ด้วยความเคารพครับ
ถ้าสงสัยลองไปหากระทู้เก่าดูนะครับ
ผมยกให้อ่านดู
มีลูกศิษย์ เป็นลูกสัตว์ มันกัดขบ
ถ้าขืนตบ กัดตอบ ก็ขอบจิต
สารพัด ทำได้ มันไม่คิด
เพราะลูกศิษย์ เป็นลูกสัตว์ จึงกัดเรา
ตอนที่ผมไปวัดชายนา ผมได้เห็นข้อความนี้แล้วประทับใจเป็นอย่างยิ่ง จึงขอนำมาไว้ ณ ที่นี้
ผมขอออกตัวไว้ก่อน ไม่ใช่คนขายของ หรือ อาจารย์สัก และก็เวลาใครถามว่าวัตถุนั้นดีไหม
อาจารย์นั้นเก่งไม่ผมไม่กล้าที่จะตอบ เพราะว่าเรื่องพวกนี้ไม่มีตัวชี้วัด
แต่ที่ต้องของมาระบายนี้เพรารู้สึกว่ามันชักจะอย่างไรอย่างไรแล้ว
ผมพิมพ์เรื่องนี้ด้วยความไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่ง
เมื่อวานนี้ผมได้อ่านกระทู้ กระทู้หนึ่งของเวปท่านผู้ใหญ่บ้านแล้ว เกิดความรู้สึกว่า การที่ผมพยายามอยู่เฉยๆ ไม่สนใจต่อเรื่องของคนอื่น นี้มันถูกต้องแล้วหรอ
จริงๆ ลำพังแค่บทความแค่นี้ผมคงไม่คิดอะไรมาก แต่เนื่องจากมันมีเรื่องสะสมมามาก และยิ่งเห็นกระทู้หนึ่งของคุณโยคีในเวป บางพระ ยิ่งแล้ว
นี้ออกพรรษา เลยขออนุญาตสักหน่อย
ข้อความนะครับ
ค่าครู 1500 บาทคับ แต่เขาลดไห้เหลือ 1200บาท เพราะบอกว่าเป็นเด็ก
แต่ผมไปสืบดูนะบางเว็ปเขาบอก อาจารย์ เป็นศิษสายหลวงปู่ ศุข หลวงพ่อเปิ่น
หลวงพ่อกายบ้าง แต่ล่ะเว็ปไม่ค่อยจะเหมือนกัน ที่เขาโฆษณาอ่ะนะ
ผมไปด้วยความตั้งใจ ทางบ้านก็เงินทองเริ่มเกิดปันหา ขาดสน
ผมจึงไปด้วยความ ศรัทธายิ่งเอาเงินที่ผมเก็บไว้ 1200 ไปเพราะเชื่อ
ผมเป็นคนหลงคำโฆษณาง่ายคับ แต่ผมไม่ทราบข้อเท็จจริง
และก็มีคนไปถามหลวงพ่อกาย ที่วัดเลย เขาก็บอกว่าคุนก็ลองไปถามหลวงพ่อดูแล้วจะพบกับ
ความจริงที่โหดร้าย ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงผมว่าบาปมากๆๆเลยนะครับ นำเอาชื่อครูบาอาจารย์
ต่างๆๆๆมาใช้พรำเพรื่อ คนๆๆเดียวไม่น่าจะเป็นศิษสายอาจารย์ดังๆๆๆถึงหลายท่าน
และถ้าเป็นอย่างนั้นจริงน่าจะสงสารผมบ้าง น่าจะบอกว่าสักไม่ได้นะ
ผมยังเด็กอยู่แท้ๆๆๆๆ เสียใจอย่างยิ่งครับ บอกตรงๆๆไม่เกิดผลไรเลย ใครทราบข้อเท็จจริงอย่างไรแนะนำทีครับ
แง้ๆๆๆๆๆๆๆๆ ขอคำพูดช่วยปลอบผมด้วยครับ เสียจัยมากที่เอาเงินที่พ่อแม่หาอย่างลำบาก
ขอเริ่มเลยแล้วกันนะครับ
ก่อนอื่นผมต้องขอตำหนิ เจ้าของกระทู้ดังกล่าว ที่ไม่ไต่ตรองให้รอบคอบก่อน ที่จะสัก และ
ไม่ควรคาดหวังอะไรจากการสักมากมาย นัก ตัวของเราเราต้องทำมากกว่าขอ มากกว่าพึ่งคนอื่น
มาเข้าเรื่องกันเลยครับ
ถ้าท่านเคยอ่านกระทู้ หรือบทความเกี่ยวกับเรื่องการสักเสกเลขยันต์ จะพบกระทู้กึ่งโฆษณาของอาจารย์ตนหนึ่ง ที่จัดอันดับตนเองอยู่หนึ่งในสิบอันดับ ของเกจิอาจารย์ของไทยที่เป็นที่นิยมในต่างประเทศ
ขอเริ่มประเด็นแรกเลยครับ
ทำไมอาจารย์ตนนั้นถึงเป็นฆาราวาสคนเดียวในอันดับ ทั้งที่ผมเชื่อว่า ยังมีอาจารย์ฆาราวาสหลายๆท่าน ที่น่าจะติดอันดับเป็นที่รู้จักมากกว่า แถมยังจัดตนเองอันดับสูงกว่าพระสงฆ์เสียอีก
ซึ่งเอาเถอะไม่ว่าอะไรครับ วัวใครก็เข้าคอกคนนั้น ว่าแต่บทความที่ว่าแปลมาจากภาษาจีนนี้ไม่ทราบต้นฉบับ??? อยู่ไหนครับ ผมจะให้ล่ามที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงการต่างประเทศแปลและรับรองเอกสารสำเนาให้ จะได้ทราบกันเลยว่าสำนักพิมพ์ในประเทศไหนจัดอันดับแบบนั้น
ต่อมาที่ว่าเป็นศิษย์ของหลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ นี้ไม่ทราบ ว่า มีหลักฐานอะไรไหมครับภาพถ่ายซักใบ มีไหม เคยมีคนที่วัดบางพระ เห็นจารย์ตนนี้ ไปช่วยสักกุฎิไหนบ้าง ว่าแต่เวลารับพาน ต้องว่าอะไรบ้าง ตัวปลุก ตัวชุมชุมอักขระ โองการยันนะรังสี เค้าไม่ให้กันง่ายๆนะครับ ที่สำคัญกว่า ค่าครูวัดบางพระ 25 บาทดอกไม้ธูปเทียนบุหรี่หนึ่งซอง สมัยก่อน สิบสองบาท ขึ้นเป็นยี่สิบสี่บาทตอนสร้างสะพานแต่เพื่อไม่ให้ต้องทอน เลยเป็นยี่สิบห้าบาท ยกครูพานหนึ่งทนได้เท่าไรแทงเต็มหลังก็ได้ 1500 เรียกว่าค่ากูแล้วไม่ใช่ค่าครู
และที่เคืองกว่า และทำร้ายความรู้สึกของศิษย์บางพระหลายๆ ท่านคือการที่ว่านำภาพพร้อมคำโฆษณาว่า เกจิวัดบางพระก็มาสักยันต์ที่สำนัก ไม่ทราบว่าถ้าเป็นลูกศิษย์บางพระจริงสมควรหรือไม่ที่จักทำอย่างนั้น
ที่สำคัญ พระองค์ที่ไปสักนั้น บวชคงยังไม่ถึงสิบพรรษา เลย เรียกว่า ยังไม่เป็นเถระ จะเป็นเกจิได้เยี่ยงไร อีกอย่างผมไปเที่ยวบางพระ ตั้งแต่กุฏิท่าน้ำ ที่ผมเชื่อว่าเสกของได้ และเห็นว่าตามงานพุทธาภิเษก แทบนครปฐม หรือที่อื่นที่เค้านิมนต์กัน มี ท่านเจ้าอาวาสองค์ปัจุจบัน หลวงพี่ติ่ง หลวงพี่ต้อย
หลวงพี่ญา ส่วนหลวงพี่พงษ์ ผมไม่ทราบข่าวท่านนานแล้ว และหลวงพี่พัน นั้น ท่านออกจากไปวัดไปนานแล้ว ผมว่าผมเที่ยวทุกกุฎิในบางพระนะ ทำไมไม่เคยเห็นพระองค์ดังกล่าว ในภาพที่อ้างถึง
และที่ว่าเป็นพระครู นี้จริงหรือ
ในส่วนของวัดบางพระ ลูกศิษย์ลูกหาต่างๆ ก็ใช้เหล็กมาด ในการสัก ทั้งนั้น ไม่เห็นมีใครใช้เครื่องสักเลย หรือว่าในส่วนนี้เป็นการเพิ่มมูลค่า (ไม่ใช้สินค้าและบริการ) นะครับ
ต่อ
เรื่องของยันต์กำเนิด หรือ อาถันกำเนิด ที่เป็นรูปคนขี่กันนั้น ไม่ใช่ว่าอาจารย์ตนนั้น เรียนไปคนเดียว ผมไม่ทราบว่ายันต์นี้เรียกค่าครูเท่าไร แต่ ตามตำรา เค้าต้องสักไว้ที่ข้างตัว อย่างสีข้าง ต้นขาด้านในด้านนอก เพื่อไม่ให้นอนทับ ในเรื่องนี้ไปถามหลวงตากายได้ ว่าแต่ตามรูปกดไว้กลางหลังเลย
ที่สำคัญ อาจารย์ที่ท่านไปเรียนมา ท่านบอกว่าค่าครูสิบสองบาทดอกไม้ธูปเทียนบุหรี่ก็สักแล้ว
ประเด็นต่อมา
มาเรื่องวัตถุมงคลที่ชื่อว่า นางพิมพรายทอง บ้าง
มีบทความออกมาดังนี้
วิชานี้ท่านอาจารย์.....ได้รวบรวมเอาวิชาจากพระเกจิที่ท่านไปร่ำเรียนมา
ทั้งยันต์นางพิมที่เรารู้จักย่านใกล้วัดบางพระ
ผนวกกับกุมารทองอันเรื่องชื่อในสายดอนตูม นครปฐม
จึงเกิดเป็นสุดยอดวิชาที่ได้ที่สุดของที่สุดทั้งสองวิชาทั้งทางโชคลาภ
เสน่ห์เมตตา พรายกระซิบ
เรียกได้ว่าครบสูตรท่านจึงเรียกชื่อเฉพาะขึ้นมาว่า"นางพิม พรายทอง"
หรือที่ศิษย์เรียกกันติดปากว่า"แม่พิม พรายทอง" จึงเกิดกระแสการเลียนแบบกัน
จนทำให้ศิษย์หลายๆท่านสับสน จึงขอเรียนมา ณ ตรงนี้เลยว่า นางพิม พรายทอง
นั้นมีเพียงอาจารย์.......เท่านั้น
ชื่อของครูบาอาจารย์ยังกล่าวถึงเลย ก็ดีครับ ท่านไม่เสียหายด้วย
แต่เรียนถามนะครับ ไม่ทราบว่าไปเรียนมาที่ไหนครับ คนเรียนนางพิม ไปที่เสกได้ขลัง
มีลูกบุญธรรมหลวงปู่ พระอาจารย์หนึ่งองค์ ทางอยุธยา พระอาจารย์หนึ่งองค์ทางบางเลน อาจารย์สักที่อยู่ทางไทรน้อยหนึ่งคน ผมเป็นคนอยู่แถวๆ ย่านใกล้บางพระนั้นละครับ ผมไม่แน่ใจนะครับว่า
อาจารย์คนดังกล่าวเคยไปกราบหลวงปู่เจ้าของวิชานางพิมหรือเปล่า? ถ้าไป เห็นว่าไปกราบเฉยๆ ไม่มีดอกไม้ธูปเทียนไป การเป็นศิษย์เป็นอาจารย์ ผมว่าไม่ใช่แค่ไปกราบแล้วขอเรียนท่านจึงให้ ปู่ท่านดูคนท่านจะสอนอะไรใคร ท่านดูนานๆ นะครับ อย่างน้อยคนจะเรียนวิชาสักจากท่านต้องอยู่กับท่านเป็นปี
ไอ่คนที่ไปขอๆท่าน ท่านก็ให้เอาพิมพ์สักให้ไปเลย ให้ลอกตำราไปด้วย แต่ตัวเสก จริงๆ นี้ไม่ทราบว่ารู้จริงกันหรือเปล่า? ได้ไปหมดหรือเปล่า? ไปให้ท่านเป่าหัวก็เป่าหัว และเหมาว่าเป็นการครอบครูซึ่งการครอบครูต้องมีเครื่องบูชาครูบาอาจารย์
เอาแค่นี้ก่อนนะครับ ?ของจริงต้องนิ่งใบ้? ผมเคยเห็นประโยคนี้ที่วัดปรีดาราม
ขอแสดงความนับถือ
Gearmour