:059:เห็นกันอยู่เมื่อเช้า สายตาย
สายยังอยู่สุขสบาย บ่ายม้วย
บ่ายชื่นรื่นรวยราย เย็นดับ ชีพแฮ
เย็นเล่นกับลูกด้วย ค่ำม้วย อาสัญ...
( พระราชนิพนธ์ ของรัชกาลที่๕)
...ชีวิตช่างน้อยนิด ถ้าเราคิดและศึกษา
ไม่นานต้องจากลา ทิ้งกายากลับสู่ดิน
เกิดแก่และเจ็บตาย วนเวียนว่ายนิจศิล
ลืมตามายลยิน แล้วดับสิ้นตามเวลา
...ชีวิตอนิจจัง ไม่จีรังยั่งยืนมา
มีพบมีจากลา อนิจจาไม่จีรัง
เตรียมตนเสียก่อนตาย จะสบายในหนหลัง
กรรมดีมีพลัง สู่ความหวังที่ตั้งตา
..ชีวิตอย่าประมาท อาจพลั้งพลาดทุกเวลา
สติและปัญญา จะนำพาสู่ทางดี
ตัวตายให้ชื่ออยู่ เขาเชิดชูทุกถิ่นที่
เหลือไว้ในสิ่งดี ให้โลกนี้ได้ร่ำลือ....
...ได้เท่านี้ เอาเท่านั้น พันธ์มนุษย์...ยากที่สุด มิอาจเพิ่ม เติมให้พอ...(พุทธธมฺโม ภิกขุ)
...ความอยากของมนุษย์ มากที่สุดไม่รู้พอ
มีแล้วอยากได้ต่อ นี่แหละหนอจิตใจคน
ดิ้นรนและขวนขวาย กันมากมายทุกแห่งหน
รวยแล้วก็กลัวจน ที่ทุกข์ทนอยากจะรวย
ตัณหาทะยานอยาก ขี้เหร่มากอยากจะสวย
คนจนและคนรวย สุดท้ายม้วยมรณา
กอบโกยกันทำไม เมื่อตายไปมีปัญหา
ลูกหลานต่างเข้ามา แสวงหาประโยชน์กัน
แย่งชิงมรดก แบ่งเป็นก๊กเข้าห้ำหั่น
ตีแรงและแทงฟัน จนตายกันตกตามไป
...ใจคนไม่รู้พอ จึงเกิดก่อปัญหาใหญ่
อยากมีและอยากได้ เพราะว่าใจไม่รู้พอ...
--------------------------------------
:054:คำครูแต่เก่าก่อน...อุทาหรณ์คอยสอนใจ...ไม่เคยล้าสมัย...ยังใช้ได้ตราบทุกวัน...
แด่คำคม ของคำคม สอนให้รู้ จิตกายใจ
รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม
๒๓ กรกฎาคม ๒๕๕๒ เวลา ๑๓.๑๓ น. ณ ศาลาน้อยริมน้ำโขง ชายแดนประเทศไทย