:059:เมื่อก่อนนั้น ฉันเป็น นักศึกษา
เขาเรียกว่า ปัญญาชน คนรุ่นใหม่
มีความคิด ที่ร้อนแรง และกว้างไกล
หวังจะสร้าง สังคมใหม่ อุดมการณ์
ให้ผู้คน ทุกแห่งหน และชนชั้น
มีสิทธิ เสมอกัน ทุกสถาน
ล้มระบอบ อำนาจ เผด็จการ
สร้างตำนาน สังคมใหม่ ให้รุ่งเรือง
หวังเห็นฟ้า สีทอง ผ่องอำไพ
ประชาชน เป็นใหญ่ กันสืบเนื่อง
สร้างแนวร่วม จากป่า ประสานเมือง
ทำทุกเรื่อง ตามลัทธิ อุดมการณ์
คือความคิด ความฝัน เมื่อวันก่อน
เมื่อมองย้อน กลับไป ให้สงสาร
สิ่งที่คิด ว่าเป็น อุดมการณ์
คือ"วัวงาน" เขาหลอกใช้ ในการเมือง
เมื่อเสียศูนย์ จึงเกิด ความสูญเสีย
ให้อ่อนเพลีย หมดแรงใจ ในทุกเรื่อง
เก็บความแค้น ที่ครุกรุ่น ความขุ่นเคือง
จึงทิ้งเมือง สู่ป่า หาหนทาง
มาจับปืน ยืนหยัด ปฏิวัติ
และฝึกหัด อาวุธ ทุกทุกอย่าง
เข้าต่อสู้ อำนาจรัฐ ที่จัดวาง
เป็นหนทาง ปฏิวัติ ประชาชน
แต่แล้วมา วันหนึ่ง จึงได้รู้
ที่ต่อสู้ นั้นไร้ ซึ่งเหตุผล
มันเป็นเพียง ความคิด ปัญญาชน
จึ่งดั้นด้น จากป่า สู่นาคร
สังคมไทย เปิดกว้าง ทางความคิด
จะถูกผิด เปิดให้นำ เสนอก่อน
ต่อสู่กัน ในระบบ ตามขั้นตอน
มีองค์กร มากมาย ให้ชี้นำ
เดินอยู่บน ถนน นักการเมือง
พบแต่เรื่อง ผลประโยชน์ ให้น่าขำ
เรื่องดีดี น้อยที่ จะกระทำ
ความระยำ แอบทำ กันทุกคน
ทั้งกอบโกย โกงกิน และโป้ปด
เป็นกันหมด ทุกยุค ทุกแห่งหน
ไม่ได้มา ด้วยเล่ห์ เอาด้วยกล
ทำเพื่อผล ประโยชน์ แก่ตนเอง
จึงละทิ้ง ทุกอย่าง ที่สร้างมา
กลับสู่ป่า ศึกษาธรรม อย่างรีบเร่ง
ให้ละอาย ต่อบาป จึงกลัวเกรง
ฝึกตนเอง ในทางธรรม นำชีวี
บนเส้นทาง สายธรรม นำชีวิต
ธรรมลิขิต ทางใหม่ ให้สดศรี
จากคนเลว คนบาป เป็นคนดี
ธรรมนั้นชี้ ทางใหม่ ให้เราเดิน
เดินไปตาม เส้นทาง ของพุทธะ
สอนให้ละ ลาภยศ และสรรเสริญ
ให้รู้จัก เพียงพอ ไม่ขอเกิน
ให้เพลิดเพลิน ในกุศล ผลความดี
ได้เห็นธรรม รู้ธรรม นำชีวิต
แต่ยังติด ไม่ได้"ทำ" ไปทุกที่
เพียงแต่รู้ แต่เห็น ก็ยังดี
คงจะมี เวลา ที่ได้"ทำ"......
ศรัทธาในพระธรรมคำสั่งสอนขององค์พระสัมมา
ปรารถนาในทางธรรม
รวี สัจจะ
วจีพเนจร-คนรอนแรม
๑๖ มิถุนายน ๒๕๕๒ เวลา ๑๔.๕๑ น. ณ ชายป่าห้วยขาแข้ง อุทัยธานี