กล่าวถึงในพระไตรปิฎก พบเรื่องพระมหากัสสป และพระมหาโมคคัลลานะป่วย
พระพุทธเจ้าทรงทราบเข้า เสด็จไปเยี่ยมทรงแสดงหรือตรัสโพชฌงค์ 7 ประการ
เมื่อจบลงพระมหากัสสป พระมหาโมคคัลลานะหายป่วย หายจากทุกขเวทนากล้าแข็ง
อันนี้ปรากฏใน สังยุตนิกาย มหาวารวรรค พระไตรปิฎกเล่ม 19 หน้า 113-115
ในเมืองไทยก็นิยมสวดโพชฌงค์ให้กับผู้ป่วยเหมือนกัน เมื่อผู้สูงอายุป่วย
ญาติพี่น้องมักจะนิมนต์พระสงฆ์ไปสวดโพชฌงค์ ผู้ป่วยหายบ้าง ตายบ้าง สุดแล้วแต่เหตุปัจจัยของผู้ป่วยนั่นเอง
ทำไมพระเหล่านั้น ท่านฟังโพชฌงค์แล้วท่านหาย แต่ทำไมผู้ป่วยในเมืองไทยนี้ ส่วนมากตาย ส่วนน้อยหาย
ที่หายนั้นก็คือ ถึงแม้จะนิมนต์พระไม่สวดโพชฌงค์ ก็หายเองอยู่ได้บ้างแล้ว
ที่ตายนั้นเพราะอะไร ก็เพราะว่าโพชฌงค์ 7 นั้นมีบริบูรณ์อยู่ในพระอรหันต์เหล่านั้น
แต่ว่าผู้ป่วยของเรานั้น มีโพชฌงค์อยู่บ้างหรือเปล่า
คนเราธรรมดา มีโพชฌงค์อยู่เท่าใด หรือไม่มีเลย เมื่อเป็นเช่นนี้
จะเอาอะไรมาเป็นยาหรือเป็นธรรมโอสถสำหรับรักษา คุณสมบัติภายในไม่เหมือนกัน
แม้ทำอาการภายนอกให้เหมือนกัน ผลก็ไม่เหมือนกัน
เหมือนผลไม้พลาสติกกับผลไม้จริง มันดูอาการภายนอกมันเหมือน
แต่ผลไม้พลาสติกมันกินไม่ได้ ความสำเร็จประโยชน์ในการบริโภคไม่เหมือนกัน
เพราะฉะนั้น การทำอะไรแต่เพียงพอเป็นพิธีกรรม หรือกระทำในรูปลักษณ์ภายนอก
กับการทำด้วยการเข้าใจคือกระทำเข้าไปในจิตใจอันแท้จริง จึงได้ผลไม่เหมือนกันอย่างแน่นอน
ที่มา : หนังสือ สวดมนต์เพื่ออะไร ของ วศิน อินทสระ