ผู้เขียน หัวข้อ: ปรัชญา  (อ่าน 1821 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ลูกผู้ชายตัวจริง

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 741
  • เพศ: ชาย
  • กูจะกลับมากู้แผ่นดิน ให้พ้นภัยศัตรู
    • MSN Messenger - namo159@HOTMAIL.COM
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ปรัชญา
« เมื่อ: 03 พ.ค. 2550, 12:28:41 »
.....ปรัชญาแห่งความสำเร็จ

ถ้าคุณคิดว่าคุณจะพ่ายแพ้ละก็ คุณก็จะพ่ายแพ้
ถ้าคุณไม่คิดว่าคุณอยากจะทำแล้วละก็
คุณก็จะไม่ประสบความสำเร็จอะไรเลยแม้แต่อย่างเดียว
แม้ว่าคุณคิดว่าอยากจะชนะแต่คุณคิดว่าไม่สามารถจะชนะได้
ชัยชนะก็จะไม่เป็นของคุณ
ถ้าคุณเป็นคนที่ไม่พยายามตั้งใจทำแล้วละก็ คุณก็จะพบกับความล้มเหลว
สิ่งที่พวกเราค้นหาในโลกนี้ก็คือความสำเร็จที่เริ่มจากกำลังใจของมนุษย์
ทุกสิ่งทุกอย่างคือการตัดสินใจจากสภาพจิตใจของมนุษย์
ถ้าคุณคิดว่าคุณเป็นคนสะเพร่าแล้วละก็ คุณก็จะเป็นไปตามนั้น
ถ้าคุณคิดว่าคุณจะก้าวไปในตำแหน่งที่สูงแล้วละก็
ก่อนที่คุณจะก้าวไปถึงตำแหน่งนั้น คุณควรมีความเชื่อมั่นว่า
คุณสามารถก้าวไปถึงอย่างแน่นอน
การต่อสู้ของชีวิตไม่ใช่ว่าคนที่แข็งแรง และคนที่ทำงานเร็ว จะได้เปรียบเสมอไป
ไม่ช้าก็เร็ว คนที่จะประสบความสำเร็จก็จะคือคนที่เชื่อว่า ฉันสามารถทำได้
นัปโปเลียน ฮิล

 

การศึกษาเอ๋ย
ถ้าไม่ศึกษาเลย
ก็ยิ่งเป็นประหนึ่งควาย
แต่ถึงแม้ศึกษามาก - สูง
ทว่าไม่ศึกษาศีล - ศึกษาจริยธรรมด้วย
ไม่ปฏิบัติตนให้เป็นคนเข้าถึงธรรมจนได้จริง
ก็ยิ่งจะเป็นควายตัวดุร้าย
ที่ยิ่งศึกษาสูง - มาก
ก็ยิ่งดุร้ายมาก
กินเลือด - เล่ห์แหลม - ลึก - ล้ำ !!!!!
โดยที่ผู้ศึกษานั้น ๆ ส่วนใหญ่
ก็ไม่รู้ตัวดอกว่า
ตนได้เป็นเช่นนั้นไปแล้ว
และแม้จะมีผู้ชี้บอกให้
ก็จะไม่เชื่อกันง่าย ๆ ด้วยซ้ำ
ในสังคมเมืองปัจจุบันนี้ มีเกลื่อนกลาด

จาก..สัมมาสิกขา (มูลนิธิธรรมสันติ 2531)

 

ฉลาดอย่างไม่ซื่อ ก็ คือฉลาดไปเข้าคุก เข้าตะราง สุดปลายทางก็คือ?..นรก
ถ้าซื่ออย่างไม่ฉลาด ก็คือ เซ่อ เหมือนคนละเมอเดินไปตกบันได?ตาย
ผู้กินอยู่เกินพอดี จงเตรียมตัวไว้ให้เต็มที่ เพื่อพบกับความไม่มีอะไรจะกิน?
พุทธทาสภิกขุ
สำนักสวนโมกขพลาราม
อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี

 

" ถ้าใครหลงครูหลงตำรา จิตใจไม่มีทางสงบ ไม่มีทางพ้นทุกข์
แต่เราจะทำให้จิตสงบ หรือพ้นทุกข์ได้ ต้องอาศัยครู อาศัยตำรา "
หลวงปู่ดุลย์ อตุโล
วัดบูรพาราม สุรินทร์

 

" พูดน้อย กลุ้มน้อย ตัณหาน้อย นอนน้อย???
??ถ้าสี่อย่างนี้น้อย ก็ใกล้จะเป็นเซียนแล้ว "
ซุนซือเหมี่ยว

 

" คนที่เชื่อมั่นในตนเองมากเกินไป?เป็นคนที่โดดเดี่ยวอ้างว้างที่สุด?"
ลู่ซู

 

" ชีวิตที่ราบรื่นเกินไป เป็นชีวิตที่สามัญ ไร้ความหมาย??
ของที่ได้มาง่ายเกินไป มักไม่ล่ำค่า?"
เหมาตุ่น

 

" ผู้ใฝ่ศึกษา จะศึกษาข้อดีของคนอื่น มาเสริมข้อด้อยของตนเอง "
หลี่ปุ๊เหว่ย

 

" สูงส่งแต่ไม่เย่อหยิ่ง ชนะแต่ไม่ลำพอง
ปราดเปรื่องแต่รู้จักลงเวที เข้มแข็งแต่มีความอดกลั้น?"
ขงเบ้ง

 

" การตกระกำลำบากเป็นมหาวิทยาลัยชั้นสูงในการฝึกฝนยอดคน?."
เหลียงฉี่เชา

 

" คนอื่นช่วยเรา??เราจะจำไว้ชั่วชีวิต
เราช่วยคนอื่น??จงอย่าจำใส่ใจ "
ฮั่วหลัวเกิง

 

" แมวสีอะไรก็จับหนูได้ "
เติ้งเสี่ยวผิง

 

" เชื่อหนังสือจนหมด สู้อย่ารู้หนังสือเลยยังจะดีกว่า.."
เม่งจื้อ

 

" สิ่งที่ตัวเราไม่ชอบ จงอย่าทำกับคนอื่น "
ขงจื้อ

 

" อย่าทำความชั่ว เพราะคิดว่าผิดนิดเดียว??..
อย่าละเว้นการทำความดี เพราะคิดว่าได้บุญกุศลแค่นิดเดียว?."
เผยสงจือ

 

" น้ำใสสะอาดเกินไป?..ย่อมไร้ซึ่งมัจฉา
คนที่เข้มงวดเกินไป?..ย่อมไร้ซึ่งบริวาร.."
ปันกู้

 

" รู้เหตุผลไม่อับจน รู้กาละไม่ถูกด่า รู้ประหยัดไม่ขัดสน "
ซูลิน

 

" ใช้ชีวิตที่ชอบตำหนิผู้อื่น มาตำหนิตัวเอง??..
ใช้จิตใจที่ชอบอภัยตัวเอง ให้อภัยผู้อื่น??"
เจิงจิ้นเสียนเหวิน

 

" คนที่ทำได้อาจพูดไม่ได้??..คนที่พูดได้อาจทำไม่ได้??."
ซือหม่าเซียน

 

??.คุณธรรมของผู้ยิ่งใหญ่?..
ผู้ยิ่งใหญ่ที่แท้
ให้กำเนิด โดยมิอ้างเป็นเจ้าของ
บำรุงเลี้ยง โดยมิถือเป็นบุญคุณ
เกื้อกูล โดยมิก้าวก่าย
ไม่นำความยิ่งใหญ่ ไปแทรกแซงขู่เข็ญบังคับใคร

เมื่อได้รับการเทิดทูน ท่านไม่ทะนงตน
เมื่อได้รับการทักท้วง ท่านไม่ท้อแท้
เมื่อกิจการงานอันยิ่งใหญ่สำเร็จลง
ท่านถอนตัวจากไป??.!!!!!
 

 

" คุณสมบัติ 3 ประการนี้เป็นสิ่งทรงคุณค่าต่อผู้นำ
??.เมตตาต่อสรรพสัตว์ทั้งหลาย
??.ความเรียบง่ายและมัธยัสถ์ทางวัตถุ
??.มีสำนึกแห่งความเสมอภาคหรือความลดน้อมถ่อมตน "
เล่าจื๊อ

 

ลูกหมาไม่มีโอกาสตอบแทนคุณพ่อแม่
แต่ลูกหมาไม่เคยทำให้พ่อแม่น้ำตาตก
พุทธทาสภิกขุ..

 

พูดมาก เสียมาก
พูดน้อย เสียน้อย
ไม่พูด ไม่เสีย
นิ่งเสีย โพธิสัตว์
หลวงปู่ทวด(เหยียบน้ำทะเลจืด)

 

" อดีตคือความฝัน
ปัจจุบันคือความจริง
อนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน
อย่าจับให้มั่น อย่าคั่นให้ตาย
จะเสียใจตลอดชีวิต "
พระราชสุทธิญาณมงคล(หลวงพ่อจรัญ)
วัดอัมพวัน อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี

 

" พึงระลึกไว้ว่าบางอย่างที่ถูกต้องตามกฎหมายไม่ได้แปลว่า ถูกต้องตามศีลธรรม "
อับราฮัม ลินคอล์น
รัฐบุรุษแห่งสหรัฐอเมริกา
(1809-1865)

 

คนหล๊วกอยู่ตี้เก่า บ่าเต้าคนง่าวตี้เตียวตาง
(คนฉลาดอยู่แต่ที่เก่า ไม่เท่าคนโง่ที่เดินทาง)
หลวงปู่หล้า ตาทิพย์
วัดป่าตึง

 

ปราชญ์สอนว่า.....
โดย: ขงจื้อ
-------------------------------------------------------- หน้า 1
 

เมื่อยากจนก็ยังชื่นชมในคุณธรรม เมื่อมั่งมี ก็ยังชื่นชมในมารยาทจริยธรรม

ไม่ต้องเป็นหว่งคนอื่นที่ไม่เข้าใจเรา แต่ต้องเป็นหว่างว่าเรา ไม่เข้าใจคนอื่น

การศึกษา ค้นคว้า ถ้าเอนเอียงไปสุดสายไม่ว่าข้างใดข้างหนึ่ง ก็มีแต่ผลเสียเท่านั้น

การที่ยอมรับว่าไม่รู้นั้น ก็คือความที่รู้แล้ว

บัณฑิตคิดถึงว่า ทำอย่างไรจะเพิ่มพูนคุณธรรมของตนได้ คนพาลคิดถึงว่า ทำอย่างไรจึงจะเห็นความเป็นอยู่ของตนสะดวกสบายขึ้น โดยไม่คำนึงถึงคุณธรรม

บัณฑิตรู้เฉพาะเรื่อง ที่ชอบด้วยคุณธรรม คนพาลรู้เฉพาะเรื่องที่ได้ผลกำไร โดยไม่คำนึงถึงคุณธรรม

ความผิดอันเนื่องมาจากการประหยัดนั้น มีน้อยเหลือเกิน

ผู้ที่คุณธรรมย่อมไม่ถูกทอดทิ้งโดยโดดเดี่ยว และจะต้องมีเพื่อนบ้านมาคบหา

บัณฑิตมีความอ่อนน้อมถ่อมตน รับใช้ราษฎรด้วยสติปัญญา มีความเอื้ออาทร ใช้ราษฎรโดยชอบด้วยเหตุผล

ไม่คิดถึงความชั่วของคนอื่นในอดีตกาล จึงมีคนโกรธท่านน้อย

จงเป็นนักศึกษาในแบบบัณฑิต อย่าเป็นนักศึกษาในแบบคนพาล

ตั้งใจมุ่งมั่นอยู่กับคุณธรรม ยึดมั่นในคุณธรรมไม่ละทิ้งความเมตตาธรรม ท่องเที่ยวไปในศิลปะวิชาการ

สุรุ่ยสุร่ายเกินไปก็จะอวดหยิ่ง ประหยัดเกินไปก็จะเป็นคนคับแคบ แต่เป็นคนอวดหยิ่งสู้เป็นคนคับแคบดีกว่า

บัณฑิตย่อมมีจิตใจกว้างขวางราบรื่น คนพาลย่อมมีความกลัดกลุ้มอึดอัดตลอดเวลา

อ่อนน้อมแต่ไม่มีจริยธรรม จะกลายเป็นเรื่องเหนื่อยเปล่า ระมัดระวังแต่ไม่มีจริยธรรม จะเป็นความขลาดกลัว

กล้าหาญแต่ไม่มีจริยธรรม จะกลายเป็นก่อการร้าย ซื่อตรงแต่ไม่มีจริยธรรม จะเป็นภัยแก่คนอื่น

ยังปรนนิบัตติคนที่มีชีวิตไม่เป็น จะปรนนิบัติเซ่นไหว้เทพเจ้ากับผีได้อย่างไรเล่า

บัณฑิตมีความสามัคคีต่อกัน แต่ความคิดกับการกระทำไม่เหมือนกัน คนพาลมีความคิดกับการกระทำเหมือนกัน แต่ไม่มีความสามัคคี

ปรนนิบัติบัณฑิตเป็นเรื่องง่าย แต่ทำให้บัณฑิตรักเป็นเรื่องยากลำบาก เพราะว่าถ้าไม่ชอบด้วยลักษณะธรรมบัณฑิตก็ไม่รัก

ต่างตักเตือนให้กำลังใจกันและกัน อยู่กันด้วยความสามัคคี เรียกว่าเป็นนักศึกษาได้

ในระหว่างเป็นเพื่อนกันต้อง ตักเตือนให้กำลังใจกันและกัน ในระหว่างพี่น้องต้องสามัคคีกัน

เมื่อรักเขาจะไม่ให้กำลังใจเขาได้หรือ เมื่อซื่อสัตย์ต่อเขาจะไม่ตักเตือนสั่งสอนเขาได้หรือ

บัณฑิตย่อมมีความอับอายที่พูดไปแล้วนั้น เกินกว่าที่ทำไป

ปราชญ์ย่อมหลีกเลี่ยงสังคมที่เลวร้าย สถานที่เลวร้าย มารยาทที่เลวร้าย และวาจาที่เลวร้าย

ผู้ที่ไม่มีการไตร่ตรองให้ยาว ในอนาคตไกลจะต้องมีภัยที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหัน
--------------------------------------------------------------------
 

ปราชญ์สอนว่า.....
โดย: ขงจื้อ
-------------------------------------------------------- หน้า 2
 

ตำหนิตนเองให้มาก ตำหนิผู้อื่นให้น้อย ก็จะไม่มีใครโกรธแค้น

รวมอยู่กันเป็นหมู่ ตลอดวันไม่เคยพูดถึงธรรมที่ชอบ ทำตนเป็นคนฉลาดในเรื่องเล็กๆน้อย ต่อไปเห็นจะลำบาก

บัณฑิตขอร้องกับตนเอง ส่วนคนพาลนั้นจะขอร้องกับคนผู้อื่น

บัณฑิตทีความภาคภูมิใจในตนเอง โดยไม่แย่งชิงความภาคภูมิใจของคนอื่น บัณฑิตมีความสามัคคี แต่ไม่เล่นพวกกัน

พูดไพเระาตลบแตลงทำให้สูญเสียคุณธรรม เรื่องเล็กไม่อดกลั้นไว้จะทำให้แผนเรื่องใหญ่เสีย

ทุกคนเกลียดก็ต้องพิจารณา ทุกคนรักก็ต้องพิจารณา

เพื่อนที่ซื่อตรง เพื่อนที่มีความชอบธรรม เพื่อนที่มีความรู้ ทั้ง 3 ประเภทนี้มีประโยชน์แก่เรา

เพื่อนที่ประจบสอพลอ เพื่อนที่ทำอ่อนน้อมเอาใจ เพื่อนที่ชอบเถียงโดยไม่มีความรู้ ทั้ง 3 ประการนี้เป็ยภัยแก่เรา

บัณฑิตมีความกลัวอยู่ 3 ประการ กลัวประกาศิตของสวรรค์ กลัวผู้มีอำนาจ กลัวคำพูดของอริยบุคคล

นิสัยคนมีความเหมือนกัน แต่การศึกษาทำให้แตกต่างกัน

เฉพาะคนที่มีปัญญาสูง กับคนที่โง่มากเท่านั้น ที่ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงเขาได้

รักความเมตตาแต่ไม่มีการศึกษา เสียอยู่ที่ถูกหลอกลวงง่าย รักความรู้แต่ไม่มีการศึกษา เสียอยู่ที่ความรู้นั้นกระจัดกระจายไม่มีฐานที่ตั้ง

รักความซื่อสัตย์ แต่ไม่มีการศึกษา เสียอยู่ที่เป็นภัยแก่ตนโดยง่าย รักพูดตรงความจริง แต่ไม่มีการศึกษา เสียอยู่ที่การพูดจะเป็นการทำร้ายผู้อื่นได้โดยง่าย

รักความกล้าหาญ แต่ไม่มีการศึกษา เสียอยู่ที่ก่อความไม่สงบได้ง่าย รักความเข้มแข็ง แต่ไม่มีการศึกษา เสียอยู่ที่เป็นคนมุทะลุได้ง่าย

อ่านหนังสือโดยไม่ค้นคิด การอ่านจะไม่ได้อะไร ค้นคิดโดยไม่ได้อ่านหนังสือ การค้นคิดจะเปล่าประโยชน์

ทบทวนเรื่องเก่าและรู้เรื่องใหม่ขึ้นมาอีก ก็จะเป็นครูได้

นักศึกษาสมัยก่อน ศึกษาเพื่อให้ตนมีความสำเร็จในการศึกษา นักศึกษาในปัจจุบัน ศึกษาเพื่อให้คนอื่นรู้ว่าตนเองมีการศึกษา

ชอบเอาสองคนมาเทียบว่าใครดีกว่าใคร เธอเองเก่งพอแล้วหรือ สำหรับเราไม่มีเวลาว่างมาทำเช่นนั้น

แสร้งพูดไพเราะ แสดงความน่ารัก เพื่อให้ถูกใจคน คนประเภทนี้น้อยนักที่จะเป็นคนมีเมตตาธรรม

ผู้ที่มีเมตตาธรรมเท่านั้น จึงจะสามารถรักคนด้วยความจริงใจ และจึงสามารถเกลียดคนด้วยความจริงใจ

ผู้มีปัญญาชื่นชมน้ำ เป็นผู้ขยัน ผู้มีความสุข ผู้มีเมตตา ชื่นชมภูเขา เป็นผู้รักสงบ เป็นผู้มีอายุยืน

ผู้ที่มีเมตตาธรรมเท่านั้น เวลาพูด เขาพูดอย่างเชื่องช้า ไม่พูดเชื่องช้าได้หรือ เพราะเมื่อพูดไปแล้ว ต้องทำตามที่พูดด้วยความลำบาก

ผู้ที่มีความเข้มแข็ง กล้าหาญ ซื่อสัตย์ พูดช้าก็ใกล้กับความมีเมตตาธรรมแล้ว

ผู้มีคุณธรรมต้องมีคำพูดที่ดี แต่ผู้มีคำพูดที่ดี ไม่ต้องใช่เป็นคนที่มีคุณธรรมเสมอไป

ผู้มีเมตตาธรรมต้องเป็นผู้ที่กล้าหาญ แต่ผู้กล้าหาญ ไม่ใช่ต้องเป็นคนที่มีเมตตาธรรมเสมอไป

เลี้ยงดูพ่อแม่ให้มีชีวิตอยู่ได้เท่านั้นนะหรือ ถ้าเช่นนั้น หมากับม้าก็ได้รับการเลี้ยงดูให้มีชีวิตอยู่เช่นกัน

บัณฑิตให้ความเมตตากรุณาแก่ผู้อื่น ใช้คนทำงานแต่คนไม่โกรธแค้น ความต้องการของเขาไม่เป็นความโลภ มีความสงบแต่ไม่มีความเย่อหยิ่ง มีความสง่าแต่ไม่มีความโหดเหี้ยม..
 
 


ถ้าก้าวพลาดไปหนึ่งก้าวจะเป็นไร เพราะยังมีก้าวใหม่ที่มั่นคง
              1
 

ในกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว ปลาย่อมว่ายทวนน้ำเสมอ
ปลาที่ลอยตามน้ำ ก็มีแต่ปลาตาย
มนุษย์ต้องต่อสู้กับอุปสรรค เหมือปลาว่ายทวนน้ำ
ผู้ที่ปล่อยชะตาไปตามเหตุการณ์
ก็เหมือนคนที่ตายแล้ว
   
ว่าวจะลอยขึ้นสูงได้ เพราะเหตุที่ต้านลม
ถ้าหมดลมว่าวก็ตก มนุษย์เราจะขึ้นสูงอยู่ได้
ก็เพราะต้องต่อสู้อุปสรรค
ชีวิตที่ไม่เคยพบอุปสรรค จะหาทางก้าวหน้าไม่ได้เลย
   
ชีวิตคือการต่อสู้ ศัตรูคือยากำลัง
อุปสรรค คือหนทางแห่งความสำเร็จ
ขอให้เราทั้งหลายพึงใจในการต่อสู้
ยินดีเผชิญหน้ากับศัตรู และกล้าฝ่าฟันอุปสรรค
   
ดอกไม้งามได้เพราะ รูปลักษณ์ และสีสัน
คนจะงามได้เพราะ พระธรรม
   
การยินดีในธรรมย่อมชนะความยินดีทั้งปวง
รสแห่งธรรม ย่อมชนะรสทั้งปวง
การให้ทานธรรม ย่อมชนะการให้ทานทั้งปวง
   
ยิ้มแย้มอย่างแจ่มใส เห็นใครทักก่อน
นี่คือ.. วิธีแสดงเสน่ห์แบบง่ายๆ แต่ให้ผลมาก
   
ทุกชีวิตย่อมมีปัญหา ปัญหามีมาให้แก้
ไม่ใช่มีมาให้กลัดกลุ้ม การแก้ปัญหา เป็นหน้าที่ของชีวิต
   
บางคน มีวัตถุอำนวยความสะดวกมาก
แต่ยังหาสุขไม่ได้
บางคนมีวัตถุอำนวยความสะดวกไม่มาก
แต่หาสุขได้
สุขหรือไม่สุข....
ไม่ได้ขึ้นอยู่กับวัตถุ แต่ขึ้นอยู่ที่ใจ
ที่มองเห็นความเป็นจริงของโลกและชีวิต
จนสามารถปล่อยวางคลายความยึดมั่นได้
   
การให้อภัยไม่ต้องลงทุนอะไรเลย
แต่การแก้แค้นลงทุนมาก
   
เวลาเป็นยารักษาความทุกข์ ถ้าเราปล่อยให้ผ่านไป
ยิ่งนานเท่าไร ความทุกข์ก็ยิ่งลดลง
และอาจจะหายไปในที่สุด
 
การสะกิดคุ้ยเขี่ย ความผิดพลาดของผู้อื่น
ปมด้วยของผู้อื่น มีแต่จะทำให้เขาเสียใจ และอาจทำให้เสียมิตร
ส่วนรา.... ไม่ได้อะไรเลย
   
เรายังเคยเข้าใจผิดผู้อื่น
ถ้าคนอื่นเข้าใจเราผิดบ้าง
ก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องแปลกอะไร
ทำไมต้องเศร้าหมอง
ในเมื่อเราไม่ได้เป็นอย่างที่ใครเข้าใจ
   
อย่าโกรธฟุ่มเฟือย อย่าโกรธจุกจิก
อย่าโกรธไม่เป็นเวลา อย่าโกรธมาก
จะเสียสุขภาพกาย และสุขภาพจิต
   
คนที่ถูกนินทาด่าว่ามีอยู่ทั่วไป ถ้าจะเพิ่มเราเป็นผู้ถูกนินทา
เข้าไปอีกสักคน จะเป็นไรไป
   
การนินทาว่าร้ายเป็นเรื่องของเขา
การให้อภัยเป็นเรื่องของเรา
   
การชอบพูดถึงความดีของเขา คือความดีของเรา
การชอบพูดถึงความไม่ดีของเขา คือความไม่ดีของเรา
 
เราเข้าใจเขาผิด เรายังรู้สึกเสียใจ
เขาเข้าใจเราผิด ถึงเขาไม่พูด เขาก็คงรู้สึกเสียใจบ้างเหมือนกัน
 


 

 

 


ออฟไลน์ เด็กเชียงใหม่

  • ตติยะ
  • ***
  • กระทู้: 140
  • เพศ: ชาย
  • จอมขมังเวทย์แห่งนครพิงค์
    • MSN Messenger - minnakrub@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: ปรัชญา
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 03 พ.ค. 2550, 11:36:56 »
อ่านแล้วได้ความรู้มากเลยคับ ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆคับ
นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะภะกะสะ นะมะอะอุ
สุวิอะนะสะมะ อะสังวิสุโลปุสะพุภะ
สุวะอังอาภะ นิมุปัสสะ