แถมครับ
เรื่องแผลจากการกินของสงฆ์
ในอดีตหลวงท่านเคยอนุญาตไว้กับพี่นนทาความว่า อนุญาตให้คนที่มาอาศัยวัดอยู่ แล้วช่วยทำงานวัด มาเบิกนมข้น กาแฟตึกริมน้ำ(ที่พักของหลวงพ่อ) ผมรู้และรับทราบจากหลวงพ่อโดยตรงว่า หลวงพ่อผู้ไม่ประมาณ ท่านจึงชำระหนี้สงฆ์ไว้ล่วงหน้าก่อนทุกๆปี ด้วยเงินจำนวนหนึ่งเพื่อป้องกันคนที่มาวัดตกนรก เพราะเที่ยวไปเก็บของวัดไป จะโดยเจตนาหรือไม่เจตนาก็ดี ล้วนแต่มีโทษทั้งสิ้น เช่น เก็บดอกไม้, ผลไม้ ที่มีอยู่ในวัด เป็นต้น ท่านทำตามอาจารย์ของท่าน คือหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ( ในประวัติหลวงพ่อปาน วัดบางนมโคก็มี กรุณาหามาอ่านได้) แต่ในปัจจุบันหลวงพ่อท่านไม่อยู่แล้ว เป็นอดีตธรรมไปแล้ว แต่ในปัจจุบันไม่มีใครทราบว่า เจ้าอาวาสองค์ใหม่พระครูปลัดอนันต์ ท่านปฏิบัติตามหลวงพ่อหรือเปล่า จึงไม่ควรจะเสี่ยงกับนรก ครั้งหนึ่งหน้ามะม่วง มะม่วงของวัดออกลูกเต็มต้น หลวงพี่องค์หนี่งท่านขยันนำลูกน้องของท่านมาสอย เอามาเป็นประโยชน์ด้วยความปรารถนาดี แล้วท่านก็นำมาแจกคนในวัดรวมทั้งผมด้วย ผมก็ต้องรับความปรารถนาดีของท่านแต่ผมไม่ค่อยแน่ใจเรื่องการกินของสงฆ์ ซึ่งกินแล้วเป็นแผลที่ที่ใจ หากปล่อยไว้นานจะรักษายาก จึงนำเงินไปชำระหนี้สงฆ์เสีย แผลที่ใจก็หายได้สนิท คนโง่มองไม่เห็นเพระความโลภบังตา (ตาปัญญา) ยิ่งมานะสูง คิดว่าตนเองแน่ แผลที่ใจก็เป็นเรื้อรังรักษาได้ยาก
วิธีชำระหนี้สงฆ์
ผมจำมาจากเพื่อนผู้ร่วมปฏิบัติธรรมมากับผมว่า 20 ปีแล้ว ท่านทำดังนี้คือ ว่างๆ ท่านก็นำเงินไปใส่ตู้ชำระหนี้สงฆ์ของวัดแล้วอธิฐานว่าข้าพเจ้าชำระหนี้สงฆ์ไว้ล่วงหน้าจนกว่าจะถึงพระนิพพาน เพราะความตายไม่มีนิมิตเครื่องหมาย แต่ชีวิตเป็นของไม่เที่ยง ซึ่งนับว่าเป็นอุบายที่ดี ใครเห็นด้วยก็นำไปใช้ท่านไม่หวง การชำระหนึ้สงฆ์จึงเป็นการรักษาแผลที่ใจได้อย่างดี
http://www.siamsouth.com/smf/index.php?topic=3089.0
พระราชพรหมยานมหาเถระ (หลวงพ่อฤาษีวัดท่าซุง)
รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ. สมศักดิ์ สืบสงวน จากหนังสือ ธรรมที่นำสู่ความทุกข์ (เล่ม4)หน้าที่99-100
-----------------------------
ทุกวันนี้ ก็แว่บเข้าวัดไปทำบุญหยอดตู้แล้วก็กลับ สบายใจดีครับ