กระดานสนทนาวัดบางพระ
หมวด เส้นทางสายบุญ => เส้นทางสายบุญตามภาคต่างๆ ของไทย และเส้นทางสายบุญในต่างประเทศ => เส้นทางสายบุญภาคกลางและภาคตะวันตก => ข้อความที่เริ่มโดย: ธรรมะรักโข ที่ 03 ม.ค. 2553, 09:08:31
-
วัดหน้าพระเมรุ อยุธยา
(http://img686.imageshack.us/img686/6991/246pxwatnahparmeru.jpg)
วัดหน้าพระเมรุตั้งอยู่ริมคลองสระบัวด้านทิศเหนือของคูเมือง (เดิมเป็นแม่น้ำลพบุรี) ตรงข้ามกับพระราชวังหลวง สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น พุทธศักราช 2046 มีชื่อเดิมว่า วัดพระเมรุราชิการาม ที่ตั้งของวัดนี้เดิมคงเป็นสถานที่สำหรับสร้างพระเมรุถวายพระเพลิงพระบรมศพของพระมหากษัตริย์พระองค์ใดพระองค์หนึ่งสมัยอยุธยาตอนต้นต่อมาจึงได้สร้างวัดขึ้น มีตำนานเล่าว่าพระองค์อินทร์ในรัชกาลสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 ทรงสร้างวัดนี้เมื่อ พ.ศ. 2046 วัดนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ สมเด็จพระมหาจักรพรรดิเมื่อครั้งทำศึกกับพระเจ้าบุเรงนองได้มีการทำสัญญาสงบศึกเมื่อ พ.ศ. 2106ได้สร้างพลับพลาที่ประทับขึ้นระหว่างวัดหน้าพระเมรุกับวัดหัสดาวาส
วัดนี้เป็นวัดเดียวในกรุงศรีอยุธยาที่ไม่ได้ถูกพม่าทำลายและยังคงปรากฏสถาปัตยกรรมแบบอยุธยาอยู่ในสภาพสมบูรณ์มากที่สุดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
(http://img64.imageshack.us/img64/987/01746016.jpg)
พระอุโบสถมีขนาดยาว 50 เมตร กว้าง 16 เมตรเป็นแบบอยุธยาตอนต้นซึ่งมีเสาอยู่ภายใน ต่อมาสร้างขยายออกโดยเพิ่มเสารับชายคาภายนอกในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ หน้าบันเป็นไม้สักแกะสลักเป็นรูปพระนารายณ์ทรงครุฑเหยียบเศียรนาคและมีรูปราหูสองข้างติดกับเศียรนาค หน้าต่างเจาะเป็นช่องยาวตามแนวตั้ง เสาเหลี่ยมสองแถวๆ ละแปดต้น มีบัวหัวเสาเป็นบัวโถแบบอยุธยา ด้านบนประดับด้วยดาวเพดานเป็นงานจำหลักไม้ลงรักปิดทอง ส่วนลายแกะสลักบานประตูพระวิหารน้อย เป็นลายแกะสลักด้วยไม้สักหนา แกะสลักจากพื้นไม้ไม่มีการนำชิ้นส่วนที่อื่นมาติดต่อเป็นลายซ้อนกันหลายชั้น พระประธานในอุโบสถสร้างปลายสมัยอยุธยาเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยหล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ทรงเครื่องแบบกษัตราธิราช มีนามว่า พระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ จัดเป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องสมัยอยุธยาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่มีปรากฏอยู่ในปัจจุบันและมีความสมบูรณ์งดงามมากสูงประมาณ 6 เมตรหน้าตักกว้างประมาณ 4.40 เมตร ในสมัยรัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ได้มีการปฏิสังขรณ์วัดนี้โดยรักษาแบบอย่างเดิมไว้และได้เชิญพระพุทธรูปศิลาสีเขียวหรือพระคันธารราฐประทับนั่งห้อยพระบาทสมัยทวาราวดีจากวัดมหาธาตุมาไว้ในวิหารสรรเพชญ์(หรือเรียกว่า วิหารน้อยเพราะขนาดวิหารเล็ก มีความยาว 16 เมตร กว้างประมาณ 6 เมตร) ซึ่งอยู่ข้างพระอุโบสถ พระพุทธรูปศิลาแบบนั่งห้อยพระบาทสมัยทวาราวดีนี้ นับเป็น 1 ใน 5 องค์ที่มีอยู่ในประเทศไทย จึงนับเป็นสิ่งที่มีค่าควรแก่การเก็บรักษาไว้ พระอุโบสถเปิดตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น.
เมื่อคราวเสียกรุงครั้งที่ 2 ขณะที่วัดวาอารามและปราสาทราชวังเกือบทุกแห่งในกรุงศรีอยุธยาถูกพม่าเผาทำลายอย่างราพณาสูร ทว่าวัดหน้าพระเมรุกลับเป็นวัดเดียวที่รอดพ้นความเสียหายมาได้ เนื่องจากตั้งอยู่ใกล้กับพระราชวังหลวงเพียงข้ามคลองเท่านั้น พม่าจึงใช้วัดเป็นที่ตั้งกองทัพและหันปากกระบอกปืนใหญ่ยิงตรงเข้าใส่พระราชวัง ด้วยเหตุนี้วัดหน้าพระเมรุจึงยังคงมีงานศิลปกรรมของสมัยอยุธยาที่สมบูรณ์ โดยเฉพาะพระพุทธรูปทรงเครื่ององค์ใหญ่ซึ่งประดิษฐานในโบสถ์ที่งดงาม
(http://img85.imageshack.us/img85/2388/111vv.jpg)(http://img199.imageshack.us/img199/2132/01746018.jpg)
(http://img199.imageshack.us/img199/8020/01746019.jpg)(http://img199.imageshack.us/img199/2067/01746023.jpg)
สิ่งน่าสนใจ
โบสถ์ มีขนาดใหญ่ถึงเก้าห้อง นับว่าใหญ่กว่าวัดอื่น ๆ ในอยุธยา โบสถ์หันหน้าหาแม่น้ำลพบุรีที่ไหลผ่านหน้าวัด ซึ่งเป็นผังการตั้งโบสถ์แบบโบราณแทนการหันไปทางทิศตะวันออก เครื่องบนหรือหลังคาซ้อนลดหลั่นกันถึงสามชั้น เชิงชายด้านหน้าอาคารยื่นออกมา โดยมีเสาแปดเหลี่ยมรองรับ ประดับบัวหัวเสาอย่างสวยงามเช่นเดียวกับเสาภายในอาคาร เป็นลักษณะของศิลปะสมัยอยุธยาตอนปลาย
โบสถ์ไม่มีการเจาะหน้าต่างขนาดใหญ่ มีเพียงช่อง ลูกมะหวด คือช่องยาวคล้ายซี่ลูกกรง เพียงให้แสงและอากาศผ่านเป็นงานช่างโบราณที่พบตามโบราณสถานสมัยสุโขทัย ในยุคที่การเจาะหน้าต่างอาคารขนาดใหญ่ยังไม่เป็นที่แพร่หลาย
สิ่งที่โดดเด่นของโบสถ์คือหน้าบันของหลังคามุขที่ยื่นออกมา หน้าบันมุขด้านหน้าเป็นงานจำหลักไม้รูปพระนารายณ์ทรงครุฑ ห้อมล้อมด้วยหมู่ทวยเทพ 26 องค์ พระนารายณ์ถือเป็นเทพที่เป็นสัญลักษณ์ของกษัตริย์ โดยพระองค์ทรงครุฑซึ่งเป็นสัตว์ที่มีอำนาจมากแต่ยอมรับใช้พระนารายณ์ ส่วนหน้าบันมุขด้านหลังจำหลักเป็นรูปทวยเทพ 22 องค์
พระพุทธรูปทรงเครื่อง
(http://img697.imageshack.us/img697/3053/01746034.jpg)
พระประธานในโบสถ์พระนามว่า พระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ หน้าตักกว้าง 9 ศอก สูง 3 วา หล่อด้วยโลหะปิดทองทั้งองค์ จึงเป็นพระสัมฤทธิ์ขนาดใหญ่ตามคติการสร้างพระในสมัยอยุธยาตอนต้น แต่ลักษณะของพระพุทธรูปทรงเครื่องแบบจักรพรรดิราช สวมมงกุฎ มีสร้อยสังวาล ทับทรวง นั้นเป็นศิลปะในสมัยพระเจ้าปราสาททอง คล้ายกับพระพุทธรูปก่ออิฐในเมรุทิศเมรุรายวัดไชยวัฒนาราม จึงเข้าใจว่าพระประธานน่าจะได้รับการปฏิสังขรณ์ในสมัยพระเจ้าปราสาททองเช่นเดียวกัน
วิหารพระคันธารราษฎร์
(http://img686.imageshack.us/img686/1871/01746035.jpg)
บางท่านเรียกว่า วิหารน้อยหรือวิหารเขียน ตั้งอยู่ข้างโบสถ์ สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 โดยพระยาไชยวิชิต (เผือก) เป็นผู้อำนวยการสร้าง ยาว 8 วา กว้าง 3 วา หันหน้าออกไปทางแม่น้ำลพบุรี มีบันไดขึ้นสองข้าง หลังคามุงด้วยกระเบื้องดินเผา ประดับด้วยช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ หน้าบันเป็นรูปลายดอกไม้และนก ปิดทองประดับกระจก บานประตูทางเข้าจำหลักลายก้านขดคล้ายลายที่วัดใหญ่สุวรรณาราม จ. เพชรบุรี จึงนับเป็นงานช่างจำหลักไม้อีกแห่งหนึ่งที่ยังเหลืออยู่ ภายในมีภาพเขียนเรื่องการค้าสำเภาและชาดก ทว่าลบเลือน
ภายในวิหารประดิษฐานพระคันธารราษฎร์ พระพุทธรูปศิลาสมัยทวารวดี ปางปฐมเทศนา ประทับห้อยพระบาท พระยาไชยวิชิต (เผือก) จารึกว่าอัญเชิญมาจากวัดมหาธาตุในอยุธยานั้นเอง และว่ามาจากเมืองลังกา ทว่ามีบันทึกในสมัยรัชกาลที่ 5 ว่าเดิมอยู่ที่วัดพระเมรุ จ. นครปฐม
พระพุทธรูปศิลาสมัยทวารวดีเช่นพระคันธารราษฎร์ ปรากฏในโลกเพียงหกองค์เท่านั้น คือนอกจากที่วัดหน้าพระเมรุแล้ว ยังมีที่อินโดนีเซียหนึ่งองค์ วัดพระปฐมเจดีย์สามองค์ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยาหนึ่งองค์
การเดินทาง
เมื่อมาถึงเกาะเมืองอยุธยา วิ่งรอบคูเมืองไปตามถนนอู่ทอง ตัดข้ามคูเมือง
ตามเส้นที่จะไปบ้านคลองสระบัว วัดหน้าพระเมรุอยู่ด้านซ้ายมือ
เปิดเวลา 08.30-17.30 น.
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจาก...http://www.thai-tour.comและhttp://www.nairobroo.comและhttp://travel.sanook.com
-
ขอบคุณครับ ช่วงปีใหม่เข้าไปไม่ถึงครับ คนเยอะมาก ๆ เลย รถแน่น รถติดมากๆครับช่วงปีใหม่
ขอบคุณประวัติวัดหน้าพระเมรุด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
-
ขอบคุณสำหรับภาพบรรยากาศและประวัติ วัดหน้าพระเมรุ ครับ... :016:
-
ขอบคุณสำหรับรูปภาพงามงามค่ะ
แต่ขอแนะนำว่าต้องลองไปกันดูนะค่ะ
สถานที่จริงสวยดั่งภาพจริงๆค่ะ :016: :015:
-
ไปบ่อยครับๆ วัดสวยครับ เดี๋ยวนี้ที่วัดเขาสร้างข้างหลังต่อไปอีกน่ะครับ มีโอกาสก็ไปให้ทั่ววัดนะครับ
-
ขอบคุณที่นำภาพมาให้ชมครับ :015: :015: :015:
ผมเคยไหว้พระที่วัดนี้ครับ....เค้าบอกว่า
พระคันธารราษฎร์ พระพุทธรูปศิลาสมัยทวารวดี อายุมากกว่า 1500 ปีครับ....