กระดานสนทนาวัดบางพระ

หมวด มิตรไมตรี => บทความ บทกวี => ข้อความที่เริ่มโดย: รวี สัจจะ... ที่ 09 ธ.ค. 2552, 12:26:53

หัวข้อ: เล่าสู่กันฟัง...การอยู่ปริวาสกรรม
เริ่มหัวข้อโดย: รวี สัจจะ... ที่ 09 ธ.ค. 2552, 12:26:53
 :059:นั่งสนทนาธรรมกับท่านปุญญานุสสติ (สิบทัศน์)ตั้งแต่ทุ่มหนึ่งจนถึงห้าทุ่ม
และพรุ่งนี้เช้าจะเดินทางไปปฏิบัติธรรมเข้าปริวาสกรรมกัน เป็นเวลา สิบวันเก้าราตรี
และคงไม่มีเวลาที่จะเข้ามาในบอร์ด เพราะต้องปฏิบัติอยู่ในกรอบระเบียบกฏเกณฑ์
ที่ทางสำนักเขาวางไว้ ไปเพื่อลดมานะ ละทิฐิ และเพื่อชำระศีลของเราให้บริสุทธิ์
ตามที่พระวินัยบัญญัติไว้ในการออกจากอาบัติ ซึ่งจะต้องอาบัติก็ดี ไม่ต้องอาบัติก็ดี
และรู้ก็ดี ไม่รู้ก็ดี แต่เพื่อความสบายใจและรักษาไว้ซึ่งกิจวัตร 10 ประการของพระสงฆ์
จึงได้ชักชวนกันไปปฏิบัติธรรม อยู่ปริวาสกรรม เพื่อทำกิจวัตรของความเป็นพระให้สมบูรณ์
รักษาไว้ซึ่งพระธรรมวินัยไม่ให้เสื่อมสูญ และเป็นแบบอย่างให้แก่พระใหม่ได้รู้และได้เห็น
ได้เข้าใจในการประพฤติปฏิบัติในกิจวัตรของความเป็นพระสงฆ์...
 :059:การไปอยู่ปริวาสกรรมนั้น ทำให้เราได้มีเวลาประพฤติปฏิบัติอย่างเต็มที่เต็มเวลา
เพราะว่าต้องอยู่ในระเบียบกฏเกณฑ์ที่เขาวางไว้ งดเว้นจากการคลุกคลีต้อนรับญาติโยม
และได้ลดทิฐิมานะไปในตัวด้วย เพราะเมื่อเราอยู่ที่วัดเราเป็นพระมหาเถระ เราเป็นผู้นำ
เป็นผู้วางกฏระเบียบให้ผู้อืนปฏิบัติตาม เป็นผู้ควบคุมดูแลผู้อื่นให้ปฏิบัติตามกฏระเบียบ
แต่เมื่อมาอยู่ปริวาสกรรม เราต้องทำตามกฏระเบียบของสำนักที่เขาวางไว้ อยู่ในความดูแล
และควบคุมของพระอาจารย์กรรม ซึ่งอาจจะมีอายุพรรษาน้อยกว่าเรา และเป็นศิษย์ของเรา
เราต้องกราบไหว้แม้นท่านจะเป็นพระบวชใหม่ซึ่งเป็นพระปกติ(ไม่ได้เข้าอยู่ปริวาสกรรม)
ซึ่งจะให้เกียรติเรียกท่านว่าพระอาจารย์กรรม ซึ่งเราต้องลดมานะทิฐิ ความเป็นครูบาอารย์วางไว้
เป็นผู้ว่าง่ายสอนง่าย ไม่มีปากคำ แล้วแต่พระอาจารย์กรรมท่านจะใช้ให้ทำ(ตามธรรมตามวินัย)
เพราะคำว่าปริวาสกรรมนั้นแปลว่าการอยู่ชดใช้ ชดใช้ในอาบัติที่กระทำ ซึ่งเราจะต้องอาบัติก็ดี
ไม่ต้องอาบัติก็ดี แต่เมื่อเรากล่าวคำขออยู่ปริวาสกรรมแล้ว เท่ากับเรายอมรับผิดยอมรับกรรม
 :059:บางท่านอาจจะไม่เข้าใจหรือเข้าใจยังไม่หมด คิดว่าพระที่มาอยู่ปริวาสกรรมนั้นคือ
พระที่ต้องอาบัติสังฆาทิเสสทั้งหมด เป็นพระที่มีศีลด่างพร้อย จึงต้องมาอยู่ปริวาสกรรมชำระศีล
ซึ่งความจริงหาเป็นเช่นนั้นทั้งหมดไม่ บางรูปท่านอาจจะต้องอาบัติจริง บางรูปท่านอาจจะสงสัย
ว่าท่านต้องอาบัติหรือไม่ หรือบางรูปท่านไม่ได้ต้องอาบัติเลย แต่เพื่อความสบายใจในข้ออาบัตินั้น
ท่านจึงมาขออยู่ปริวาสกรรมเพื่อความบริสุทธิ์ของตัวท่าน และบางรูปท่านก็มาขออยู่ปริวาสกรรม
เพื่อมาลดมานะมาละทิฐิของท่าน และมาเพื่อการประพฤติปฏิบัติธรรม เพราะบางท่านเมื่ออยู่ที่วัด
หรือที่สำนัก ท่านมีภาระหน้าที่ที่ต้องสงเคราะห์อนุเคราะห์ญาติโยม หรืองานบริหารในกิจของสงฆ์
การเรียนการศึกษา มีภาระหน้าที่จนไม่มีเวลาสำหรับการปฏืบัติ ท่านจึงปลีกตัวมาขออยู่ปริวาสกรรม
เพื่อจะได้มีเวลาทบทวนใคร่ครวญและเจริญสติเจริญภาวนา....
          เพื่อไม่ให้เป็นกรรมซึ่งกันและกัน กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม จึงนำมาอธิบายขยายความ
ให้ท่านทั้งหลายได้รู้และเข้าใจ ว่าปริวาสกรรมนั้นคืออะไร และทำไมพระจึงต้องไปอยู่ปริวาสกรรม
โปรดคิดพิจารณาและทำความเข้าใจ เพื่อไม่ให้เกิดอกุศลกรรม..
             ด้วยความปรารถนาดีและไมตรีจิตแด่ทุกผู้คน
                 รวี สัจจะ-วจีพเนจร-สมณะไร้นาม
๙  ธันวาคม ๒๕๕๒ เวลา ๐๐.๒๖ น. ณ ศาลาน้อยริมน้ำโขง ชายขอบประเทศไทย
 
 


หัวข้อ: ตอบ: เล่าสู่กันฟัง...การอยู่ปริวาสกรรม
เริ่มหัวข้อโดย: derbyrock ที่ 09 ธ.ค. 2552, 09:00:00
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ ได้อ่านบันทึกต่างของพระอาจารย์แล้วใจนึกอยากบวชเรียนอีกสักครั้ง ถ้ามีบุญผมคงได้บวชอีกครั้งครับ
หัวข้อ: ตอบ: เล่าสู่กันฟัง...การอยู่ปริวาสกรรม
เริ่มหัวข้อโดย: อชิตะ ที่ 09 ธ.ค. 2552, 09:10:14
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ   ขออนุโมทนาบุญในการบำเพ็ญเพียร บำเพ็ญตบะ ในการเข้าอยู่ปริวาสกรรม ในคราวครั้งนี้

มองในด้านดี การอยู่ปริวาสกรรม แม้จุดประสงค์หลัก คือ วินัยกรรมให้พระที่ต้องอาบัติหนักได้พ้นจากอาบัติ  แต่ผลที่ได้รับนอกเหนือจากนั้น

คือ การมีเวลาเฝ้ามองตัวเอง  ฝึกตน อย่างสันโดษและอุกฤษฏ์ ได้ลดทั้งทิฎฐิมานะ ความถือตัวถือตน อย่างดีเยี่ยม

ได้สวดมนต์ภาวนาเต็มที่  เห็นว่าพระที่ผ่านป่าปริวาสกรรม แล้ว จะสาธยายมนต์ได้แม่นยำและมั่นคง ยิ่งนัก

คำว่า ปริวาส แปลว่า การเข้าจำ ก็ดี แต่ใช่เพียงว่า เข้าจำเพราะกระทำผิด

ความหมายกว้างและลึกกว่านั้นคือ การเข้าจำเพื่อฝึกตัว ฝึกจิต  การจำขังกิเลสไม่ให้แสดงพิษสงได้

การอยู่ปาปริวาสและเก็บมานัต ก็ไม่ใช่ของง่ายเลย

อากาศเย็นๆ แบบนี้ ต้องมานั่งสมาธิกลางแจ้ง ไร้ที่มุง ที่บัง  กลางสายลมหนาว

คงต้องใช้ทั้งความอดทนและความเพียรอย่างสุดกำลัง   บุญล้วนๆ บารมีเต็มๆ จริงๆ ครับ

กราบขอบพระคุณสำหรับบทความ การทำความดี ให้ได้ร่วมอนุโมทนาบุญกันทั่วหน้า สาธุๆ


หัวข้อ: ตอบ: เล่าสู่กันฟัง...การอยู่ปริวาสกรรม
เริ่มหัวข้อโดย: ~เสน่ห์โจรสลัด~ ที่ 09 ธ.ค. 2552, 10:51:02
ขอบพระคุณพระอาจารย์ที่เมตตาบอกเล่าเรื่องการปริวาสกรรมให้เห็นแจ้ง สาธุ ...  :054:
หัวข้อ: ตอบ: เล่าสู่กันฟัง...การอยู่ปริวาสกรรม
เริ่มหัวข้อโดย: ۞เณรน้อยเส้าหลิน۞ ที่ 09 ธ.ค. 2552, 04:08:35
กราบนมัสการหลวงอาและหลวงพี่ปุญญานุสฺสติ (หลวงพี่เก่ง)ด้วยครับ   :054: :054: :054:

ตอนนี้หลวงอากับหลวงพี่เก่งคงจะเข้าปริวาสกรรมไปแล้วนะครับ

ผมขอนอบน้อมจิต  กราบอนุโมทนาบุญในมหากุศลแห่งการอยู่ปริวาสกรรมครั้งนี้ด้วยครับ

สาธุ สาธุ อนุโมทามิ
  :054: :054: :054:
หัวข้อ: ตอบ: เล่าสู่กันฟัง...การอยู่ปริวาสกรรม
เริ่มหัวข้อโดย: ~เสน่ห์ack01~ ที่ 09 ธ.ค. 2552, 07:28:43
กราบนมัสการขอบพระคุณที่เมตตาเล่าให้ฟังถึงเรื่องของการอยุ่ปริวาสกรรมครับ...

...นมัสการหลวงพี่เก่งด้วยครับ ขอให้ปฏิบัติธรรมสมกับที่ตั้งใจไว้...



...อย่าลืมของฝากด้วยนะครับหลวงพี่... :002:
หัวข้อ: ตอบ: เล่าสู่กันฟัง...การอยู่ปริวาสกรรม
เริ่มหัวข้อโดย: ~เสน่ห์ต้นน้ำ~ ที่ 09 ธ.ค. 2552, 07:34:04
นมัสการพระอาจรย์ครับ

หลวงพี่เก่งเดินทางถึงแล้วหรอครับไม่รู้เรื่องเลย รู้แต่ว่าหลวงพี่เก่งจะเดินทางไปหาพระอาจารย์

อย่าลืมของฝากนะครับหลวงพี่

พระอาจารย์ดูแลสุขภาพด้วยนะครับ

หลวงพี่เก่งดูแลสุขภาพด้วยนะครับ