กระดานสนทนาวัดบางพระ

หมวด มิตรไมตรี => บทความ บทกวี => ข้อความที่เริ่มโดย: โยมเพชร ที่ 11 ธ.ค. 2553, 12:49:21

หัวข้อ: <ความหมายและการนำฤกษ์ทั้ง 9 ไปใช้> "มอบเป็นวิทยาทานแด่สมาชิกทุกท่านครับ"
เริ่มหัวข้อโดย: โยมเพชร ที่ 11 ธ.ค. 2553, 12:49:21
การดูฤกษ์ ยาม มีมาแต่โบราณ โยมเพชรคนหนึ่งนะครับ ที่ชอบดูฤกษ์ ยาม เช่น ยามอุบากอง เดินทางไปไหน ดูก่อนเสมอแล้วปลอดภัยตลอด  วันนี้จึงนำ ความหมายและการนำฤกษ์ทั้ง9 นี้ มาให้สมาชิกเว็บวัดบางพระ ศึกษา หาความรู้ เผื่อท่านใดสนใจ จะได้นำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ฤกษ์ทั้ง 9 นี้ ใน1เดือนจะสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนไปทุกๆวัน สมารถหาดูได้ตามปฏิทินออนไลน์ หรือ ปฏิทิน100ปี ว่าวันนี้ฤกษ์อะไรทำการมงคลดีไหม เดินทางไกลดีไหม ทวงหนี้ดีไหม ออกรถดีไหม ฯลฯ เราสามารถใช้ช่วยในการตัดสินใจในการดำเนินชีวิตได้ และ ยังเป็นมงคลอีกด้วย หวังว่าสมาชิกผู้นับถือศรัทธาในการสักยันต์ บูชาวัตถุมงคลทุกท่าน คงได้เอาไว้ใช้นะครับ:001:

ความหมายและการนำฤกษ์ทั้ง 9 ไปใช้
  1. ทลิทโทฤกษ์
ได้แก่ฤกษ์ที่ 1 , 10 และ 19 เรียกว่า ทลิทโทฤกษ์ แปลว่า ผู้มักน้อย ผู้เข็ญใจ ผู้ขอ ผู้ต้องเหน็ดเหนื่อย ผู้อดทน ผู้ที่ต้องรับผิดชอบสูง

ฤกษ์นี้เป็น ฤกษ์ของ "ชูชก" มีพระอาทิตย์เป็นผู้รักษาฤกษ์ บาทฤกษ์ทั้ง 4 อยู่ในราศีเดียวกันเป็น "บูรณะฤกษ์" คือฤกษ์ที่เต็มโดยสมบูรณ์ คือฤกษ์ที่ไม่ขาดแยกแตกบาทฤกษ์ไปอยู่คนละราศี และเรียกว่า จัตตุรฤกษ์ หรือ ขันธฤกษ์

เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ การขอสิ่งต่างๆ เพราะถือว่าเป็นฤกษ์ของชูชก จะทำการขอสิ่งใดก็ง่าย เช่น  การขอหมั้น ขอแต่งงาน ทวงหนี้ กู้ยืม ร้องทุกข์ การทำการใดๆ เพื่อให้ผู้อื่นสงสารกรุณา เปิดร้านขายของชำ ของเก่าชำรุด สมัครงาน ทำการใดๆ ที่ริเริ่มใหม่

สรุปการใช้ฤกษ์นี้
     ฤกษ์นี้ใช้สำหรับ ขอผัดผ่อนหนี้ ขอหมั้น ขอแต่งงาน ขอทำงาน ขอสมัครงาน ขอร้อง สู่ขอ ขอคืนดี ขอรี่ไร ขอส่วนแบ่ง ขอกู้เงิน ยืมเงิน ขอผ่อนผัน ขอให้อุปการะ ขอให้ค้ำประกัน ขอซ่อม ขอร้อง ร้องขอ ขอความเป็นธรรม ขอร้องทุกข์ ขอความช่วยเหลือ สรุปคือบรรดาการขอ (ขอร้อง) ทุกอย่างให้ใช้ฤกษ์นี้
 
  2. มหัทธโนฤกษ์
ได้แก่ฤกษ์ที่ 2 , 11 และ 20 เรียกว่า มหัทธโนฤกษ์ แปลว่า คนมั่งมี ผู้รุ่งเรือง เศรษฐี มีพระจันทร์เป็นผู้รักษาฤกษ์ บาทฤกษ์ทั้ง 4 อยู่ในราศีเดียวกันเป็น "บูรณะฤกษ์"

เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ การมงคลต่างๆ เช่น ขึ้นบ้านใหม่ แต่งงาน ปลูกสร้างอาคาร ธุรกิจการเงิน การค้าอุตสาหกรรม เปิดห้างร้าน ลาสิกขาบท สะเดาะเคราะห์ และ สารพัดงานมงคล

สรุปการใช้ฤกษ์นี้
     เป็นการกระทำมั่นคงถาวร เช่น สร้างบ้านให้อยู่นานๆ เปิดร้าน เปิดบริษัท เอารถออกจากอู่ ถอยรถใหม่ เปลี่ยนชื่อ อุปสมบท ลาสิกขา และงานมงคลทั้งปวง
 
  3. โจโรฤกษ์
ได้แก่ ฤกษ์ที่ 3 , 12 และ 21 เรียกว่า โจโรฤกษ์ แปลว่า โจร ผู้ปล้น ผู้ลักขโมย นักเลง ผู้ใช้กำลัง ผู้ทำลายล้าง ผู้กล้าหาญมีอำนาจ ผู้ว่องไว มีพระอังคารเป็นผู้รักษาฤกษ์ ฤกษ์บาททั้ง 4 ไม่รวมอยู่ในราศีเดียวกัน คาบเกี่ยวอยู่ 2 ราศีเป็น "ฉินทฤกษ์"  คือ ฤกษ์ขาดแตก โดยเฉพาะบาทแรกของต้นราศีนั้น เป็นฤกษ์บาทที่ร้ายแรงมากกว่าบาทอื่น เป็นนวางค์ที่ร้ายแรงมาก ไม่ควรให้ฤกษ์มงคล

เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ คนโบราณใช้ในการปล้นค่าย จู่โจมโดยฉับพลัน ข่มขวัญ บีบบังคับ ทำการปราบปราม การแข่งขันช่วงชิง การแย่งอำนาจและผลประโยชน์ งานเสี่ยงๆ ในระยะสั้นๆ การปฏิวัติ งานของบุคคลในเครื่องแบบแบใช้กำลัง

สรุปการใช้ฤกษ์นี้
     โจรจะไปปล้นบ้านใครให้ถือเอาฤกษ์นี้  ฤกษ์แหกคุก ฤกษ์หนีการจับกุม การเอาเปรียบคนอื่น จะไปจับผิดใครให้ใช้ฤกษ์นี้ การปรับทุจริต เป็นฤกษ์ฉกฉวย หรือเป็นการข่มคนอื่น ไปต่อสู้คดี ขึ้นโรงขึ้นศาล คือการทำเพื่อให้ชนะคนอื่น หรือแม้กระทั่งการเอาเปรียบคนอื่น ฤกษ์นี้ยังหมายถึง การท่องเที่ยว การผจญภัย การสอบชิงทุน การแข่งขัน การแข่งกีฬา การข่มขวัญศัตรู การปรับปรุงแก้ไข การปฏิวัติ รวมทั้งเอารถออกจากอู่ (จากการซ่อม) หรือออกจากโชว์รูม (ถอยรถใหม่) ฤกษ์นี้ไม่เหมาะในการลงทุน อาจทำให้ผิดหวังและถูกเบียดเบียนจากคนในเครื่องแบบ
 
  4. ภูมิปาโลฤกษ์
ได้แก่ ฤกษ์ที่ 4 , 13 และ 22 เรียกว่า ภูมิปาโลฤกษ์ แปลว่า ผู้รักษาแผ่นดิน มีพระพุธเป็นผู้รักษาฤกษ์ บาทฤกษ์ทั้ง 4 อยู่ในราศีเดียวกันเป็น บูรณะฤกษ์

เป็น ฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ การมงคลต่างๆ งานที่ต้องการความมั่นคงถาวร งานเกี่ยวกับที่ดิน การเกษตร การเช่าซื้อ ก่อสร้าง ปลูกเรือน ยกศาลพระภูมิ แต่งงาน ขึ้นบ้านใหม่ ลาสิกขาบท เปิดอาคารห้างร้าน และ สารพัดงานมงคลทั้งปวง

สรุปการใช้ฤกษ์นี้
     ฤกษ์นี้ที่ใช้ในการทำให้มั่นคงระยะยาว ไม่ใช่ฤกษ์หวังผลในระยะสั้นๆ เช่น สร้างหอพัก สร้างบ้านจัดสรร เพื่อกินกำไรในระยะยาว ให้ความสมบูรณ์พูนสุข ความเจริญรุ่งเรืองที่ไม่หวังผลรวดเร็ว แต่หวังผลในระยะยาวคือนานๆ (มั่งคงถาวร) ฤกษ์นี้เหมาะสำหรับ ลงเสาเข็ม ตั้งศาลพระภูมิ ก่อสร้างวัตถุที่ถาวร หอพัก การพัฒนาการเกษตร เปิดร้าน เปิดโรงงานอุตสาหกรรม สัญญาซื้อขายที่หวังผลระยะยาว อะไรที่เจราที่หวังผลสำเร็จในระยะยาวและมั่นคงถาวร (ไม่ฉาบฉวย) ให้ใช้ฤกษ์นี้ และงานมงคลทั้งปวง
 
  5. เทศาตรีฤกษ์
ได้แก่ฤกษ์ ที่ 5 , 14 และ 23 เรียกว่า เทศาตรีฤกษ์ แปลว่า ข้ามท้องถิ่น หญิงแพศยา ผู้ท่องเที่ยว บางคราเรียกว่า "เวสิโยฤกษ์"  หมายถึงฤกษ์พ่อค้า-แม่ค้า มีพระเสาร์เป็นผู้รักษาฤกษ์ บาทฤกษ์ทั้ง 4 อยู่ปลายราศีหนึ่ง และ ต้นราศีหนึ่ง แห่งละ 2 บาทฤกษ์ คือคาบเกี่ยวอยู่ราศีละครึ่ง คือในราศี พฤษภกับเมถุน , กันย์กับตุลย์ และ มกรกับกุมภ์ เป็นฤกษ์อกแตก หรือ พินทุฤกษ์ หรือ ตินฤกษ์

เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ งานการติดต่อการค้าระหว่างถิ่น เกี่ยวกับความสนุกสนานชักชวนคนเข้าออกมาก เปิดโรงมหรสพ สถานเริงรมย์ ซ่องโสเภณี โรงแรม โรงหนัง ตลาดและศูนย์การค้า การประกอบอาชีพนอกสถานที่ อาชีพเร่ร่อน อาชีพที่ต้องย้ายที่อยู่เสมอ

สรุปการใช้ฤกษ์นี้
     เป็นฤกษ์ที่ชอบคนเยอะๆ เช่น คนมาเที่ยว รื่นเริง บันเทิง สนุกสนาน เช่น เปิดโรงแรม เปิดสรรพสินค้า เปิดอาบ อบ นวด เปิดสถานบันเทิง เงินแสดงคอนเสิร์ตของนักดนตรี เปิดบู๊ตแสดงสินค้า หรือกิจการที่ต้องการให้คนต่างประเทศมาเที่ยว รวมทั้งการทำอะไรที่สนุกสนาน รื่นเริง ฟุ่มเฟือย (บาร์ ไนต์คลับ โรงภาพยนตร์ ภัตตาคาร โรงแรม ตลาดสด ช๊อปปิ้งเซ็นเตอร์)
 
  6. เทวีฤกษ์
ได้แก่ฤกษ์ที่ 6 , 15 และ 24 เรียกว่า เทวีฤกษ์ แปลว่า นางพญา ความงามหรูหรา ความมีเสน่ห์ โชคลาภ และ การสมความปรารถนา มีพระพฤหัสฯ เป็นผู้รักษาฤกษ์ บาทฤกษ์ทั้ง 4 อยู่ในราศีเดียวกันเป็น บูรณะฤกษ์ เป็นฤกษ์ที่มุ่งให้เกิดโชคลาภ

เป็น ฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ การเข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่ การหมั้นหมายและสมรส การส่งตัวเจ้าสาวและเข้าห้องหอ การทำกิจการที่ต้องการชื่อเสียงและมีเสน่ห์ งานมีเกียรติ งานเชิงศิลปะตกแต่งชั้นสูง เปิดร้านค้าอัญมณีเครื่องประดับ ร้านเสริมสวย ตัดเย็บเสื้อผ้า การประชาสัมพันธ์ ลาสิกขาบท ขึ้นบ้านใหม่ ขอความรัก งานเพื่อความสงบเรียบร้อย และ สารพัดงานมงคลทั้งปวง

สรุปการใช้ฤกษ์นี้
     ฤกษ์สู่ขอ หมั้น แต่งงาน ขอความช่วยเหลือจากสตรี (ผู้หญิง) ฤกษ์ที่ใช้ความโอ่อ่า หรูหรา สง่า งาม สวย รวมทั้งศิปละ ออกแบบ ตกแต่ง สวย หรู เช่น โชว์อัญมณี เครื่องประดับ ให้ใช้ฤกษ์นี้
 
  7. เพชฌฆาตฤกษ์
 ได้แก่ ฤกษ์ที่ 7 , 16 และ 25 เรียกว่า เพชฌฆาตฤกษ์ แปลว่า ผู้ทำหน้าที่ฆ่า มีพระราหูเป็นผู้รักษาฤกษ์ ฤกษ์บาททั้ง 4 แตกขาดกัน และ ตรงข้ามกับ โจโรฤกษ์ เรียกว่า "ตรินิเอก"  คืออยู่ปลายราศี 3 ฤกษ์บาท และ ต้นราศี 1 ฤกษ์บาท ไม่ควรให้ฤกษ์ในการมงคลเลย เป็น ฉันทฤกษ์ (ฤกษ์แตกขาด)

เป็น ฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ การฟันผ่าอันตรายและอุปสรรค ต่อสู้เสี่ยงภัยต่างๆ อาสางานใหญ่ ทำกิจปราบปรามศัตรู ตัดสินคดีความ งานที่ใช้การตัดสินใจอย่างเด็ดขาด  ประกอบพิธีไสยศาสตร์ ปลุกเสกเครื่องรางของขลัง ลงเลขยันต์ สร้างวัตถุมงคลแบบคงกระพันชาตรี สร้างสิ่งสาธารณะกุศลสงเคราะห์ เปิดโรงพยาบาล การรักษาโรคเรื้อรังที่หายยากๆ การยาตราทัพ เจิมอาวุธยุทธภัณฑ์ สร้างโบสถ์วิหารการเปรียญ คล้ายกับโจโรฤกษ์ แต่ฤกษ์นี้จะแรงกว่า

สรุปการใช้ฤกษ์นี้
     ฤกษ์แห่งความเด็ดขาด เผด็ดการ งานปราบปราม กำจัดศัตรู ทำพิธี ไสยศาสตร์ ฤกษ์ที่ต้องการใช้ความเด็ดขาด กล้าหาญ การตัดสินใจที่เด็ดขาด จะเลิกกับแฟนให้ใช้ฤกษ์นี้ได้ หรือสามีภรรยาจะหย่ากันให้ใช้ฤกษ์นี้ การผ่าตัด การปลูกเศกของขลัง ใช้ฤกษ์นี้ได้ ฤกษ์นี้สามารถใช้ในการเปลี่ยนชื่อได้ เพราะต้องการความมั่งคง หนักแน่น ไม่ต้องต้องเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก
 
  8. ราชาฤกษ์
ได้แก่ฤกษ์ที่ 8 , 17 และ 26 เรียกว่า ราชาฤกษ์ แปลว่าผู้ยิ่งใหญ่ ผู้มีอำนาจวาสนา พระเจ้าแผ่นดิน มีพระศุกร์เป็นผู้รักษาฤกษ์ บาทฤกษ์ทั้ง 4 อยู่ในราศีเดียวกัน เรียกว่า บูรณะฤกษ์ เป็นฤกษ์เฉพาะกิจการของผู้หลักผู้ใหญ่ ผู้นำกิจการขึ้นไปจนถึงพระราชา
เป็น ฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ งานราชพิธี งานราชการงานเมือง สร้างที่ประทับ งานที่ต้องการชักจูงให้ผู้อื่นดำเนินตาม การเข้ารับตำแหน่งงาน การแสวงหาชื่อเสียงเกียรติยศ การเข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่ งานมงคลสมรสที่หรูหรามีเกียรติ ลาสิกขาบท การขึ้นบ้านใหม่(สามัญชนควรเว้น ถ้าหาฤกษ์ไม่ได้ก็พออนุโลมใช้ได้ เพื่อดวงชะตาและความเหมาะสม) และ งานมงคลทั้งปวง

สรุปการใช้ฤกษ์นี้
     ฤกษ์สูง ฤกษ์ใหญ่โต เป็นฤกษ์ของบุคคลชั้นสูง มีเกียรติ หรือว่างานนั้นมีผู้ใหญ่ เจ้านายมาร่วมทำพิธีด้วย ฤกษ์นี้ใช้ได้กับงานมงคลทั้งปวง
 
  9. สมโณฤกษ์
ได้แก่ ฤกษ์ที่ 9 , 18 และ 27 เรียกว่า สมโณฤกษ์ แปลว่า (สงบเรียบร้อย นักบวช นักสอนศาสนา มีพระเกตุเป็นผู้รักษาฤกษ์ ฤกษ์บาททั้ง 4 อยู่ปลายราศีเดียวกัน แต่บาทฤกษ์สุดท้ายนี้เป็นนวางค์ขาดสุดราศีพอดี เรียกว่า "จัตตุรฤกษ์ หรือ ขันธฤกษ์"  จึงเป็นจุดที่มีผลเสียให้เกิดอันตรายต่างๆ ในการแข่งขัน ใช้ได้เฉพาะกิจเกี่ยวกับความสงบความสุจริต

เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ ทำพิธีกรรมทางศาสนา และ ทางนักบวช เช่น การทำขวัญนาค การอุปสมบท หล่อพระและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เข้ารับการศึกษา และ การกระทำทุกอย่างเพื่อความสงบร่มเย็นเป็นสุข สงเคราะห์ในฤกษ์นี้ได้ เช่น ทำบุญขึ้นบ้านใหม่ ทำบุญต่ออายุ

สรุปการใช้ฤกษ์นี้
     ฤกษ์สงบ บวชพระ สึกพระ งานเกี่ยวกับศาสนา งานที่ไม่หวังผลรวดเร็ว ไม่มีการแข่งขัน ไม่มีการช่วงชิงกับผู้อื่น งานการกุศลทั้งปวง เช่น สร้างศาลาการเปรียญ หรือถาวรวัตถุ งานพุทธาภิเษก หล่อพระ ปฏิบัติธรรม เรียนธรรมะ เปิดสำนักโหรดูดวง เปิดห้องสมุด เปิดสถานที่สาธารณะ ทำบุญต่ออายุ ต่อชะตา ขึ้นบ้านใหม่ เปิดมูลนิธิ เผยแพร่ศาสนา งานการกุศลทั้งหลาย
 
(ขอบคุณที่มา board.palungjit.com)
หัวข้อ: ตอบ: <ความหมายและการนำฤกษ์ทั้ง 9 ไปใช้> "มอบเป็นวิทยาทานแด่สมาชิกทุกท่านครับ"
เริ่มหัวข้อโดย: ~เสน่ห์ack01~ ที่ 11 ธ.ค. 2553, 01:54:01
ขอบคุณโยมเพชรมากครับ สำหรับความรู้ในเรื่องฤกษ์ยาม :016:
หัวข้อ: ตอบ: <ความหมายและการนำฤกษ์ทั้ง 9 ไปใช้> "มอบเป็นวิทยาทานแด่สมาชิกทุกท่านครับ"
เริ่มหัวข้อโดย: berm ที่ 11 ธ.ค. 2553, 09:52:07
 :016:เยี่ยมยอดท่านโยมเพชร :015:
หัวข้อ: ตอบ: <ความหมายและการนำฤกษ์ทั้ง 9 ไปใช้> "มอบเป็นวิทยาทานแด่สมาชิกทุกท่านครับ"
เริ่มหัวข้อโดย: Tiger Number NINE ที่ 11 ธ.ค. 2553, 11:15:03
ขอสอบถามโยมเพชรด้วยความเคารพว่า แล้วตัวเลขของฤกษ์ เช่น ฤกษ์ที่ 7 , 16 และ 25 เรียกว่า เพชฌฆาตฤกษ์ เป็นตัวเลขทีได้มาจากไหนครับ
หัวข้อ: ตอบ: <ความหมายและการนำฤกษ์ทั้ง 9 ไปใช้> "มอบเป็นวิทยาทานแด่สมาชิกทุกท่านครับ"
เริ่มหัวข้อโดย: arada ที่ 11 ธ.ค. 2553, 11:40:33
ท่านโยมเพชรนี่นำความรู้ดีๆมาให้ชาวบอร์ดได้อ่านเป็นประจำ
ยังไงก็ขอบพระคุณมากที่นำความรู้ดีๆมามอบให้ครับ
หัวข้อ: ตอบ: <ความหมายและการนำฤกษ์ทั้ง 9 ไปใช้> "ม$
เริ่มหัวข้อโดย: โยมเพชร ที่ 11 ธ.ค. 2553, 11:44:15
ขอสอบถามโยมเพชรด้วยความเคารพว่า แล้วตัวเลขของฤกษ์ เช่น ฤกษ์ที่ 7 , 16 และ 25 เรียกว่า เพชฌฆาตฤกษ์ เป็นตัวเลขทีได้มาจากไหนครับ

ขอตอบตามความเข้าใจแบบเชิงตื้นนะครับเป็นความเห็นส่วนตัว
น่าจะเป็นการคำนวนทางโหราศาสตร์ โดยใช้ กำลังของวัน ซึ่ง จันทร์-อาทิตย์ กำลังวันต่างกัน
และการคำนวนจาก ข้างขึ้น และ ข้างแรม แล้วผลลัพย์ออกมาน่าจะเป็น ฤกษ์ต่างๆครับ

ตอบแบบข้อมูลเชิงลึก
ฤกษ์ หมาย ถึง คราวหรือเวลา ความปลอดภัยหรือความสำเร็จสมประสงค์ อำนวยความเป็นศิริมงคลแก่ผู้ประกอบการนั้น ๆ
ฤกษ์ แบ่งเป็น 2 ชนิด คือ ฤกษ์บนและฤกษ์ล่าง

ฤกษ์บน เป็นชัยมงคลเบื้องสูง โดยถือตำแหน่งของพระจันทร์และดาวพระเคราะห์ต่าง ๆ เป็นหลัก คือ กำหนดโดยจันทร์ พระจันทร์ต้องดีไม่เป็นอริ มรณะ และวินาศแก่ผู้ประกอบการ พระจันทร์โคจรให้คุณเช่นจันทร์ครุสุริยา ทางโหราศาสตร์ใด้กำหนดฤกษ์ไว้ 9 ฤกษ์ ได้แก่
     ทลิทโทฤกษ์    มหัทธโณฤกษ์    โจโรฤกษ์
     ภูมิปาโลฤกษ์    เทศาตรีฤกษ์    เทวีฤกษ์
     เพชฌฆาตฤกษ์    ราชาฤกษ์         สมโณฤกษ์

ฤกษ์ล่าง ซึ่งเหมาะเป็นชัยมงคลทางเบื้องใต้ฟ้า หรือเบื้องต่ำบนพื้นดิน โดยมนุษย์เป็นผู้กำหนดขึ้น โดยให้วันทั้ง 7 ประกอบด้วยดิถี ขึ้น แรม และเดือน ปี เป็นหลักในการคำนวณนับ เช่น วันธงชัย วันอธิบดี วันอุบาทว์ และวันโลกาวินาศ และมีดิถี คือ ขึ้น แรม ดิถีธงชัย ดิถีพิฆาต อีกทั้งวันจม วันฟู วันลอย กทิงวัน อัคนิโรธ ทักทิน ยมขันธ์ จัดเป็นฤกษ์ย่อยต่าง ๆ รวมเรียกว่า "ฤกษ์ล่าง" หรือ (ภูมิดล)
 :001:
หัวข้อ: ตอบ: <ความหมายและการนำฤกษ์ทั้ง 9 ไปใช้> "ม$
เริ่มหัวข้อโดย: โยมเพชร ที่ 11 ธ.ค. 2553, 11:55:37
ขออนุญาตเพิ่มเติม ข้อมูล เพื่อให้สมาชิกทุกท่าน ได้นำไปใช้ได้สดวกขึ้น

        [uข้อยกเว้นสำหรับผู้เกิดวันทั้ง ๗[/u]
       เป็นข้อยกเว้นที่ห้ามใช้ฤกษ์สำหรับคนเกิดวันต่างๆ ถึงจะมีในรายการฤกษ์ข้างบนก็ห้ามใช้เด็ดขาด เพราะเป็นวันศัตรูและกาลิณีกับวันเกิด
   1. ผู้เกิดวันอาทิตย์ ห้ามใช้ฤกษ์ที่เป็นวันศุกร์และวันอังคาร
   2. ผู้เกิดวันจันทร์ ห้ามใช้ฤกษ์ที่เป็นวันอาทิตย์และวันพฤหัสบดี
   3. ผู้เกิดวันอังคาร ห้ามใช้ฤกษ์ที่เป็นวันจันทร์และวันอาทิตย์
   4. ผู้เกิดวันพุธ (กลางวัน) ห้ามใช้ฤกษ์ที่เป็นวันอังคารและพุธ (กลางคืน)
   5. ผู้เกิดวันพฤหัสบดี ห้ามใช้ฤกษ์ที่เป็นวันเสาร์
   6. ผู้เกิดวันศุกร์ ห้ามใช้ฤกษ์ที่เป็นวันพุธ (กลางคืน) และวันเสาร์
   7. ผู้เกิดวันเสาร์ ห้ามใช้ฤกษ์ที่เป็นวันพุธ (กลางวัน) และวันศุกร์
   8. ผู้เกิดวันพุธ (กลางคืน) ห้ามใช้ฤกษ์ที่เป็นวันพฤหัสบดีและวันพุธกลางวัน 

ฤกษ์ดี ยามดี เดือน ธันวาคม 2553 เพื่อการประกอบพิธีต่างๆ

วันพุธที่   1    ธันวาคม  2553  แรม 10   ค่ำ เดือน 12  ปีขาล  ตั้งแต่เวลา  07.08-22.22 น..(ภูมิปาโลฤกษ์)
วันพุธที่   1    ธันวาคม  2553  แรม 10   ค่ำ เดือน 12  ปีขาล  ตั้งแต่เวลา  22.23-24.00 น..(เทศาตรีฤกษ์)
วันพฤหัสที่  2    ธันวาคม  2553  แรม 11   ค่ำ เดือน 12  ปีขาล  ตั้งแต่เวลา  00.00-06.26 น..(เทศาตรีฤกษ์)
วันศุกร์ที่  3    ธันวาคม  2553  แรม 12   ค่ำ เดือน 12  ปีขาล  ตั้งแต่เวลา  06.28-19.36 น..(เทวีฤกษ์)
วันศุกร์ที่  3    ธันวาคม  2553  แรม 12   ค่ำ เดือน 12  ปีขาล  ตั้งแต่เวลา  19.37-24.00 น..(เพชฌฆาตฤกษ์)
วันเสาร์ที่  4    ธันวาคม  2553  แรม 13   ค่ำ เดือน 12  ปีขาล  ตั้งแต่เวลา  06.28-18.39 น..(เพชฌฆาตฤกษ์)
วันเสาร์ที่  4    ธันวาคม  2553  แรม 13   ค่ำ เดือน 12  ปีขาล  ตั้งแต่เวลา  18.40-24.00 น..(ราชาฤกษ์)
วันอาทิตย์ที่  5    ธันวาคม  2553  แรม 14   ค่ำ เดือน 12  ปีขาล  ตั้งแต่เวลา 00.00-17.56 น.(ราชาฤกษ์)
วันอาทิตย์ที่  5    ธันวาคม  2553  แรม 14   ค่ำ เดือน 12  ปีขาล  ตั้งแต่เวลา 17.57-21.51 น.(สมโณฤกษ์)
วันอังคารที่  7    ธันวาคม  2553  ขึ้น 1   ค่ำ เดือน 12  ปีขาล  ตั้งแต่เวลา 20.35-24.00 น.(มหัทโนฤกษ์)
วันพุธที่   8    ธันวาคม  2553  ขึ้น 2   ค่ำ เดือน 1  ปีขาล  ตั้งแต่เวลา 00.00-06.30 น.(มหัทโนฤกษ์)
วันพุธที่   8    ธันวาคม  2553  ขึ้น 2   ค่ำ เดือน 1  ปีขาล  ตั้งแต่เวลา 20.35-24.00 น.(โจโรฤกษ์)
วันพฤหัสที่   9    ธันวาคม  2553  ขึ้น3   ค่ำ เดือน 1  ปีขาล  ตั้งแต่เวลา 00.00-19.20 น.(โจโรฤกษ์)
วันพฤหัสที่   9    ธันวาคม  2553  ขึ้น3   ค่ำ เดือน 1  ปีขาล  ตั้งแต่เวลา 19.21-21.04 น.(ภูมิปาโลฤกษ์)
วันจันทร์ที่   13    ธันวาคม  2553  ขึ้น7   ค่ำ เดือน 1  ปีขาล  ตั้งแต่เวลา 01.38-06.32 น.(เพชฌฆาตฤกษ์)
วันพฤหัสที่   16    ธันวาคม  2553  ขึ้น 10   ค่ำ เดือน 1  ปีขาล  ตั้งแต่เวลา 08.34-24.00 น. (ทลิทโทฤกษ์)
วันศุกร์ที่   17    ธันวาคม  2553  ขึ้น 11   ค่ำ เดือน 1  ปีขาล  ตั้งแต่เวลา 00.00-09.22 น. (ทลิทโทฤกษ์)
วันเสาร์ที่   18    ธันวาคม  2553  ขึ้น 12   ค่ำ เดือน 1  ปีขาล  ตั้งแต่เวลา 12.33-24.00 น. (โจโรฤกษ์)
วันอาทิตย์ที่   19    ธันวาคม  2553  ขึ้น 13   ค่ำ เดือน 1  ปีขาล  ตั้งแต่เวลา 00.00-13.54 น. (โจโรฤกษ์)
วันอาทิตย์ที่   19    ธันวาคม  2553  ขึ้น 13   ค่ำ เดือน 1  ปีขาล  ตั้งแต่เวลา 13.55-24.00 น. (ภูมิปาโลฤกษ์)
วันจันทร์ที่   20    ธันวาคม  2553  ขึ้น 14   ค่ำ เดือน 1  ปีขาล  ตั้งแต่เวลา  00.00-14.49 น. (ภูมิปาโลฤกษ์)
วันจันทร์ที่   20    ธันวาคม  2553  ขึ้น 14   ค่ำ เดือน 1  ปีขาล  ตั้งแต่เวลา  14.59-24.00 น. (เทศาตรีฤกษ์)
วันอังคารที่   21    ธันวาคม  2553  ขึ้น 15   ค่ำ เดือน 1  ปีขาล  ตั้งแต่เวลา  00.00-06.37 น. (เทศาตรีฤกษ์)
วันเสาร์ที่   25    ธันวาคม  2553  แรม 4   ค่ำ เดือน 1  ปีขาล  ตั้งแต่เวลา  07.01-12.38 น. (สมโณฤกษ์)
วันเสาร์ที่   25    ธันวาคม  2553  แรม 4   ค่ำ เดือน 1  ปีขาล  ตั้งแต่เวลา  12.39-24.00 น. (ทลิทโทฤกษ์)
วันอาทิตย์ที่   26    ธันวาคม  2553  แรม 5   ค่ำ เดือน 1  ปีขาล  ตั้งแต่เวลา  00.00-05.02 น. (ทลิทโทฤกษ์)
วันอาทิตย์ที่   26    ธันวาคม  2553  แรม 5   ค่ำ เดือน 1  ปีขาล  ตั้งแต่เวลา  06.40-11.14 น. (ทลิทโทฤกษ์)
วันอาทิตย์ที่   26    ธันวาคม  2553  แรม 5   ค่ำ เดือน 1  ปีขาล  ตั้งแต่เวลา  11.15-24.00 น. (มหัทธโนฤกษ์)
วันจันทร์ที่   27    ธันวาคม  2553  แรม 6   ค่ำ เดือน 1  ปีขาล  ตั้งแต่เวลา  00.00-02.53 น. (มหัทธโนฤกษ์)
วันจันทร์ที่   27    ธันวาคม  2553  แรม 6   ค่ำ เดือน 1  ปีขาล  ตั้งแต่เวลา  06.41-09.44 น. (มหัทธโนฤกษ์)
วันจันทร์ที่   27    ธันวาคม  2553  แรม 6   ค่ำ เดือน 1  ปีขาล  ตั้งแต่เวลา  09.45-24.00 น. (โจโรฤกษ์)
วันอังคารที่   28    ธันวาคม  2553  แรม 7   ค่ำ เดือน 1  ปีขาล  ตั้งแต่เวลา  22.21-24.00 น. (ภูมิปาโลฤกษ์)
วันพุธที่   29    ธันวาคม  2553  แรม 8   ค่ำ เดือน 1  ปีขาล  ตั้งแต่เวลา  00.00-06.33 น. (ภูมิปาโลฤกษ์)
วันพุธที่   29    ธันวาคม  2553  แรม 8   ค่ำ เดือน 1  ปีขาล  ตั้งแต่เวลา  06.34-06.40 น. (เทศาตรีฤกษ์)
วันพุธที่   29    ธันวาคม  2553  แรม 8   ค่ำ เดือน 1  ปีขาล  ตั้งแต่เวลา  20.08-24.00 น. (เทศาตรีฤกษ์)
วันพฤหัสที่   30   ธันวาคม  2553  แรม 9   ค่ำ เดือน 1  ปีขาล  ตั้งแต่เวลา  00.00-05.20 น. (เทศาตรีฤกษ์)
วันพฤหัสที่   30   ธันวาคม  2553  แรม 9   ค่ำ เดือน 1  ปีขาล  ตั้งแต่เวลา  05.21-24.00 น. (เทวีฤกษ์)
วันศุกร์ที่   31   ธันวาคม  2553  แรม 10   ค่ำ เดือน 1  ปีขาล  ตั้งแต่เวลา  00.00-03.46 น. (เทวีฤกษ์)
วันศุกร์ที่   31   ธันวาคม  2553  แรม 10   ค่ำ เดือน 1  ปีขาล  ตั้งแต่เวลา  03.47-06.41 น. (เพชฌฆาตฤกษ์)

ปล.....ฤกษ์ที่ให้ไว้ด้านบน (ฤกษ์มงคลต่างๆ ในเดือนธันวาคม)  นั้นคำนวณจากหลักฤกษ์บนและฤกษ์ล่างประกอบกัน

ขอบคุณที่มา>>mahamodo.com
หัวข้อ: ตอบ: <ความหมายและการนำฤกษ์ทั้ง 9 ไปใช้> "มอบเป็นวิทยาทานแด่สมาชิกทุกท่านครับ"
เริ่มหัวข้อโดย: Ronaldo 2007 ที่ 11 ธ.ค. 2553, 12:14:54
(http://img696.imageshack.us/img696/8559/4075812c9f.gif)
หัวข้อ: ตอบ: <ความหมายและการนำฤกษ์ทั้ง 9 ไปใช้> "มอบเป็นวิทยาทานแด่สมาชิกทุกท่านครับ"
เริ่มหัวข้อโดย: Tiger Number NINE ที่ 11 ธ.ค. 2553, 02:35:00
ขอบคุณครับโยมเพชร กำลังศึกษาและทำความเข้าใจครับ....ชอบครับ
หัวข้อ: ตอบ: <ความหมายและการนำฤกษ์ทั้ง 9 ไปใช้> "มอบเป็นวิทยาทานแด่สมาชิกทุกท่านครับ"
เริ่มหัวข้อโดย: NONGEAR44 ที่ 11 ธ.ค. 2553, 04:40:48
ขอบคุณท่านโยมเพชรมากครับ สำหรับความรู้ใหม่ๆครับ  :054: :053:
หัวข้อ: ตอบ: <ความหมายและการนำฤกษ์ทั้ง 9 ไปใช้> "มอบเป็นวิทยาทานแด่สมาชิกทุกท่านครับ"
เริ่มหัวข้อโดย: phongsak_ng ที่ 11 ธ.ค. 2553, 06:05:18
ขอขอบพระคุณครับท่าน.โยมเพชร ...ที่นำมาให้รับทราบโดยทั่วกัน :054: :054: :054:
หัวข้อ: ตอบ: <ความหมายและการนำฤกษ์ทั้ง 9 ไปใช้> "มอบเป็นวิทยาทานแด่สมาชิกทุกท่านครับ"
เริ่มหัวข้อโดย: an4condra ที่ 05 ม.ค. 2560, 01:15:40
ขอบพระคุณมากครับบ  :054: :054: