ณ ตถตาอาศรม ริมฝั่งแม่น้ำโขง ชายขอบประเทศไทย
๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๒
ได้รับฟังข่าวสารจากญาติโยมเรื่องการเอาวัตถุมงคลเครื่องรางของขลังไปลองกันอยู่บ่อยครั้ง
ได้ฟังแล้วรู้สึกเป็นห่วง เพราะบางครั้งผู้ที่เอาของไปลองนั้น ไม่เข้าใจและรู้จักในพลังงานของวัตถุนั้น
ว่าเป็นพลังงานในทางใด และการสร้างการอธิษฐานจิตปลุกเสกเขาทำมาอย่างไร จึงทำให้ต้องเสียของ
วัตถุมงคล เครื่องราง ของขลัง แต่ละอย่างนั้นมีคุณสมบัติและพลังงานที่แตกต่างกัน ทั้งที่มีอยู่ตามธรรมชาติ
และสิ่งที่ได้สร้างและทำใหม่ขึ้นมา ซึ่งการสร้างขึ้นมานั้นก็มีเคล็ดวิชาของแต่ละสำนักแต่ละสายที่แตกต่างกัน
ในการสร้าง การปลุกเสก การอธิษฐานจิต บางอย่างสร้างทำขึ้นมาตามวิชาไสยเวทย์ซึ่งมีทั้งฝ่ายขาวและฝ่ายดำ
บางอย่างก็สร้างขึ้นมาตามวิชาสายพุทธจิต บางอย่างมีการเชิญครูบาอาจารย์ วิญญาณหรือเทวดามาคุ้มครองรักษา
บางอย่างก็สร้างมาด้วยบุญฤทธิ์สำเร็จด้วยการอธิษฐานจิตเพียงอย่างเดียว
วัตถุมงคล เครื่องราง ของขลัง ทุกอย่างนั้นมีความโดดเด่นที่แตกต่างกันตามเจตนาของผู้สร้างหรือผู้รักษา
ซึ่งบางครั้งก็เป็นไปตามรูปร่างและชื่อนามของวัตถุมงคล เครื่องราง ของขลังเหล่านั้น ว่าจะมีสรรพคุณพลังงาน
ไปในทิศทางใด ซึ่งพอจะจัดหมวดหมู่อย่างกว้างๆได้พอประมาณดังนี้คือ มหาอุด คงกระพัน แคล้วคลาด มหาอำนาจ
คุ้มครองป้องกันอันตรายจากไสย์ศาสตร์วิญญาณชั่วร้าย เมตตามหานิยม เมตตามหาลาภ เมตตามหาเสน่ห์ เสริมดวง
เสริมธาตุซึ่งการจัดสร้างหรือการอธิษฐานจิตปลุกเสกในสมัยโบราณนั้น ครูบาอาจารย์ท่านจะเน้นไปในแต่ละชิ้นแต่ละอย่าง
ที่แตกต่างกัน เพื่อความโดดเด่นและพลังงานที่เข้มขลัง วัตถุมงคลเหล่านั้นจึงมีความขลังและความศักดิ์สิทธิ์
เป็นที่เลื่องลือและนับถือบูชากันมาจนถึงทุกวันนี้ และส่วนใหญ่ครูบาอาจารย์ท่านจะอธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยว
เพื่อให้พลังงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน หรือจะร่วมกันอธิษฐานจิตในสายครูบาอาจารย์เดียวกันเพราะจะรู้กัน
ในการเดินจิตเดินพลังไปในทิศทางเดียวกันประสานกันเป็นหนึ่งเดียว
ซึ่งในสมัยก่อนนั้น ในการปลุกเสกอธิษฐานจิตแต่ละครั้งนั้น ทางผู้จัดหรือเจ้าของงานเขาจะจัดเตรียม
วัตถุมงคลเครื่องรางของขลังที่จะปลุกเสกทุกอย่างๆละชิ้นสองชิ้น ใส่พานให้ครูบาอาจารย์ท่านได้ทราบว่า
วัตถุมงคลที่จะปลุกเสกอธิษฐานจิตนั้นมีอะไรบ้างและรูปร่างหน้าตาลักษณะเป็นอย่างไร เพื่อจะได้เอามาเป็นนิมิต
และอธิษฐานจิตได้ถูกต้องสอดคล้องกับรูปร่างลักษณะและเจตนาของผู้สร้างนั้น วัคถุมงคลเครื่องรางของขลัง
ที่สร้างกันมาในสมัยก่อนนั้นจึงโดดเด่นและเข้มขลังเพราะได้รับการประจุพลังอย่างเต็มเปี่ยมและยอดเยี่ยมน่าบูชา
ถ้าเป็นมหาอุดก็อุดจริงๆปืนยิงไม่ออก ถ้าเป็นคงกระพันออกแต่ไม่เข้าหรือที่เรียกกันว่าเหนียว ถ้าเป็นตบะมหาอำนาจ
ก็น่าเกรงขามมีตบะ ถ้าเป็นแคล้วคลาดก็จะไม่ได้รับอันตราย ถ้าเป็นเมตตาค้าขายมหานิยมก็เป็นที่ชื่นชมต่อคนรอบข้าง
ถ้าเป็นเมตตามหาเสน่ห์จะไปที่ไหนมีแต่คนรักใคร่ไม่มีศัตรูและถ้าเป็นเมตตาเจ้าชู้ก็จะมีผู้มาหลงใหลรักใคร่และเอ็นดู
ฉะนั้นเราจึงต้องรู้ว่าของแต่ละชิ้น แต่ละครูบาอาจารย์นั้นท่านโดดเด่นในทางไหนเจตนาท่านสร้างมาเพื่ออะไร
เราจึงจะนำไปใช้ได้ถูกทางและมีประสิทธิภาพได้ผล เพราะครูบาอาจารย์แต่ละท่านแต่ละคนนั้น มีความชำนาญและ
ความสามารถพิเศษที่แตกต่างกัน ท่านอาจจะทำได้ทุกอย่าง แต่จะมีบางอย่างที่เป็นวิชาเอกเฉพาะตนของท่าน
เราจึงจำเป็นต้องเรียนรู้ในสิ่งนั้น โดยการค้นคว้าศึกษาสอบถามท่านผู้รู้หรือท่านผู้เป็นเจ้าของผู้สร้างยังมีชีวิตอยู่
ก็ถามท่านดูว่าวัตถุมงคลที่ท่านสร้างมานั้นใช้ในทางไหนและวิธีใช้ทำอย่างไร เพราะเคล็ดวิชาของแต่ละสำนักนั้น
อาจจะแตกต่างกัน แม้จะมีรูปร่างลักษณธที่คล้ายคลึงกัน
การที่เราเอาวัตถุมงคลเครื่องรางของขลังไปลองกันนั้น โบราณเขาถือกันว่าไม่ให้ความเคารพลบหลู่ครูบาอาจารย์
และเป็นการไม่ให้เกียรติซึ่งกันและกัน และวัตถุมงคลเครื่องรางของขลังบางอย่างนั้น ครูบาอาจารย์ท่านจะอธิษฐานจิต
ประสานใจไว้กับศรัทธาของผู้บูชา (เมื่อใจเราเคารพบูชาระลึกถึงครูบาอาจารย์หรือวัตถุมงคลเครื่องรางของขลังนั้น
เป็นการเปิดประตูพลังงาน) และวัตถุมงคลบางอย่างนั้นครูบาอาจารย์ท่่านได้เชิญครูบาอาจารย์ของท่าน เทวดาหรือ
วิญญาณบริวารของท่านที่จะร่วมสร้างบารมี มาช่วยคุ้มครองรักษาวัตถุมงคลเครื่องรางของขลังและผู้นับถือบูชาวัตถุนั้น
ซึ่งบางครั้งผู้ที่ครอบครองประพฤติตัวไม่ดี ไม่มีศีลไม่มีธรรม สิ่งที่มาคุ้มครองรักษานั้นก็จะหนีไปไม่อยู่ด้วย
จึงขอฝากไว้เป็นข้อคิดสะกิดเตือนใจสำหรับนักลองของทั้งหลาย โปรดอย่าได้กระทำเพราะมันจะเป็นบาปกรรม
จาบจ้วงลบหลู่ครูบาอาจารย์ เทวดาครูบาอาจารย์ที่คุ้มครองรักษาก็จะหนีจากท่านไป อาจจะเหลือไว้เพียงวัตถุที่ไร้พลังงาน
เพราะว่าใจของท่านขาดศรัทธาขาดความเคารพ " อภิวาทะนะสีลิสสะ นิจจัง วุฑฒาปะจายิโน, จัตตาโร ธัมมา วัฑฒันติ,
อายุ วัณโณ สุขัง พะลัง" ธรรมสี่ประการ คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ, ย่อมเจริญแก่บุคคลผู้มีปกติไหว้กราบ,มีปกติอ่อนน้อม
(ต่อผู้ใหญ่)เป็นนิตย์...โปรดคิดให้รอบคอบแล้วจึงกระทำหรืองดเว้นการกระทำ...
เชื่อมั่น-ศรัทธา-ปรารถนาดี-ด้วยไมตรีจิต-แด่มวลมิตรทุกผู้คน
รวี สัจจะ-วจีพเนจร-สมณะชายขอบ
๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๒ เวลา ๐๙.๕๕ น. ณ ศาลาน้อยริมน้ำโขง ชายขอบประเทศไทย