คงกระพันนั้นสามารถทำได้หลายด้านเช่น เสกปูนคาดคอด้วย อิติมัตติยา มัตติภะเว ของหลวงปู่ศุข หรือ อุนุยัง เสกแล้วป้ายคอถ้าทำด้วยใจเชื่อแล้วก็จิตนิ่งไม่เข้าแนนอน ต่อมาเป็นการเสกของกินหรือที่เรียกว่า อาพัด เช่นหมาก เหล้า ข้าวเป็นต้นเช่น เสกหมากกินใช้หัวใจ นิพพานจักกรีว่า อิ สะ วิ ระ มะ สา พุ เท วาเป็นต้น เสกเหล้าด้วยคาถา4เกลอว่า กะระมะถะ กิริมิถิ กุรุมุถุ เกเรเมเถนอกจากจะเหนียวแล้วถ้าเสกแค่3ประโยคแรกจะเมาช้า ถ้าเสก4 แถวแล้ววางไว้ให้คนอื่นในวงกินเป็นอันตีกัน ส่วนเสกข้าวใช้หัวใจปฏิสังขาโยว่า จิ ปิ เส คิครับผม แล้วเดี่ยววันอื่นเอาวิธีอื่นมาลงอีกนะครับผม
ที่มา
บันทึกการสำรวจของพวกฝรั่งได้กล่าวถึงมนุษย์กลุ่มหนึ่งอยู่ในมหาสมุทรอินเดียทางใต้ถึงรอบอ่าวไทยเรียกว่าสามารัส หรือสยามัสมีนิสัยชอบสักหมึกดำตามแขนขา ลำตัว รบเก่ง การช่างเก่ง ทำกสิกรรม รักสันตินับถือพุทธ ทีนี้เผ่าสยามัสนี่นิยมเอาหมึกจากกระดูกผีมาสักลงผิวคนครับ เป็นลวดลายติดถาวรต่าง ๆ ซึ่งฝรั่งยุคหลัง มานิยมเป็น Tatto มีสีสรรมากมายก็ช่างเขาเถอะ แต่สยามัส เอามาทำยำยีใส่คุณไสยให้อักขระลวดลายมีฤทธิ์ต่างๆได้ คือมีผีเฝ้าอักขระ บ้างเพื่อการเสน่ห์เมตตามหานิยม บ้างเพื่อลาภยศเงินทองเพิ่มพูน และสุด ๆไปเลยคือหนังเหนียวคงกระพันชาตรี
คนหนังเหนียวมีร่ำลือกันมาในหมู่ทหารเสือสมัยกอบกู้กรุงแตกครั้งที่สองมีคนเหล่านี้อยู่ประมาณห้าสิบกว่าคนติดตามพระเจ้าตากลงมาตอนยังเป็นยกกระบัตร ด้วยความเป็นนักล่องซุงด้วย คนเหล่านี้เก่งมากหนังเหนียว ทั้งเดินบนซุงซึ่งลอยน้ำไปหมุนกลิ้งไปได้อย่างยอดเยี่ยม (ไม่เชื่อท่านผู้อ่านไปเดินดูสักครั้งไม่ตกน้ำให้รู้ไป) กลุ่มนี้ล่ะครับเป็นกลุ่มบุกเบิกคุ้มกันพระเจ้าตากในการฝ่าพม่าออกไปสู่จันทบุรี และเป็นกองหน้าหัวหมู่ทะลวงฟัน ทำสงครามกองโจรก่อกวนหรือปล้นสดมภ์พม่าอย่างได้ผลมาตลอดทุกครั้ง
(http://img690.imageshack.us/img690/2162/1185860999.jpg)
เล่ากันว่าย้อนขึ้นไปในสมัยพระนารายณ์มหาราช ได้เคยจัดทหารหนังเหนียว 16คน ไปกับคณะทูตโกษา(ปาน) ได้แสดงหนังเหนียวต่อหน้าพระเจ้าหลุยส์ 14มาแล้ว โดยยืนหน้ากระดานให้ทหารฝรั่งเศส 500 ยิงปืนเข้าใส่ปรากฎว่ายิงไม่เข้า...ประวัติศาสตร์เขาเล่ากันอีกว่าระหว่างขาไปปารีส คณะเรือของท่านทูต ถูกกระแสน้ำพัดเข้าวังน้ำวน "เบอร์มิวด้า" (ซึ่งเรือฝรั่งเท่าที่บันทึกมา ถูกดูดจมเกือบไปทุกลำ) แต่เรือคณะทูตสยามมีพระอาจารย์ที่ไปด้วย แกร่ายเวทย์ทวนวังน้ำวนกลับออกมาได้ครับ จริงไม่จริง ก็สุดแล้วแต่
............ทหารฝรั่งเศสลองของทหารไทย.....
เรื่องนี้อ่านมาจากพงศาวดารฉบับราชหัถเลขา เห็นน่าสนใจจำนำมาเล่าสู่กันฟัง
(http://img46.imageshack.us/img46/2755/30367572.jpg)
ในสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ทรงมีพระราชสัมพันธ์ไมตรีอย่างใกล้ชิดกับพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศสเป็นอย่างมาก โดยมีการส่งคณะฑูตไปมาหาสู่กันหลายคณะ
ทูตคนแรกของฝรั่งเศสที่มาไทยคือ เชอวาเลียร์ เดอ โชมองต์ และราชฑูตไทยคือ โกษา ปาน
แต่ในสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศต่างมีความใน กล่าวคือ ไทยต้องการคานอำนาจของ ฮอลันดา ที่กำลังเข้ามาแผ่อำนาจล่าอณานิคมเข้ามาใกล้จนเป็นภัยคุกคาม ส่วนทางฝรั่งเศสเองพระเจ้าหลุยส์ที่14 ต้องการที่จะเปลี่ยนศาสนาของสมเด็จพระนารายณ์ ถ้าเปลี่ยนได้ก็จะเป็นการกระเดื่องพระเกียรติยศของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14นั้นเอง
นี้แหละครับการเมือง.........................
(http://img41.imageshack.us/img41/9166/goyasthethirdofmay1808.jpg)
ในพงศาวดารมีเรื่องเล่าน่าสนุกเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับการไปเยือนของกลุ่มราชทูตไทยว่า
ชาวฝรั่งเศสเคยได้ยินว่าคนไทยอยู่ยงคงกระพัน ฟัน แทง ยิง ไม่เข้า จึงขอ "ลองของ" แล้วกลุ่มราชทูตไทยก็จัดให้
ในวันลองของ ต่อหน้าคณะผู้ปกครอง หลังจากทำการบวงสรวงตั่งศาลเพียงตาของคนไทย ทางฝรั่งเศสได้ให้กลุ่มผู้ติดตามราชทูตโกษา ปาน นั่งกลางพิธี แล้วทหารฝรั่งเศสยืนเรียงหน้ากระดานหลายสิบนาย แต่ละคนอยู่ในท่าเตรียมยิงปืน เลงไปที่ทหารไทยกล่มนั้น พอได้สัญญาณ จึงยิงออกไปคนละหนึ่งนัด เรื่องน่าแปลกก็คือ ปืนด้านทุกกระบอก จากนั้นทหารฝรังเศสจึงขอลองอีก โดยยิงออกไปอีกคนละหนึ่งนัด ครั้งนี้ยิงออก แต่ลูกปืนที่ยิงออกไปนั้นตกแค่ตีนเสื่อที่กลุ่มคณะทูตไทยนั่งเท่านั้น
เท่ห์มั้ยล่ะ เรื่องนี้ฝรังเขาบันทึกเอาไว้ คนไทยไม่ได้เขียนเองนะ
คุณเชื่อหรือไม่ มีเรื่องจริงที่คุณไม่ยากจะเชื่ออีกมากมาย
ด้วยความเคารพคนอ่าน
ขอขอบคุณ...วาทิน ศานติ์ สันติ
ขอขอบคุณ...http://atcloud.com/stories/72570
ขอบคุณสำหรับข้อมูลมากครับขอบคุณครับ
เนื้อหาแน่จริงๆ กว่าจะอ่านจบ ตาลายเลยทีเดียว