107
ภาพพ่อปู่ชูชกดูงดงามและสวยจริงๆเลยนะครับ :114:




108
             

                        เป็นผ้ายันต์ที่ใหญ่มากเลยทีเดียวครับ
   
         

             
หลวงปู่นอง ธมฺมโชโต  วัดวังศรีทอง  จ.สระแก้ว รุ่น ฉลองอายุ  90 ปี

109
ถามผู้รู้เกี่ยวกับคาถาปลัดหัวชะมด ของหลวงพ่อเอิบ มีท่านใดทราบบ้าง

110




ลูกชายของผมครับน่ารักไหม  ผมว่าแรงดีจริงๆ

111










หลวงพ่อกอย วัดเขาดินใต้ อ. บ้านกรวด จ. บุรีรัมย์
เมื่อครั้งในอดีตหลวงพ่อชื่น วัดตาอี บุรีรัมย์ ได้เคยสร้างกุมารทอง9 โกศ ขึ้นมาครั้งหนึ่งซึ่งท่านได้ใช้วัตถุอาถรรพณ์และขบวนการปลุกเสกเป็นต้นตำรับวิชาของเขมร ทำให้กุมารทองรุ่น9โกศนั้นมีประสบการณ์มากตอนนี้ก็หายากเสียด้วย หลวงพ่อกอยท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านวิชาอาคมทางเขมรโบราณ และมีความสนิทสนมคุ้นเคยกับหลวงพ่อชื่น วัดตาอี เป็นอย่างดีในสมัยที่หลวงพ่อชื่น ท่านยังมีชีวิตอยู่ วัตถุมงคลและเครื่องรางของขลังเกือบทุกรุ่นของหลวงพ่อชื่น หลวงพ่อ กอยท่านจะช่วยหลวงพ่อชื่นสร้างและอธิษฐานจิตปลุกเสกบรรจุพลังเวทย์ทางด้านมหาเสน่ห์ เมตตามหานิยม โชคลาภค้าขายตามตำรับเขมรโบราณอย่างสุดเข้มขลัง และในครั้งนี้หลวงพ่อกอย ท่านได้จัดสร้างกุมารทอง 9 โกศ ขึ้นมาอีกครั้งสร้างตามตำราวิชาของเขมรได้จัดสร้างและปลุกเสกมาหลายปีแล้วแต่ยังปลุกเสกไม่ครบตามตำรา
ชนวนอาถรรพณ์ที่นำมาสร้าง ประกอบด้วยชนวนหลัก โกศที่เก็บกระดูกของเด็กทั้งหมด9 โกศ ที่ตายอาการต่างๆ9ประการ ที่ถูกต้องตามตำราได้ภายในคืนเดียวกัน โกศที่1ของน้องฝน จมน้ำตาย จาก อ.กุมวาปี โกศที่2ของน้องบอย รถชนตาย จากบ้านผือ โกศที่3ของน้องฝ้าย ปอดบวมตาย จากบ้านผือ โกศที่4ของน้องหญิง โรคหัวใจรั่ว จากบ้านผือ โกศที่5 ของน้องขิง ไข้เลือดออก จากหนองหาน โกศที่6ของน้องแมว ท้องร่วงตาย จาก อ.เพ็ญ โกศทึ่7น้องหำน้อย ไข้หวัดใหญ่ตาย จาก อ.เพ็ญ โกศที่8น้องสุภา ไข้หวัดเยอรมันตาย จากอ.เพ็ญ โกศที่9น้องมารีย์ ตายด้วยโรคลมชักจาก อ.เพ็ญ (ชนวนทั้งหมดที่ได้มา อาจารย์กำชัย อาจารย์ฆาราวาสเป็นผู้ถวายให้กับหลวงพ่อ ต้องขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงอีกครั้งครับ และบุญกุศลทั้งหมดขออุทิศให้กับน้องทั้งเก้าด้วย ขอให้ดวงวิญญาณของน้องทั้งเก้าจงประสบสุขอยู่ในชั้นทิพยวิมานชั่วนิรันทร์กาลเทอญ)

พิธีปลุกเสกครั้งสุดท้ายของหลวงพ่อ กอย วัดเขาดินใต้  

ได้ทำพิธีบวงสรวงอัญเชิญดวงวิญญาณหลวงพ่อชืน วัดตาอี มาร่วมพิธีปลุกเสกในครั้งนี้ด้วย

112






ชนวนอาถรรพณ์ที่นำมาสร้าง ประกอบด้วยชนวนหลัก โกศที่เก็บกระดูกของเด็กทั้งหมด9 โกศ ที่ตายอาการต่างๆ9ประการ ที่ถูกต้องตามตำราได้ภายในคืนเดียวกัน โกศที่1ของน้องฝน จมน้ำตาย จาก อ.กุมวาปี โกศที่2ของน้องบอย รถชนตาย จากบ้านผือ โกศที่3ของน้องฝ้าย ปอดบวมตาย จากบ้านผือ โกศที่4ของน้องหญิง โรคหัวใจรั่ว จากบ้านผือ โกศที่5 ของน้องขิง ไข้เลือดออก จากหนองหาน โกศที่6ของน้องแมว ท้องร่วงตาย จาก อ.เพ็ญ โกศทึ่7น้องหำน้อย ไข้หวัดใหญ่ตาย จาก อ.เพ็ญ โกศที่8น้องสุภา ไข้หวัดเยอรมันตาย จากอ.เพ็ญ โกศที่9น้องมารีย์ ตายด้วยโรคลมชักจาก อ.เพ็ญ เมื่อได้โกศทั้งเก้ามาหลอมกับตัวยันต์บังคับ และชนวนอาถรรพณ์ มีเหล็กตรึงโรงศพ7ป่าช้า,เหล็กขนันผีตายท้องกลม,ตะปูตอกโลงศพ7ป่าช้ าและได้นำชนวนอาถรรพณ์ทั้งหมดมาประชุมธาตุมาทำพิธีหล่อกุมารทองเก้าโกศมีขนาดเล็กสูงประมาณ 1ซ.ม ในฤกษ์ที่แข็งที่สุด คือฤกษ์ที่เชื่อกันว่าพ่อขุนแผนเสกกุมารทองในยามนี้ คือยามเดือนดับของเดือนห้า และตรงกับวันเสาร์เท่านั้น สาเหตุที่สร้างกุมารขนาดเล็ก เพราะชนวนมีน้อย ถ้าหล่อขนาดใหญ่จะได้ไม่กี่ตน จะไม่พอกับความต้องการของลูกศิษย์

113
ผ้ายันต์มี 2 สี 1.สีดำกรรมการสร้างครับ
                 2.สีแดงราคาถูกนะครับ




114



คาถาบูชาอิ๋นม้าคู่รักเสน่หา

ว่านะโม สามจบ แล้วเริ่มตัวคาถาดังนี้

นะรำพึง โมคิดถึง พุทนอนมิเต็มตา ธาร้องไห้ทุรนทุราย ยะให้มาหากู พุทโธละลวย ธัมโมละลวย สังโฆละลวย จิตตินิมิตติ เอหิ จิตตัง ปิยังมะมะ

116





เกิดเป็นมนุษย์  พบ  พระพุทธศาสนาแล้ว
อย่าทิ้งพระพุทธ  พระธรรม  และพระสงฆ์
คุณพ่อ  คุณแม่  คุณครูอุปณาย์  อาจารย์
ก่อนนอนก้มลงกราบ  ตื่นนอนระลึกถึง
ความดีเร่งทำ  อายุเรา  อยู่ได้ไม่ถึง 100 ปี
มีศีล  มีความดี  เป็นที่พึ่ง  ทำดีเดี๋ยวนี้  ก็ได้ดีเดี๋ยวนี้
อีกร้อยปี  อีกพันปี  ความดีก็ไม่จางหาย  สาธุ
 

117
 :017:วัดบางพระไม่จัดพีธีปลุกเสกวัตถุมงคลใหญ่ๆบ้างครับอยากให้วัตถุมงคลของวัดบางพระ ลงหนังสือพระเครื่องต่างๆบ้างครับ
ผมก็ศรัทธาหลวงพ่อเปิ่นมากเหมือนกันครับ  ขอบคุณครับ
:054:

118
วัตถุมงคลที่มีอยู่บ้าง



หลวงปู่อิน วัดหนองเม็ก     ตะกรุดหนังงูเหลือม


หลวงปู่ขุ้ย  วัดทรัพย์ตะเคียน    ตะกรุดนะจับจิต พระเจ้าจับใจ


หลวงพ่อสุพจน์  วัดศรีทรงธรรม    ตะกรุดคงมหากาฬ


หลวงพ่อจำลอง   วัดเจดีย์แดง   ตะกรุดดำ


หลวงปู่กาหลง   วัดเขาแหลม   หนุมารนำทัพแปดกร

119
เหรียญหลวงพ่อเพี้ยนวัดเกรินกฐิน ปีไหนครับ








120






ตะกรุดอุดปืนเป็นที่รู้กันดีว่า หลวงพ่อสร้างได้ขลังกว่าใคร ครองใจผู้ที่ชอบตะกรุด จนติดหนึ่งใน 4 ของยอดเกจิที่สร้างตะกรุดขลัง
(เจ้าตะกรุดโบราณ 4 องค์ในยุคนี้ คือ หลวงพ่อจำลองวัดเจดีย์แดง หลวงพ่อชำนาญ วัดบางกุฏีทอง หลวงพ่อตัด วัดชายนา หลวงพ่อ สุพจน์ วัดศรีทรงธรรม)
ขนาด รถดับกลางถนน สิบล้อ เบรกไม่ทัน แต่เดชะบุญ รถถอยหลังเองอัศจรรย์ ไม่งั้นตายทั้งครอบครัว พาดหัวหน้าหนึ่งแน่
โดนยิงเผาขนยังรอดมาได้ มีงานวัดหลวงพ่อ ให้ตำรวจไปลองตะกรุดของท่าน เห็นกันจะจะ ไม่ออก แต่ตำรวจกลัวปืนแตกจนเลิกลองไปเอง
 และ ยิ่งมีข่าวหนังสือพระไปท้าท่าน ท่านให้กำเหรียญท่านแช่ในน้ำกรดแท้ ยังไม่ละคายผิว นี้แหละ ของหลวงพ่อสุพจน์ขลังจริง ปีนี้
หลวงพ่อออกตะกรุดมี ดีเสริมเข้าไปเป็นตะกรุดตำรับเพชรคงของท่าน แต่ เสริมผ้าแดงอาถรรพ์ ผ้าแดงนี้ เป็นผ้าที่ หลวงพ่อลง ดาษ
(กันเป็นเพดานในพิธีบวงสรวงปลุกเสกใหญ่) และลงกันดวงอาทิตย์กลางวันแสกๆ ปลุกเสกก่อน เป็นผ้าที่ลงในทาง ระงับดับความร้อน
และ ระงับดับอาถรรพ์ (อาถรรพ์แก้ดวงของผู้ใช้ ดับความทุกข์ความเดือดร้อนได้ ) ด้านนอกเป็นแผ่นตะกั่ว ที่หล่อหลอมด้วย หัวลูกปืนด้าน
 ที่เอาไปลองยิงตะกรุดท่านเองแล้วไม่ออก ตามหลักหนามยอกเอาหนามบ่ง ผ้าแดงหุ้มตะกั่วถักเชือกลงรักปิดทองแท้ๆ ที่เข้มขลังและสวยงาม


122



หลวงพ่อสุพจน์ จนฺทูปโม วัดศรีทรงธรรม จ. นครสวรรค์

ชื่อหลวงพ่อ สุพจน์ ดังกระฉ่อนทั้งนครสวรรค์จนทั่วประเทศมานานแล้ว เพราะของท่านดังลองได้ หลวงพ่อเองยังท้าให้ลองด้วยซ้ำไป ขอให้ตั้งจิตให้ดีอธิฐานให้มั่น หลวงพ่อดูจะเป็นพระนักเลงในสายตาของชาวบ้าน แต่แท้จริงท่านเป็นพระจริงไม่กลัวใคร ใจใหญ่ยิ่งกว่ามหาสาคร หลวงพ่อเป็นศิษย์ครูเก่งที่โลกไม่ลืม เรียนวิชามหาอุดแคล้วคลาดมีอำนาจเสือสมิงจากหลวงปู่รอด ( เสือ ) วัดหนองกระทิง เรียนวิชามหาเสน่ห์มหานิยมลุ่มหลง สาวแก่ แม่หม้าย เดินตาม จากปู่อินทร์เทวดา เรียนวิชาปืนปัดปืนปิดพิชัยพิชิตชัยสงครามจากหลวงพ่อ เย่อ วัดอาษาสงคราม เรียนวิชามหาอุดมหากันกำบังปืนจากพ่อเฒ่ามืด ขุนเขาห้าลูกขนาดโยนผ้าขาวม้าให้ยิงยังยิงไม่ออก เรียนวิชากำบังจิตเสกหุ่นพยนต์ล่องหนหายตัวจากพ่อเฒ่าโชติ เมืองอู่ทอง

สมัยหนุ่ม ๆ หลวงพ่อสุพจน์ร้อนวิชาอยู่ตามป่าเขา ตามถ้ำ แน่ไม่แน่ก็มาสร้างวัดศรีทรงธรรมอยู่รูปเดียว ชาวบ้านขึ้นซะด้วย มาอยู่นครสวรรค์ใหม่ ๆ เคยฝากตัวเรียนวิชาสายเจ้าถิ่นนครสวรรค์ หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธ์ กับหลวงปู่ฮวด วัดหัวถนนใต้ วิชาบางอย่างในสายหลวงพ่อเดิม จากหลวงปู่พิมพา วัดหนองตางู ถึงขนาดเคยลองวิชาเสกปลัดว่ายน้ำ ในอ่างน้ำมนต์แข่งกัน หลวงปู่พิมพาเสกขึ้นเร็วแต่ว่ายช้าไปเรื่อย ๆ ส่วนของหลวงพ่อสุพจน์เสกขึ้นห็นกับตาว่า ทุกวันนี้หลวงพ่อสุพจน์ไปไหนมาไหนเดินเท้าเปล่า ขึ้นเขาลงห้วยย่ำกลางทุ่ง หนามเศษหินเศษแก้วบาดท่านไม่ได้ด้วยความขลัง ขนาดมีงานวัดเด็กทำแก้วแตก ท่านเดินเท้าเปล่าผ่าดงเศษแก้วไปอุ้มเด็กได้

หลวงพ่อเลี้ยงเด็กนักเรียน ทำบุญวันเกิดท่านสั่งครูและผู้ใหญ่บ้านให้ดูเด็กทางทิศเหนือจะมีเรื่องกัน ผู้ใหญ่บ้านและครูก็อยู่ทางทิศนี้เพียบเลย สุดท้ายมีเรื่องกันจริง ๆ แต่ระงับเหตุทันเพราะคอยระวังอยู่แล้ว น่าคิดว่าท่านรู้ล่วงหน้าได้อย่างไร

• อีกาตัวหนึ่งบินมาเกาะหลังคาศาลาร้องเสียงดังมากหลวงพ่อบอกลุงหลอว่าขอข้าว 3 ปั้น ท่านรับข้าวมาเสกหว่านลงบนพื้นดิน นกกระจอก นกพิราบ รวมทั้งอีกา บินมากินกันใหญ่ สักพักอีกาบินมาเกาะโต๊ะไม้ที่ท่านนั่งอยู่ ท่านยื่นมือไปลูบหัวและจับอีกาตัวนี้มาเลี้ยง เรื่องนี้พิสูจน์ได้เพราะปัจจุบันอีกาตัวนี้ยังอยู่ในวัดศรีทรงธรรม วิชาของหลวงพ่อนี้ยอดมากเลย

• วัยรุ่นในบึงปลาทู เอาแผ่นทองแดงมาให้หลวงพ่อลงตะกรุด ท่านจะรีบไปธุระในเมือง ท่านรับและลงให้ม้วนให้แล้ววางไว้บนรูปปั้นหลวงปู่ทวด บอกว่า พรุ่งนี้มึงมาเอา แล้วท่านก็นั่งรถออกไป วัยรุ่นใจร้อน 2 คนเดินไปหยิบตะกรุดที่ตักหลวงปู่ทวดเอาไปลองยิงกันหลังวัดปืนแตกเลย พ่อแม่ต้องมากราบขอขมาหลวงพ่อ เรื่องของหลวงพ่อสุพจน์ยังมีอีกมากมายเล่าไม่จบ
ที่มา.www.assajanprakreang.com

123
พอดีได้ยินว่า ตายทั้งผัวทั้งเมีย ฟ้าผ่าลงมา ระวังช่วงหน้าฝนนะครับ
แย่จัง สงสานจัง!! อย่าใส่เลยนะครับทองแดง ช่วงหน้าฝน ด้วยความหวังดี

124
                                                                                     :017:ห้อยกับหูเข็มขัดครับขอบคุณครับ :054:

125
:017:บอกหน่อยครับ :017:

126
อยากได้คาถาครับ

127
 :017: หลวงพ่อสำอางค์ ท่านอายุเท่าไรครับปีนี้ ขอบคุณครับ :017:

128
ตั้งนะโม3จบ

กุมาโรมามะมะ เอหิจิตตังปิยังมะมะ  โสกุมาโร นะโมพุทธายะ

หลวงพ่อเปิ่นท่านอุดผงเองทั้งหมด เรียกว่าผง 7 อังคาร รวมผงพลีคนตายโหงวันเสาร์ และวันอังคาร

ตอนท่านสร้างกุมารทอง รุ่นสร้างศูนย์พักคนชราครับ

ลองนำไปใช้ท่องดูนะครับ


ไปอ่านหนังสือพระ ย้อนรอยกรรมมาครับ

129
ณ.ขณะนี้ถ้าวัดบางพระปลุกเสกวัตถุมงคลพระอาจารย์ในวัดบางพระปลุกเสกที่ใดครับ ต้องปลุกเสกร่วมกับพระเกจิวัดอื่น ด้วยหรือไม่ครับ
ในกุฎิใหญ่ใช่หรือไม่ครับตรงหน้าหลวงพ่อเปิ่นใช่ไหมครับ

และถ้าเป็นวัตถุมงคลรุ่นใหม่ของวัดบางพระปลุกเสกถึง3เดือนหรือไม่ครับ :017:



130
การจุดธูปไหว้แม่นางกวักส่วนมากใช้จุดธูปกี่ดอกครับ



และถ้าเป็นแม่นางกวักวัดสามง่ามต้องจุดธูปกี่ดอกครับ

131
ใครเคยมีประสบการณ์ มาแล้ว  ใครได้เห็นเรื่องพวกนี้มาแล้วบ้างแบ่งปันบอกกล่าวหน่อยครับ

ส่วนตัวผมเชื่อเรื่องแบบนี้ครับ

132
:089:อยากทราบว่ามีพี่ๆๆน้องๆๆแขวนวัตถุมงคลเช่นตะกรุดต่างๆๆ พระเหรียญเกจิต่างๆๆ และวัตถุมงคลอื่นๆๆทุกอาจารย์ครับ ใครมีประสบการณ์อะไรมาบ้างหรือยังครับเช่นแคล้วคาดเหตุต่างๆๆ  และอื่นๆๆครับ :090:
ผมชอบและเชื่อเรื่องแบบนี้ครับ
:054:

133
อยากทราบความเป็นมาของ(หลวงพ่อสำอาง)ในสมัยที่หลวงพ่อเปิ่นท่านยังอยู่วัดบางพระครับ ท่านได้มาเป็นเจ้าอาวาสวัดบางพระได้อย่างไรครับ
ผมว่าเดี่ยวนี้วัดบางพระเงียบกว่าแต่ก่อนเสียอีกครับ

ตัวผมไม่เข้าใจว่าตั้งแต่หลวงพ่อเปิ่นท่านมรณะภาพประชาชนบางส่วนที่ผมได้ยินมาไม่มีใครไปวัดบางพระเลยผมไม่เข้าใจเลยครับ


ส่วนตัวผมเองไปวัดบางพระเดือนละครั้งครับผมนับถือวัดบางพระเหมือนเดิมครับ

134
                    อยกทราบประวัติครับตั้งแต่ยุคแรกก็ดีครับ

135
:017:กุฏิหลวงพ่อติ่งตอนนี้ไม่ทราบว่าท่านยังมีการลงนะหน้าทองหรือเปล่าครับ เคยไปลงนะหน้าทองมาตั้งนานมากแล้วอยากไปลงนะหน้าทองอีกสักครั้งครับ ไม่ทราบว่าตอนนี้ค่าครูเท่าไรครับ :086:

136
แล้วทำไมกุฏิใหญ่ถึงไม่มีพระหลวงพ่อเปิ่นรุ่นเก่าๆๆน้อยกว่าละครับ  และทำไมกับกุฏิพระมหาสมชายถึงมีรุ่นเก่ามากกว่ากุฏิใหญ่ไม่เข้าใจครับทางวัดบางพระแยกสถานที่บูชาเพื่ออะไรครับผู้รู้หรือว่าตอนที่หลวงพ่อเปิ่นอยู่ท่านให้บูชาวัตถุมงคลที่กุฏิพระมหาสมชายหรือครับ   
                                                                     :054: ขอบคุณทุกท่านครับ :054:

137
ในกุฏิพระมหาสมชาย  ผมเห็นมีให้เช่าวัตถุมงคลอยากทราบว่าของแท้จากวัดบางพระไหมครับเห็นคนบอกว่าราคาแพงกว่ากุฎิใหญ่ริมน้ำด้วย

138
สำหรับผู้ขายน้ำเมา(เหล้า)ครับ
พอดีไปเจอมาครับแล้วน่าสนใจเลยนำมาให้ชมกันครับ




[mthai=380,320]15M1195789037M0[/mthai]

139
   :092:หมั่นทำความดีกันนะครับผมไม่อยากลงไปเจอเลยน่ากลัวผมขอทำดีเอาไว้ครับ :090:




[mthai=380,320]15M1195789023M0[/mthai]

140
 :089:กฎแห่งกรรม เรื่องกฎแห่งกรรม จะต้องตอกย้ำจำในใจละชั่วทำดี ทำใจให้ใสชีวิตหลังตายจะได้ไปสู่สวรรค์สิ่งที่ต้องรู้ ไม่รู้ไม่ได้ชีวิตเวียนว่าย อยู่ในวังวนหลีกเลี่ยงไม่ได้แม้แต่สักคนไม่มีใครพ้นเรื่องกฎแห่งกรรมแม้แต่องค์พระสัมมาจอมจักรพรรดิ์ตราหรือเทวามีฤทธิ์เลิศล้ำล้วนแต่มีผลจากการกระทำชีวิตตกต่ำหรือสูงส่งเพราะบาปหรือบุญถ้าใครใจหมองต้องไปอบายมีทุกข์มากมายเพราะบาปค้ำจุนหากใครใจใสเพราะได้ทำบุญบุญก็เกื้อหนุนให้ไปสู่ที่สุขสบาย*ไม่มีใครพ้นเรื่องกฎแห่งกรรมใครเชื่อเหตุผลคนนั้นเชื่อกฎแห่ง กรรม  :089:




[mthai=380,320]14M1193204247M0[/mthai]

141
ทำความชั่วอย่างไรจึงเป็นเปรตในนรก ลองชมกันครับ



http://www.dmc.tv/programs/pred.html

142



"ลูกอมตะกร้อมหาอาคม" ของหลวงปู่กาหลง เขี้ยวแก้ว ที่สร้างขึ้นตามตำราคัมภีร์โบราณของหลวงพ่อเนียมและหลวงพ่อซึ้ง อดีตเจ้าอาวาสวัดนาบุญ คลอง 7 จังหวัดปทุมธานี โดยพระอาจารย์ทั้งสองล้วนเป็นศิษย์อาจารย์เดียวกันกับหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ในตำรายังได้บ่งบอกถึงอานุภาพแห่ง "ยันต์ตะกร้อมหาอาคม" ว่า เป็นสุดยอดแห่งเครื่องรางของขลังที่ป้องกันอันตรายจากศาสตราวุธทั้งปวง และเมื่อครั้งที่หลวงปู่กาหลงกำลังปลุกเสกลูกอมตะกร้อมหาอาคมอยู่นั้น ได้หันมาถามลูกศิษย์ด้านหลังว่า "มีปืนไหม ลองเอามองลองดู" แต่ไม่มีใครกล้าลองในตอนนั้นด้วยเกรงกลัวบารมีครูบาอาจารย์ แต่เมื่อปลุกเสกเรียบร้อยแล้ว มีชาวบ้านนำไปทดลองยิงดู ปรากฏว่าปืนมีเสียงดังลั่น แต่ลูกปืนกลับค่อยๆ ไหลออกมาทางปากกระบอกปืนช้าๆ เป็นปรากฏการณ์อันตื่นตาแก่ผู้พบเห็น เป็นที่เสาะแสวงหากันจนหมดสิ้น อีกทั้งยังมีมูลค่าการเช่าหาที่สูงขึ้น

ในชั้นหลังจึงมีผู้มาขอให้หลวงปู่กาหลงสร้างขึ้นใหม่ เพื่อลูกศิษย์ลูกหาที่พลาดการบูชาในครั้งแรกจะได้มีไว้บูชาป้องกันตัวบ้าง ดังนั้น เมื่อหลวงปู่กาหลงได้เททองหล่อรูปเหมือนบูรพาจารย์หลวงพ่อเนียม หลวงพ่อซึ้ง หลวงพ่อรส รูปหล่อขนาดเท่าองค์จริงของพระพิราพ ปู่ฤๅษีสิงห์สมิงพราย ฤๅษีปู่เสือ เพื่อประดิษฐาน ณ ศาลหลังใหม่ ณ วัดเขาแหลม อำเภอวังสมบูรณ์ จังหวัดสระแก้ว พร้อมทั้งหล่อรูปพระพิราพ ฤๅษีปู่เสือขนาด 5 นิ้ว นำฤกษ์ จึงได้เททองหล่อลูกอมตะกร้อ มหาอาคมขึ้นมาด้วยอีกครั้งหนึ่ง

ในวันทำพิธีปรากฏเหตุการณ์อันน่าอัศจรรย์ขึ้น กล่าวคือ ก่อนวันเททอง 3-4 วัน ปรากฏมีพายุ ดีเปรสชั่นพัดเข้ามาทางฝั่งไทยทำให้มีฝนตกเป็นเวลาติดต่อกันหลายวัน กระทั่งวันเททองเมื่อพิธีเริ่มขึ้นฝนที่ตกก็เริ่มหยุดเป็นเพียงโปรยปรายลงมาเหมือนประพรมน้ำมนต์ จากนั้นท้องฟ้าเริ่มเปิด เมื่อทำพิธีไปได้สักครู่หนึ่งก็บังเกิดพระอาทิตย์ทรงกลด

ลูกอมตะกร้อมหาอาคม สร้างขึ้นจากเนื้อโลหะที่มีส่วนผสมของแผ่นยันต์อักขระกว่าพันแผ่น เหรียญพระเกจิอาจารย์เก่าๆ อีกกว่าหมื่นเหรียญ ชิ้นส่วนของเทวรูปขอมอายุกว่าพันปีที่ชำรุด เทหล่อเป็นลูกอมจำนวน 19,999 ลูก หลวงปู่กาหลงได้ปลุกเสกเดี่ยวตลอดระยะเวลาก่อนจะนำเข้าพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ ณ วัดสุทัศนเทพวราราม เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2550 มีหลวงปู่กาหลงเป็นประธานในพิธี

พระเกจิอาจารย์ร่วมพิธี ประกอบด้วย หลวงพ่อแย้ม วัดสามง่าม นครปฐม หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว นครปฐม หลวงปู่อั๊บ วัดท้องไทร นคร ปฐม หลวงพ่อเพี้ยน วัดตุ๊กตา นครปฐม หลวงพ่ออวยพร วัดดอนยายหอม นครปฐม หลวงพ่อสมพงษ์ วัดใหม่ปิ่นเกลียว นครปฐม เป็นต้น
ที่มานิตยสารย้อนรอยกรรมฉบับวันที่ 7/10/08

143
พี่ๆๆน้องๆๆใครชมคลิปนี้แล้วจะกลัวมากๆๆไม่กล้ากินเนื้อสัตว์เลย
ตัวผมเองยังไม่อยากกินเลยแต่ก็คิดหนักจริงๆๆครับสงสารนะครับแต่ก็ทำไม่ได้
แต่ผมไม่กินเนื้อวัวนะครับผมกินเจมาแล้ว9วันครับ หวังว่าพวกสัตว์ทั้งหลายจะอโหสิกรรมให้ผมนิดนึงก็ยังดีครับ


http://video.mthai.com/player.php?id=15M1223197655M265


[mthai=380,320]15M1223197655M265[/mthai]



***ขออนุญาตแก้ไขเพื่อความสะดวก ชมคลิปวีดีโอผ่านบอร์ดได้เลย

144
หลวงปู่แย้ม เพิ่งฟื้นจากการอาพาต และขอความร่วมมือ ทางวัดขอ งด จารศีรษะ นะหน้าทอง  ครับเพราะหลวงปู่แย้มท่านเครียดเรื่องหาปัจจัยสร้างกำแพงวัดครับ  เพราะกรมทางหลวงขอคืนที่หน้าวัดสามง่าม    ทางวัดก็ต้องขยับกำแพงซุ้มประตูทางเข้าเข้ามาอีกเพื่อความสะดวกของถนนที่แคบมากเพราะตอนเช้า เย็น โรงเรียนเลิก เด็กนักเรียน ข้ามถนนลำบากมากอีกทั้งรถใหญ่เล็กก็เยอะกลัว เด็กนักเรียน โดนรถชน ทางวัดเลยขยับที่ให้เพื่อส่วนรวมและชาวบ้าน เลยต้องหาปัจจัยในการสร้างกำแพงเพิ่มใครมีความประสงค์ทำบุญเชิญที่วัดสามง่ามได้นะครับ ยังขาดปัจจัยอีกมากครับ  พี่ๆๆๆ น้องๆๆวัดบางพระช่วยกันหน่อยครับ หลวงปู่แย้มท่านคงจะดีใจมากเลยครับ  สาธุทุกๆๆท่าน

145
ตอนนี้ดีขึ้นแล้วครับ  อาการก็ดูรวมๆแล้วดีขึ้นกว่าเดิมแล้วแต่ยังไม่หายดีครับ แต่ท่านก็ห่วงศิษย์ทุกๆคนครับอยากต้องรับ แต่ทางหมอยังไม่ให้โหมจนเกินไปครับ ยังงัยเพื่อนๆ ไปกราบท่านก็เบาๆกันหน่อยนะครับนิดๆหน่อยๆพอครับ เอาเป็นว่า พองามก็แล้วกัน ถนอมท่านด้วยจะได้กราบไหว้ท่านกันได้นานๆจริงมั๊ยครับ

เช่ากุมารหรือเจิมกุมาร ยังไปได้อยู่ครับเพราะหลวงปู่ค่อยยังชั่วแล้ว แต่พยายามอย่าขอเรื่องอื่นเพิ่มนะครับ เพราะท่านเพิ่งฟื้นอาพาต

146
อาการเมื่อตอนเวลา18.00 ทาง แพทย์รพ.ดอนตูมให้หลวงปู่ท่าน งดรับแขกลูกศิษย์ เป็นเวลา2วัน เนื่องจากหลวงปู่ท่านยังมีอาการอ่อนแรงและเจ็บคออยู่ จึงอยากให้ท่านพักผ่อนให้เต็มที่ครับ ถ้าเพื่อนๆจะไปกราบลป.ยังงัยโทรไปสอบถามทางวัดก่อน ก่อนเดินทางจะได้ไม่เสียเที่ยวประกาศ
27/09/2008



ประกาศข่าวจากทางวัดขอ งด เข้าเยี่ยมหลวงปู่แย้ม



28/09/08
วันนี้ผมไปวัดมาเพื่อเยี่ยมอาการอาพาตหลวงปู่แย้ม พอไปถึงวัดท่านไม่อยู่  กุฎิปิดเงียบ ทางวัดบอกว่าท่านนอนให้น้ำเกลืออยู่ที่ ร พ สักครู่เห็นรถของวัดเข้ามาในวัดกับศิษย์และได้เห็นท่านเข้ากุฎิ ท่าทางท่านอิดโรยมากไม่สดใสอย่างที่เคย ฉันท์อาหารไม่ได้เลย ท่านบอกว่าท่านเจ็บคอและเหนื่อยมาก หมอบอกให้หลวงปู่นอน ร พ ท่านไม่ยอมนอนจะกลับวัดท่าเดียว แต่ผมก็ไม่ได้คุยกับท่านมากเพราะ ลป อ่อนเพลียมาก  ทางวัดสามง่ามฝากแจ้งเพื่อน ๆ พี่ ๆ ญาติ โยม ขอ  งด! รับแขกหรือเจิมปลุกเสกกุมารสัก 2-3 วันเพื่อให้ ลป พักและดีขึ้นบ้างก่อน   (เดี๋ยวไปวัดเสีย เที่ยวครับ) หลังจากนี้ยังไม่มีข่าวครับลองเข้าไปตรวจอาการหลวงปูแย้มได้เว็บข้างล่างครับ



ที่มา เว็บบอร์ด 
kumanthongsiam.com

147
       :017:เพื่อนมีนิดเดียวเองฮิๆๆๆ :095:









148
ไม่ทราบวัดไหนเด่นเรื่องแม่นางกวัก ครับ

149
ใครได้ไปวัดสามง่ามบ้าง แม่นางกวัก หลวงปู่แย้ม วัดสามง่ามไม่ทราบว่าล่าสุดที่วัดสามง่ามยังมีให้บูชาหรือเปล่าครับราคาบูชาเท่าไร....ขอบคุณ

150
:017:อยากได้คาถาบูชาของหลวงปู่แย้มวัดสามง่ามครับใครมีแบ่งกันหน่อยครับและมีคาถาตะกรุด3ห่วง ขอบคุณทุกๆๆท่านจากใจจริงครับ :054:

151
เปิดตำนานฤาษีในเมืองไทย จากเริ่มต้นถึงจุดเสื่อม



http://hiptv.mcot.net/player/hipPlayer.php?SelectSpeed=256k&id=18144

152
 :089: แก้กรรม แก้ชีวิต :089:

http://hiptv.mcot.net/viewFlv.php?flvId=18165

153

รูปหลวงพ่ออั้นนิตยสารพระเกจิฉบับที่ 194



แถมเหรีญรูปไข่หลวงพ่ออั้นวัดโรงโครุ่นพิเศษ 51หลวงพ่ออั้นปลุกเสกให้กับนิตยสารพระเกจิฉบับที่ 194 ปลุกเสกเต็มๆๆหลายชั่วโมงครับ


และในเล่มก็ส่งจดหมายพร้อมค่าจัดส่งได้อีก1เหรียญฟรีเหรียญ          หลวงปู่สด วัดโพธ์แตงใต้ จ.พระนครศรีอยุธยา  หลวงปู่สด วัดโพธ์แตงใต้ปลุกเสกมา14 ปี แล้วนะครับ  ปี 2537 ลองหาอ่านนะครับในเล่มยังมีเนื้อหาอื่นๆๆอีกมากครับ




154









:114:หนังสือนิตยสารพระเกจิฉบับที่ 194 ลองไปหาอ่านดูนะครับแถมเหรีญรูปไข่หลวงพ่ออั้น วัดโรงโครุ่นพิเศษ 51  ด้วยครับและในเล่มก็ส่งจดหมายพร้อมค่าจัดส่งได้อีก1เหรียญฟรีลองหาอ่านนะครับ
ผมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรนะครับผมแค่ซื้อหนังสือมาอ่านแล้วครับจึงนำมาบอกต่อครับ และผมไม่ได้ทำงานให้กับหนังสือนิตยสารพระเกจินะครับผมกลัวเข้าใจผิดว่าโฆษณา :054:

155
ดูภาพวีดีโอ การสัมภาษณ์ คนที่โดนยิง แล้วไม่เป็นอะไรเลยที่นี่หลวงปู่แย้ม วัดตะเคียน



ที่นี่ http://www.wattakian.com

156
เชิญทุกท่านที่มีทุกข์ทำพิธีนอนในโลงศพทางวัดก็จะมีการทำพิธีบังสกุลเป็น บังสกุลตาย และจะมีแต่สิ่งดีๆๆให้กับผู้มาที่วัด ซึ่งคนเยอะมากครับ หลวงพ่อปากแดง วัดพราหมณี จ.นครนายก



หลวงพ่อปากแดง


พญามัจจุราช

สนใจคลิกชมด้านล่างครับ
1.ภาพวัดพราหมณีhttp://images.google.com/imgres?imgurl=http://www.weekendhobby.com/camp/webboard/picture%255C227255012572.jpg&imgrefurl=http://www.weekendhobby.com/camp/webboard/Question.asp%3FID%3D1748&h=525&w=700&sz=78&hl=en&start=3&sig2=FVat5eRtOjCt5DIfn3DtUw&um=1&usg=__jyWeD4AI_DPH7r9PxElNxfRX_KE=&tbnid=1EA6jQf_-MIQ8M:&tbnh=105&tbnw=140&ei=QHm2SMLqFommswLd2cmdAQ&prev=/images%3Fq%3D%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%2593%25E0%25B8%25B5%26um%3D1%26hl%3Den%26sa%3DN

2.คลิปนอนในโลงวัดพราหมณีhttp://www.discountedscripts.com/demos/videonew/video/o3FmBSRqKYo/%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%A8%E0%B8%9E-%E0%B8%AA%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B9%8C-%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%93%E0%B8%B5-%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%81.html

157


"ฆ่าจิตเราให้มันตาย  อย่าให้มีโกรธ  อย่าให้มีโลภ  อย่าให้มีหลง"

158
:086:สายร่มถักเชือกคาดเอวหาซื้อได้ที่ไหนบ้างครับราคาเท่าไรด้วยครับสำหรับเอาไว้ห้อยตะกรุด :075:

159
:086:เรียนถามสมาชิกหน่อยครับเรื่องเชือกร่มคาดตะกรุดที่เอวถ้าซื้อที่เขาถักเสร็จแล้วจะอยู่ที่ราคาเท่าไรครับและสามารถหาซื้อได้ที่ไหนบ้างครับช่วยแนะนำด้วยครับที่ราคาไม่แพงมาก..... :005: :054:

160
:089:ช่วยเข้าไปทำบุญที่วัดหลวงพ่อโอภาสีกันหน่อยครับหลวงพ่อโอภาษีพระอาจารย์ของหลวงพ่อเปิ่นวัดหลวงพ่อโอภาษีกำลังจัดสร้างพระอุโบสถที่สร้างยังไม่เสร็จด้วยครับและอย่าลืมได้ไปไหว้สรีระของหลวงพ่อโอภาสีด้วยครับ

วัดหลวงพ่อโอภาษี บางมด กทม.  :089:
ที่อยู่ ซ.สุขสวัสดิ์26แขวงบางปะกอก เขตราษฎบูรณะ กทม

http://www.uamulet.com/boardDetail.aspx?bid=4&qid=27437

161
พระฤาษีสิงห์

                                         :089: :089: :089:

162
หลวงพ่อโอภาสี






ธรรมมะที่ หลวงพ่อโอภาสี แนะนำสั่งสอน ท่านจะเน้นให้ตัดทุกสิ่งทุกอย่าง ให้ปล่อยวาง อย่ายึดถือ โดยเฉพาะศัตรูสำคัญคือขันธ์ ๕ ให้พิจารณาแยกออกเป็นธาตุทั้ง ๔ คือ ดิน น้ำ ไฟ ลม ให้เห็นแจ้งชัด ละอุปาทานที่มีอยู่ เมื่อพิจารณาเห็นจริงดังกล่าวแล้ว ความโลภ ความโกรธ ความหลง ที่มีอยู่จะเบาบางไป สัจจะคือความจริง ได้แก่อนิจจัง ความไม่เที่ยง ทุกขัง ความเป็นทุกข์ และอนัตตา ความไม่มีตัวตนก็จะปรากฏขึ้น ได้อยู่ศึกษาและปฏิบัติกับหลวงพ่อโอภาสี ท่านได้เล่าประสพการณ์ต่าง ๆ ที่ท่านได้ผจญมา และบอกว่ายังมีอาจารย์เก่ง ๆ และดี ๆ อีกเยอะ ในเมืองไทยได้อยู่รับใช้และศึกษาปฏิบัติกับหลวงพ่อโอภาสีเป็นเวลา ๑ ปีเศษก็กราบลาเพื่อออกธุดงควัตรต่อไป

เมื่อกราบลา หลวงพ่อโอภาสี จุดหมายปลายทางจะไปทางภาคเหนือก่อน เพราะได้ยินกิตติศัพท์ว่า ทางภาคเหนือของประเทศไทยนี้ มีพระอาจารย์ที่ประพฤติดีปฏิบัติชอบเป็นจำนวนมาก ความไม่อิ่มในธรรม และใคร่จะได้ศึกษาปฏิบัติให้ยิ่ง ๆ ขึ้น พบอาจารย์ที่ไหน ก็จะเข้าไปฝากตัวเป็นศิษย์ เพื่อศึกษาธรรมจากท่าน เจริญสมณธรรม อาศัยอยู่ในป่า ตามถ้ำ ตามหุบเขาต่าง ๆ สิ่งแรกที่ได้รับคือ ความกลัวหมดไป ประการที่สอง ได้กายวิเวก ประการที่สาม จิตวิเวกจะเกิดขึ้นผลที่สุดนิรามิสสุขก็จะตามมา

163
 ในถาดมีไม่มากนะครับ



                                            :017: :017: :017:

164
ตะกรุดหลวงพ่อจำลอง ตะกรุดลูกปืนอาจารย์อ๊อด ตะกรุดวัดบางพระ51





165
ตะกรุดเสาร์5ปี2540




                                             :090: :090: :090:
ตะกรุดมหารูดป้องปกจักรวาลหลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว


                                             :017: :017: :017:



166
ตะกรุดหนังเสือแปลงหลอดใหม่หลอดเก่าแตกครับ




                     :114: :114: :114: :089: :089: :089:

168
             พระพิฆเณศ 






หลวงปู่ช้าง  สำนักสงฆ์ วัดหนองยายเม้า





169
                                      พระฤาษีเสือ วัดบางพระ








                                  ตะกรุดเสาร์5ปี2540]





                                  ฤาษีพ่อแก่





                                            :114: :114: :114:

170




สำนักสงฆ์ วัดหนองยายเม้า

หมู่ 6    บ้านหนองพยอม

ตำบล หนองตะไก้     อำเภอ สูงเนิน

จังหวัด นครราชสีมา    30380




171
1.หลวงพ่อเขียน


2.หลวงพ่อแพ


หลวงพ่อเกษม


หลวงพ่อโอภาษี


หลวงพ่อแย้ม


ตะกรุดในถาดมีหลวงพ่อเปิ่น-หลวงพ่อแย้มวัดสามง่าม-หลวงปู่เจือวัดกลางบางแก้ว-หลวงพ่อตัด-หลวงพ่อจำลอง-พระอาจารย์อ็อด-หลวงพ่อเสือถ่านเป็นพระธุดงครับ

:017:











172
คาถาความรวย

ความขยัน อดทน ไม่ยอมแพ้
ความใฝ่รู้ ริเริ่ม แก้ไข
อดออม พอเพียง ไม่เห็นแก่ตัว
ความศรัทธา ความเชื่อ ไม่งมงาย


173
:017:อยากเห็นภาพกุมารทองของหลวงปู่แย้มจังเลยครับช่วยโพสภาพเอาแบบที่ยังมีบูชาที่วัดสามง่ามดีเลยครับ.....ช่วยโพสกุมารทองวัดสามง่ามหน่อยครับพอดีอยากบูชา
คู่กับกุมารทองวัดบางพระที่มีอยู่ที่บ้านแล้ว1องค์แล้วจะอยู่ด้วยกันได้ไหมครับ........พี่สมาชิกทุกท่าน...... :114:
ขอบคุณทุกท่านครับ :086:

174
เรียนถามทุกท่านนะครับ
กุมารทองหลวงปู่แย้มวัดสามง่ามเป็นกุมารสายเทพ-หรือกุมารสายพรายครับแนะนำหน่อยครับขอบคุณที่ให้คำตอบครับราคาบูชากุมารทองหลวงปู่แย้มวัดสามง่ามเท่าไรครับองค์เล็กแบบขนาดบูชาเท่าไรครับ

175
ทรัพย์สินเงินทองของนอกกาย               ตายไปเอาไป ไม่ได้ หมั่นทำ แต่คุณงามความดี จะอยู่เย็นเป็นสุข          ไม่เบียดเบียน คนอื่น
ทำบุญกุศลจะได้หมดทุกข์                     หมดโศก หมดโรค หมดภัย
ทำอะไรขอให้เจริญรุ่งเรือง                     ไม่ว่าเทพหรือมนุษย์ ก็ทำความดีได้ 

176
                     

      เขาเห็นอายุเรายังน้อย แต่เขาไม่รู้หลอกว่า ข้างในของเราเป็นอย่างไร

                           :054:พระครูปทุมวรกิจ (หลวงพ่อชำนาญ)
                           วัดบางกุฏีทอง ต.บางกะดี อ.เมือง จ.ปทุมธานี :054:



177



 :089:หลวงพ่อวัชระ  เอกวัณโณ
เปิดโลกธรรม ลดแรงกรรม แก้ไขกรรมของสัตว์โลก
ด้วยพลังธาตุธรรม เมตตาบารมี
ณ วัดถ้ำแฝด ต.เขาน้อย อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี

ร่างทรงองค์เทพ
                   เมื่อได้คุยกันถึงเรื่องความเข้าใจผิดหรือความหลงผิดของมนุษย์มาแต่ครั้งพุทธกาลแล้ว ความคิดเหล่านี้ก็ยังมีอยู่ในทุกยุคทุกสมัย จนบางครั้งดูเป็นความหลงผิดอย่างมหันต์ เช่น ความเชื่อในเรื่องไสยศาสตร์ต่าง ๆ โดยขาดการพิจารณาไตร่ตรอง หลงยึดติดในเรื่องอิทธิฤทธิ์จนเกินไป ทำให้หลงเป็นเหยื่อของเหล่า 18 มงกุฎ ที่ชอบอวดอ้างตนเอง ตั้งตัวเองเป็นเกจิอาจารย์ ใช้เล่ห์กลมายาและหน้าม้าขบวนการหลอกล่อ กระทำเรื่องราวต่าง ๆ อวดอ้างเป็นผู้วิเศษในเรื่องราวต่าง ๆ จนผู้คนหลงเชื่อ ในที่สุดก็ต้องสูญเสียเงินทองไปกับกลุ่มคนเหล่านี้อย่างช่วยไม่ได้

                   การเจ็บป่วยของมนุษย์นั้น จัดได้ว่าเป็นความทุกข์อย่างหนึ่งที่พบเห็นกันอยู่ทุกวัน ดังได้กล่าวมาแล้ว หากเกิดจากดินฟ้าอากาศแปรปรวน เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว ก็อาจเจ็บป่วยเป็นไข้หวัด ไอหรือจาม เพียงกินยาหรือหาหมอก็หาย บางคนอาจมีวิตกจริตมากชอบคิดถึงเรื่องราวต่าง ๆ อย่างมากมายจนเกิดความเครียด นำไปสู่โรคหัวใจ โรคประสาท ก็เป็นไปได้  แต่บางโรคเพียรพยายามจะรักษาอย่างไรก็ไม่หาย กินยากันเป็นปี ผ่าตัดกันเป็นประจำ ก็ไม่หาย

                   ดังนั้นหนทางแห่งการแก้ไข ก็เลยหนีจากทางวิทยาศาสตร์การแพทย์มาเป็นไสยศาสตร์ หาร่างทรงองค์เทพกันไป หายก็มี ไม่หายก็มี เพราะถ้าโชคดี พบกับผู้มีภูมิความรู้จริง ๆ ก็คงจะหาย แต่ถ้าพบผู้แอบอ้างแฝงมาหากิน ก็คงจะเสียเงินมากกว่าจะหาย

                   สิ่งหนึ่งที่มักจะพบเห็นมักได้แก่  ถูกทักทายว่ามีองค์ และจะต้องครอบขันธ์ครู รับองค์เทพไปบูชามิฉะนั้นจะไม่หายป่วย บางทีอาจถึงตาย คนเรามาถึงขั้นนี้มีหรือจะไม่ยอม ส่วนใหญ่จะยอมรับขันธ์กัน เพราะอยากหายและอยากรวย   ดังนั้นเมื่อถูกทักว่ามีองค์ก็อย่าเพิ่งหลงดีใจ เพราะอาจจะเป็นก้าวแรกที่ท่านจะต้องเสียเงินให้แก่ตำหนักนี้อีก เรื่อย ๆ เช่น การครอบขันธ์ งานไหว้ครู เป็นต้น ปัญหาจึงอยู่ที่ว่า ท่านมีองค์จริงหรือ ? ?.หรือว่า ถูกหลอก !

คนทรงเจ้าหรือเจ้าเข้าทรง
                   ก่อนที่เราจะเข้าสู่เนื้อหาสาระในเรื่อง เกี่ยวกับความเชื่อถือในเรื่องการเข้าทรง ก็อยากจะให้ท่านผู้อ่านได้พิจารณาในเรื่องดังกล่าว 2 ประเด็นด้วยกันคือ

1. คนทรงเจ้า หมายถึงคนธรรมดาที่ไม่มีเทพมาประทับ แต่จะแสดงตนแอบอ้างชื่อองค์เทพใหญ่ ๆ ที่มีคนนับถือมาก ๆ โดยอาศัยความรู้ในเรื่องไสยศาสตร์ เวทย์มนต์คาถาอาคม วิทยากล  สมุนไพร ดูดวง เข้ามาประกอบ ทำให้คนหลงเชื่อว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพนับถือมาจริง ๆ โดยหารู้ไม่ว่าเป็นการแสดงมายาเพื่อจะแอบอ้างกอบโกยเอาเงินทองจากผู้หลงไหลในเรื่องเหล่านี้  ร่างทรงพวกนี้จึงเป็นพวกมิจฉาทิฎฐิ ที่อาศัยคำพูดและการแสดงที่จะทำให้คนเชื่อถือ หลอกให้เชื่อว่าเป็นมหาเทพลงมาประทับ เช่น ศิวะ นารายณ์ เป็นต้น

2.  เจ้าเข้าทรง หมายถึงผู้ที่มีองค์เทพลงมาประทับจริง ๆ เพื่อสร้างบารมี บางทีร่างทรงจะไม่รู้อะไรเลยในระหว่างที่องค์เทพผ่านมาประทับร่าง ดังนั้นร่างทรงประเภทนี้จะมีน้อยมากเพราะองค์เทพมีความประสงค์ที่จะมาช่วยบำบัดทุกข์ให้มนุษย์เพื่อสร้างบารมี ไม่โกงกินไม่แบ่งชนชั้นวรรณะ คอยช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก เพื่อสั่งสมบารมีร่วมกับร่าง จึงทำให้พอมีกินมีใช้ ไม่ร่ำรวยมากนัก องค์เทพท่านจึงต้องเลือกร่างที่มีบุญบารมีมาก ๆ เท่านั้น คนชั่วช้าขาดศีลขาดศีลขาดธรรมท่านจะไม่เอาด้วย เว้นแต่เทพในระดับต่ำ ๆ ที่มีนิสัยเกเรเป็นสัมภเวสี เป็นเทพกึ่งเปรตที่ไม่มีวิมานอยู่ เพราะตอนกลางวันเป็นเทพแต่พอตกกลางคืนก็กลายเป็นเปรตหรือปีศาจเที่ยวหลอกหลอนชาวบ้าน จึงจับร่างที่ชั่วช้าสามานต์มาเป็นบริวารแห่งตน เพื่อแสวงหาผลประโยชน์จากเครื่องเซ่นสังเวยและอื่น ๆ มีนิสัยอันธพาล อิจฉาตาร้อนชอบกลั่นแกล้งผู้อื่น อาศัยวิชาเดรัจฉานเลี้ยงชีพ จึงต้องรู้จักใช้วิจารณญาณในการพิจารณาเรื่อง การทรงเจ้าเข้าผี ดังที่ว่า

เหตุที่ทำให้มีองค์เทพฯ                

                    ปฐมเหตุของการเกิดร่างทรงองค์เทพมากมายในยุคนี้  กล่าวกันว่าเมื่อครั้งพุทธกาล ก่อนที่องค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้ายังทรงพระชนชีพอยู่ พระพุทธองค์ได้ตรัสกับพุทธบริษัททั้งหลายว่า พระพุทธศาสนาของพระพุทธเจ้าองค์ก่อนมีอายุ 5,000 ปี แต่ของพระองค์นั้นต้องการจะให้พระศาสนามีอายุเพียง 2,500 ปี เท่านั้น

                   พระอานนท์จึงทูลถามว่า เหตุใดพระองค์จึงมิให้พระศาสนาดำรงอยู่จนครบ 5,000 ปี ดังพระพุทธเจ้าองค์ก่อน ๆ พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า

                   ?แล้วผู้ใดเล่าจะเป็นผู้ดูแลพระศาสนา? พระอานนท์จึงทูลว่า

                   ?ขอให้พระภิกษุสงฆ์ สามเณร ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ผู้เป็นพุทธบริษัทเป็นผู้ดูแลและบำรุงรักษาพระพุทธศาสนากึ่งหนึ่งเป็นเวลา 2,500 ปี ?

                   พระพุทธเจ้าท่านก็ทรงอนุญาต แล้วทรงถามต่อไปอีกว่า ใครจะขออะไรบ้าง

                   ปวงเทพทั้งหลายทุกเหล่าชั้น อันได้แก่  พระอินทร์ พระพรหม พระยม พระกาฬ เหล่าเทพเทวาทั้งหลาย จึงพร้อมใจกันกราบทูล ขอให้ปวงเทพได้ดูแลและบำรุงพระพุทธศาสนาต่อไปอีกครึ่งหนึ่งของพระอานนท์คือ 1,250 ปี

                   พระพุทธเจ้าท่านก็ทรงอนุญาตอีก แล้วทรงถามต่อไปว่าใครจะขออะไรอีก

                   เหล่าพญาครุฑ คนธรรพ์ นาคราช ท้าวกุเวร กินนร กินนรี และภูติผีปีศาจ จึงกราบทูลขอดูแลอายุพระศาสนาเท่าที่เหลือ 1,250 ปี ให้พวกเขาได้ดูแลรักษา จนกว่าพระศาสนาจะค่อย ๆ เรียวเล็กลงไป ยุคนั้นมนุษย์จะมีร่างกายเล็กลงไปตามลำดับ ถึงกับต้องปีนบันไดสอยลูกมะเขือ  หรือเก็บเม็ดพริก พระสงฆ์สาวกก็จะร่อยหรอแทบว่าจะไม่มีเหลือ จะเหลือเพียง ผ้าเหลืองผืนน้อย ๆ ห้อยอยู่ที่หู เพื่อให้เป็นที่สังเกตุว่าเป็นพระสงฆ์เท่านั้น พระศาสนาก็จะเสื่อมถอยลงไปจนหมดพอดี 5,000 ปี ตามพุทธฎีกาที่กำหนดไว้

                   เมื่อถึงกึ่งพุทธกาล 2,500 ปี เป็นต้นมา จึงเป็นหน้าที่ของเทพพรหมเทวาทั้งหลายที่จะมาทำหน้าที่อุปถัมภ์ค้ำชูทนุบำรุงสืบพระศาสนาขององค์สมณโคดม ตามที่ได้ทูลขอกับพุทธองค์ไว้ จึงเป็นเหตุในเกิดมีร่างทรงองค์เทพมากมายในปัจจุบัน

                   อนึ่ง องค์เทพเป็นเพียงอากาศธาตุเท่านั้น จึงจำเป็นต้องอาศัยสังขารของมนุษย์ที่มีธาตุทั้ง 4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ  โดยการมาแฝงบังคับร่าง เพื่ออาศัยติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ได้ นำพาพุทธบริษัทบริจาคทานสร้างวัดวาอารามต่าง ๆ โดยอาศัยการช่วยเหลือบำบัดทุกข์ร้อน รักษาโรคภัยไข้เจ็บให้กับมนุษย์ และบอกบุญกับสานุศิษย์ผู้ศรัทธาได้ร่วมเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญกุศลในโอกาสต่าง ๆ โดยมีจุดประสงค์เพื่อการสืบพระศาสนาเป็นสำคัญ

                   ดังนั้นการที่องค์เทพจะมาเกี่ยวข้องกับมนุษย์นั้นก็ด้วยเหตุ 2 ประการ คือ

1.   ญาณจุติ  หมายถึงภาระหน้าที่ในการเกิดเป็นมนุษย์ตามวาระ และเป็นส่วนหนึ่งของเทพที่ลงมาจุติ เพื่อมารับกรรมบางอย่างและเพื่อทำหน้าที่ในการเป็นผู้นำทางศาสนา เช่น พระสงฆ์ อุบาสก อุบาสิกา ผู้เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา เป็นผู้นำทางฝ่ายสงฆ์หรือฆราวาสก็ตาม  ที่เป็นผู้ใฝ่ในการปฏิบัติจนได้ญาณหรือฌาณ และมักจะลำบากในช่วงแรกแต่จะสบายในช่วงปลาย

2.    ญาณแฝง หมายถึง องค์เทพในระดับต่าง ๆ ที่ยังไม่ถึงวาระการเกิดเป็นมนุษย์ แต่มีความเลื่อมใส ปรารถนาจะช่วยส่งเสริมและมีส่วนร่วมในการสืบพระศาสนาด้วย ครั้นจะลงมาเกิดใหม่เพื่อสร้างบุญ ก็จะต้องรอเวลาอีกนานกว่าจะถึงเวลานั้น ญาณนี้แหละทีมักถูกเรียกกันว่า  ?องค์? ซึ่งแยกตามภาระหน้าที่ได้ 2 ประการด้วยกัน

 ความสัมพันธ์ในอดีต คือให้การอารักขาผู้ที่ได้มาจุติเป็นมนุษย์ เพราะเคยเกี่ยวสัมพันธ์กันมาแต่ชาติปางก่อน  เมื่อร่างนี้ได้ทำบุญและแผ่เมตตาให้ ก็จะได้ร่วมอนุโมทนาบุญด้วยกัน ขณะเดียวกันก็จะคอยปกป้องคุ้มครอง ช่วยเหลือการทำมาหากิน ดลจิตดลใจ หรือเกิดเป็นลางสังหรณ์ในเรื่องราวต่าง ๆ  จะพาสร้างบารมีทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา บางครั้งเวลาสวดมนต์นั่งกรรมฐานองค์เทพท่านจะพาสวดมนต์เป็นภาษาเบื้องบนหรือภาษาเทพไปเลยก็มี  ความสัมพันธ์ดังกล่าวได้แก่

             1. เคยมีบุญคุณกันมาก่อนที่จะลงมาจุติเป็นมนุษย์ หรือ ในอดีตชาติ

              2.เคยติดหนี้บุญคุณกันมาก่อนที่จะลงมาจุติเป็นมนุษย์ หรือ ในอดีตชาติ

               3.เคยเป็นบุตรหลานหรือบริวารกันมาก่อน

               4.เกิดจาการสวดมนต์อ้อนวอนขอบารมีจากเทพเป็นประจำ จึงลงมาช่วย

·       ทำหน้าที่เป็นม้าทรง หรือ ร่างทรง ในกรณีเช่นนี้ส่วนใหญ่จะตายแล้วฟื้นขึ้นมาใหม่ เนื่องจากองค์เทพที่มาจับร่างเห็นว่า เป็นคนดีและมีบารมีพอ บังเอิญมาหมดอายุขัยก่อน ท่านก็เลยต่ออายุให้ ดังนั้นร่างนี้จึงต้องสร้างบารมีชดใช้หนี้บุญคุณขององค์เทพ โดยเป็นร่างทรงหรือสื่อที่จะติดต่อมนุษย์เพื่อสร้างบารมีร่วมกัน ในการทำนายทายทัก รักษาโรค หรือ อื่น ๆ สุดแท้แต่องค์เทพท่านจะเห็นสมควร และเมื่อถืงเวลาหรือหมดหน้าที่ก็จะต้องตายจริง ๆ

                   บางคนอาจสงสัยว่า ?เทพ พรหม? มีบารมีมากพอแล้ว ทำไมถึงต้องลงมาเกี่ยวข้องกับมนุษย์อีก ทั้งที่ร่างกายมนุษย์มีแต่ของเน่าเหม็นเต็มไปหมด ดังนั้นเราควรศึกษาให้เข้าใจก็จะได้หายสงสัย เพราะความเป็นเทพพรหมแม้จะได้ชื่อว่าเป็นสุคติภูมิ แต่ก็ย่อมมีอายุขัยแม้จะเป็นหมื่นปีแสนปี สักวันหนึ่งมาถึงก็ย่อมจะต้องลงไปจุติใหม่ตามวิบากกรรม

                   เหตุฉะนั้นเทพพรหมผู้ไม่ประมาท จึงต้องขวนขวายหมั่นสร้างบุญกุศลให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป อนึ่งในความเป็นเทพพรหมนั้นย่อมอยู่ในสภาวะที่เรียกกันว่า ?โอปปาติกะ? คือมีความเป็นทิพย์ที่ละเอียด ไม่สามารถสัมผัสได้ด้วยตาเปล่า เว้นแต่ผู้ที่ฝึกจิตจนใสละเอียดในระดับเดียวกันจึงสามารถมองเห็นตัวกันได้

                   ดังนั้นหนทางแห่งการสร้างบุญจึงมีขีดจำกัด ด้วยอานิสงก์แห่งบุญนั้นเอง ไม่เหมือนมนุษย์ย่อมสามารถบำเพ็ญบารมีได้ถึงชั้นสูงสุดคือ พระนิพพาน แม้แต่องค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านอยู่สวรรค์ชั้นดุสิตก็ยังต้องมาจุติในภพมนุษย์ เพราะต้องอาศัยสังขารหรือธาตุขันธ์ 5 เพื่อชดใช้หนี้เวรหนี้กรรม จนบรรลุพระโพธิญาณ ได้เป็นพระพุทธเจ้าในที่สุด

                   ทีนี้เราจะรู้ได้อย่างไรว่า เรามีองค์หรือเปล่า  หรือชอบไปเที่ยวหาร่างทรงตามตำหนักต่าง ๆ  เป็นเทพจริงหรือเปล่า หรือเป็นเพียงสัมภเวสีที่แอบอ้างหากินไปวัน ๆ  พอถูกเขาทักว่ามีองค์ก็เลยพาลรับขันธ์ 5 ไปเลยก็มี ถ้าทำถูกต้องก็ดีไป ถ้าทำไม่ถูกต้อง กลายเป็นว่าเอาผีมาใส่ไว้ในตัวก็จะซวยไปกันใหญ่ เพราะบางทีเราไม่ทราบว่า ตำหนักไหนแท้หรือเทียม  บางคนไม่มีอะไร แต่พอเห็นเขามีองค์ก็พาลอยากจะเป็นบ้าง ก็เลยทำให้มีทั้ง ?คนทรงเจ้า? ?เจ้าเข้าทรง? ก็อยู่ในวิจารณญาณของท่านที่ต้องพิจารณาศึกษาให้ดีเสียก่อน

                   พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนให้เราลุ่มหลงในเรื่องของ ?เทพพรหม? เพราะไม่ใช่ทางหลุดพ้น ยังต้องมาเวียนว่ายตายเกิดอีก จึงไม่สอนให้ไปยึดติดในภพภูมิเหล่านั้น แต่ไม่ได้ทรงปฏิเสธในเรื่องเทพพรหมว่ามีจริง เพราะแม้ครั้งพุทธกาลก็เคยเสด็จไปโปรด พุทธมารดาที่สวรรค์ชั้นดาวดึงษ์ แม้ในพุทธกิจก็ยังแบ่งเวลาไปโปรดเทพเทวดาในชั้นภูมิต่าง ๆ จนมีผู้สำเร็จอริยบุคคลไปเป็นจำนวนมาก

การรับขันธ์
                   หลายคนคงจะประสพปัญหาเกี่ยวกับชีวิต หน้าที่การงาน การเจ็บป่วย เชื่อถือในเรื่องไสยศาสตร์ สิ่งลี้ลับ ก็มักจะไปตามตำหนักทรงต่าง ๆ บ่อยครั้งที่ถูกทักว่า ?มีองค์? ต้องรับขันธ์ จึงจะทำให้ชีวิตหน้าที่การงาน การเงิน คู่ครอง การค้าขาย หรือ สุขภาพจะดีขึ้น แรก ๆ ก็อาจเฉย ๆ พอถูกทักบ่อยเข้าชักเขวเหมือนกัน ก็เลยตกกระไดพลอยโจนไปกับเขาด้วย ขันธ์หนึ่งก็ไม่ต่ำกว่า 500 บาทขึ้นไป จนเหยียบ 10,000 บาท แล้วแต่จะเป็นขันธ์ 5 ขันธ์ 8 ขันธ์ 9 ขันธ์ 10 ขันธ์ 16  ก็ว่ากันไป ตามอัตตภาพ ไม่รู้ว่าอุปทานหรือไม่ บางคนก็ว่าอะไร ๆ ดีขึ้น แต่ส่วนใหญ่พบว่าเลวยิ่งกว่าเก่า ปัญหารุมเร้าหนักกว่าเดิม พาลเป็นบ้าเป็นบอ เจ็บป่วยหนักกว่าเดิมก็แยะ

                 ขันธ์ 5 คือ เครื่องสักการะบูชา ที่ผู้จะมาขอเป็นศิษย์จัดมาให้ครูบาอาจารย์ เพราะในบรรพกาลผ่านมาจวบจนปัจจุบัน การเรียนรู้สารพัดวิชา จะต้องอาศัยการศึกษาจากผู้ที่เป็นครู และการจะขอเรียนวิชาการเหล่านั้นก็จำเป็นต้องจัดตั้งขันธ์ 5
                   ขันธ์ 5 ดังกล่าวประกอบด้วย ดอกไม้ขาว ธูป เทียน ผ้าขาว และใช้ใบตองทำกรวยทรงแหลม 5 กรวย บรรจุดอกไม้ ธูป เทียน 5 คู่ ใส่ลงในกรวยทั้ง 5 แล้วจึงนำวางลงบนผ้าขาวที่วางรองรับอยู่บนพานหรือภาชนะ แล้วจึงนำเข้าไปกราบครูบาอาจารย์ เพื่อขอเป็นศิษย์ ซึ่งผู้เป็นครูก็จะตรวจดูดวงชะตา ว่าสมควรจะรับเป็นศิษย์ได้หรือไม่ เพราะบางทีจะกลายเป็นศิษย์คิดล้างครูได้ในภายหลัง จึงจำเป็นต้องตรวจเช็คดูเสียก่อน  หากไม่ประสงค์จะรับเข้าเป็นศิษย์ก็จะไม่รับขันธ์ 5  หากพิจารณาเห็นสมควรแล้วก็รับขันธ์ 5 นั้นมา

                 ขันธ์ครู คือ เครื่องมงคลทั้ง 5 ที่ผู้เป็นครูประสิทธิประสาทพร ในรูปแบบของวัตถุให้กับศิษย์เพื่อเป็นเครื่องเตือนสติ และเป็นที่รำลึกแก่ศิษย์ให้มีความขยันหมั่นเพียรศึกษาวิชาความรู้ที่ครูมอบให้ไปศึกษาเล่าเรียน
                   ขันธ์ 5 องค์เทพ หมายถึงขันธ์ 5 และขันธ์ครูรวมเข้าด้วยกันนั่นเอง

กรณีการรับขันธ์
                   ขันธ์ 5 ของมนุษย์นั้น ประกอบไปด้วย รูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ วิญญาณขันธ์

                   เทพ เป็นจิตวิญญาณ มีขันธ์เพียง 3 ขันธ์ คือ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ วิญญาณขันธ์ จึงต้องอาศัยการแต่งขันธ์ 5 ของมนุษย์ ที่จัดตบแต่งขึ้นมาเป็นตัวแทนของตน ว่าได้ยอมรับเป็นร่างให้กับเทพองค์นั้น ๆ  และยังหมายถึงข้อตกลง ระหว่างเทพกับมนุษย์ผู้ตกลงปลงใจยอมรับหน้าที่เป็นสังขารขันธ์ให้กับองค์เทพผู้นั้นไว้ใช้ร่างของตนสร้างบารมี โดยมีองค์เทพผู้ทำพิธีมอบขันธ์ให้เป็นสักขีพยาน หากแม้นมีใครระหว่างเทพกับมนุษย์มีการผิดข้อตกลง ก็ต้องเดือดร้อนถึงผู้เป็นครูที่เป็นสักขีพยาน จะต้องทำหน้าที่ว่ากล่าวตักเตือนผู้กระทำผิดต่อไป

                   ดังนั้นความหมายของการรับขันธ์ขององค์เทพ จึงเป็นสัญญาใจหรือข้อตกลงในการประพฤติปฏิบัติทำหน้าที่เหมือนเป็นตัวแทนแห่งเทพ ดังนั้นจึงต้องปฏิบัติตนให้ถูกต้องในความหมายดังนี้

                   ขันธ์ 5 หมายถึงการรับศีล 5 มาปฏิบัติโดยเคร่งครัด ถ้าทำไม่ได้ก็อย่าเผลอไปรับเข้า มิฉะนั้นอาจถูกลงโทษได้

                   ขันธ์ 8 หมายถึงการรับศีล 8 ซึ่งจะต้องประพฤติพรหมจรรย์ ห้ามร่วมหลับนอนฉันท์สามีภรรยา งดเว้นอาหารมื้อเย็น สวดมนต์ไหว้พระ เจริญสมาธิภาวนา เหมือนการถือศีลบวชพราหมณ์นั่นเอง

                   ขันธ์ 9 หมายถึงการรับศีลอุโบสถ  ถือศีล 8 เคร่งครัด เด็ดดอกไม้ก็ไม่ได้ ดมดอกไม้หรือเครื่องหอมก็ไม่ได้  กินแต่อาหารเจ หรือมังสวิรัติ

                   ขันธ์ 10 หมายถึงศีลของสามเณรหรือสามเณรี ก็เท่ากับการถือบวชโดยถือสิกขาบท 10 ประการ

                  ขันธ์ 16 หมายถึงศีลของนักบวช ที่มุ่งการบำเพ็ญสมาธิภาวนา กินอาหารมือเดียว งดเว้นของสดของคาว กินแต่ผลไม้ เผือกมัน ไม่เที่ยวเดินพลุกพล่าน อยู่ด้วยการสำรวมปฏิบัติ นั่งสมาธิเป็นที่เป็นทาง แทบจะทำตัวเหมือนนักบวช เพียงแต่เป็นการบวชใจไม่ได้บวชกายเท่านั้น

                   ดังนั้นหากถือปฏิบัติตามที่กล่าวมาแล้วไม่ได้ ก็จงอย่าได้รับเลย หากแม้นมีใครแนะนำให้รับก็จงพิจารณาให้ถ้วนถี่เสียก่อน เพราะการรับขันธ์นั้นไม่ใช่เพียงนำมาบูชาเท่านั้น จะต้องปฏิบัติเป็นประจำด้วยก็คือ การสวดมนต์ไหว้พระ นั่งสมาธิ แผ่เมตตาถึงองค์เทพที่รับมาด้วยจึงจะถูกต้อง ไม่เช่นนั้นแล้วอาจสร้างปัญหาให้เดือดร้อนได้ เพราะถือว่าผิดสัจจะที่รับมา

                   ถ้าจำเป็นต้องรับด้วยเหตุอันใดก็ตาม เช่น นิมิตจากองค์เทพมาบอกเอง ก็ควรพิจารณาให้ดีว่าจะรับจากใคร หรือถ้าเป็นตำหนัก ก็ต้องดูว่าร่างนั้นปฏิบัติตนอยู่ในหลักศีลธรรมหรือไม่ เหมาะที่จะเป็นครูบาอาจารย์ที่จะทำพิธีมอบขันธ์ให้หรือเปล่า เพราะหากเป็นร่างที่แอบอ้าง หรือเป็นเทพกึ่งเปรต ก็อาจจะนำเอาบริวารที่เป็นตีนโรงตีนศาลมาครอบให้แทน ก็จะวุ่นวายไปกันใหญ่ อันนี้ต้องระวังให้หนัก

สัจจะองค์เทพฯ

                   มนุษย์เมื่อรู้ว่าจำเป็นต้องรับขันธ์ เพื่อยอมอุทิศตนเป็นร่างให้กับองค์เทพแต่ละองค์นั้น ก็จำเป็นต้องทราบว่า ควรจะปฏิบัติตนอย่างไรจึงสมควรแก่ภาระหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ดังเช่น

1.  การปฏิบัติตัว คือการทำตนเองให้เป็นนักบุญ หมั่นแสวงหาบุญกุศลเหมือนการสร้างสั่งสมบารมีให้มากที่สุด เช่น การไหว้พระสวดมนต์ ทำบุญใส่บาตร ถือศีล กินเจ  สมาธิภาวนา

2.   การปรนนิบัติ  คือการใช้หนี้ใช้สิน อันเกิดจากชาตินี้และชาติที่ผ่านมา รู้จักกตัญญูและกตเวที เช่น การปรนนิบัติ บิดา มารดา ครูบาอาจารย์ ผู้มีพระคุณ เป็นต้น

3.     การโปรดสัตว์  คือการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ หรือสัตว์โลกทั้งหลายให้พ้นทุกข์ เท่าที่จะสามารถทำได้  รู้จักมีเมตตาธรรมนั่นเอง

ส่วนสิ่งที่มนุษย์จะได้รับตอบแทนจากองค์เทพนั้น ขึ้นอยู่กับการอธิษฐานขอในตอนครอบขันธ์ ทั้งนี้ทั้งนั้นย่อมไม่เกินกฏแห่งกรรม

ลักษณะของชั้นเทพ

                   ลักษณะของจิตวิญญาณในระดับต่าง ๆ ที่ลงมาประทับทรงหรือเข้าทรงมนุษย์นั้น หากเรารู้จักสังเกตุให้ดี ก็พอจะแยกได้ว่า เป็นเทพหรือเป็นผี โดยอาศัยหลักพิจารณาโดยสังเขปดังนี้

1.   ประทับทรงจากส่วนล่าง  จิตวิญญาณใดที่ประทับทรงจากปลายเท้าขึ้นมา มักจะเป็นพวกสัมภเวสี หรือ วิญญาณมนุษย์ที่ตายไปแล้ว

2.  ประทับทรงจากด้านหลัง  จิตวิญญาณใดประทับทรงจากด้านหลัง มักจะเป็นวิญญาณทั่วไปที่มีฤทธิ์อำนาจ ซึ่งมักจะเรียกขานกันว่า เจ้าพ่อ เจ้าแม่ เจ้าปู่ ฯลฯ

3.    ประทับทรงจากด้านหน้า  จิตวิญญาณใดที่ประทับทรงจากด้านหน้า มักจะเป็นวิญญาณของมนุษย์ที่ไปเกิดเป็น เทวดาชั้นจาตุมฯ ที่อยู่ใกล้ชิดมนุษย์

4.    ประทับทรงจากทางบ่า  จิตวิญญาณใดที่ประทับทรงจากทางบ่า มักจะเป็นเทพหรือดาบสที่มีฤทธิ์ ในระดับกลาง ๆ

5.  ประทับทรงจากกลางกระหม่อม  จิตวิญญาณใดที่ประทับทรงจากส่วนศรีษะหรือกระหม่อม มักจะเป็นเทพในระดับสูง

คำแนะนำ

                   ดังนั้นถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ จะมีองค์หรือไม่ก็ตาม ถ้าท่านหมั่นสวดมนต์ไหว้พระ นั่งสมาธิ แผ่เมตตาถึงครูบาอาจารย์ องค์เทพเทวาที่คุ้มครองรักษาตนเอง ก็น่าจะเพียงพอ เพราะการที่เทพมาอยู่กับเราก็ด้วยเหตุที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น คือปรารถนาจะได้ร่วมสร้างบารมี และช่วยเหลือผู้ที่เคยเกี่ยวข้องกันมาก่อน พาร่างสร้างบารมีทำบุญไหว้พระ สร้างแต่กรรมดี ชอบช่วยเหลือผู้อื่น

                   ถ้าเราทำได้ดังนี้ก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องไปรับขันธ์ เทพเป็นผู้ที่มีจิตเมตตา ประกอบด้วย หิริโอตตัปปะ คือความละอายและเกรงกลัวต่อบาป ย่อมไม่สร้างปัญหาใด ๆ ให้กับร่างที่จะมาอยู่ด้วย เพราะท่านกลัวบาป การที่จะทำให้เจ็บป่วยหนักหนาแสนสาหัส หรือลงโทษอะไรหนักหนาคงไม่มี นอกจากช่วยเหลือเท่านั้น แต่ที่มันเจ็บป่วยหรือมีปัญหาในหน้าที่การงาน การเงิน จนล้มละลาย มันเป็นเรื่องของวิบากกรรมที่ใครจะเข้าไปแก้ไขได้ นอกจากช่วยประคับประคองหรือดลจิตดลใจให้ไปหาผู้ที่สามารถแก้ไขวิบากรรมส่วนนี้ได้

                   ดังนั้นบางทีพอรับขันธ์เข้า แล้วหันหน้ามาปฏิบัติ สวดมนต์ไหว้พระ นั่งสมาธิ อะไร ๆ มันก็ดีขึ้นตามบารมีของตน เพราะก่อนหน้าเมื่อยังดีอยู่นั้น ก็ไม่เคยคิดปฏิบัติจริงจัง ทำบุญก็มีบ้างตามโอกาสเท่านั้น เพราะหากเทพจะมาอยู่ด้วย ก็คงไม่จำเป็นต้องทำพิธีอะไรมากมาย การรับขันธ์เป็นเรื่องสมมุติกันขึ้นมาเท่านั้น เพราะท่านจะมาอยู่กับมนุษย์นั้น บางทีก็ติดตามมาแต่เกิด อยู่ติดตามเรามาตลอด เพียงแต่ไม่รู้เท่านั้นเอง เพิ่งจะมาคิดรับขันธ์เพื่อรับองค์เทพ เพราะอยากรวยเท่านั้นหรือ เว้นแต่ผู้เป็นร่างทรงที่ทำหน้าที่สงเคราะห์มนุษย์ในการบำบัดรักษาโรคภัยไข้เจ็บ ก็เป็นหน้าที่ขององค์เทพที่ผ่านร่างมาจะสั่งดำเนินการตามโอกาสต่าง ๆ

ข้อสังเกต

                   มนุษย์ผู้ที่มีองค์เทพแฝงอยู่นั้นสังเกตได้ด้วยตนเองไม่ยาก

1.  มึนศรีษะข้างเดียวเป็นประจำ บางทีทางการแพทย์ว่าเป็น ?ไมเกรน?

2.   หนักต้นคอ บางครั้งหนักบ่าสองข้างเหมือนมีใครมาขี่คอ บางทีขับรถอยู่ดี ๆ ก็รู้สึกหนักบ่า

3.   แน่นหน้าอกเป็นบางครั้ง เหมือนคนหายใจไม่อิ่ม บางคนเป็นบ่อย จนหมอว่าเป็นโรคหัวใจ

4.  ฝันแม่นยำ มีลางสังหรณ์แม่นยำ บางทีเรียกสัมผัสที่หก หรือ ?ซิกเซ้นท์?

5.  ชอบฝันหรือตีเป็นตัวเลข เสี่ยงโชคได้ใกล้เคียง บางที ผิดแต้มเดียว กลับบนกลับล่าง กลับหน้ากลับหลัง ซื้อทีไรก็เฉี่ยวไปเฉี่ยวมาเป็นประจำ แต่ถ้าไม่ซื้อเที่ยวบอกใคร เขาก็จะถูก

6.  บางครั้งหูจะได้ยินเสียงเรียกชื่อเบา ๆ เหมือนเสียงกระซิบก็มี เสียงดังก้องในหู ก็มี

7.   ไปตามสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ หรือ มีอะไรที่ลี้ลับ จะรับรู้โดยการสัมผัส ขนลุกชันเย็นซ่าไปทั้งตัว

8.   บางครั้งสวดมนต์เป็นภาษาบาลีอยู่ดี ๆ ก็เปลี่ยนเป็นภาษาอื่นรัวเร็วขึ้นมา

9.    หากนั่งสมาธิจะได้หูทิพย์ ตาทิพย์ เร็วกว่าคนทั่วไป

                   ดังนั้นอาการบางอย่างหาหมอก็แล้ว กินยาก็แล้ว มันไม่หาย ก็ให้ สวดมนต์นั่งสมาธิตามที่ว่าแล้วแผ่เมตตาบ่อย ๆ ทุกอย่างมันจะหายไปเอง เสี่ยงโชคลาภก็จะได้ เพราะบารมีที่ทำนี่แหละ แต่บางอย่างก็อาจจะเกิดจากสัมภเวสีได้เช่นกัน

1.   ปวดศรีษะเป็นประจำ บางครั้งปวดมากจนทนไม่ไหว หมอว่าเป็นความดันบ้างก็แล้วแต่ ก็ควรตรวจเช็คแก้ไข เพราะอาจถูกสัมภเวสีเกาะอยู่ในศรีษะได้

2.    ปวดไหล่เป็นประจำ หมอว่าเป็นเส้นเอ็นอักเสบ กินยาทายาก็แล้ว มันไม่หาย ตึงไปหมด ถือว่าผิดปกติ

3.     มือเท้าชาเป็นซีก จากไหล่ หรือตะโพก หัวเข่าก็ตาม

4.     แน่นหน้าอกมากผิดปกติ

5.    ปวดบริเวณกระเบนเหน็บ บางที่การแพทย์ระบุว่า หมอนรองกระดูกทับเส้น เว้นแต่กรณีการเกิดอุบัติเหตุ ลื่นหกล้มจนกระแทกพื้นอย่างแรง นั่นก็จะต้องพิจารณารายละเอียดเป็นกรณีไป

                   อาการเหล่านี้อาจไม่เกี่ยวกับองค์เทพ แต่เป็นการแทรกซ้อนจากวิญญาณเร่ร่อนหรือสัมภเวสีที่ไม่มีที่อยู่นั่นเอง หากรักษาแล้วแก้ไขแล้วไม่ดีขึ้น ก็ลองติดต่อขอรับการสงเคราะห์หรือปรึกษากับ หลวงพ่อวัชระ วัดถ้ำแฝด กาญจนบุรี เพราะท่านอาจจะพอหาทางแก้ไขให้ได้

                   ดังนั้นการที่ได้กล่าวพาดพิงถึง การรับขันธ์หรือองค์เทพ ก็เพื่อให้ท่านทั้งหลายได้ใช้วิจารณญาณในการแก้ไขตนเองให้ถูกต้อง ไม่ใช่ใช้เงินแก้ไข เพราะวิบากกรรมเป็นของมนุษย์ที่กระทำกันมา ครูบาอาจารย์องค์เทพก็ตาม ก็ไม่อาจฝืนกฏแห่งกรรมได้ แต่อาจชี้ทางแก้ไขได้ เพราะการเจ็บป่วยหรือปัญหาต่าง ๆ ที่รุมเร้ามนุษย์นั้น มีกรรมเป็นต้นเหตุที่สำคัญ การแก้ไขเรามาแก้กันที่ปลายเหตุมันก็ไม่จบ ต้องรู้จักต้นเหตุ เพราะเหตุเกิดที่ไหนก็ดับที่นั่น

                   หากมีสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่ยังไม่ชัดเจน ก็ติดต่อสอบถามได้จาก หลวงพ่อวัชระ ที่วัดถ้ำแฝด อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ท่านยินดีรับฟังและแนะนำให้ท่านผู้อ่านทุกท่านได้มีความกระจ่างในเรื่องราวลี้ลับเหล่านี้ :114:
ให้เคดิต ของเวป www.watthamfad.com

178
หลวงพ่อวัชระ  เอกวัณโณ
เปิดโลกธรรม ลดแรงกรรม แก้ไขกรรมของสัตว์โลก
ด้วยพลังธาตุธรรม เมตตาบารมี
ณ วัดถ้ำแฝด ต.เขาน้อย อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี

วันอาทิตย์และวันพระ ทำพิธีเสริมดวง งดเว้นการรักษาโรค-แก้กรรม


เรื่อง รักษาโรคแก้กรรม

การบำบัดรักษาของหลวงพ่อวัชระนั้น อย่าเข้าใจว่าเป็นเวทย์มนต์หรือใช้ทางไสยศาสตร์ ในการบำบัดรักษา ทั้งหมดที่กระทำการบำบัดให้ผู้เจ็บป่วยนั้น เป็นไปเพื่อสงเคราะห์สัตว์โลกทั้งหลาย ทั้งมนุษย์และอมนุษย์ให้หลุดพ้นจากบ่วงกรรม ด้วยการขอบิณฑบาตร โดยอาศัยการแผ่เมตตาธรรมเป็นหลักสำคัญ เพื่อโปรดให้ทุกฝ่ายได้ให้การอโหสิกรรมซึ่งกันและกัน อันจะทำให้กรรมนั้นเป็นโมฆะ คือ ไม่มีผลที่จะมาอาฆาตพยาบาทก่อกรรมก่อเวรสร้างภพสร้างชาติกันอีกต่อไปนั่นเอง


บางท่านเห็นวิธีการบำบัดรักษาแล้วก็ทึ่ง แต่บางท่านก็งง ว่าหลวงพ่อรักษาด้วยวิธีที่แปลกประหลาดที่ไม่เคยพบเห็นที่ไหนมาก่อน แต่ผลค่อนข้างแน่นอน เว้นแต่เจ้ากรรมนายเวรจะไม่ยอมอโหสิกรรมให้เท่านั้น เพราะผู้ที่เจ็บป่วยทั้งในและนอกประเทศได้รับความเมตตาจากหลวงพ่อให้หายจากการเจ็บป่วยด้วยวิธีการใช้บารมีธาตุธรรมนี้จนหายนับเป็นจำนวนพัน เพราะในแต่ละวันสูงสุดเคยรักษาถึง 50 คนต่อวัน ค่าเฉลี่ย 20 คน ต่อวัน ซึ่งนับได้ว่าท่านมีเมตตาธรรมสูงมาก


การแก้ไขวิบากกรรมนี้จำเป็นต้องใช้จิตที่มั่นคง แผ่เมตตาธรรมออกไป ซึ่งแต่ละครั้งต้องใช้พลังจิตค่อนข้างมากบางวันตั้งแต่ 7 โมงเช้า ? 1 ทุ่มก็บ่อยครั้ง ได้พักตอนฉันเพลเท่านั้น นอกนั้นก็ทำพิธีสงเคราะห์ญาติโยมเป็นส่วนใหญ่ เห็นแล้วน่าเหนื่อยแทน ท่านเปรียบเทียบว่าการใช้พลังจิตก็เหมือนกับการใช้แบตเตอรี่ ใช้มากพลังก็หมดได้เช่นกัน จำเป็นต้องชาร์ทแบตบ่อย ๆ พลังจึงเต็มและได้ผล


บางครั้งจิตเหนื่อยมาก เมื่อเพ่งพลังจิตเข้าช่วยคนไข้ บางทีช่วงบ่าย ๆ จะรู้สึกอ่อนเพลีย แทบจะหลับไปในขณะทำพิธี แต่ด้วยจิตที่สงสารคนป่วย หลวงพ่อก็พยายามรั้งสติกำหนดจิตให้ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นถ้าใครไปที่วัดบ่อย ๆ คงจะสังเกตเห็นหลวงพ่อเหมือนหลับกลางอากาศบ่อยครั้ง ก็ด้วยสาเหตุดังกล่าวนั่นเอง

หลวงพ่อท่านกล่าวว่า "ตอนนี้ยังพอไหวอยู่ หากอายุมากกว่านี้อาจจะต้องพักผ่อนหรือหยุดการรักษาด้วยวิธีนี้ เว้นแต่จำเป็นจริง ๆ" ลูกศิษย์หลายท่านเดาว่าหลวงพ่อวัชระอายุประมาณ 40 ปี แต่จริงๆแล้ว หลวงพ่ออายุเกือบเท่าคนวัยเกษียณอายุแล้ว ซึ่งคงเป็นเรื่องที่ต้องดูกันต่อไปว่าเมื่อถึงเวลานั้น หลวงพ่อท่านจะยังคงรับกรรมของพวกเราไหวหรือไม่ก็ไม่ทราบ

ถ้าเปรียบเทียบ ผู้กำลังเจ็บป่วยรับกรรม เป็นเสมือน " คนกำลังจมน้ำ " ผู้ปฏิบัติธรรมก็เปรียบเสมือน " ผู้ที่ว่ายน้ำเป็น หรือกำลังเรียนรู้การว่ายข้ามวัฎสงสาร" ให้ถึงซึ่งความพ้นทุกข์ ........ ซึ่งปณิภาณของหลวงพ่อวัชระคือ "การสร้างคน หรือการสอนคนให้ปฏิบัติธรรมนั่นเอง " ท่านจึงได้สร้างศาลาใหญ่สำหรับปฏิบัติธรรม , ลานปฏิบัติธรรมแนวธรรมชาติ และห้องพักสำหรับผู้ปฏิบัติธรรม แต่ด้วยวัดอยู่ห่างไกลและขาดบุคคลากรจึงยังไม่บรรลุวัตถุประสงค์เท่าที่ควร ประกอบกับเมตตาธรรมที่ไม่อาจทนดูคนจมน้ำไปต่อหน้าต่อตา ดังนั้นเวลาส่วนใหญ่ของหลวงพ่อจึงใช้ในการสงเคราะห์ญาติโยมโดยไม่แบ่งแยกระดับชั้น

หวังว่าเรื่องราวต่างๆคงตอบคำถาม ที่อยู่ในใจของบางคน ให้หายสงสัยได้

เหนือกรรมคือเหนือโลก       

            สังคมมนุษย์ได้ชื่อว่าเป็นศูนย์รวมของสัตว์โลกที่มีกรรมที่อาศัยถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อชดใช้บาปกรรมที่เคยได้กระทำมาและให้โอกาสได้แก้ไขชีวิตใหม่ บ่อยครั้งที่มนุษย์มักกล่าวกันว่า ?เกิดมาเพื่อใช้กรรม? แต่มีส่วนหนึ่งที่เราคิดไม่ถึงว่า ?เกิดมาเพื่อให้โอกาสมาสร้างกรรมดี? ภพมนุษย์ได้ชื่อว่าเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่าง ?อบายภูมิ-เทวภูมิ? ดังนั้นการเวียนว่ายตายเกิดเป็นวัฏสงสารที่หมุนเวียนดั่งกงล้อต่อเนื่องไปไม่มีที่สิ้นสุด ภพภูมิต่าง ๆ จึงเป็นที่รองรับสภาพของสัตว์โลกที่ยังดำรงตนลุ่มหลงอยู่ในกิเลส ตัณหา อุปทาน เวียนเกิดเวียนดับชดใช้กรรมจากชาติหนึ่งไปสู่อีกชาติหนึ่งสืบเนื่องกันไปไม่รู้จักจบ จึงวนเวียนอยู่ในกองทุกข์ เพราะความโลภ โกรธ หลง เป็นมูลเหตุ จนกว่าจะรู้จักธรรมะอันเป็นแนวทาง ลด ละ เลิก กิเลสเครื่องร้อยรัดทั้งหลายให้สิ้นไป

                       ปัจจุบันวิวัฒนาการทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้เจริญรุดหน้าไปมากสามารถช่วยเหลือมนุษย์ให้มีอัตราการเสียชีวิตลดน้อยลงจากเดิม แต่เราคงจะเคยได้ยินหรือพบเห็นว่า ยังมีผู้ป่วยอีกจำนวนหนึ่งที่แพทย์รักษาแล้วไม่หาย แม้จะเอ็กเรย์หรืออุลตราซาวน์บางทีก็ยังไม่พบสาเหตุแห่งการเจ็บป่วย และในที่สุดก็ต้องถูกผ่าตัด แต่ก็ไม่ได้ทำให้อาการเจ็บป่วยที่เป็นอยู่หายแต่อย่างใด บางรายก็อาจเสียชีวิตในที่สุด ซึ่งเป็นเรื่องปกติทั่วไป

            เราเคยคิดสงสัยบ้างไหมว่า การวินิจฉัยโรคของแพทย์ให้ผลคลาดเคลื่อนแม้ในแพทย์ด้วยกันเอง เราอาจจะเชื่อในเทคโนโลยี่ เชื่อในกระบวนการรักษาพยาบาลที่ประกอบไปด้วยผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่าง ๆ การวิเคราะห์ที่ประกอบไปด้วยหลักวิชาการสมัยใหม่ แต่ก็มีบ่อยครั้งที่แพทย์ไม่อาจสรุปสาเหตุที่แท้จริงของการเจ็บป่วยและการเสียชีวิต

            ดังนั้นบางครั้งทำให้มนุษย์ต้องแสวงหาคำตอบที่ชัดเจนกว่านี้ จึงต้องพึ่งพาหลักการของศาสนาว่าด้วยเรื่องของ ?กรรม? กฏของธรรมชาติที่ดูแลความสมดุลของมนุษย์ด้วยความยุติธรรมเที่ยงแท้และแน่นอน แม้มนุษย์จะมีวิทยาการสมัยใหม่เข้ามาเกี่ยวข้องมากมาย แต่ไม่ได้หมายความว่า ?กฎแห่งกรรม? จะถูกเปลี่ยนแปลงไปด้วย

            สัตว์โลกทั้งหลายย่อมเวียนว่ายตายเกิด หมุนเวียนกันไปตามแรงกรรม ทำกรรมดี ก็ย่อมได้รับผลที่ดี ทำกรรมชั่ว ก็ย่อมได้รับผลในทางชั่ว แต่ขณะเดียวกันก็ไม่มีใครที่จะทำดีอย่างเดียวหรือชั่วอย่างเดียวไปตลอดชีวิต ย่อมมีดีและชั่วคลุกเคล้ากันไป เพียงแต่น้ำหนักแห่งกรรมตัวใดจะมากกว่ากัน ย่อมจะทำให้ต้องรับวิบากกรรมตัวที่หนักไปก่อน

             แต่ถ้าใครละกรรมชั่วทำตัวอยู่เหนือกรรมดีได้ ก็จะสามารถอยู่เหนือกรรมทั้งหมดได้ เพราะเมื่อสามารถละกรรมชั่ว คือ ขึ้นชื่อว่าความชั่วแล้วจะไม่กระทำเด็ดขาด ส่วนอยู่เหนือกรรมดี คือ ทำแต่กรรมดีแต่ไม่ได้ยึดติด หรือถือว่าตัวเองดีเหนือคนอื่น ย่อมทำให้หลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดเข้าสู่ฝั่งพระนิพพานได้นั่นเอง จึงสามารถกล่าวได้ว่า ผู้ที่อยู่เหนือกรรมดีและกรรมชั่วทั้งปวง คือผู้อยู่เหนือโลกอย่างแท้จริง

พรหมลิขิต                   

            ใครเล่าที่เป็นผู้ลิขิตชีวิตที่แท้จริงของเรา เทพเจ้าเหล่าเทวา อินพรหม ยมราช หรือ แผ่นฟ้าและแผ่นดิน บ่อยครั้งที่เรามักพูดกันติดปาก ?สุดแท้แต่พรหมลิขิต? ความเข้าใจเช่นนี้ยังเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงไปมาก เพราะนั่นเป็นเพียงคำเปรียบเทียบเท่านั้นเอง ถ้าความจริงเป็นเช่นที่ว่า เทพ พรหม เหล่าเทวา สามารถกำหนดชะตาชีวิตมนุษย์ทุกรูปทุกนามได้ก็คงจะดี  มนุษย์ทั้งหลายคงประกอบไปด้วย พรหมวิหาร 4 หรือ หิริโอตตัปปธรรม ซึ่งเป็นคุณสมบัติของผู้เป็น พรหม หรือ เทวดา โลกนี้ก็คงจะไม่มีความโหดร้ายปรากฏให้เห็น คงอยู่กันด้วยความร่มเย็นเป็นสุข ทำให้ทุกคนทำแต่ความดีจะได้กลับไปอยู่เบื้องบนด้วยกันทั้งหมด

            ดังนั้นถ้า พรหมไม่ได้ลิขิต และคงไม่ใช่เป็นไปตามความประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้าพระองค์ใดแล้ว ก็อะไรเล่าที่ทำให้ชีวิตมนุษย์หมุนเวียนเป็นอยู่เช่นทุกวันนี้ คำตอบดูเหมือนจะง่าย แต่จะเข้าใจกันหรือเปล่าไม่ทราบมนุษย์เองนี่แหละเป็นผู้กำหนดและลิขิตชีวิตตนเอง วิถีชีวิตมนุษย์จะดีหรือชั่วก็ตาม ย่อมเกิดจากการกระทำของตนเองเป็นเหตุเบื้องต้นทั้งสิ้น ผลที่เกิดขึ้นจึงเป็นเพียงปลายเหตุเท่านั้น

            ทุกคนที่เกิดมาย่อมเคยทำอะไรที่ผิดพลาดมาด้วยกันทุกคน จะโดยเจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี แม้ความผิดพลาดอันนั้นจะเกิดจากเงื่อนไขของวิบากกรรมในอดีตชาติ แต่ก็คงไม่ได้หมายความว่าวิบากกรรมเหล่านั้นจะไม่สามารถแก้ไขให้หนักเป็นเบาได้

้ในโลกนี้ไม่มีความบังเอิญ                   

             เรื่องราวหรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับวิถีชีวิตของคนเราในแต่ละวัน ที่เป็นสุขหรือทุกข์ก็ดี มันย่อมมิใช่ความบังเอิญ แต่มันเป็นกรรมลิขิต                   

            ความแตกต่างในฐานะความเป็นอยู่ อุปนิสัยใจคอ และความเกี่ยวข้อง เกี่ยวเนื่องของผู้คนนั้น ย่อมเกิดจากกรรมในอดีตชาติส่งผลทั้งนั้น บางคนเกิดมาสมบูรณ์พูลสุข บางคนยากไร้ บางคนรูปร่างหน้าตาสวย บางคนขี้เหร่ ชีวิตจึงไม่มีอะไรที่จะสมบูรณ์ไปหมดทุกอย่าง เพราะบางทีรวยจริงแต่ไม่มีความสุข บางคนสวยมากแต่ประสพปัญหาชีวิตครอบครัว จนตัดสินใจทำลายตัวเองก็มีให้เห็นอยู่เสมอ ความพอดีของมนุษย์แต่ละรูปแต่ละนามจึงยากกำหนดให้เป็นมาตรฐานได้ ย่อมเกิดขึ้นและเป็นไปตามเหตุแห่งกรรม ที่จะส่งผลมาถึงปัจจุบัน และสืบเนื่องต่อไปถึงอนาคต           

            ดังนั้นเรื่องราวที่จะได้นำเสนอต่อไปนี้ จะได้กล่าวถึงเหตุและผลแห่งกรรม ผ่านจากเรื่องราวที่เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับบุคคลผู้มีตัวตนอยู่ในปัจจุบัน และจากประสพการณ์ การวิเคราะห์ เรื่องราวที่ได้กลั่นกรองอย่างมีเหตุมีผลที่อธิบายให้เข้าใจได้อย่างชัดเจน เป็นเรื่องจริงที่พิสูจน์ได้ เพราะชีวิตไม่ใช่เครื่องทดลอง วันเวลาที่ผ่านไปย่อมมีค่า รีบศึกษาและทำความเข้าใจ หาเหตุและผล หาทางแก้ไขชีวิตจิตวิญญาณให้พ้นจากความทุกข์ เข้าสู่หนทางแห่งความสุขที่แท้จริง และในแนวทางที่ถูกต้อง เป็นไปตามหลักธรรมขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า

           อย่าไปคิดว่า มนุษย์จะตัดกรรมของตนเองได้ง่าย ๆ อย่าคิดว่าเพียงทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรแล้วจะถึง หรือเจ้ากรรมนายเวรยอมรับง่าย ๆ เงินทองซื้อกรรมไม่ได้  ในเรื่องราวต่อไปนี้จะเป็นแนวทางที่ท่านอาจจะแก้ไขวิบากกรรมของตนเองให้เบาบางหรือหายไปได้อย่างง่ายดาย และไม่ต้องจ่ายเงินจนเกินกำลังของตนเอง เพียงแต่ถ้าท่านเชื่อและศรัทธาในเรื่องราวเหล่านี้ เราจะชี้แนะหนทางนั้นแก่ท่าน

กรรมลิขิต                   

           กรรม เป็นหลักคำสอนที่สำคัญยิ่งของพระพุทธศาสนา เพราะท่านได้กล่าวไว้ว่า คนเราเกิดมาก็เพราะกรรม ทำดีย่อมได้ดี-ทำชั่วย่อมได้ชั่ว คือให้เชื่อการกระทำของตนเองว่า เมื่อเราทำอย่างไรก็จะได้อย่างนั้น ไม่ใช่มีใครบันดาลให้ คนขยันหมั่นเพียรย่อมตั้งตัวได้ คนขี้เกียจย่อมทำอะไรไม่สำเร็จ ดังพุทธภาษิตที่ว่า
                    "น ชจฺจา วสโล โหติ     น ชจฺจ โหติ พฺราหฺมโณ
                     กมฺมุนา วสโล โหติ      กมฺมุนา โหติ พฺราหฺมโณ"
                    "บุคคลเป็นคนเลวเพราะชาติก็หาไม่ จะเป็นผู้ประเสริฐเพราะชาติก็หาไม่
                     แต่เป็นคนเลวทรามเพราะกรรม เป็นคนประเสริฐเพราะกรรมต่างหาก"                   

             คำว่ากรรม คือ การกระทำใด ๆ ก็ตามที่เกิดขึ้นจาก กาย วาจา ใจ เป็นคำกลาง ๆ ที่ใช้ในความหมายทั่ว ๆ ไป ทำดีก็ตามชั่วก็ตาม จะโดยเจตนาหรือไม่เจตนา หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ย่อมจะส่งผลต่อผู้ที่ได้กระทำลงไปนั้นแน่นอน ดังที่ปรากฏเป็นพุทธพจน์ว่า "ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว" นั่นคือสัจธรรมที่องค์สัมมาสัมมาพุทธเจ้าได้ทรงค้นพบจากหลักธรรมชาติ หรือกลไกแห่งธรรมชาติที่ว่า "แรงตกกระทบย่อมเท่ากับแรงสะท้อน" ดังนั้นการกระทำใด ๆ ที่ได้เกิดขึ้น ย่อมมีแรงปฏิกิริยาสะท้อนกลับสู่สิ่งนั้น ตามลักษณะแห่งการกระทำนั้นนั่นเอง และเป็นแรงผลักดันให้เข้าไปสู่ภพภูมิต่าง ๆ เช่น นรก เปรต อสุรกาย เทพ พรหม อรหันต์ เป็นต้น กรรมจึงเป็นเรื่องสำคัญในหลักของพระพุทธศาสนา                       

             กรรมจึงจำแนกออกได้หลายประการด้วยกัน หากแบ่งตามการกระทำก็แบ่งได้เป็น 3 ทางด้วยกันคือ                               

             1.  กายกรรม     กรรมที่กระทำผ่านทางกาย เช่น ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ผิดประเวณี
             2. วจีกรรม       กรรมที่กระทำผ่านทางวาจา เช่น พูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ
             3. มโนกรรม     กรรมที่กระทำผ่านทางใจ เช่น คิดอาฆาตพยาบาท คิดเพ่งเล็งทรัพย์ผู้อื่น เป็นต้น

             ดังนั้นมนุษย์ทุกรูปทุกนามย่อมตกอยู่ในหลักเกณฑ์แห่ง "อำนาจแห่งกรรม"  ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น เพราะการกระทำใด ๆ ที่ปรากฏขึ้นมาในแต่ละครั้งหรือแต่ละช่วง ย่อมจะเกิดผลกระทบต่อเนื่องไปในอนาคตสู่มนุษย์ผู้ที่ได้กระทำเสมอ การกระทำในส่วนที่ดีเราเรียกว่า "บุญ" หรือ "กุศล" การกระทำในส่วนที่ไม่ดีเรียกว่า "บาป" หรือ "อกุศลกรรม" เพราะการกระทำในแต่ละช่วงย่อมก่อให้เกิดคลื่นกลไกแห่งกรรม บางทีเราเรียกกันว่า "บ่วงกรรม" แต่ละบ่วงจะเข้ามาพัวพันกับชีวิตของมนุษย์แต่ละรูปแต่ละนามตามแรงสะท้อนแห่งกรรมนั้น จนก่อให้เกิดปฏิกริยาตามวาระ จนบางทีเรากล่าวกันติดปากว่า "ต่างกรรมต่างวาระ" กลายเป็น "ชะตาชีวิต" ที่ไม่หลีกเลี่ยงหรือปฏิเสธได้แม้แต่น้อย

           ขบวนการแห่งกรรมเป็นเรื่องที่สลับซับซ้อนยิ่งนัก ยากที่คนทั่วไปจะทำความเข้าใจได้ พระพุทธเจ้าท่านได้แสดงถึงธรรมชาติของกรรมไว้ว่าเป็นสิ่งที่น่าพิศวง เพราะไม่มีตัวตนที่เราจะถูกต้องหรือสัมผัสได้ จะวัดหรือจะชั่งตวงก็ไม่ได้ แต่ก็มีอำนาจแสดงกำลังความสามารถได้ ในหลักการของพระพุทธศาสนาได้กล่าวถึง การกระทำที่ส่งผลต่อชีวิตจิตวิญญาณอันเกิดจากผลของกรรมไว้อย่างน่าสนใจดังนี้

 
 กัมมัสสะโกมหิ
 เรามีกรรมเป็นของตน
 
 
 
 กัมมะทายาโท
 เราเป็นผู้รับผลของกรรม
 
 
 
 กัมมะโยนิ
 เราเป็นผู้มีกรรมเป็นกำเนิด
 
 
 
 กัมมะพันธุ
 เราเป็นผู้มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์
 
 
 
 กัมมะปฏิสะระโณ
 เรามีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย
 
 
 
 ยังกัมมัง กะริสสามิ
 เราทำกรรมอันไดไว้
 
 
 
 กัลยาณังวา บาปะกังวา
 ดีก็ตาม ชั่วก็ตาม
 
 
 
 ตัสสะ ทายาโท ภะวิสสามิ
 เราจักเป็นผู้รับผลกรรมนั้น
 
 

จากพุทธพจน์นี้แสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า คนเราเกิดมาได้นั้นด้วยวิบากแห่งกรรม นอกจากนี้พุทธองค์ยังทรงกล่าวต่อไปว่า "กรรมจำแนกชีวิตสัตว์หรือมนุษย์ให้แตกต่างกัน เพราะฉะนั้นคนเราในโลกจะหาคนเหมือนกันทุกอย่าง ทั้งหน้าตา อัธยาศัย นิสัย ฐานะ ความรู้ ความเป็นอยู่ หาไม่ได้ เนื่องจากคนเรา อยู่ใต้อำนาจของกรรม"  ดังนั้นการเกิดแต่ละภพแต่ละชาติย่อมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขต่าง ๆ ดังนี้ด้วย

ขอบเขตของกรรม

            เรื่องของกรรมนั้น องค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงแสดงไว้ในหลายพระสูตรด้วยกัน และได้ทรงสรุปชนิดของกรรมในเบื้องต้นเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ

            1.  บุราณกรรม หรือ กรรมเก่า อันเกิดจากอายตนะภายใน 6 คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เพราะชีวิตร่างกายที่เกิดขึ้นมาเป็นมนุษย์ที่ประกอบไปด้วย ขันธ์ 5 หรืออายตนะ 6 เป็นวิบากขันธ์หรือกรรมเก่า ที่เป็นชนกกรรม ถือว่าเป็นกรรมที่เปรียบเสมือนพ่อผู้ให้การก่อกำเนิดขันธ์ 5 ตามวิบากกรรมนั่นเอง

            2.  นวกรรม หรือ กรรมใหม่ อันเกิดจาก กายกรรม วจีกรรม มโนกรรมในปัจจุบัน ที่เป็นผลจากบุราณกรรม คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เป็นผู้ปรุงแต่งโดยการแสดงผ่านทางด้านกริยาอาการต่าง ๆ ที่จะแสดงออกไปมีผลกระทบต่อจิตวิญญาณดวงอื่นในทางลบหรือทางบวกเท่านั้น

           ดังนั้นการกระทำใดในปัจจุบัน หรืออดีต ย่อมมีผลต่อเหตุปัจจัยของการเวียนว่ายตายเกิด ทำให้เกิดภพชาติ อันเป็นที่กำเนิดของเหล่าสัตว์ทั้งหลายมาตราบจนเท่าทุกวันนี้ จึงสมควรที่เราทั้งหลายจะได้รู้จักภพภูมิเหล่านั้นบ้างพอสมควรว่าประกอบไปด้วยอะไรบ้าง แต่ละภพแต่ละภูมิเป็นที่รองรับจิตวิญญาณประเภทใดกันแน่

           มนุษย์ผู้มีจิตใจไม่บริสุทธิ์ ประพฤติแต่อกุศลกรรม ก็เหมือนกับเตรียมตัวเดินทางไปสู่หนทางแห่งนรกแล้ว เหมือนคำพังเพยที่ว่า ?ทางเตียนเวียนลงนรก ทางรกวกขึ้นสวรรค์? อุปมาอุปไมยว่า การทำความชั่วนั้นทำง่าย แต่การทำความดีนั้นทำยาก มนุษย์ผู้ก่อกรรมอันใดไว้ก็ย่อมประสพกับผลกรรมอันนั้นเอง ทำดีย่อมได้ดี ทำชั่วย่อมได้ชั่ว

            ดังนั้นก่อนที่มนุษย์จะขาดใจหรือที่เรียกว่าตาย แล้วไปผุดเกิดเป็นสัตว์นรกหรือเทพเทวาระดับต่าง ๆ ก็ดี ย่อมจะปรากฏชัดเจนใน มรณสันนวิถึ คือ วิถีจิตใกล้จะตาย ก็จะปรากฏเหตุการณ์ที่เป็นเครื่องบอกล่วงหน้าให้รู้ว่าจักไปสู่ภพใดภูมิใดอย่างชัดเจน ท่านเรียกว่า ?อารมณ์? ซึ่งมีอยู่ 3 ประการด้วยกันคือ

            1.   กรรมารมณ์  หมายถึงกรรมที่ตนได้กระทำไว้แต่ก่อน ๆ มาปรากฏให้ระลึกขึ้นได้เมื่อกำลังมีการร่อแร่ใกล้จะหมดลมหายใจ คือ ถ้าทำบาปไว้ ก็จะปรากฏภาพอกุศลกรรมชนิดนั้นให้เห็นชัดเจนในมโนทวาร แล้วจิตก็ยึดหน่วงเอาภาพอกุศลกรรมเหล่านั้นเป็นอารมณ์ เมื่อดับจิตลงไปก็น้อมนำไปเกิดในทุคคติภูมิทันที จึงได้ชื่อว่ากรรมารมณ์  ที่จะปรากฏให้คนใกล้ตายได้เห็นเพียงคนเดียว คนอื่นจะไม่เห็น เพราะกรรมเป็นของเฉพาะตัว

            2.   กรรมนิมิตตารมณ์ หมายถึงอุปกรณ์แห่งการประกอบกรรม เช่น อาวุธหรือศาสตราวุธที่ใช้ในการทำร้ายหรือประหารกัน เช่น มีด ปืน แหลน หลาว เป็นต้น หรือภาพนิมิตเครื่องมือที่ใช้ประกอบอกุศลกรรมอื่น ๆ เช่น การพนัน ชนไก่ กัดปลา เรือกสวนไร่นาที่คดโกงเขามา สุดแท้จะประกอบกรรมชั่วด้วยสิ่งใด สื่งนั้นก็จะปรากฏให้ระลึกได้ แล้วยึดเอาสิ่งนั้นเป็นอารมณ์นิมิตหมาย เมื่อดับจิตลงไปก็น้อมนำไปเกิดในทุคคติภูมิ ต้องเสวยโทษตามกรรมที่ได้กระทำไว้

            3.  คตินิมิตตารมณ์  ได้แก่นิมิตต่าง ๆ อันบ่งบอกถึงคติแห่งโลกที่ตนจะต้องไปเกิด หลังจากที่จิตดับลงไปแล้ว จะมาปรากฏให้เห็นชัดเจนในมโนทวารคือทางใจ บางทีเป็นภาพที่ตนเคยเห็นบางทีก็ไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ส่วนมากจะเป็นภาพที่ไม่เคยเห็นมาก่อน  ในกรณีที่เป็นอกุศลกรรมก็จะเกิดเห็นคตินิมิตรอันชั่วร้ายปรากฏขึ้น เช่น เห็นเปลวไฟอ้นร้อนแรง เห็นหม้อเหล็กแดงที่มีน้ำนรกกำลังเดือนพล่าน เห็นป่างิ้วซึ่งมีหนามเหล็กลุกเป็นเปลวไฟ บางทีเห็นภาพน่าเกลียดน่ากลัวจนร้องเอ็ดตะโรลั่นไปหมด

             ปัญหามีอยู่ว่า ถ้าทำดีย่อมเกิดในสุคคติภูมิ ถ้าทำไม่ดีย่อมเกิดในทุคคติภูมิ คงชัดเจนในความหมายอยู่แล้ว แต่ถ้าบางคนทำดีก็มีชั่วก็มีระคนกันไป จะได้ผลเป็นอย่างไร

             ดังนั้นมนุษย์ประเภทนี้ เป็นบุคคลประเภทปานกลาง อกุศลก็ทำ กุศลก็สร้างเหมือนยังตกอยู่ในความประมาท เมื่อถึงแก่กรรมหรือตายลงไป ก็จะยังไม่ดิ่งลงไปสู่ขุมนรกตามอกุศลกรรมเลยทีเดียว ขณะเดียวกันก็ไม่ดิ่งไปยังเทวโลกเพื่อเสวยผลแห่งกุศลกรรมได้ทันทีเหมือนกัน ดังนั้นก็จะถูกให้ไปเกิดในแดนยมโลกนรกโดยยมทูตจะนำตัวไปหา พญายมราช เพื่อสอบสวนพิจารณาโทษานุโทษเสียก่อนว่า ควรจะถูกลงโทษหรือได้รับรางวัลชีวิตในรูปแบบใด

              สัตว์ทั้งหลายขณะที่ใกล้จะจุติ คือ ตาย จะต้องเกิดอารมณ์ขึ้น ไม่กรรมก็กรรมนิมิต หรือคตินิมิตอันใดอันหนึ่ง สัตว์ที่จะตายจะไม่เกิดอารมณ์ขึ้นเลยนั้นย่อมเป็นไปไม่ได้ ไม่ว่าจะตายช้าหรือโดยทันที อย่างไรก็ตาม ทั้งนี้ก็เพราะอารมณ์กรรมนั้น ๆ ย่อมเป็นกำลังงานอันสำคัญที่จะผลักดันให้เกิดการปฏิสนธิขึ้น กรรม กรรมนิมิต คตินิมิตนั้น เป็นอารมณ์ครั้งสุดท้ายในชาตินั้น ๆ ที่ทรงอิทธิ ทำให้มีภพชาติสืบต่อไป

              อารมณ์ที่เกิดขึ้นครั้งสุดท้ายนี้ เป็นที่หมายได้แน่นอนว่าจะต้องไปเกิดตามที่ตนได้เห็น เหมือนเราทำแบบแปลนแผนผังไว้แล้ว ปลูกสร้างที่อยู่อาศัยตามแบบแปลนนั้น ๆ เช่น ผู้ที่จะไปเกิดเป็นมนุษย์ ย่อมเห็นครรภ์ของมารดา ผู้ที่จะไปเกิดยังเทวภูมิย่อมเห็นเทพยดา นางฟ้าหรือวิมาน ผู้ที่จะไปเกิดในนรกก็ย่อมเห็นการเผาผลาญสัตว์เห็นเปลวไฟ ผู้ที่จะไปเกิดเป็นเปรตก็เห็นปล่องเห็นหุบเขาอันตกอยู่ในความมืดมิด ผู้ที่จะไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานก็ย่อมจะเห็นสัตว์หรือเห็นเชิงเขา ชายน้ำเป็นต้น ทุกคนก็มีจุดหมายปลายทางคือ ความตาย ไม่ว่าพระราชาหรือกระยาจก ไม่ว่าเทวดาหรือสัตว์นรก ไม่เลือกว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่เป็นหัวเลี้ยวหัวต่ออันสำคัญ สำหรับผู้ที่ฉลาดในเรื่องของชีวิตควรจะต้องศึกษาให้รู้ เมื่อเช่นนี้การศึกษาเรื่องความตายจึงเป็นการสมควรอย่างยิ่ง จะได้ชื่อว่าไม่ตกอยู่ในความประมาท เพราะศึกษาเล่าเรียนเรื่องความตายเสียให้เข้าใจดีแล้วก็ย่อมมีหวังอยู่เป็นอันมากที่จะไปเกิดในสุคติภูมิ

            การมองดูคนไข้ที่ใกล้ตาย จะแสดงกิริยาอาการต่าง ๆ แม้จะทายที่ไปของผู้นั้นไม่ถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์ก็จริง แต่ก็มีส่วนถูกเป็นอันมาก ด้วยการที่คนไข้เกิดอารมณ์ขึ้นเหมือนความฝัน ภาพนั้นย่อมชัดเจนแจ่มใสมาก จิตของคนไข้จะมีความยินดีหรือตกใจกลัวก็ย่อมจะมองเห็นจากการแสดงกิริยาอาการต่าง ๆ เช่น ถ้าคนไข้เห็นนายนิรยบาลถือหอกโตเท่าลำตาล กำลังเงือดเงื้อจะพุ่งลงมาทรวงอก หรือเห็นน้ำทองแดงกำลังเดือดพล่านจะไหลเข้าในปาก หรือเห็นแร้งกา ๓ ตัวโต มีปากเป็นเหล็กกำลังจะฉีกเนื้อของตัวกิน หรือเห็นอสุรกายโตใหญ่ราวกับภูเขาดำทมิฬกำลังผ่านเข้ามาทำร้าย เมื่อคนไข้เห็นเช่นนี้ก็จะมีความตกใจก็จะต้องโอดครวญด้วยเสียงอันดัง ก็จะแสดงอาการหวาดหวั่นสะดุ้งกลัวอย่างน่าสงสาร หรือแลบลิ้นปลิ้นตาร้องโวยวายให้คนช่วย เช่นนี้อบายภูมิก็มีหวังได้ ถ้าคนไข้เห็นนิมิตที่ปรากฏนั้นเป็นพระเป็นเณร เห็นปราสาทราชวัง เห็นอาภรณ์อันประณีต เห็นคนรักษาศีลคนให้ทาน และคนไข้ก็ยิ้มย่องผ่องใสหน้าตาอิ่มเอิบหรือหัวเราะ เช่นนี้สุคติก็มีหวังได้

            ้ เมื่อเราเอื้อมมือไปหยิบอะไรอย่างหนึ่งบนโต๊ะที่อยู่ข้างหน้าตลอดเวลาตั้งแต่เริ่มเคลื่อนมือไป จิตย่อมจะสั่งการโดยตลอด เหตุนี้เองถ้าหากมือที่เอื้อมไปนั้นยังไม่ถึงสิ่งของที่ต้องการ เกิดมีเสียงเอะอะขึ้นจิตก็จะสั่งให้หันไปดูที่เสียงนั้น มือที่เอื้อมก็จะค้างอยู่ คือ เกร็ง โดยทำนองเดียวกันนี้ คนที่ใกล้จะตายเมื่อเกิดอารมณ์ขึ้นครั้งสุดท้าย จะเป็นยินดีหรือตกใจก็ตาม ก็ย่อมแสดงกิริยาท่าทางน่ากลัว หรือยิ้มแย้มทันที จุติจิต (ตาย) ก็เกิดขึ้น ซากศพของผู้นั้นก็ปรากฏอาการค้างอยู่ ซึ่งทำให้เราพอทายว่าจะไปสุคติ หรือทุคติ ได้เป็นส่วนมาก

           พระสัมมาสัมมาพุทธเจ้า ทรงแยกกรรมที่จะเป็นเหตุนำให้สัตว์ไปปฏิสนธิ ๔ ประการคือ

           ๑. ครุกรรม หมายถึงกรรมหนัก ทางฝ่ายกุศลกรรม เช่น การเข้าฌาน ทางฝ่ายอกุศล ได้แก่อนันตริยกรรม ห้ามสวรร ค์ ห้ามนิพพานเช่น ฆ่าพ่อ ฆ่าแม่ ทำร้ายพระพุทธเจ้า ทำร้ายพระอรหันต์ เป็นต้น กรรมนี้เป็นกรรมหนักมีกำลังมาก ดังนั้น เมื่อเวลาจุติคือตาย กำลังของกรรมนี้ก็จะเกิดขึ้นเป็นชนกกรรม นำไปสู่การปฏิสนธิ ไม่มีกรรมใดมาขัดขวางได้เพราะเป็นกรรมหนัก มีกำลังมากต้องให้ผลก่อน

            ๒. อาสันนกรรม หมายถึงกรรมที่ใกล้ตาย บุคคลใกล้จะตายจะได้รับอารมณ์อะไรก็ได้ที่เกิดขึ้นติดชิดกับความตาย เช่น ขณะนั้นเห็นพระพุทธรูป ได้ยินเสียงสวดมนต์ เป็นต้น

            ๓.อาจิณณกรรม หมายถึงกรรมที่ทำที่เป็นนิสัย ถ้าอาสันนกรรมมิได้ให้ผลแล้ว อาจิณณกรรมก็จะมาให้ผล ข้อนี้ก็คือบุคคลทั้งหลายย่อมกระทำกรรมอยู่เสมอ เมื่อเช่นนี้ กรรมที่กระทำอยู่เสมอนี้ก็มีโอกาสมากที่สุด จะกระทบจิตทำให้เกิดอารมณ์ขึ้นแล้วแต่อารมณ์นั้นจะเป็นกุศลหรืออกุศล

            ๔.กตัตตากรรม หมายถึงกรรมที่กระทำโดยไม่ได้ตั้งใจ ถือเป็นกรรมเล็กกรรมน้อย ถ้ากรรมอื่น ๆ ทั้งหมดไม่ให้ผลแล้ว กรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็จะมาปรากฎในอารมณ์นำไปสู่การปฏิสนธิได้

             อำนาจกรรม จึงเป็นสิ่งที่กำหนดให้เกิดกลไกแห่งชีวิตในรูปแบบต่าง ๆ ขึ้นมา หาใช่พรหมลิขิต หรือดวงไม่ดี พระเทพสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม) วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี ได้กล่าวถึงชีวิตหลังความตายไว้อย่างน่าสนใจว่า จิตมิใช่มันสมอง ทั้งจิตก็มิได้อาศัยอยู่ในสมอง มันสมองเป็นเพียงทางแสดงออกของจิตเท่านั้น แท้จริงจิตอยู่ภายในช่องหนึ่งของหัวใจทีสูบฉีดโลหิตไปเลี้ยงร่างกายนั้นเอง คือ หทัยวัตถุ ที่อาศัยของจิตเป็นบ่อเล็ก ๆ โตเท่าเม็ดบุนนาค และมีน้ำสีต่าง ๆ ๖ สี ประมาณ ๑ ฟายมืออันเป็นการแสดงจริตหรืออุปนิสัยของผู้นั้น ข้อนี้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้มาก

            ที่ตั้งที่อาศัยอยู่ของจิต (มิใช่กล้ามเนื้อหัวใจทั้งหมด) นั้นประกอบขึ้นมาได้ด้วยกำลังของกรรม กรรมที่เคยกล่าวมาแล้วว่าไม่มีรูปร่างหน้าตาตัวตนนั่นเอง ได้สร้างที่ตั้งอาศัยของจิต เรียก กัมมชรูป และกำลังของกรรมก็ปกปักรักษารูปนี้ไว้ตลอดเวลาที่ยังมีชีวิตอยู่ ถ้ากรรมมิได้รักษาที่ตั้งที่อาศัยของจิตไว้แล้ว จิตก็ไม่อาจตั้งอยู่ได้ ผู้นั้นก็จะถึงแก่ความตายทันที สันนกาลตอนท้าย ๆ กัมมชรูปทำให้หทัยวัตถุ คือ รูปอันเป็นที่ตั้งอาศัยของจิตอ่อนกำลังลงเต็มที ที่ตั้งที่อาศัยหมดกำลังที่ทรงตัวอยู่ด้วยดีเหมือนกับรถไฟที่กำลังวิ่งมา ขณะที่ถึงสะพานข้ามแม่น้ำ สะพานข้าแม่น้ำชำรุดเสียแล้ว ดังนั้นรถไฟก็จะต้องชะลอฝีจักรลง มิฉะนั้นก็จะตกจากสะพานลงไป ขณะนี้ใกล้จะถึงความตายมาก คนไข้ถูกโมหะครอบคลุม ขาดสติ ความรู้สึกของคนไข้จาก ตา หู จมูก ลิ้น กาย อาจจะหมดลงและเมื่อถึงท้ายวิถีของมรณาสันนกาล กัมมชรูปก็เริ่มจะดับ คือ ตามธรรมดา กัมมชรูปย่อมจะดับ และเกิดทดแทนกันอยู่ทุกขณะจิต ครั้นแต่ถึงปฐม ภวังค์ของมรณาสันนวิถีไปจนถึงจุติ กัมมชรูปจะดับโดยไม่มีการเกิดทดแทนอีกเลย เมื่อถึงจุติติดกันนั้นก็ปฏิสนธิ ต่อจากนั้นจิตก็เป็นภวังค์

           กำลังของกรรมที่ส่งให้ไปปฏิสนธินั้น สืบเนื่องมาแต่มรณาสันนกาล เช่น ได้ยินเสียงพระสวดมนต์ จิตก็รับอารมณ์สวดมนต์ในมรณาสันนกาลเป็นตัวส่งให้ไปปฏิสนธิ เพราะยังมีกำลังมากกว่า ส่วนในมรณาสันนวิถีเป็นแต่รับอารมณ์กรรม กรรมนิมิต คตินิมิต มาจากมรณาสันนกาลแล้วสืบต่อไปจนถึงจุติเท่านั้น และเพราะเหตุที่กัมมชรูปเริ่มดับโดยไม่เกิดอีกมาตั้งแต่ภวังค์ดวงที่ ๑ ในมรณาสันนวิถีจนถึงดวงที่ ๑๗ จุติ คือ ดับหรือตายจึงได้เกิดขึ้น เพราะไม่สามารถจะตั้งอยู่ได้อีกต่อไป ทิ้งแต่ซากศพเอาไว้

           ที่ได้กล่าวมาแล้ว คนเราจะมีชีวิตอยู่หรือจะตายก็ตาม จิตย่อมเกิดดับสืบต่อกันไปอยู่เช่นนี้ตามธรรมชาติ ข้อที่แปลกสักหน่อยก็อยู่ที่จุติเกิดขึ้น คือ จิตดับลงแล้วก็พ้นจากชาติเก่าร่างเก่าเท่านั้น ในทันทีนั้นก็ปฏิสนธิเลย ได้แก่การเกิดขึ้นติดต่อกันด้วยความรวดเร็วมาก โดยมิให้มีอะไรมาคั่นกลางเหมือนกับจิตที่เกิดดับอยู่ตามธรรมดานั้นเอง ด้วยเหตุนี้ คำว่าจิตล่องลอยไปเกิดก็ดี หรือจิตท่องเที่ยวไปตามอำนาจของกรรมที่ดี จึงได้ชื่อว่าเป็นความเห็นผิด

           การที่ผู้ตายไปสู่สุคติหรือทุคตินั้นก็แล้วแต่กรรม แล้วแต่อารมณ์ที่เกิดขึ้นในขณะใกล้จะตาย ดังนั้น ผู้ดูแลคนไข้ที่ฉลาดในเรื่องของชีวิต และมีเมตตากรุณาจึงยอมเสียเวลา สละประโยชน์อันจะพึงได้อื่น ๆ มาช่วยเหลือให้สติแก่คนไข้ด้วยความระมัดระวัง

           ถ้าคนไข้ได้เคยศึกษาธรรมะ ได้เคยพูดเรื่องตายมาเสมอ ๆ โดยความไม่ประมาทแล้ว การให้สติแก่คนไข้ก็ง่ายมาก แต่ถ้าคนไข้ไม่เข้าใจธรรมะเลยแล้ว การมีเจตนาให้สติด้วยความหวังดีจะกลับเป็นร้ายไป คนไข้บางคนพูดเรื่องตายไม่ได้ ใจไม่สบายทันที เราก็จำเป็นต้องหาเรื่องอันเป็นกุศลอื่น ๆ ที่คนไข้ชอบ คนไข้บางคนได้ยินการให้สติก็ทราบว่าตัวนั้นใกล้จะตาย ก็เกิดมีความเสียใจเสียดายชีวิตเป็นกำลัง มีความหวาดหวั่นต่อความตายอย่างสุดแสน หรือคนไข้บางคนได้ยินคำว่าให้ระลึกถึงพระอรหันต์ไว้ก็มีความโกรธแค้น โดยคิดว่าลูกหลานจะมาแช่งให้ตาย เพราะจะได้แบ่งทรัพย์สมบัติเหล่านี้นับว่าเป็นทางนำไปสู่อบายทั้งนั้น ขณะที่เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้จะต้องระมัดระวังให้จงหนัก การให้อารมณ์ที่ดีแก่คนไข้ก็มีมากมายแล้วแต่จะคิด เช่น นิมนต์พระมาสวด หาพระพุทธรูปมาตั้งให้คนไข้เห็น เล่าธรรมะหรือเรื่องอันเป็นกุศลต่าง ๆ สำหรับผู้ที่ศึกษาพระอภิธรรมมาดีแล้วก็เป็นการง่ายดาย เขาจะหาอารมณ์ที่ดีที่สุดของเขาเองได้เป็นส่วนมากมาตั้งแต่ต้น เพราะเขาย่อมรู้ว่าขณะนั้นสำคัญอย่างไร และรู้ว่า ความตายนั้นเป็นเรื่องสมมุติกันเท่านั้นเอง จิต เจตสิก รูป ก็สืบต่อไปยังภพใหม่ชาติใหม่ ไม่เห็นจะแปลกประหลาดพิสดาร น่าหวาดหวั่นอะไรสักกี่มากน้อย จะได้ยกตัวอย่างคนใกล้จะตายคืออยู่ในมรณาสันนกาลเป็นเวลาหลายวันสักเรื่องหนึ่ง

           ชายผู้นี้เป็นคนจีน อายุราว ๕๐ ปี ชอบฆ่าสัตว์อย่างทรมานเป็นประจำ สุนัขของใครเพ่นพ่านเข้ามาต้องโดนตีตาย หรือโดนยาเบื่อ ถ้าไม่มีสุนัขของใครเข้ามา บางทีก็อุตส่าห์เอายาเบื่อไปวางถึงถนนหลวงช่วยกระทรวงสาธารณสุข สัตว์ที่ใช้กินเป็นอาหาร ก็ชอบฆ่าสัตว์ สด ๆ ร้อน ๆ เช่น จะกินปลาก็ต้มน้ำให้เดือดแล้วเอาปลาเป็น ๆ ใส่ลงไป ฟังเสียงมันดิ้นด้วยความร้อนรนเหมือนได้ฟังเสียงดนตรีอันไพเราะ บางทีก็เอาปลาลงไปทอดแล้วกดให้แน่น มองเห็นตาของปลาแจ๋วแหว๋ว กล้ามเนื้อด้านบนยังเต้นอยู่ไปมา ถ้าไก่ตัวใดเป็นโรคระบาด เขาจะติดไฟเตาถ่านให้ลุกแดงแล้วจับรวบขาทั้งสองเอาศีรษะปักกดลงไปในเตาอันร้อนระอุนั้นทีละตัว ๆ จนกว่าจะหมด เป็นเคล็ดที่จะแก้โรคระบาด อาชีพของเขาฝืดเคืองลงมามาก ต้องทำงานหนักอยู่ตลอดเวลา

            ต่อมาที่เขาจะตายนั้นเขาเริ่มเป็นบ้าที่ละน้อย กลางวันชอบนอนตากแดดเสมอ กลางคืนตี ๑ ตี ๒ ก็ชอบลงไปลอยคออยู่ในน้ำ ปลิงเกาะกัดโลหิตไหลโทรม เป็นอยู่เช่นนี้วันละหลายหนที่พวกเราจะต้องช่วยกันจับ เขาชักดิ้นชักงออยู่ครั้งละนาน ๆ อาหารกินได้น้อยที่สุด ญาติพี่น้องก็ไม่เอาใจใส่ เราคนภายนอกมีจิตเมตตาช่วยกันเอง ก่อนเมื่อจะตายนั้นตลอด ๓ วัน ๓ คืน ตัวกระดุกกระดิกไม่ได้เลย อาหารและน้ำอาศัยพวกเราหยอดให้ ตาพองแข็งอยู่ตลอดเวลา หายใจรัว ๆ แสดงว่ายังไม่ตาย ขณะนี้คงอยู่ในมรณาสันนกาล ถ้าว่าตามหลักแล้ว กิริยาอาการที่เป็นมาแต่ต้นชวนให้เห็นว่าได้อารมณ์ที่ไม่ดีที่หน้าแสดงความหวาดเสียวอยู่ตลอดเวลา แต่ร้องไม่ออก บุคคลผู้นี้ขอให้ท่านทายว่าตาย    แล้วจะไปไหน

            ในขณะมรณาสันนกาลนั้น คนไข้ยังมีความรู้สึกตัวอยู่นอกจากจะอยู่ในวิสัญญี คือสลบ แต่แม้ว่าจะมีความรู้สึกทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย อยู่ก็ดี แต่มีกำลังอ่อนมาก การที่มีกำลังอ่อนมากนั้น ก็เพราะว่ากัมมชรูปคือ รูปอันเกิดจากกรรมเป็นผู้สร้าง ได้แก่รูปอันเป็นที่ตั้งของจิตนั่นเอง และเมื่อรูปอันเป็นที่ตั้งของจิตมีกำลังน้อย การแสดงออกของจิตก็อ่อนกำลังลงไป แต่เมื่อถึงมรณาสันนวิถี วิถีสุดท้ายที่ติดกับความตายแล้วคนไข้จะไม่รู้สึกจากทวารทั้ง ๕ เลย ไม่ว่าจะทุบตีหรือเอาไฟไปเผา แต่อย่างไรก็ดี การให้สติแก่คนไข้ก็ต้องเริ่มให้กันตั้งแต่ตอนต้น ๆ ของมรณาสันนกาลก็ยิ่งดี ในขณะที่สติของคนไข้ยังดีอยู่ อารมณ์นั้นจะได้สืบต่อไปจนถึงจุติ

ิ            ทันที่ที่จุติ (ตาย) เกิดขึ้น ปฏิสนธิก็สืบต่อกันไม่ขาดสายเหมือนน้ำที่ไหลติดต่อกันในลำธาร ไม่มีอะไรมาคั่นกลางเลย แม้ว่าจะตายที่นี่แล้วไปเกิดที่เชียงใหม่ เพราะจิตเกิดดับรวดเร็วยิ่งนัก ลัดนิ้วมือเดียวถึงแสนโกฏิขณะ ฉะนั้นทันทีที่จุติเกิดขึ้น จิตที่สืบติดต่อกันนั้นก็ต้องพ้นปฏิสนธิจิตด้วยอำนาจของกรรมเป็นตัวส่ง

 ให้เคดิต ของเวป www.watthamfad.com

179
 
:054:.....นับถือพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ให้ถือเป็นที่พึ่ง ให้อยู่ในใจ จะได้ ทำดี คิดดี พูดดี จะได้ประสบ ความสุข ตลอดไป สาธุ.....  :054:
พระครูปทุมวรกิจ (หลวงพ่อชำนาญ)

วัดบางกุฏีทอง ต.บางกะดี อ.เมือง จ.ปทุมธานี

180
http://img229.imageshack.us/img229/6753/tri5107resizeyk5.jpg

http://img233.imageshack.us/img233/1664/tri5107resizews9.jpg

 :016:เปิดสั่งจองแล้ว สร้างตามสั่งจองเท่านั้น สุดยอดวัตถุมงคลเครื่องรางของขลังหลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน ตะกรุดโทน,ผ้ายันต์แดง,หนุมานครองเมือง ไตรมาสปี 51 รุ่น "พุทธคุณ" 1 ชุด 3 รายการบูชา 1000 บาท หลวงพ่ออธิษฐานจิตเดี่ยวตลอดไตรมาส เปิดจองตั้งแต่บัดนี้ถึง 30 มิ.ย.51 รับวัตถุมงคล 15 ต.ค.ถึง31 ธ.ค.51 เปิดจองที่วัดเกริ่นกฐิน ไปรษณีย์ทั่วประเทศ ศูนย์พระเครื่องทั่วไปครั้งแรกและครั้งเดียวเท่านั้น :015:

181
วัดหน้าต่างนอก หลวงพ่้อจง เทพเจ้าแห่งความเมตตา




ประวัติ

                        หลวงพ่อจง  พุทธัสสโร  ท่านมีนามเดิมว่า ?จง?  กำเนิดมาในตระกูลชาวนาในท้องที่ตำบลหน้าไม้  อำเภอบางไทร  จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

เรียกว่าเป็นเชื้อสายแห่งคนดีศรีอยุธยาอีกคนหนึ่ง  ที่ทั่วสรรพางค์กายล้วนเต็มเปี่ยมด้วยเลือดนักสู้  สมชาติชายไทย  บิดาท่านมีนามว่า นายยอด  มารดานามว่า  นางขลิบ  ซึ่งท่านทั้งสองมีบุตร-ธิดาด้วยกันทั้งสิ้น 3 คน คือ

                        1. เด็กชายจง  ต่อมาคือ  หลวงพ่อจง  พุทธัสสโร  เป็นบุตรคนโต
2. เด็กชายนิล  เป็นคนรอง  ต่อมาคือพระอธิการนิล  เจ้าอาวาสวัดหน้าต่างใน
3.  เด็กหญิงปลิก  เป็นน้องคนเล็ก และเป็นผู้หญิงคนเดียว

                        สำหรับวันเดือนปีเกิดหรือวันถือกำเนิดของหลวงพ่อจง  พุทธัสสโร นั้น เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่ล่วงเลยผ่านพ้นมานาน  อีกทั้งการบันทึกก็มิได้มีหลักฐานที่เด่นชัด  เป็นแต่ระบุไว้พอรู้ความว่า  ได้กำเนิดในสมัยต้นรัชกาลที่ 5 แห่งราชวงศ์จักรี  ณ  วันพฤหัสบดี เดือน 4 ปีวอก  อันเป็นวันขึ้น 8 ค่ำ ที่ตรงกับวันที่ 6 เดือนมีนาคม พ.ศ.2415  และด้วยเวลานั้นยังไม่มีการใช้ชื่อสกุล  จึงไม่มีการระบุชื่อนามสกุลเดิมของท่านไว้

         
       
หลวงพ่อแม้น เจ้าอาวาส์ปัจจุบัน ทายาทธรรมหลวงพ่อจง
 
วัตถุมงคล รุ่น ?๙ หน้ามหาบารมี?
                       สุดยอดพิธีกรรม   สุดยอดพระเกจิเจ้าตำรับ
                 ตะกรุดโทนมหารูด และเสือเดือน ๙       
          หลวงพ่อแม้น   อาจารสัมปันโน   ศิษย์เอกหลวงพ่อจง  วัดหน้าต่างนอก
              เจ้าตำรับตะกรุดโทน  และพยัฆราช แห่งลุ่มแม่น้ำน้อย อันลือลั่น

                         

   หลวงพ่อแม้น  อาจารสัมปันโน   พระเกจิอาคมขลัง แห่งเมืองกรุงเก่า เจ้าตำหรับตะกรุดโทน 
และพยัฆราช  อันลือลั่น ศิษย์เอกทายาทพุทธาคม  หลงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก
พระเกจิสมัยสงครามอินโดจีน  ท่านได้ศึกษาวิชากับหลวงพ่อจงเอง  และเมื่อสิ้นหลวงพ่อจงแล้ว 
ท่านได้เรียนต่อวิชาสายหลวงพ่อจง   จาก หลวงพ่อไวทย์ วัดบรมวงศ์   
หลวงพ่อหอม วัดบางเตยกลาง  หลวงพ่อเมี้ยน  วัดโพธิ์กบเจา  พระอาจารย์รวย  วัดกลางคลองสาม
( หลานหลวงพ่อจง )   ฯ
เคยปลุกเสกพระร่วมกับ หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง  เมื่อปี 2529  หลวงพ่อแพ
เดินเข้ามาตบบ่า  แล้วบอกว่า ? ดีมาก  ต่อไปเปลี่ยนชื่อซะนะ  เป็นหลวงพ่อจงน้อย ?
         จึงไม่ต้องสงสัยแล้วว่าหลวงพ่อแม้นจะดีจริงหรือเปล่า
      เมื่อวันที่ ๙ กันยายน ๒๕๕๐ ( วันที่ ๙ เดือน ๙ ) ที่ผ่านมา ทางวัดหน้าต่างนอก
ได้จัดพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลรุ่น ?๙ หน้ามหาบารมี ? โดยจัดไปพร้อมๆกับพิธี
สวดนพเคราะห์และเป่ายันต์มหามงคล  ซึ่งวัตถุมงคลรุ่นนี้ประกอบไปด้วย
1.เสือมหามงคล ( เสือเดือน ๙)
2.ตะกรุดโทนพุทธาคมมหามงคล ( มหารูด )
       เสือมหามงคล ( เสือเดือน ๙)  ดังที่บอกว่าหลวงพ่อแม้นท่านปลุกเสกเสือได้ขลังมาก
ทำเสือออกมากี่รุ่นก็หมดจากวัดไปอย่างรวดเร็ว  เมื่อปีใหม่เสกเสือในกุฏิเสียงดังลั่น
พระได้ยินกันทั้งวัด  เสือรุ่นนี้มีประสบการณ์มาก ทำให้หมดไปจากวัดอย่างรวดเร็ว  ท่านจึงได้สั่งให้สร้างขึ้น
มาอีกรุ่น  ชื่อว่า เสือเดือน ๙
หลวงพ่อถือเคล็ดว่า เสือเดือน ๙ จะได้ก้าวหน้า ก้าวมั่ง ก้าวมี ก้าวไปเป็นเศรษฐี 
ก้าวพ้นอุปสรรคเสือรุ่นนี้พิเศษสุดๆ คือ ได้ผสมตะกรุดมหาอำนาจรุ่นเก่าของหลวงพ่อจง
ที่ท่านปลุกเสกไว้ลงไปเป็นชนวน  และหลวงพ่อแม้นท่านได้จารแผ่นยันต์ ๑๐๘ลงไปผสม
เป็นชนวนด้วย  เช่นยันต์ หอกคด  ปืนแตก  มหาละลวย งวยงง หลงใหล อ่อนใจรัก มหาลาภ ฯ
ซึ่งเป็นตำราเก่าของหลวงพ่อจงไว้ลงเสือยันต์ให้ทหารในสมัยท่าน  ทำให้เสือรุ่นนี้ มีพุทธคุณดีใน
ทุกด้าน  ชาวอยุธยาเขารู้กันดี  เสืออยุธยา  เสือหลวงพ่อแม้นวัดหน้าต่างนอก

เสือรุ่นนี้สร้างมา ๒ เนื้อ
๑.เนื้อตะกั่ว      สร้าง ๑๐,๐๐๐  ตัว   บูชา ตัวละ ๑๐๐  บาท
๒.เนื้อฝาบาตร   สร้าง   ๕,๐๐๐  ตัว   บูชา ตัวละ ๑๕๐  บาท
* เรื่องแปลกแต่จริง
หลังจากพิธีปลุกเสกเมื่อวันที่ 9 ผ่านพ้นไป ผู้ที่มาเข้าร่วมพิธี คงจะได้รูสึกถึงความเข้มขลังกันแล้ว 
พื้นที่รอบๆวัดฝนตกหนักมาก แต่ในวัดฝนไม่ตก แถมพระอาทิตย์ยังทรงกลดอีกต่างหากพอปลุกเสกเสร็จหลวงพ่อให้ยกลังเสือมาปลุกเสกอีกในกุฏิเช้า
ขึ้นมาหลวงพ่อบอกไม่รูว่าอะไรวิ่งชนตู้ในกุฏิตอนปลุกเสก เสียงดังตึงๆ
- พระที่วัดมาปัดกวาดกุฏิหลวงพ่อจะยกลังเสือขึ้นมาซ้อนกัน  เสือกระโดดจากพานเอง เห็นจะจะ
มาถามได้ที่วัด
- มีคนมาบูชาจากที่วัดไป เอาไว้บนหิ้งพระ  ที่หิ้งพระมีเครื่องรางเป็นลิงไม้แกะ  ตกกลางคืนลิงมา          เข้าฝัน   บอกให้ช่วยหน่อย โดนเสือกัดจะตายอยู่แล้ว  เช้าต้องรีบมาหาหลวงพ่อ หลวงพ่อบอก ?ก็ไม่บอกเขาก่อนละก็?       
๒.ตะกรุดพุทธาคม มหามงคล ( มหารูด) หลวงพ่อแม้นท่านได้จารแผ่นยันต์เอง
ทุกดอก   ตะกรุดนี้หลวงพ่อบอกไว้ในตำรา เป็นตะกรุดที่หลวงพ่อจง ปลุกเสกแจกทหารไปรบในสงครามอินโดจีน และเวียดนาม มีพุทธคุณมากมาย  ไม่ว่าจะเป็นด้าน คงกระพัน แคล้วคลาด เมตตามหาเสน่ห์ และเกื้อหนุนดวงชะตา
ตะกรุดรุ่นนี้หลวงพ่อจารได้เพียง ๔๙๐ ดอก  บูชาดอกละ  ๔๐๐ บาท
ตะกรุดรุ่นนี้หลือน้อยแล้วนะจ้ะ !

เด็กวัยรุ่นเสนา  โดนจ่อยิงจะจะไม่ออก  บอกมีตะกรุดมหารูดดอกเดียว
แผงที่จังหวัดปทุมธานีขายดอกละ พันห้า  บอกประสบการณ์มากแถวนี้

182


พระครูปทุมกิจโกศล(หลวงพ่อแสวง อริโย)

http://swp-temple.is.in.th/
ประวัติโดยสังเขปของพระครูปทุมกิจโกศล หลวงพ่อแสวง อริโย
(พระเถราจารย์ที่ถูกแกล้งลืม)

                 ที่กระผมนายเข็มทองกำลังจะเล่าให้ผู้อ่านฟังนี้เป็นความจริงทั้งหมดที่ถูกแกล้งลืมมานานมาก  ไม่ต้องเชื่อผมก็ได้ครับ  คิดว่าผมเล่านิยายให้ท่านผู้อ่านฟังก็ได้ครับ  อย่าเชื่อผมจนกว่าท่านทั้งหลายจะได้เข้าไปกราบแทบเท้าหลวงพ่อครับ  โดยผมจะเริ่มเล่าให้ฟัง ณ บัดนี้ครับ

                 หลวงพ่อแสวง  อริโยเกิดในตระกูลเจ้าพระยา  เกิดเมื่อวันพฤหัสบดี ขึ้น 6 ค่ำ เดือน 4 ปีชวด  พ.ศ. 2567  ตรงกับ  วันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์  พ.ศ.2467  ร.ศ.143  จ.ศ. 1286

                 บ้านเกิด ต.คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี  บิดาชื่อ นายเล็ก  มารดาชื่อ นางทรัพย์

                มีพี่น้องร่วมบิดาเดียวกันรวม 7 คน คือ

 1.       นางสาวสาย(ถึงแก่กรรม)

 2.       นาวสาวโปรย(ถึงแก่กรรม)

 3.       นายสิน

 4.       ผู้ใหญ่มล(ถึงแก่กรรม)

 5.       นายแจ้ง

 6.       พระครูปทุมกิจโกศล  เดิมชื่อ ?แจ่ม?  แต่ชาวบ้านเรียกท่านว่า ?แสวง?  เมื่อท่านอุปสมบทแล้วจึงเรียกติดปากตั้งแต่นั้นมา

 7.       นายจำรัส  เจนกระบวน

              โยมปู่ชื่อหลวงเจนกระบวนทิศ(ต้นนามสกุลเจนกระบวน)  เป็นเชื้อสายชาวมอญที่เป็นแม่ทัพนายกอง  ซึ่งมีวิทยาคมสูงส่ง  เจ้าของตำราผงสิบสองนักกษัตริย์  พูดถึงผงสิบสองนักกษัตริย์หลายท่านอาจจะงง  แต่ถ้าพูดถึงหลวงปู่เทียน  วัดโบสถ์  จ.ปทุมธานี  และหลวงพ่อเริ่ม  วัดจุกกระฌอ จ.ชลบุรี  ท่านคงจะหายสงสัย  เพราะสมเด็จรุ่นแรกของหลวงปู่เทียน  ที่ผสมผงสิบสองนักกษัตริย์  และสมเด็จรุ่นแรกของหลวงพ่อเริ่ม  ก็มีราคาแพงเป็นที่ใฝ่หาของผู้ที่ดวงตก  กำลังหาวัตถุมงคลเสริมดวง(รายละเอียดผงสิบสองนักกษัตริย์  หาอ่านได้ในประวัติหลวงปู่เทียนและหลวงพ่อเริ่ม)  ผงสิบสองนักกษัตริย์นี้  การสร้างจะคล้ายๆกับผงพรายกุมารของหลวงปู่ทิม  วัดละหารไร่  ถ้าอยากทราบครั้งหน้าผมจะอธิบายรายละเอียดการทำผงสิบสองนักกษัตริย์ให้ฟัง


                มาฟังประวัติของหลวงพ่อกันต่อครับ




                 ในวัยเด็กของหลวงพ่อชอบตามโยมแม่ของท่าน  ไปฝึกวิปัสสนากรรมฐานกับแม่ชีพันธ์  อาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนา  ซึ่งท่านเป็นลูกศิษย์เอกของท่านพ่อบันฑูรย์สิงห์  จังหวัดสมุครสาคร  ถ้าเทียบเดี๋ยวนี้อำนาจฌาณสมาบัติของแม่ชีพันธ์ก็เทียบได้กับคุณแม่บุญเรือน  โตงบุญเติม  วัดอาวุธ  ซึ่งมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย  หลวงพ่อท่านเคยเล่าให้ผมฟังว่าคนถูกผีเข้า  พาเข้าไปหาแม่ชีพันธ์นั้นท่านแค่อธิษฐานจิตปลายนิ้วชี้ของท่าน  ชี้ไปที่ร่างของผู้ถูกผีเข้า  ผีถึงกับร้องโหยหวน  แล้วรีบออกจากร่างไปอย่างรนราน  หลวงพ่อท่านได้รับการฝึกวิปัสสนากรรมฐานจากแม่ชีพันธ์ตั้งแต่วัยเด็ก  หลังจากนั้นโยมแม่ของหลวงพ่อจึงพาหลวงพ่อไปฝากเรียนหนังสือไทยและขอมกับหลวงพ่ออู๊ด  วัดหัตถสาร จ.ปทุมธานี  มาถึงตรงนี้ท่านคงงงๆกันอีกแล้วว่าหลวงพ่ออู๊ดท่านเป็นใครมาจากไหน  หลวงพ่ออู๊ดเป็นศิษย์รุ่นใหญ่ของหลวงพ่อกลั่น  วัดพระญาติการาม จ.อยุธยา  ซึ่งมีศักดิ์เป็นศิษย์รุ่นพี่ของหลวงพ่ออั้น  วัดพระญาติการาม  ประวัติของหลวงพ่ออู๊ดไม่ค่อยจะได้เป็นที่รู้จักของคนทั่วไปนัก  เพราะท่านเป็นพระที่ไม่ชอบอวดตัว  คนส่วนใหญ่ถ้าพูดถึงศิษย์หลวงพ่อกลั่น  มักจะนึกถึงหลวงปู่สี  วัดสะแก  หลวงปู่ใหญ่  วัดสะแก  หลวงพ่อคอน  วัดชัยพฤกมาลา  แต่ลองมาฟังสิ่งที่ผมจะเล่าถึงในวันสุดท้าย ณ สำนักหลวงพ่อกลั่น  ของหลวงพ่ออู๊ด  วันนั้นในตอนบ่ายหลวงพ่อกลั่น  เรียกหลวงพ่ออู๊ดเข้าไปหาแล้วบอกว่า ?ท่านอู๊ดวิชาที่ผมมีอยู่ผมได้สอนท่านไปจนหมดไส้หมดพุงแล้ว  ถ้าคุณอยากจะก้าวหน้าต่อไปในเพศบรรพชิต  คุณคงต้องหาที่ศึกษาเพิ่มเติมแล้วล่ะ?  หลวงพ่ออู๊ดจึงถามหลวงพ่อกลั่นว่า ?หลวงพ่อครับ แล้วจะให้กระผมไปศึกษาต่อที่ไหนดีล่ะครับ  ช่วยแนะนำผมด้วยครับ?  หลวงพ่อกลั่นจึงตอบว่า ?ถ้าต้องการศึกษาต่อคงต้องไปหาหลวงพ่อหนู  วัดชีปะขาวแล้วล่ะ(จ.อยุธยา)  เดี๋ยวผมจะเขียนจดหมายฝากตัวคุณไปให้หลวงพ่อหนูด้วย? หลังจากนั้นหลวงพ่ออู๊ดก็ได้ออกจากสำนักของหลวงพ่อกลั่นพร้อมกับจดหมายฝากตัวที่หลวงพ่อกลั่นเขียนไว้ให้ เดินทางมุ่งหน้าสู่วัดชีปะขาวโดยลำพัง  เมื่อถึงวัดชีปะขาวแล้วจึงนำจดหมายฝากตัวนี้ถวายให้หลวงพ่อหนูอ่าน  เมื่อหลวงพ่อหนูอ่านแล้วก็ถามหลวงพ่ออู๊ดว่า ?คุณอยู่อารามไหนกัน?  หลวงพ่ออู๊ดตอบว่า ?เกล้ากระผมอยู่วัดหัตถสารจังหวัดประทุมธานีครับ? หลวงพ่อหนูก็ถามต่อไปอีกว่า ?อ้าว! แล้วจะอยู่เรียนวิชากันอย่างไร?  หลวงพ่ออู๊ดตอบว่า ?ผมจะเดินทางไปๆมาๆ เพื่อมาขอศึกษาต่อครับ?  หลวงพ่อหนูตอบว่า ?เอ้อ  อย่างนั้นไม่ต้องลำบากหรอก เดี๋ยวข้าจะไปหาเอ็งเอง  ที่วัดของเอ็งมีต้นโพธิ์ใหญ่อยู่หนึ่งต้นใช่มั้ย?  หลวงพ่ออู๊ดตอบว่า ?ใช่ครับหลวงปู่?  หลวงพ่อหนูจึงตอบว่า ?เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน  ถ้าเอ็งไม่เข้าใจหรือติดขัดในวิชาใดๆ  เอ็งไปรอข้าที่ต้นโพธิ์ใหญ่  พร้มกับจุดธูป 9 ดอก  รำลึกถึงข้า  ช้าจะไปหาเอ็งเอง?  ท่านผู้อ่านครับเหมือนนิยายมั้ย  แต่ฟังก่อนครับหลวงพ่ออู๊ดได้ต่อวิชาต่างๆจากหลวงปู่หนู  วัดชีปะขาวจนจบคัมภีร์พระเวท  ณ  ที่ใต้ต้นโพธิ์ใหญ่วัดหัตถสารนั้นเอง  หลวงพ่อเล่าให้ผมฟังแบบนี้  ผมก็ไม่กล้าถามท่านต่อแล้วครับเพราะผมรู้ดีว่าพระเกจิอาจารย์รุ่นเก่าท่านมักจะสำเร็จวิชาย่นระยะทางโดยอาศัยพลังแห่งธาตุเป็นหลัก  ซึ่งเราก็อาจจะหาอ่านได้ในนิตยสารพระเกจิต่างๆมากมาย  ยกตัวอย่างเช่น  หลวงพ่อปาน  หลวงพ่อจง  หลวงพ่อเดิม ฯลฯ  ย้อนเข้ามาถึงเรื่องราวของหลวงพ่อต่อถึงตอนที่โยมแม่พาหลวงพ่อมาฝากเรียนหนังสือขอมและไทย  โดยฝากไว้กับหลวงพ่ออู๊ด  หลวงพ่อได้เรียนชั้นประถมที่วัดหัตถสารจากหลวงพ่ออู๊ดพร้อมเกร็ดวิชาต่างๆ  จนเรียนจบแล้ว  หลวงพ่อจึงได้บวชเณรอยู่กับหลวงพ่ออู๊ดที่วัดหัตถสารจนอายุใกล้ครบบวชพระ  โยมแม่จึงขอร้องให้ไปบวชที่วัดใกล้บ้านคือวัดสว่างภพนั่นเอง  หลวงพ่อได้อุปสมบท  เมื่อปี พ.ศ.2487  ณ พัทธสีมาวัดสว่างภพ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี มีพระอธิการเฮ็ง สุมโนเป็นพระอุปัชฌาย์  พระวินัยธรหลุย เป็นพระกรรมวาจารย์และพระอธิการสวัสดิ์  โสตฺถิทตุโตเป็นพระอนุสาวนาจารย์  เมื่ออุปสมบทแล้วได้รับฉายาว่า  ?อริโย?   และหลังจากได้อุปสมบทแล้วได้กลับไปขอศึกษาวิชาในสายหลวงพ่อกลั่นจากหลวงพ่ออู๊ดต่อ  พร้อมกับไปฝากตัวกับพระเถราจารย์รุ่นเก่าอีกมากมายนับไม่ถ้วน  พระเถราจารย์ที่หลวงพ่อแสวงได้ศึกษามีดังนี้

 1.       หลวงพ่อเลื่อน  วัดไผ่ จ.อยุธยา

 2.       หลวงพ่อสมบุญ  วัดสว่างภพ  หลวงพ่อแสวงได้รับการถ่ายทอดวิชาแพทย์แผนโบราณ  ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2492 ? 2500 จนมีความรู้ความสามารถทางการแพทย์แผนโบราณเป็นอย่างดี

 3.       หลวงพ่อโป๋  วัดวังแดง จ.อยุธยา

 4.       หลวงพ่อขัน  วัดนกกระจาบ จ.อยุธยา  หลวงพ่อแสวงได้รับการถ่ายทอดมาหลายวิชา

 5.       หลวงพ่ออุ่ม  วัดเจ้ากอ จ.อยุธยา

 6.       หลวงพ่ออู๊ด  วัดหัตถสาร จ.ปทุมธานี

 7.       หลวงพ่ออ่ำ  วัดวงฆ้อง จ.อยุธยา

 8.       หลวงพ่อโอภาส  วัดพระศรีไกรน้อย  บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา  เก่งมากทางสักยันต์ คงกระพันชาตรี

 9.       หลวงพ่อจง พุทธสโร แห่งวัดหน้าต่างนอก จ.อยุธยา  ที่เราคงจะได้ต้องบรรยายอะไรมาก  เพราะว่าทุกๆคนน่าจะรู้จักท่านดี  มีเรื่องเล่าขันๆให้ท่านผู้อ่านฟัง  วันหนึ่งผมอยากจะรู้ว่าในตะกรุดสิบหกดอกของหลวงพ่อจงลงอักขระเลขยันต์อะไรไว้  ผมจึงขับรถไปหาหลวงพ่อแม้น ที่วัดหน้าต่างนอก  เมื่อไปถึงวัดทางสะดวกเลยครับ  พระหลวงพ่อแม้นกำลังไม่มีแขกพอดี  ผมจึงเรียนถามท่านว่า ?หลวงพ่อครับ  ตะกรุดสิบหกดอกของหลวงพ่อจง  ลงยันต์อะไรไว้ครับผมอยากจะทราบ?  หลวงพ่อแม้นท่านตอบผมว่า ?เอ้อ! คุณโยมมาจากวัดไหน?  ผมตอบท่านว่า ?ผมมาจากวัดสว่างภพ จ.ปทุมธานีครับ?  หลวงพ่อแม้นท่านยิ้มแล้วตอบผมว่า ?โยมมาซะไกลเลยนะ  ไปถามหลวงพ่อแหวงสิ  เขาทันเรียนกับหลวงพ่อจงและใกล้ชิดกว่าฉันอีก?  มาถึงตอนนี้ไม่อยากจะบรรยายความรู้สึกเลยครับหน้าแตก(หมอไม่รับเย็บเลยงานนี้)  ผมรีบขับรถกลับไปวัดสว่างภพทันทีเพื่อไปกราบแทบเท้าหลวงพ่อแสวง  ท่านจึงเล่าความจริงให้ผมฟังว่าท่านไปๆมาๆ  ระหว่างวัดหน้าต่างนอกและวัดสว่างภพอยู่เป็นปี  เพื่อต่อวิชากับหลวงพ่อจง  จนหลวงพ่อจงเมตตามาอยู่ช่วยปลุกเสกวัตถุมงคลที่วัดสว่างภพเป็นเวลาถึง 7 วัน 7 คืน พร้อมกับมอบเหล็กจารไว้ให้หลวงพ่อ 1 อัน  พร้อมกับผงพุทธคุณ 1 บาตรใหญ่ๆ  เพื่อให้หลวงพ่อแสวงสร้างวัตถุมงคลเป็นรูปหลวงพ่อจงและพิมพ์สมเด็จเนื้อผง 1 รุ่น(ครั้งหน้าผมจะโม้ให้ฟังถึงวัตถุมงคลรุ่นนี้  พร้อมกับข่าวดีว่า  ยังมีอยู่ที่วัดสว่างภพครับ)  

 10.    อาจารย์คง  เป็นฆราวาสและเป็นศิษย์หลวงพ่อกลั่น  วัดพระญาติการาม  จ.อยุธยา  หลวงพ่อแสวงได้เรียนวิชาอาคมทางด้านคงกระพันแคล้วคลาดและเมตตามหานิยม  เรียกได้ว่าครบเครื่อง

 11.    อาจารย์หลำ  เป็นฆราวาสมีอาคมแก่กล้าทางด้านคงกระพันชาตรี

 12.    อาจารย์และพระเกจิอาจารย์ท่านอื่นๆอีกมากมาย  แต่ไม่สามารถนำบอกกล่าวกันให้ฟังได้ครับ



  

 
สรุป

 1.        หลวงพ่อแสวงเป็นพระที่เก็บตัวไม่ชอบโอ้อวด

 2.        เป็นพระเกจิอาจารย์ที่นั่งปรกตามพิธีพุทธาภิเษกมากกว่า 100 งาน  แต่ไม่เคยขึ้นชื่อ  เพราะว่า  พอช่างภาพจะถ่ายรูปหลวงพ่อเดินหนีแล้วครับ(หนีอย่างเดียว)

 3.        ตำรวจเก่าๆแถวประตูน้ำพระอินทร์ต้องขอร้องหลวงพ่อให้วางเข็มสัก  และห้ามแจกตะกรุดกับเชือกคาด  เพราะลูกศิษย์นอกคอกของหลวงพ่อทำให้ตำรวจต้องทำงานหนัก

 4.        เป็นพระเกจิอาจารย์รูปเดียวที่นั่งปรกในพิธีของวัดประสาทบุญญาวาส ปี พ.ศ. 2505 และ พ.ศ. 2506  รูปเดียวที่ยังทรงสังขารอยู่(ตำนานที่ยังมีลมหายใจ)

 5.        เป็นพระเกจิอาจารย์รูปเดียวที่นึ่งปรกในพิธีการสร้างพระสมเด็จบางขุนพรหม ปี พ.ศ. 2509 และหลวงพ่อยังได้รับแจกสมเด็จพิมพ์คะแนนจากเจ้าอาวาสวัดบางขุนพรหมมาประมาณ 200 องค์(อยากได้ก็ไปตื้อกับหลวงพ่อกันเอาเองนะครับ  งานนี้ผมไม่เกี่ยว)

 6.        ตอนนี้ญาติโยมที่เป็นชาวมาเลเซียมาตื้อหลวงพ่อให้ขึ้นเครื่องไปโปรดญาติโยมที่มาเลเซีย  ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าไปโดนอะไรกันเข้า  เห็นบอกว่าถ้าหลวงพ่อไม่ไปมาเลเซีย  จะจัดแพ็คเก็จทัวร์รอบพิเศษมากินนอนกันที่วัดสว่างภพกันเลยครับ(เอากันเข้าไป)

 7.        มีพระชรารูปหนึ่งปัจจุบันมรณภาพไปแล้ว  ซึ่งบวชรุ่นเดียวกันกับหลวงพ่อ  เล่าให้ผมฟังว่าเคยแอบดูหลวงพ่อว่าท่านไปทำอะไรในโบสถ์  และเห็นหลวงพ่อเสกผ้าอาบน้ำฝนโยนลงกับพื้น  ผ้าอาบน้ำฝนนั้นกลับกลายเป็นกระต่ายสีขาววิ่งรอบตัวหลวงพ่อ(เชื่อไม่เชื่อแล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละบุคคลแล้วกันนะครับ  งานนี้ผมก็ไม่เกี่ยวอีกนั่นแหละ)  แต่รู้ว่าตอนที่พระชรารูปนี้ท่านคุยกับผมท่านบอกว่าจะเอาอาตมาไปสาบาญที่ไหนก็ได้

บทส่งท้าย

             ถ้าจะเล่าเรื่องประสบการณ์และอภินิหารของวัตถุมงคล  ต้องขอยกยอดไว้เที่ยวหน้าแล้วกันนะครับ  และถ้าอยากจะได้วัตถุมงคลของหลวงพ่อรุ่นเก่าๆ  หรือเหรียญรุ่นแรกไม่ต้องติดต่อมาทางผมเลยนะครับ  เพราะว่าตลอดสิบกว่าปีที่ผมเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อผมมีเหล็กจารที่หลวงพ่อได้ให้ไว้อันเดียวครับ  และผมเองไม่เคยมีของหลวงพ่อไว้ขายเหมือนอย่างที่ลูกศิษย์ในสายอื่นเค้าทำกัน  เพราะผมก็ไม่ได้ตั้งศูนย์พระเครื่อง  อ้อ! เกือบลืมไป ล่าสุดนี้กรมศิลปากรได้จัดสร้างพระพิฆเนศ รุ่นที่สอง  ทำพิธีปลุกเสกที่กรมศิลปากร  บริเวณวังหน้า  ทางกรรมการผู้จัดสร้างฝ่ายกรมศิลปากร  โหวตรายนามพระเกจิอาจารย์ที่จะเข้านั่งปรกทั่วประเทศให้เหลือ 16 รูป  หลวงพ่อแสวงคือหนึ่งในนั้นด้วยครับ

เอาเป็นว่าเที่ยวหน้าถ้าผมมีเวลาจะมาโม้ให้ท่านฟังกันต่อนะครับ

ขอความโชคดีมีชัยและจตุรพิธพรชัย  จงมีแด่ทุกๆท่านครับ

โชคดี  งดเหล้าวันเข้าพรรษาโดยถ้วนหน้าครับ

ตะกรุดโทนมหาอุตม์ ที่สุดหน้าทอง หมายปองมีดหมอเทพศาสตรา พญาสิงห์สุดคงทน แก้จนตะเพียนทอง พรั่งพร้อมกริ่งโบราณ อภินิหารหลวงพ่ออู่ทอง
ประกาศ! วัตถุมงคลของวัดสว่างภพทุกชิ้นในขณะนี้เป็นของเก่าที่หลวงพ่อแสวงอธิษฐานจิตปลุกเสกไว้ให้อย่างเต็มที่ตลอดหลายไตรมาสก่อนมรณภาพ โดยมิได้มีการสร้างเสริมหรือสร้างใหม่แต่อย่างใด จึงขอแจ้งให้บรรดาศิษยานุศิษย์และผู้ที่เคารพนับถือในองค์หลวงพ่อแสวงทุกท่านทราบโดยทั่วกัน

วัดสว่างภพ
ต.คลองสี่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

183


พระครูวิมลสมณวัตร ( หลวงพ่อเพี้ยน อคฺคธมฺโม )
เจ้าตำรับสุดยอด   ตระกรุดโทน  และ  ผ้ายันต์แดง  อันลือลั่น แห่งท้องทุ่งบ้านหมี่ วัดเกริ่นกฐิน ตำบล บ้านชี อำเภอ บ้านหมี่ จังหวัด ลพบุรี
ที่อยู่ วัดเกริ่นกฐิน ตำบลบ้านชี อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี 15180  :017:

http://www.wt81.org/indexx.php

    โทรศัพท์ : 036 - 426390 , 036 - 451097
    มือถือ     : 01-947-5753

    Email : wt81@wt81.org

184

พระครูปทุมวรกิจ (หลวงพ่อชำนาญ)
วัดบางกุฏีทอง ต.บางกะดี อ.เมือง จ.ปทุมธานีพระครูปทุมวรกิจ  :054:

ประวัติโดยสังเขป

                                พระครูปทุมวรกิจ (ชำนาญ  อุตตมปญโญ)

สถานเดิม

              ชำนาญ นามสกุล พันธ์หว้า เกิดวันอาทิตย์ ชึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ปีชวด วันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2515 บิดา นายชะโอด

มารดา นางสำเนียง บ้านเลขที่ 14 หมู่ที่ 7 ตำบลบางกะดี อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี



http://thaiwebkit.com/luangporchamnan.com/intro.asp

185



www.luangpuchang.com

สำนักสงฆ์ วัดหนองยายเม้า

หมู่ 6    บ้านหนองพยอม

ตำบล หนองตะไก้     อำเภอ สูงเนิน

จังหวัด นครราชสีมา    30380

เบอร์โทร. หลวงปู่ช้าง   087 -241 6531
 :054:

186
สอบถามเรื่องขอรายละเอียด เกี่ยวกับราคาบูชาวัตถุมงคล  ฤาษีหน้าเสือ วัดบางพระ :017:

187
ขอรายละเอียด เกี่ยวกับราคาบูชาวัตถุมงคล  ฤาษีหน้าเสือ วัดบางพระ  :054:

188
พอดีเช่ากุมารทองมา150เอาให้แม่ค้าขายครับแต่แม่บอกว่าก็เหมือนเดิมเงียบเหมือนเดิมขายไม่ได้ควรจะเลี้ยงยังไงให้ช่วยขายของดีครับแม่บ่นใหญ่เลยช่วยหน่อยครับน้ำแดงแม่ก็ให้แล้วของเล่นก็ให้ช่วยตอบหน่อยครับผู้รู้  :086:

หน้า: [1]