ตถตาอาศรม เขาเรดาร์ บ้านบึง ชลบุรี
อังคารที่ ๑ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๕๔
.....ในปัจจุบันนี้มีผุ้ที่สนใจในการปฏิบัติธรรมมากขึ้น
โดยเฉพาะคนหนุ่มสาววัยทำงาน เพราะช่วงชีวิตวัยนี้
ต้องวุ่นวายกับการทำมาหาเลี้ยงชีพและสร้างครอบครัว
ต้องเจอะเจอภาวะความกดดันหลายด้านในชีวิตการงาน
และชีวิตครอบครัว ชีวิตเต็มไปด้วยความวุ่นวายและความ
กดดัน จนทำให้เกิดอาการเครียด คนที่มีพื้นฐานบุญกุศลเก่า
ก็จะหาทางออก โดยการปฏิบัติธรรมเพื่อทำให้ใจนั้นสงบ
หลบหนีความวุ่นวายไปชั่วขณะ ส่วนคนที่ไม่มีต้นทุนบุญกุศลเก่า
ก็หาทางออกทางระบายไปกับอบายมุขทั้งหลาย เสพสุขชั่วขณะ
เพื่อให้ลืมภาระและความกดดัน เพราะแต่ละคนนั้นมีพื้นฐานชีวิต
ที่แตกต่างกันออกไป ดั่งที่เคยกล่าวไว้ว่า..บุคคลแตกต่างกันด้วยธาตุ
และอินทรีย์ จึงทำให้มีที่มาและที่ไปที่แตกต่างกัน...กรรมแหละจำแนก
สัตว์และบุคคลให้แตกต่างกัน....
..........................................................
...ฝากสายลม...ผ่านร่มไม้...จากภูผา...บทที่ ๒...
...............................
...คนเหมือนกัน แต่ต่างกัน ที่ความคิด
เพราะว่าจิต พื้นฐาน นั้นแตกต่าง
และมีจุด เริ่มต้น คนละทาง
เกิดช่องว่าง ระหว่างจิต คิดต่างกัน
...ในความเห็น นั้นอาจ จะแตกต่าง
แต่มีทาง ที่จะร่วม สมานฉันท์
แสวงหา ซึ่งจุดร่วม มารวมกัน
จุดต่างนั้น สงวนไว้ ไม่ล้ำกัน
...ควรอ่อนน้อม ถ่อมตน ให้คนรัก
ควรรู้จัก การผูกจิต คิดสร้างสรรค์
ความร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมแบ่งปัน
สิ่งเหล่านั้น จะผูกมิตร และจิตใจ
...คนโบราณ กล่าวไว้ ให้น่าคิด
คนจะงาม งามที่จิต จึงสดใส
คนจะรวย ก็รวยที่ มีน้ำใจ
คนจะแก่ ใช่แก่วัย มีปัญญา
...สิ่งเหล่านั้น เราท่าน ต่างก็รู้
พบเห็นอยู่ แต่ไม่คิด ถึงเนื้อหา
เพียงผ่านหู ผ่านใจ และผ่านตา
ไม่นำมา พินิจ และคิดตาม
...คนมากมาย ที่รู้ธรรม และเห็นธรรม
แต่ไม่นำ ปฏิบัติ เพราะมองข้าม
เพียงแต่รู้ เพียงแต่เห็น แต่ไม่ตาม
เกิดคำถาม ว่าทำไม ไม่เจริญ
...ไม่เจริญ ในธรรม เพราะจำได้
รู้กันไป แต่ไม่ทำ ก็เคอะเขิน
รู้ท่วมหัว แต่ทำตัว ไม่เจริญ
เพราะรู้เกิน และรู้มาก จึงยากนาน
...รู้อะไร ก็ไม่สู้ เท่ารู้จิต
รู้ความคิด ทั้งดีชั่ว รู้แก่นสาร
รู้จังหวะ รู้เวลา รู้เหตุการณ์
รู้ด้วยญาณ นิมิต จิตถึงธรรม....
...ด้วยความปรารถนาดีและไมตรีจิต...
...รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม-วจีพเนจร...
๑ มิถุนายน ๒๕๕๔ เวลา ๐๘.๓๒ น. ณ ตถตาอาศรม บ้านบึง ชลบุรี