ตถตาอาศรม เขาเรดาร์ บ้านบึง ชลบุรี
๑๔ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๔
บทกวีในตอนใกล้ค่ำ คือลำนำของชีวิต เป็นความรู้สึกนึกคิด ของจิตวิญญาณกวี
ถ่ายทอดผ่านตัวอักษร เป็นกาพย์ เป็นกลอนตามห้วงวิถี สร้างสรรค์ในสิ่งที่ดี เท่านี้ก็พึงพอใจ..
....โดดเดี่ยวบนภูผาในเวลาใกล้ค่ำ....
รอนรอนตะวันลับ เสียงนกขับกังวาลมา
ใกล้ค่ำสนธยา หมู่นกกาบินกลับรัง
เมฆน้อยลอยเคว้งคว้าง ลอยไปอย่างคนสิ้นหวัง
สายลมมีพลัง พัดเมฆบังทั่วนภา
ฟ้าครึ้มเมื่อใกล้ค่ำ หม่านเมฆดำปกคลุมฟ้า
ไม่นานฝนคงมา ปลุกชีวาให้พืชพันธุ์
โดดเดี่ยวและเดียวดาย ซุกซ่อนกายตามหาฝัน
ผ่านคืนและผ่านวัน เดินตามฝันในหนทาง
โดดเดี่ยวไม่เปลี่ยวเหงา อยู่บนเขาไม่อ้างว้าง
เอาธรรมมานำทาง แสงสว่างในทางเดิน
มองโลกและมองธรรม ก็สุขล้ำไม่มีเกิน
พาใจให้เพลิดเพลิน เมื่อได้เดินในทางธรรม
เอาธรรมนำชีวิต ปกป้องจิตมิให้ต่ำ
กุศลบุญหนุนนำ ประกอบกรรมในสิ่งดี
ชีวิตที่ผ่านมา ได้เห็นค่าชีวิตนี้
หลายหลากและมากมี ในสิ่งที่ต้องกระทำ
ทางกายและทางจิต ทำชีวิตให้เลิศล้ำ
ความชั่วไม่ครอบงำ เพราะมีธรรมนำชีวี
สร้างคุณบุญกุศล เป็นมงคลบารมี
ต่อเติมเสริมราศรี สร้างสิ่งดีตลอดไป
...รอนรอนตะวันลับ เพื่อพบกับสิ่งแปลกใหม่
ชีวิตดำเนินไป อยู่ภายใต้เส้นทางธรรม....
...ด้วยความปรารถนาดีและไมตรีจิต...
........รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม.......
๑๔ พฤษภาคม ๒๕๕๔ เวลา ๑๘.๓๓ น. ณ ตถตาอาศรม เขาเรดาร์ บ้านบึง ชลบุรี