เป็นเพราะสบายใจที่ได้ทำแบบนั้นก็เลยมาเล่าสู่กันฟังนะครับ ไม่นึกเลยเงินแค่ 20 จะทำให้เราสบายใจได้ขนาดนี้
จะเรียกว่าทำดีไหมหรือเปล่าก็ไม่รู้นะครับ แต่รู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก
เมื่อวานผมไปซื้อของ ราคา 58 บาท ให้แบงค์ 100 ไป 1 ใบ แต่คนขายกลับทอนมา 62 บาท ยอมรับตามตรงตอนแรกผมก็คิดว่าดีวุ้ย เราซื้อของลดราคาไปตั้ง 20 บาท (แต่ความจริงเขาไม่ได้ลดนะครับ คือว่าคิดเข้าข้างตัวเองเพื่อเอาเงิน 20 บาทนั้นไปใช้อย่างสบายใจ)
แต่พอคิดไปคิดมา เรายังจะกล้าเอาเงิน 20 บาทนี้ไปใช้ได้อย่างสบายใจได้อย่างไรกัน เราโกงเขามาเห็นๆ ถึงแม้ว่าคนขายจะไม่รู้ตัวเองว่าทอนเงินผิดก็ตาม แล้วเราก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาทอนเงินผิด เท่ากับว่าเราโกงเขาชัด
เมื่อคิดได้อย่างนั้น เราก็ไม่รู้จะทำไง ก็เลยแกล้งถามไปว่า ราคา 58 บาทใช่ไหมครับ ทำไม ทอนผม 62 บาทล่ะครับ คนขายก็บอก อ้าวทอนผิด ขอบคุณมาก
เท่านี้ล่ะครับ สบายอกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก ก็เลยมาเล่าสู่กันฟังนะครับว่าวันนี้ผมได้ใช้เงิน 20 บาท ทำให้ตัวผมเองสบายใจไปได้ แถมผมไม่ได้เสียเงินจำนวน 20 บาทไปด้วยเพราะไม่ใช่เงินของผม
ถ้าใครเข้ามาอ่านก็อยากชวนให้ทำความดีกันเยอะนะครับ สบายใจกันแน่ เห็นไหมแค่คืนเงินที่ไม่ใช่ของผม ไม่ได้เสียอะไรไปซักหน่อยก็สบายใจแล้วครับ
และสุดท้ายก็ขอขอบคุณที่เสียเวลาเข้ามาอ่านเรื่องไร้สาระของผมนะครับ
ขออนุโมธนาในสิ่งที่ท่านได้ทำในสิ่งที่ถูกครับ
โดยส่วนตัวผมนั้น ผมมีความเชื่อในทางพุทธศาสนา ที่ได้รับการอบรมมาจาก ครูบาอาจาย์ท่านสั่งสอนเอาไว้ว่า
- ตายแล้วไม่สูญ ชาตินี้มีจริง ชาติหน้ามีจริง
- ถ้าเราเอาของเค้ามา เราก็ต้องชดใช้ ไม่ว่าชาติหนึ่งภพใดก็ต้องชดใช้เค้า เป็นหนี้เค้า ก็ต้องชดใช้
- ถ้าเราเอาของเค้ามา อย่างแรกที่จะได้รับ คือความทุกข์ใจ ดังคำที่ว่า ; สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ที่ใจ
ด้วยเหตุนี้ ; ผมจึงอนุมานเอาว่า พระพุทธองค์ท่านจึงบัญญัติ ศีล ข้อ 2 เอาไว้ครับ
----------------- ยิ น ดี ด้ ว ย ค รั บ ส า ธุ --------------------