แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - chok yala

หน้า: [1]
2


ตะกรุดแร่เกาะล้านฝังกัลปังหา  พระอาจารย์เงาะ

แร่เกาะล้าน เป็นขี้เหล็กไหล ตระกูลหนึ่ง เป็นเหล็กไหลประเภท โครตเหล็กไหลงอกซึ่งเป็นเหล็กไหลชนิดรองลงมาต่างจากเหล็กไหลน้ำหนึ่ง เช่นเหล็กไหลโกฏิปี , เหล็กไหลเจ้าป่าและเหล็กไหลเพลิง ที่มีอิทธิฤทธิ์มาก และเป็นธาตุกายสิทธิ์ที่ต้องใช้วิชาอาคมในการตัด ส่วนเหล็กไหลชั้นรอง เช่นแร่เกาะล้าน, เหล็กไหลงอกที่เขาอึมครึมเขากะอางค์และเหล็กไหลเมืองลอง จ.แพร่ (ตับเหล็กเมืองลอง)
แร่เกาะล้าน หรือขี้เหล็กไหล ตามความเชื่อของบรรดานักนิยมพระเครื่อง แร่สามารถงอกได้หรือขยายตัวให้โตขึ้นได้ หากเป็นแร่ที่อยู่ตามธรรมชาติแล้วมีการงอกที่เหมือนกับหินงอกหินย้อยทั่วไป ก็ดูไม่น่าแปลก แต่ถ้านำแร่เกาะล้านมาเลี่ยมใส่กรอบพลาสติกอย่างมิดชิดแล้ว ปรากฎว่ายังสามารถขยายขนาดหรืองอกเพิ่มจนดันกรอบให้แตกออกมาได้ ถือว่าเป็นเรื่องที่มหัสจรรย์แต่ก็เป็นเรื่องจริง การที่องค์แร่เกาะล้านจะงอกจะขยายมากเท่าไรขึ้นอยู่กับคนใช้ว่าหมั่นบูชาสวด มนต์ปฏิบัติกรรมฐาน แผ่เมตตาจิตอุทิศส่วนกุศลให้แก่โคตรแร่เกาะล้านก็จะงอกขึ้น พระอาจารย์เงาะ นำมาปลุกเสก และลงเหล็กจารเพิ่มความขลังจนเต็ม มีพุทธคุณแคล้วคลาด คงกระพัน เดินทางปลอดภัย นิรันตราย โชคลาภ โภคทรัพย์ เสน่ห์ เมตตา จารมือเต็มทั้งดอกขนาดนี้หายากครับ




ที่มา:http://www.weloveshopping.com/shop/showproduct.php?pid=14992821&shopid=196195

3
บทความ บทกวี / "ทองคำบางตะพาน"
« เมื่อ: 27 ม.ค. 2553, 07:01:46 »



ทองคำในสยามประเทศเป็นแร่ธาตุที่รู้จักกันมาแต่โบราณ เช่น ในคติความเชื่อทางจักรวาลวิทยาแบบไตรภูมิ กล่าวถึง "ชมพูทวีป" อันเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ เนื่องมาจากเป็นแหล่งกำเนิดของทองคำเนื้อสีชมพูอ่อนงดงาม ซึ่งเกิดจากลูกหว้าขนาดใหญ่ในป่าหิมพานต์ ที่รู้จักกันในชื่อ "ทองชมพูนุช" จนกลายมาเป็นชื่อทวีปในความเชื่อทางศาสนา

นอกจากนี้ มีการค้นพบว่าพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร หรือหลวงพ่อทองคำสุโขทัยไตรมิตร ซึ่งได้รับการบันทึกใน "The Guinness Book of Records" ว่าเป็นพระพุทธรูปทองคำใหญ่ที่สุดในโลกนั้น มีปริมาตรของทองคำเรียกกันอย่างโบราณว่า "ทองเนื้อเจ็ดน้ำสองขา" เป็นต้น

อาจกล่าวได้ว่าเราพบหลักฐานการสร้างพระพุทธรูปและพระเครื่องจากทองคำแท้ตั้งแต่สมัยโบราณ แต่ไม่ใช่ทองแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ยิ่งในสมัยสุโขทัยยิ่งพบพระพุทธรูปทองคำมากเป็นพิเศษ

ส่วนทองคำที่มีเปอร์เซ็นต์ทองสูงมากนั้น เรามาพบภายหลังเรียกว่า "ทองคำบางตะพาน" หรือ "ทองคำบางสะพาน" จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งได้รับการยอมรับว่ามีความงดงาม สุกปลั่ง แวววาว และที่สำคัญมีปริมาตรเนื้อทองบริสุทธิ์มากกว่าทองคำโบราณใดๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาตั้งแต่อดีต โดยจะขุดพบในเขต ต.ร่อนทอง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยเฉพาะในหมู่บ้านป่าร่อน และบริเวณห้วยจังหัน จะเป็นแหล่งที่พบมากเป็นพิเศษ

มีหลักฐานปรากฏชัดเจนว่า ทองคำบางตะพานพบครั้งแรกในรัชสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ กษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา ราวปี พ.ศ.2289 (จ.ศ.1181) เมื่อผู้รั้งเมืองกุยบุรีส่งทองคำร่อนเนื้อบริสุทธิ์หนัก 3 ตำลึงมาถวาย พระองค์จึงทรงโปรดเกล้าฯ ให้เกณฑ์ไพร่ 2,000 คน ไปทำการร่อนหาทอง เนื่องจากไม่เคยพบทองเนื้อบริสุทธิ์ถึงขนาดนี้มาก่อน จนในปี พ.ศ.2291 ผู้รั้งเมืองกุยจึงรวบรวมทองได้ถึง 90 ชั่งเศษ คิดเป็นน้ำหนัก 54 ก.ก. หรือ 3,600 บาท พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศจึงมีพระราชศรัทธาถวายทองแผ่คลุมยอดมณฑปพระพุทธบาท สระบุรี ตั้งแต่ส่วนเหม (มกร) และนาคลงมา แล้วยกผู้รั้งเมืองกุยให้เป็นเจ้าเมืองกุยบุรี แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าในคราวเหตุการณ์วุ่นวายตอนเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง ทองดังกล่าวถูกกลุ่มจีนฮ่อเผาและลอกออกไปจนหมดสิ้น

การพบทองคำเนื้อบริสุทธิ์จนเป็นที่กล่าวขวัญในครั้งนั้นเนื่องจากว่าเราไม่เคยพบทองเนื้อเก้า หรือทองนพคุณมาก่อน จะพบอย่างมากก็เพียงทองเนื้อสี่ ทองเนื้อห้า ทองเนื้อหก ทองเนื้อเจ็ด หรือทองเนื้อแปดน้ำสองขาเท่านั้น ดังนั้น ทองเนื้อเก้าจึงจัดเป็นทองที่ไม่มีแร่ธาตุอื่นเจือปน กล่าวกันว่าใช้เพียงความร้อนเป่าเอาเศษดินออกโดยไม่ต้องใช้กระบวนการถลุงก็จะได้ทองเนื้อบริสุทธิ์ ซึ่งเรารู้จักทองคำชนิดนี้ในหลายๆ ชื่อ เช่น ทองชมพูนุช ทองนพคุณ ทองเนื้อแท้ และทองคำเลียง เป็นต้น

ในปี พ.ศ.2548 ต.บางสะพาน ถูกน้ำท่วมขนาดหนัก เมื่อน้ำลดมีผู้พบเห็นเกล็ดทองที่พัดมากับสายน้ำติดค้างอยู่ตามซอกหิน ทำให้ผู้แสวงโชคแห่กันมาร่อนทอง และชมความมหัศจรรย์ของแหล่งแร่สูงค่าที่มีมาแต่โบราณ วิธีการร่อนทองจะขุดดินแล้วนำมาขยำผสมน้ำใส่ใน "เลียง" ซึ่งทำจากไม้ขนุนก้นสอบเหมือนหมวกญวน จากนั้นก็ขยำและเอียงเลียงให้น้ำในคลองพัดพาเอาดินค่อยๆ หลุดออกไป หากโชคดีก็จะมีเศษทองติดอยู่ก้นเลียง นักท่องเที่ยวนิยมมาขอซื้อโดยให้ราคาดี เพราะนอกจากจะขึ้นชื่อว่าเป็นทองเนื้อบริสุทธิ์ที่สุดแล้ว ยังมีความเชื่อว่าทองเนื้อเก้ามีคุณวิเศษจากธรรมชาติที่จะช่วยเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับผู้ครอบครองอีกด้วย แต่ปัจจุบันต้องระวังให้มาก เนื่องจากมีการนำทองพม่า หรือเกล็ดทองอื่นๆ มาหลอกขายนักท่องเที่ยว บางครั้งทำเป็นว่าพบในขณะทำการร่อนทองก็มี

ดังนั้น ในการจะซื้อจะหาทองบางตะพานนี้ต้องใช้ความรอบคอบและต้องดูทองโบราณให้เป็นด้วย หลักสำคัญจำไว้ให้แม่นว่า ทองโบราณจะไม่สุกปลั่งเหมือนทองชุบ คนโบราณเขาเรียกว่าทองด้าน ครับผม


ขอบคุณที่มา:คอลัมน์ พันธุ์แท้พระเครื่อง

โดย ราม วัชรประดิษฐ์

4
ขอบคุณที่แจ้งข่าว...ขออนุโมทนาด้วยครับ

5
ขอบคุณท่านขุนแผน  ที่นำเสนอบทความเกี่ยวกับวันครู

เครื่องไหว้นำมา... :114: :089: :114:
ยกยอหัตถา             ไหว้สาน้อมเกล้า
คุณแห่งอาจารย์          ยืนนานเนิ่นเข้า
นบน้อมเศียรเกล้า        ให้เข้าเกศา
อันตัวศิษย์นี้            ที่เรียนวิชา
ของหมู่ครูบา            อาจารย์ท่านเจ้า
ขอกราบก้มลง           บนบาทแทบเท้า
แห่อาจารย์เจ้า          ผู้สอนวิชา
พระคุณครูนั้น           อยู่ยั่งยืนมา
คุ้มครองกายา           บรรดาลูกศิษย์
ให้ได้ร่ำเรียน            พากเพียรเป็นนิจ
จนมีชีวิต               ผุดผ่องใสสี
พระคุณครูนั้น            มิ่งมั่นมากมี
ส่องทางชีวี            ศิษย์นี้ได้เดิน
สอนคุณธรรม            นำพาจิตเพลิน
คอยชี้ทางเดิน           ให้ศิษย์ก้าวไป
แต่โบราณมา            ท่านสอนจากใจ
บอกกล่าวขานไข         ให้ศิษย์ได้รู้
มอบเป็นวิชา             นำมาต่อสู้
ปัญหาที่อยู่            รอบข้างกายา
บัดนี้ครบพร้อม          ขอน้อมเกศา
ก้มกราบครูบา           อาจารย์ท่านเจ้า
ให้คุ้มครองศิษย์          ให้หมดหมองเศร้า
ขอน้อมเศียรเกล้า         พร้อมเครื่องบูชา
บ่ลืมพระคุณ            แห่งท่านครูบา
ที่สอนวิชา              ให้ข้าได้ดี


6
เปิดเข้ามาดูไม่ทัน...เร็ว...จริงๆ...
ขอบคุณครับ อิ อิ :095:

หน้า: [1]