ผู้เขียน หัวข้อ: วัดไตรมิตรวิทยาราม กรุงเทพมหานคร  (อ่าน 10467 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ธรรมะรักโข

  • มีสติ...กำหนดรู้...อยู่ที่จิต
  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 749
  • เพศ: ชาย
  • ผู้รักษาธรรม
    • ดูรายละเอียด


 

 

‘พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร’
(หลวงพ่อทองคำ)
วัดไตรมิตรวิทยาราม กรุงเทพฯ

“พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร” หรือ “หลวงพ่อทองคำ”
เป็นพระพุทธรูปทองคำที่ได้รับการบันทึกไว้ในกินเนสส์บุ๊ก พ.ศ.๒๕๓๔
(THE GUINNESS BOOK OF WORLD RECORDS 1991)
ว่าเป็น พระพุทธรูปทองคำแท้ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
มีมูลค่าสูงกว่า ๒๑ ล้านปอนด์ แต่คุณค่าแห่งพลังศรัทธา
ในจิตใจของพุทธศาสนิกชนนั้น มูลค่าใดๆ ก็มิอาจจะเทียบเทียมได้

ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ ณ พระวิหาร วัดไตรมิตรวิทยาราม
เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ในพระอิริยาบถนั่งสมาธิราบ
พระหัตถ์ซ้ายหงายวางบนพระเพลา พระหัตถ์ขวาวางเหนือพระชานุ
ปลายพระหัตถ์ชี้ลงพื้นธรณี หน้าตักกว้าง ๖ ศอก ๕ นิ้ว หรือมากกว่า ๒.๕๐ เมตร

ความสูงจากพระเกตุมาลาถึงฐานทับเกษตร (ฐานที่รองรับพระพุทธรูป)
๗ ศอก ๑ คืบ ๙ นิ้ว หรือประมาณ ๓.๐๔ เมตร ๑๐ ฟุต
มีน้ำหนักประมาณ ๕.๕ ตัน หรือ ๕,๕๐๐ กิโลกรัม

 

นักประวัติศาสตร์ชี้ว่า เป็น “พระพุทธรูปทอง” ในวิหารวัดมหาธาตุ กรุงสุโขทัย
ที่อ้างถึงในศิลาจารึกหลักที่ ๑ ของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช
บรรทัดที่ ๒๓-๒๗ มีข้อความปรากฏดังนี้

“กลางเมืองสุโขทัย มีพิหาร มีพระพุทธรูปทอง มีพระอัฏฐารส มีพระพุทธรูป
มีพระพุทธรูปอันใหญ่ มีพระพุทธรูปอันราม มีพิหารอันใหญ่ มีพิหารอันราม”

ข้อความดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า ในสมัยสุโขทัยมีการก่อสร้างพระวิหาร
พระพุทธรูปปูนปั้น โลหะ และทองคำ ทั้งขนาดใหญ่และขนาดกลาง
ดังปรากฏเป็นหลักฐานประติมากรรมสมัยสุโขทัยที่ยังคงอยู่มาจนถึงปัจจุบัน

จึงสันนิษฐานได้ว่า
หลวงพ่อทองคำน่าจะถือกำเนิดในรัชสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช
ก่อนปี พ.ศ.๑๘๒๖ อันเป็นพุทธศักราชที่ทรงประดิษฐ์ตัวอักษรไทย
หากนับเนื่องมาจนถึงปัจจุบันปี พ.ศ.๒๕๕๐



ในสมัย พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ ๑
ทรงมีพระบรมราชโองการให้อัญเชิญพระพุทธรูปตามวัดร้างต่างๆ
ที่สุโขทัยมาประดิษฐานไว้ที่ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือวัดโพธิ์
รวมจำนวนได้ ๑,๒๔๘ องค์ รวมทั้ง ‘หลวงพ่อทองคำ’ ด้วย
ซึ่งในขณะนั้นอยู่ในสภาพพอกปูนปั้นหุ้มทั้งองค์ ดูเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นธรรมดา

ต่อมาปี พ.ศ.๒๓๔๔ ได้อัญเชิญมาประดิษฐานเป็นพระประธาน
ใน วัดพระยาไกร หรือวัดโชตินาราม อันเป็นวัดที่
พระยาโชฎึกราชเศรษฐี (ทองจีน ไกรฤกษ์) สร้างถวายเป็นพระอารามหลวง
ในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ เรื่อยมาจนถึงปี พ.ศ.๒๔๗๕

ต่อมา วัดพระยาไกรชำรุดทรุดโทรม บริษัทอีสต์เอเซียติกได้มาขอเช่า
จัดสร้างโรงเลื่อยไม้ขนาดใหญ่ รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่ชำรุดทรุดโทรม
ของวัดออกจนเหลือแต่พระพุทธรูปปูนปั้นขนาดใหญ่

ขณะนั้น วัดสามจีน หรือที่ต่อมาเป็น วัดไตรมิตรวิทยาราม แห่งนี้
กำลังบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ และเห็นว่าจะทิ้งพระพุทธรูปไว้เช่นนั้น
ไม่เหมาะสม จึงได้อัญเชิญมาประดิษฐานไว้ที่วัดตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๔๗๘

 

เล่ากันว่าอาจจะด้วยปาฏิหาริย์ที่หลวงพ่อทองคำท่านคงจะเลือกประดิษฐานอยู่ที่นี่
เพราะมีหลายครั้งที่วัดวาอารามในต่างจังหวัดได้ทำการขอพระพุทธรูป
จากวัดต่างๆ ในส่วนกลางมาหลายครั้ง และองค์หลวงพ่อทองคำก็ได้ถูกยกให้
ทางวัดต่างๆ หลายครั้งเช่นกัน แต่ก็ไม่มีวัดไหนอัญเชิญไปสักที
บางวัดตัดสินใจรับที่จะอัญเชิญไปแล้ว แต่ในที่สุดก็ติดปัญหาต่างๆ จนมิได้อัญเชิญไป

การก่อสร้างใช้เวลาถึง ๒๐ ปี จึงแล้วเสร็จในวันที่ ๒๕ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๙๘
ทางวัดได้ประกอบพิธีอัญเชิญพระพุทธรูปปูนปั้นองค์นี้ขึ้นไปประดิษฐาน
บนพระวิหารที่สร้างขึ้นใหม่ ขณะทำการโยกย้ายอัญเชิญองค์พระซึ่งมีน้ำหนักมาก
ก็เกิดอุบัติเหตุ เชือกลวดสะลิงที่ยกองค์พระลอยขึ้นจากพื้นเกิดขาด
องค์พระตกกระแทกพื้น ขณะนั้นเป็นช่วงค่ำและฝนตกหนัก การอัญเชิญหยุดชะงักลง

ตอนเช้าของวันรุ่งขึ้น พระวิสุทธาธิบดี (ไสว ฐิตวีโร) เจ้าอาวาส
ขณะนั้นมีสมณศักดิ์เป็น พระวีรธรรมมุนี ได้มาตรวจตราดูองค์พระ
สังเกตเห็นปูนตรงพระอุระแตกเป็นรูกว้าง มองเห็นเนื้อทองคำจับตา
เมื่อกะเทาะปูนและลอกรักที่หุ้มออก พบว่าเป็นพระพุทธรูปทองคำทั้งองค์
ที่มีพระพุทธลักษณะงดงามสุกปลั่งขนาดใหญ่มหึมาเช่นที่เห็นในปัจจุบัน
และยังพบ กุญแจกล ซ่อนอยู่บริเวณฐานทับเกษตร ที่สามารถใช้ไขถอด
หรือแยกองค์พระออกได้เป็น ๙ ส่วนด้วยกัน อันเป็นภูมิปัญญาของบรรพบุรุษไทย
ที่ทำไว้เพื่อให้สะดวกในการเคลื่อนย้ายได้เมื่อยามจำเป็น
และยังมีทองคำเนื้อเดียวกันบางส่วนสำรองไว้ที่ใต้ฐานองค์พระ
เพื่อไว้สำหรับเชื่อมต่อเมื่อประกอบให้เป็นเนื้อเดียวกัน
นับเป็นความรอบคอบของบรรพบุรุษผู้สร้างเป็นอย่างยิ่ง



ทางวัดจึงได้ถอดหรือแยกองค์พระออกเป็นสี่ส่วน แล้วอัญเชิญขึ้นไป
ประดิษฐานบนพระวิหาร แรกๆ เรียกว่า พระสุโขทัยไตรมิตร
ต่อมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามพระพุทธรูปทองคำองค์นี้ว่า
“พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร” ตามลักษณะของพระพุทธรูป
แต่ประชาชนทั่วไปนิยมเรียกพระองค์นี้ว่า “หลวงพ่อทองคำ” มาจนปัจจุบัน

หลวงพ่อทองคำ เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวไทยเชื้อสายจีน
ที่อาศัยอยู่แถวเยาวราชมาอย่างยาวนาน
นอกจากนี้ ยังเป็นเอกลักษณ์อันยิ่งใหญ่เคียงคู่ชุมชนชาวไทยเชื้อสายจีนอีกด้วย

หลวงพ่อทองคำ มีพระพุทธลักษณะงดงามยิ่งนัก
สมดังที่ได้รับการกล่าวขวัญว่าเป็นรูปแบบของศิลปกรรมสุโขทัยยุครุ่งเรือง
ที่ได้รับการยอมรับว่ามีความวิจิตรอ่อนช้อยกว่าสกุลช่างยุคใด
ขนาดและน้ำหนักทองคำขององค์หลวงพ่อสะท้อนความสามารถอันฉลาดลุ่มลึก
ของฝีมือช่าง ทั้งด้านการออกแบบ ศิลปกรรม การปั้นหล่อ

เป็นหนึ่งในมรดกทางอารยธรรมล้ำค่ายิ่งของพระพุทธศาสนาคู่ผืนแผ่นดินไทย

 
แบบจำลอง ‘พระมหามณฑป’ วัดไตรมิตรวิทยาราม สถานที่ประดิษฐาน
‘พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร’ แห่งใหม่ หลังจากสร้างเสร็จสมบูรณ์

 
พระอุโบสถวัดไตรมิตรวิทยาราม   
 
ขอขอบคุณรูปภาพและข้อมูลจาก...http://www.agalico.com 
 

ออฟไลน์ aeara

  • ฉัฏฐะ
  • *
  • กระทู้: 32
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: วัดไตรมิตรวิทยาราม กรุงเทพมหานคร
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 11 ธ.ค. 2552, 03:54:21 »
คิดถึงบรรยากาศเก่าๆจัง

ออฟไลน์ job@love

  • เด็กวัด
  • *****
  • กระทู้: 793
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: วัดไตรมิตรวิทยาราม กรุงเทพมหานคร
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 11 ธ.ค. 2552, 04:26:49 »
 :054: :054: :054:กราบพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากรด้วยตวามเคารพ
หลวงพ่อทองคำผ่านสงครามผ่านร้อน-หนาว มา700กว่าปี
เหมาะสมแล้วที่สร้างพระมหามณฑป ประดิษฐาน หลวงพ่อทองคำ
เห็นว่าสร้างแล้วเสร็จเกือบ 100%
ยังไม่มีโอกาศขึ้นไปเลย

ปล. คิดถึง ต.ว. 100ปี
      "สุญญตา"  "มีชีวิตโดยไม่มีตัวตน หรือ การมีตัวตนซึ่งมิใช่ตน"

ออฟไลน์ รุท หมัดหนักครับ

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 2312
  • เพศ: ชาย
  • ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
    • MSN Messenger - bassudza501@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: วัดไตรมิตรวิทยาราม กรุงเทพมหานคร
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 11 ธ.ค. 2552, 06:40:54 »
วัดสวยงามมากครับ
รักและศรัทธา

ออฟไลน์ job@love

  • เด็กวัด
  • *****
  • กระทู้: 793
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: วัดไตรมิตรวิทยาราม กรุงเทพมหานคร
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 16 ธ.ค. 2552, 09:28:40 »
ขออณุญาติ ท่านธรรมะรักโข ครับ

จากการสอบถาม พระสงฆ์ที่วัดไตรมิตรมาครับ
จะมีพิธีสมโภชพระมหามณฑป เร็วๆนี้
เห็นท่านบอกวันที่ 24 ( 28;ลืมถามเดือนครับ)
คาดว่าจะเปิดให้ประชาชนเข้ากราบและเยี่ยมชมได้ในช่วงตรุษจีน 2553



ภาพสดขณะเตรียมความพร้อมวันที่15 ธันวาคม 2552(กล้องมือถือ)


ภาพวันที่22 กันยายน 2551(เวปพลังจิต)

ภาพวันที่22 กันยายน 2551(เวปพลังจิต)


ออฟไลน์ ธรรมะรักโข

  • มีสติ...กำหนดรู้...อยู่ที่จิต
  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 749
  • เพศ: ชาย
  • ผู้รักษาธรรม
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: วัดไตรมิตรวิทยาราม กรุงเทพมหานคร
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: 16 ธ.ค. 2552, 10:25:59 »
ขอขอบคุณ...ท่าน job@love  ที่นำข่าวอัพเดทมาฝาก ขอโมทนาสาธุ...ครับ

ออฟไลน์ ~เสน่ห์ack01~

  • ผู้คุมกฎ
  • *****
  • กระทู้: 5330
  • เพศ: ชาย
  • " ไม่เมาเหล้าแล้วเรายังเมารัก"
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: วัดไตรมิตรวิทยาราม กรุงเทพมหานคร
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: 16 ธ.ค. 2552, 11:49:04 »
ขอบคุณท่านจ๊อบครับสำหรับข่าวล่าสุด

 ช่วงปีใหม่ไปไหว้ศาลเจ้าพ่อเสือแล้ว

 อาจได้ไปกราบท่านครับ :002:

ทำบุญ วันคล้ายวันเกิด หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ
วันอาทิตย์ ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ 

ออฟไลน์ yout

  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 1742
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: วัดไตรมิตรวิทยาราม กรุงเทพมหานคร
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: 16 ธ.ค. 2552, 12:10:45 »
ขอบคุณครับที่นำมาให้ชมครับ.......... :090: :090: :114: :090: :090:.................