กระดานสนทนาวัดบางพระ

หมวด มิตรไมตรี => บทความ บทกวี => ข้อความที่เริ่มโดย: ~เสน่ห์ต้นน้ำ~ ที่ 03 ส.ค. 2552, 12:00:01

หัวข้อ: >> ไข้กิเลส 2009
เริ่มหัวข้อโดย: ~เสน่ห์ต้นน้ำ~ ที่ 03 ส.ค. 2552, 12:00:01
>> ไข้กิเลส 2009   
 
นับว่าในช่วงปี 2009 นี้
มีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองเราต่าง ๆ มากมาย..

ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ-การเมือง
รวมถึง..ไข้หวัดมรณะ 2009..
ซึ่งเป็นที่แตกตื่น..
และหวาดวิตกกังวลไปทั่วทุกสารทิศ

เพื่อความอยู่รอดในการดำเนินชีวิต..แบบเอาตัวรอด..
ให้พ้นจากพิษภัยต่าง ๆ...
จึงทำให้ทุกคนต้องดินร้นหนีเอาตัวรอด...

แต่ในมุมมองที่แตกต่าง..
เราจะพบว่า..
ทุก ๆ วินาทีเกิดการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา..
ดังนั้น..ทุก ๆ คนจึงต้องแสวงหา..ที่พึ่งที่ยึดเหนี่ยวใจ..
แสวงหาหนทางและวิธีป้องกันตัว..
เพื่อความอยู่รอด..
และการดำรงชีวิตความเป็นมนุษย์ให้ยาวนานที่สุด..


ธรรมชาติได้สอนให้มนุษย์..
รู้จักที่จะเอาตัวรอด..ในทุก ๆ วิถีทาง..

ในความเป็นจริง..
ไม่ว่าโลกของเราจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร..
แต่มีสิ่งหนึ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลงในจิตใจของคน..
ที่เป็นเชื้อโรคร้าย..
นั่นคือ..โรคกิเลส..(โรคความเห็นแก่ตัว)..

เชื้อโรคร้ายจะมีผลอันตรายถึงเพียงใด..
ที่สำคัญ..เราอย่าให้โรคแห่งความวิตกกังวล..
ให้เกิดขึ้นในจิตใจของเรา..
เพราะโรควิตกจะสร้างโรคที่ถาวรให้แก่เรา..

โรคบ้างโรค..บางครั้งรักษา..ก็หาย..
โรคบ้างโรค..บางครั้งรักษาแล้ว..ก็ไม่หาย..
โรคบ้างโรค..เป็นแล้ว..ไม่ต้องรักษาก็หาย...

เพราะฉะนั้น..
ขอให้เรารับรู้ว่า..โรคบางโรค..
เมื่อเป็นแล้ว...ก็พรากชีวิตของเราไปได้แต่ในโลกนี้
แต่โรคที่อันตรายที่สุดในชีวิตของมนุษย์..
ดังที่ได้กล่าวแล้ว..คือ..โรคกิเลส..(โรคความเห็นแก่ตัว)..นี้..
แม้เราตายไปกี่ครั้ง..มันก็ไม่หมดไปจากจิตใจของเราได้..
ถ้ายังไม่บรรลุธรรม..

จงเห็นตัวแก่..(เห็นแล้วปลง)..
ดีกว่า..เห็นแก่ตัว..(เห็นแล้วเอา)..  

ที่มาhttp://www.dhammathai.org :054:
หัวข้อ: ตอบ: >> ไข้กิเลส 2009
เริ่มหัวข้อโดย: ~เสน่ห์ack01~ ที่ 03 ส.ค. 2552, 12:07:33
ขอให้เรารับรู้ว่า..โรคบางโรค..
เมื่อเป็นแล้ว...ก็พรากชีวิตของเราไปได้แต่ในโลกนี้
แต่โรคที่อันตรายที่สุดในชีวิตของมนุษย์..
ดังที่ได้กล่าวแล้ว..คือ..โรคกิเลส..(โรคความเห็นแก่ตัว)..นี้..
แม้เราตายไปกี่ครั้ง..มันก็ไม่หมดไปจากจิตใจของเราได้..
ถ้ายังไม่บรรลุธรรม..





....ขอบคุณต้นน้ำ ที่นำเอาบทความดีๆมาให้อ่านะครับ...เยี่ยมเลย.... :016:


จงเห็นตัวแก่..(เห็นแล้วปลง)..
ดีกว่า..เห็นแก่ตัว..(เห็นแล้วเอา)..


...ตัวแก่ นี่เป็นยังไงหว่า อิอิ....
หัวข้อ: ตอบ: >> ไข้กิเลส 2009
เริ่มหัวข้อโดย: derbyrock ที่ 03 ส.ค. 2552, 08:35:24
ธรรมชาติได้สอนให้มนุษย์..
รู้จักที่จะเอาตัวรอด..ในทุก ๆ วิถีทาง..
 
แต่วิถีทางที่จะเลือก ควรจะเอาตัวรอดในวิถีทางแห่งธรรมน่ะครับ เพราะธรรมะไม่เคยชี้ทางผิดให้กับใครน่ะครับ
ปล.ขอบคุณต้นน้ำกับบทความดีๆน่ะครับ
หัวข้อ: ตอบ: >> ไข้กิเลส 2009
เริ่มหัวข้อโดย: TUM ที่ 03 ส.ค. 2552, 11:36:46
เห็นด้วยครับกับ ท่านต้นน้ำ โรคมีรักษาไม่ได้กับรักษาได้ ผมว่าคนเหล่านี้ ถ้าคงได้ถึงเวลาที่เป็น โรค "โรคชราภาพ,ทุกข์ภาพ" ก็จะคิดได้เอง
หัวข้อ: ตอบ: >> ไข้กิเลส 2009
เริ่มหัวข้อโดย: PeAwPeed ที่ 03 ส.ค. 2552, 11:51:45
ในความเป็นจริง..
ไม่ว่าโลกของเราจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร..
แต่มีสิ่งหนึ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลงในจิตใจของคน..
ที่เป็นเชื้อโรคร้าย..
นั่นคือ..โรคกิเลส..(โรคความเห็นแก่ตัว)..
 



 :015: กิเลส...ความเห็นแก่ตัว คือ เชื่อโรคร้ายที่บั่นทอน ความรู้สึก ผิด ชอบ ชั่ว ดี      :016:


จงเห็นตัวแก่..(เห็นแล้วปลง)..
ดีกว่า..เห็นแก่ตัว..(เห็นแล้วเอา)..


...ตัวแก่ นี่เป็นยังไงหว่า อิอิ....

น่านดิ ตัวแก่ เหมือน แก่ตัว ( แก่ยกกำลังสอง ) หรือเปล่าคะ ต้นน้ำ  อิอิ...


ขอบคุณต้นน้ำมากนะคะ สำหรับบทความดี ๆ ที่นำมาให้อ่าน
 :089:
หัวข้อ: ตอบ: >> ไข้กิเลส 2009
เริ่มหัวข้อโดย: ~เสน่ห์โจรสลัด~ ที่ 03 ส.ค. 2552, 09:22:24
ไม่ว่ายุคสมัยไหนก็มีกิเลสทั้งสิ้น มนุษย์เรามีทุกคนไม่ว่าน้อยหรือมากเท่านั้น

จงพอเพียง เพียงพอในสิ่งที่มี ชีวิตมีสุข ขอบคุณต้นน้ำมากครับ ....  :016: