ผู้เขียน หัวข้อ: หลวงปู่บุญ โสภโณ (พระครูโสภณพัฒนาภิรม) วัดทุ่งเหียง อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี  (อ่าน 12424 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ tom2007

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 462
  • เพศ: ชาย
  • ออแอ อออา เมตตา พุทโธ
    • MSN Messenger - autotom2007@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล

 

   หลวงปู่บุญ โสภโณ   (พระครูโสภณพัฒนาภิรม)

วัดทุ่งเหียง  ต.หมอนนาง  อ.พนัสนิคม  จ.ชลบุรี

วิชาเข้มขลัง   พลังศักดิ์สิทธิ์  บุญฤทธิ์บารมี

หลวงปู่บุญ โสภโณ  หรือนามตามสมณศักดิ์ พระครูโสภณพัฒนาภิรม เจ้าอาวาสวัดทุ่งเหียง อายุ 79 ปี 58 พรรษา เป็นพระเกจิแห่งยุคอีกองค์หนึ่งที่มีวัตรปฏิบัติงดงาม   มีจิตใจที่เปี่ยมไปด้วยเมตตาอย่างหาที่สุดมิได้   มีสมาธิจิตใจอันแน่วแน่เด็ดเดี่ยวมั่นคง วัตถุมงคลของท่านที่สร้างแต่ละครั้งครา ล้วนได้รับความนิยมด้วยแรงศรัทธาและประสบการณ์ ทั้งด้านเมตตาค้าขาย  คงกระพันชาตรี ทวีโชคโภคทรัพย์

หลวงปู่บุญ โสภโณ เป็นพระเถระที่เจริญด้วนพรหมวิหารธรรม  สั่งสมสร้างบุญญาบารมีอันกว้างไกลไม่มีประมาณ   ตั้งแต่พื้นราบฝั่งตะวันออกจรดภูผาป่าดอยขุนเขาทางภาคเหนือที่ท่านรับอุปการะเด็กน้อยผู้ด้อยโอกาสชาวไทยภูเขา  ให้มีโอกาสได้รับการศึกษาจนสำเร็จการศึกษาไปแล้วว่ากว่าสองพันราย

          สร้างบุคคลากรให้แก่พระพุทธศาสนา  ทั้งด้านปริยัติและปฏิบัติ  ทั้งพระภิกษุและสามเณรหลายร้อยรูป

นี่คือประจักษ์พยานที่เป็น”รูปธรรมสัมผัสได้” แห่งจิตอันเป็นบุญเป็นกุศลของ

หลวงปู่บุญ โสภโณ   ประกอบกับองค์ความรู้จากการเล่าเรียนวิทยาคมกับพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงวิชาอาคมขมังชื่อดังในอดีตร่วมร้อยรูป    

หลวงปู่บุญ โสภโณ  เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2474 ที่บ้านหนองม่วง อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี    ท่านเป็นผู้สนใจในด้านพุทธศาสนาและการศึกษาธรรมมาแต่เยาว์

           เมื่ออายุ 20 ปีครบบวชท่านได้เข้าบรรพชาอุปสมบทสู่ร่มเงาแห่งผ้ากาสาวพัสตร์ โดยมี หลวงพ่อโด่ วัดนามะตูม พระเกจิดังในยุคนั้น เป็นอุปปัชฌาจารย์ และมีหลวงพ่อห่อ พระหมอต่อกระดูกเป็นพระคู่สวด        

บูรพาจารย์ผู้ประสิทธิ์วิทยา

หลวงปู่บุญ ในสมณะเพศนอกจากสนใจการศึกษาข้ออรรถข้อธรรม  การเจริญสมาธิภาวนาตามพุทธวิธีแล้ว ท่านยังสนใจศึกษาวิชาอาคมการสักเสกเลขยันต์ต่าง ๆ อีกด้วย    

เมื่อมีโอกาสหลวงปู่บุญจะเดินทางไปเรียนวิชากับครูอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณทั้งสายบรรพชิตและสายฆราวาสหลายท่าน อาทิ

หลวงปู่เส็ง วัดประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ผู้สร้างเหรียญโภคทรัพย์ นางกวักอันโด่งดัง  

พระครูสังวรกิตติคุณ ( หลวงพ่อเอีย ) วัดบ้านด่าน  อ. ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี  ศิษย์สายหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า  ชัยนาท

หลวงพ่อคล้าย จันทสุวัณโณ วัดสวนขัน  นครศรีธรรมราช ผู้มีวาจาศักดิ์สิทธิ์เคยกล่าวกับพระอาจารย์บุญเมื่อไปกราบนมัสการที่ปักษ์ใต้ว่า “ ดีจังฮู้ ...ขลังเหม็ด”  หมายถึง  “ ดีจัง... เสกอะไรขลังหมด ”

หลวงพ่อคง สุวัณโณ  วัดวังสรรพรส  จันทบุรี เกจิอาจารย์ดังฝั่งตะวันออก ได้ศึกษาวิชาเสือสมิงมหาอำนาจ (ซึ่งต่อมาท่านก็ได้สร้างวัตถุมงคลของขลัง หนังเสือโคร่ง อาทิ ตะกรุดหนังเสือโคร่ง เสือกระโจนเรียกทรัพย์)

ขุนนครเขต     ท่านขุนผู้นี้มีนิวาสสถานอยู่เกาะสีชัง  ชลบุรี  ด้วยความเป็นจองขมังเวทย์ทางเสน่ห์เมตตามหานิยม  กล่าวกันว่าท่านมีหญิงที่ผ่านเข้ามาในชีวิต 150 คน ท่านมีวิชาอาคมมหาเสน่ห์  โดยเฉพาะวิชาการเรียกสุตรลบผงปถมังตำหรับโบราณขนานเอก   และหลวงปู่บุญก็ได้ตำราวิชาการลบผงปถมังตำหรับนี้สืบมา(ซึ่งต่อมาได้นำผงปถมังสูตรขุนนครเขตมาเป็นมวลสารสร้างวัตถุมงคล รุ่น ไตรมาส 2551 โดยเฉพาะพระขุนแผน พระปิดตา )

ครั้งเป็นพระภิกษุหนุ่ม หลวงปู่บุญเคยไปพำนักอยู่ที่วัดระฆังโฆษิตาราม ต้นตำหรับพระสมเด็จวัดระฆังฯ จักรพรรดิพระเครื่อง  โดยไปพักอยู่กับกับหลวงปู่นาค วัดระฆัง  ได้มีโอกาสเรียนวิชากับหลวงปู่หิน โดยเฉพาะการเขียนสูตรลบผงพุทธคุณ    

ครานั้นท่านได้รับเมตตาจากพระเถระผู้ใหญ่มอบทั้งพระสมเด็จหลวงปู่หินและผงสมเด็จวัดระฆัง พร้อมด้วยสูตรการเขียนและลบผงตำหรับเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี ) อีกด้วย

ตามรอยหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์

เมื่อครั้งอดีตเจ้าคุณจรัญ วัดอินทร์ ฯ  เป็นสามเณรได้รับ ผงหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ ชลบุรี จากหลวงพ่อถัน (ผู้สร้าง พระปิดตาหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์) มาค่อนบาตร และต่อมาได้ตกทอดมายังหลวงพ่อบ๊วย วัดเครือวัลย์    

กาลต่อมาหลวงปู่บุญมีความศรัทธาใน”หลวงพ่อแก้ว” วัดเครือวัลย์ ซึ่งถือเป็นสุดยอดพระควัมปติพระปิดตาอันดับหนึ่งของเมืองไทย  ได้เพียรพยายามศึกษาวิชาการสร้างพระตามตำหรับการสร้างหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์   นับเป็นโชควาสนาที่หลวงพ่อบ๊วย วัดเครือวัลย์  เมตตามอบผงเก่าหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ ต้นตำหรับขนานแท้และดั้งเดิมมาให้  ซึ่งหลวงปู่บุญได้เก็บรักษามาอย่างดี  กระทั้งปี 2551  ทางวัดทุ่งเหียง ได้จัดสร้าง พระปิดตาหลวงพ่อแก้ว พิมพ์นิยมหลังแบบ รุ่น ไตรมาส 2551  ท่านได้นำผงเก่านี้มาเป็นส่วนผสม ( อ.เปี๊ยก ปากน้ำ นักนิยมพระเครื่องอาวุโส  เคยสัมภาษณ์หลวงปู่บุญ โสณในรายการทีวี “มรดกฅนไทย” สรุปได้ว่าหลวงปู่บุญเปรียบเสมือนวิทยาทายาทรูปสุดท้ายสายหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ )

พระอาจารย์อีกรูปหนึ่งที่หลวงปู่บุญมีความใกล้ชิดคือ หลวงปู่เปี่ยม อดีตเจ้าอาวาสวัดทุ่งเหียง ศิษย์ในสายหลวงปู่ทอง วัดราชโยธา  หลวงปู่บุญได้รับการถ่ายทอดวิชาเข้มอาคมขลังจากหลวงปู่เปี่ยมและรับภารธุระดูแลงานวัดวาอารามจากครูอาจารย์ด้วยความเอาใจใส่

ครบศาสตร์ ครบสูตร เข้มที่เสก ขลังที่สุด

สรรพวิชาอาคม เวทย์มนต์คาถา เคล็ดวิชาการสร้างพระเครื่อง ของขลังที่หลวงปู่บุญ โสภโณ  เรียนมาจากพระคณาจารย์แต่ละองค์   ท่านล้วนเป็นผู้ทรงวิทยาคุณ  และแต่ละพระบุพพาจารย์ท่านได้เมตตาถ่ายทอดวิทยาคมด้วยความเต็มใจเต็มที่

 พร้อมกันนี้หลวงปู่บุญท่านยังเป็นคลังปัญญาแห่งตำรับตำราสายต่าง ๆ อาทิ สายวัดประดู่โรงธรรม ตักศิลาทางไสยเวทย์แห่งอยุธยา  ตำรามหาเวทย์มหายันต์สายวัดพระญาติ    สายวัดปากคลองมะขามเฒ่า  สายวัดระฆังโฆษิตาราม  สายล้านช้าง  สายนครวัดนครธม ฯลฯ  

หลวงปู่บุญท่านมีความรู้ ความสามารถในวิชาวิทยาคมที่เรียนมา อย่างแตกฉานอาทิ การเรียกสูตรลบผงศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ   การจารอักขระ  เลขยันต์  การปลุกเสกวัตถุมงคลที่ท่านเน้นว่าต้องทำให้“ครบศาสตร์ ครบสูตร เข้มที่เสก ขลังที่สุด”

นอกจากการเรียนวิชาอาคมอันเป็นภาคทฤษฎีแล้ว   ในภาคปฏิบัติหลวงปู่บุญได้นำวิชาอาคมต่างๆ มาใช้เพื่อสงเคราะห์ผู้ศรัทธา  ทั้งในด้านพุทธมนต์โอสถแขนงต่าง ๆ ซึ่งหลวงปู่บุญเป็นเกจิอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องสมุนไพร แพทย์แผนไทย เภสัชโบราณ ช่วยเหลือผู้เจ็บไข้ได้ป่วยมามาก   ด้านอาคมขลังก็เป็นที่ประจักษ์ การแก้อาถรรพ์  การดูทำเลที่อยู่อาศัย  การทำนายทายทักก็เป็นที่เลื่องลือ  

ด้านการสร้างวัตถุมงคล พระเครื่อง ของขลัง เริ่มจากทำแจกจ่ายกันในหมู่คณะศิษย์คณะศรัทธา  แต่ด้วยประสบการณ์ความเข้มขลังที่เล่าลือกันไป  ทั้งด้านแคล้วคลาดคงกระพันชาตรี โดยเฉพาะประเภท “ยิงไม่ออก ฟันไม่เข้า” ทั้งตะกรุด ทั้งเหรียญ ทั้งพระเครื่อง  เล่นเอาวิ่งหากันจ้าละหวั่น  ( ของรุ่นแรกของท่านราคาหลักหลายพันยันหลักหมื่นก็ยังหาของยาก )  

ด้านเมตตาค้าขาย  บรรดาพ่อค้าแม่ขายในตลาดพนัสฯ ตลาดเมืองชลฯทราบกันดีว่า

“ของดีหลวงพ่อบุญ วัดทุ่งเหียง”นั้นคือสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการประกอบกิจการให้ ซื้อง่ายขายคล่อง

หลวงปู่บุญ  ท่านมีความรู้พื้นฐานด้านสมุนไพร  ว่านยาต่าง ๆ สามารถดูลักษณะบอกสรรพคุณได้  ดังนั้นเมื่อท่านสร้างพระเครื่องของขลัง  ท่านจึงนำวิชาความรู้เหล่านี้มาสะสมมวลสาร  อาทิ ว่านสมุนไพรชนิดต่าง ๆ นับร้อยชนิด  กาฝากชนิดต่าง ๆ  เกสร 108  

มวลสารศักดิ์สิทธิ์  ทั้งที่ท่านสะสมไว้มีเป็นจำนวนมาก อาทิ ผงหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์  ผงวัดระฆังฯ  ผงปถมัง (สูตรขุนนครเขต)  ผงพุทธคุณจากสำนักต่างๆ ผงพรายกุมาร ผงอิทธิเจ

ตรีนิสิงเห ผงยาจินดามณี(ตำหรับวัดกลางบางแก้ว) ผงมวลสารจากหลวงปู่ชื่น วัดตาอี (ที่เคยมาร่วมปลุกเสกที่วัดทุ่งเหียง เมื่อปี 25 ) แร่เกาะล้าน  แร่บางไผ่  ดินกากยายักษ์ ดินขุยปู (จากใต้ฐานหลวงพ่อโต วัดบางพลี)  มวลสารจากปราสาทนครวัด นครธม  ฯลฯ หากนับรวมกันแล้วทั้งหมดมีไม่ต่ำกว่าสามร้อยรายการ !!!

หลวงปู่ผู้เมตตา  

นอกจากหลวงปู่บุญท่านมีครูบาอาจารย์ดี วิชาเข้มขลัง พลังศักดิ์สิทธิ์ บุญฤทธิ์บารมีแล้ว ท่านยังเจริญด้วยพรหมวิหารธรรมโดยเฉพาะด้านเมตตามากที่สุดด้วย

เมื่อปี 2529 ท่านจาริกธุดงค์ไปทางภาคเหนือ  บนดอยสูงอาทิ ดอยปางอุ๋ง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่  ซึ่งเป็นท้องถิ่นทุรกันดาร   ชาวเขาอยู่กันแบบตามมีตามเกิด  เด็กชาวเขาขาดโอกาสทางการศึกษา  ส่วนใหญ่อยู่อย่างยากจนเยาวชนไม่มีอนาคตที่แน่นอน  

ด้วยจิตที่เปี่ยมด้วยเมตตา   ท่านได้เห็นสภาพทุกเวทนาของผู้ยากไร้  ขาดปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีพ  ถูกสังคมทอดทิ้ง พูดเขียนอ่านภาษาไทยได้บ้างไม่ได้บ้าง(ทั้งๆ ที่เกิดและอาศัยอยู่บนแผ่นดินไทย)

    ชาวเขาสมัยนั้นนับถือภูติผี  ยังไม่รู้จักพระพุทธศาสนา  หลวงปู่บุญท่านได้ไปเผยแผ่พระพุทธศาสนา  ให้รู้จักสวดมนต์ไหว้พระ  รู้จักการเรียนเขียนอ่านภาษาไทย  ให้การสงเคราะห์เครื่องอุปโภคบริโภค เวชภัฑ์ยารักษาโรค

ชาวเขาจึงศรัทธาท่านในฐานะหลวงปู่ผู้เมตตา  เป็นผู้ให้การช่วยเหลือ  เป็นผู้ให้แสงสว่างแก่ชีวิต   ชาวเขาเผ่าต่าง ๆ โดยเฉพาะ “ม้ง” ทะยอยเข้ามานับถือพระพุทธศาสนาเพิ่มมากขึ้น  ชาวเขาที่มีบุตรชายก็นำมาขอบวชเป็นสามเณรเพื่อได้มีโอกาสเล่าเรียนเขียนอ่านภาษาไทย ศึกษาพระปริยัติธรรม

เพื่อความสะดวกในการอุปการะให้การศึกษาสงเคราะห์  ท่านได้นำเด็กชาวเขาเดินทางมาอุปการะเลี้ยงดูให้เรียนหนังสือที่วัดทุ่งเหียง อ.พนัสนิคม  จ.ชลบุรี จากเด็กชาวเขาจำนวนไม่กี่สิบ  เพิ่มเป็นจำนวนร้อย  และหลาย ๆ ร้อยคนในที่สุด

 หลวงปู่บุญจึงได้ตั้งโรงเรียนพระปริยติธรรมและทุนนิธิฯที่วัดทุ่งเหียงเพื่ออุปการะเลี้ยงเด็กชาวเขาเหล่านี้ที่ผลัดเปลี่ยนรุ่นต่อ ๆ มาไม่ขาดสาย  จากชาวเขาชาวดอยจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ตาก กำแพงเพชร ฯลฯ  

ตลอดเวลา 20 ปีที่ผ่านมา  ท่านสร้างโอกาสสร้างชีวิตใหม่ให้กับเด็กผู้ยากไร้  ให้มีการศึกษา มีอนาคต อ่านเขียนเรียนหนังสือไทย จนกระทั่งสำเร็จการศึกษาระดับมัธยม  ระดับอาชีวะ จนถึงระดับอุดมศึกษาประมาณ 2,000 กว่าราย  โดยไม่เรียกร้องค่าตอบแทน  ท่านเลี้ยงเหมือนลูกเหมือนหลาน ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี  เป็นคนดีของสังคม เป็นบุคลากรที่อุดมของประเทศชาติ

ปัจจุบันมีเด็กอยู่ในความดูแลหลวงปู่บุญ ร่วม 400 คน มีสามเณรอีก 80 รูป  รายจ่ายค่าอาหาร เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค เครื่องเขียนแบบเรียน  หลวงปู่รับภาระทั้งหมด !!!

 หลวงปู่บุญ โสภโณท่านทุ่มเทแรงกายแรงใจอย่างมาก  เพื่อเลี้ยงเด็กเหล่านั้นด้วยเมตตา หลวงปู่กล่าวว่า......อีกไม่นานท่านก็ตายแล้วความดีต้องรีบทำ ท่านยอมอดดีกว่าให้เด็ก ๆ เหล่านี้อด ……..

ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ  สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว

ออฟไลน์ Nastasiat

  • Nastasiat
  • ปฐมะ
  • *
  • กระทู้: 2
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ละเอียดดีครับชอบเลยนับถือหลวงปู่มานาน