:001:http://beam.to/buddha
พระผู้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ ในการประดิษฐานพุทธศาสนาขึ้นในโลก
เพื่อนำมวลมนุษยชาติไปสู่สันติสุข อันไม่มีสุขอื่นใดในโลกเสมอเหมือน
[ Home ] [ มหัศจรรย์แห่งพุทธศาสนา ] [ พระพุทธเจ้า ] [ พระพุทธเจ้าทรงสอนอะไร ] [ พุทธประวัติ ] [ พุทธศาสนาในเมืองไทย ] [ วันสำคัญ ]
วันจันทร์ที่ 10 กรกฎาคม 2549
นามของพระพุทธเจ้า
คำแปล คำอธิบายเพิ่มเติม
พระพุทธเจ้า
พระผู้ตรัสรู้เองโดยชอบ แล้วสอนผู้อื่นให้รู้ตาม ในภัทรกัปปัจจุบันนี้ มีพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นในโลกแล้ว
๔ องค์ คือ พระกกุสันธะ พระโกนาคมน์ พระกัสสปะ และ
องค์ปัจจุบัน คือพระโคดมพุทธเจ้า ซึ่งศาสนาของพระองค์
จะมีอายุ ๕,๐๐๐ ปี จากนั้นพระเมตเตยยะหรือพระศรี
อริยเมตไตรย จะมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าองค์ต่อไป
พระโคตมพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าที่มีโครตสกุลว่าโคตม
ทรงมีพระราชประวัติโดยย่อ ตามที่ปรากฏในพระสูตร คัมภีร์พุทธวงส์ แห่งขุททกนิกาย ดังนี้.-
พระองค์เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่าโคดม (โคตมพุทธ) เจริญในศากยสกุลพระนครอันเป็นถิ่นกำเนิด ชื่อกบิลพัสดุ์ พระบิดาคือพระเจ้าสุทโธทนะ พระมารดามีพระ นามว่ามายาเทวี
มีปราสาท ๓ หลังชื่อ สุจันทะ โกกนุท และ โกญจะ มเหสีพระนามว่ายโสธรา โอรสพระนามว่าราหุล ทรงครอง ฆราวาสอยู่ ๒๙ ปี
ทอดพระเนตรเห็นนิมิต ๔ ประการแล้ว เสด็จออก ผนวชด้วยม้าเป็นราชยาน
บำเพ็ญทุกรกิริยาอยู่ ๖ ปีบรรลุสัมโพธิญาณที่ ควงไม้อัสสัตถพฤกษ์ (คือต้นโพธิ์ได้แก่ไม้อัสสัตถะ) ประกาศธรรมจักรที่ป่าอิสิ ปตนมฤคทายวัน แขวงเมืองพาราณสี
พระอัครสาวกทั้งสอง คือ พระอุปติสสะ (พระสารีบุตร) และพระโกลิตะ (พระมหาโมคคัลลานะ) พุทธอุปัฏฐากชื่อว่า
พระอานนท์ พระอัครสาวิกาทั้งสองคือ พระเขมาและพระอุบล วรรณา อุบาสกสองผู้เป็นอัครอุปัฏฐาก คือ จิตตคฤหบดี
และหัตถกอุบาสก ชาวเมืองอาฬวี อุบาสิกาสองผู้อัครอุปัฏฐา ยิกา คือนันทมารดาและอุตราอุบาสิกา
มีสาวกสันนิบาต (การประชุมพระสาวก) ครั้งใหญ่ ครั้งเดียว ภิกษุผู้เข้าร่วมประชุม ๑,๒๕๐ รูป
คำสั่งสอนของพระองค์ผู้เป็นศากยมุนี เจริญแพร่หลาย กว้างขวาง งอกงามเป็นอย่างดี บริสุทธิ์ผ่องแผ้วเป็นประโยชน์ แก่ประชาชนจำนวนมาก
(ต้องการทราบโดยละเอียด คลิกที่นี่)
ตถาคต เป็นคำที่พระพุทธเจ้าทรง แปลความหมายได้หลายนัย เช่น
เรียกหรือตรัสถึงพระองค์เอง - พระผู้เสด็จมาแล้วอย่างนั้น คือเสด็จมาทรงบำเพ็ญพุทธ
จริยา เพื่อประโยชน์แก่ชาวโลก เป็นต้น
- พระผู้ตรัสอย่างนั้น (หรือมีพระวาจาที่แท้จริง)
- พระผู้ทำอย่างนั้น คือ ตรัสอย่างใดทำอย่างนั้น ทำอย่างใด
ตรัสอย่างนั้น
สุคโต เสด็จไปดีแล้ว คือทรงมีทางเสด็จที่ดีงามอันได้แก่อริยมรรค เสด็จที่ใดก็ทรง
ทำประโยชน์ให้แก่มหาชนในที่นั้น
โลกวิทู ทรงรู้แจ้งโลก คือทรงรู้แจ้งสภาวะแห่งโลก คือสังขารทั้งหลาย ทรงทราบ
อัธยาศัยสันดานของสัตวโลกที่เป็นไปต่างๆ ทำให้ทรงบำเพ็ญ
พุทธกิจได้ผลดี