เรื่องผี ย้อนหลังไป25ปีก่อนครับ ข้าพเจ้าจำได้ว่า ตอนนั้นอายุได้15ย่างเข้า16 ทุกๆตอนเย็น ข้าพเจ้าชอบไปเล่นน้ำคลองกับเพื่อนครับ
มีอยู่วันหนึ่งก็เล่นน้ำคลองตามปรกติ วันนั้นโชคดีจริงๆ มีก๋วยเตียวเรือพายผ่านมาพอดีครับ
ทุกคนในกลุ่มต่างก็ตะโกนไปพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย ลุงๆ จอดเทียบเลยครับลุง ชิดขอบเลยครับ
กินประจำอยู่แล้วครับ ก๋วยเตียวเรือของลุง แต่ลุงจะพายผ่านแถวที่ข้าพเจ้าเล่นน้ำคลองทุกๆ3วันครับ
วันนี้ก็กินไปตามปรกติกับเพื่อนอีก7ชีวิต ลืมบอกไปครับก๋วยเตียวเรือชามละ 50 สตางค์ครับ อร่อยมากๆ
นั่งกินไปแบบท่าสบายๆของตามแต่ละบุคคล บังเอิญข้าพเจ้าเหลือบมองไปเห็นสุนัขเน่าลอยมาครับ
กำลังพองได้ที่แบบว่า จะระเบิดแล้วก็ไม่ปาน นึกยังไงไม่รู้ข้าพเจ้าอุตริเอาก้อนหินไปปา
เสียงดัง ปุ ปุ แมลงวันกระจาย และมาพร้อมกลิ่นอันสุดจะทน สุดท้ายวงแตก ตามมาเดียวเสียงด่า
ไอ้เวร ไอ้บ้าเอ้ย ไอ้ฉิป.. เหลือแต่ลุงขายก๋วยเตียว กับ ข้าพเจ้า 2 คนที่อยู่กับสุนัขเน่าตัวนั้น
แต่เรื่องกลิ่นข้าพเจ้าทนได้ แต่ทนไม่ได้เรื่องหิวนี้ซิครับ ข้าพเจ้าก็นั่งทานก๋วยเตียวต่อไปแบบยิ้มๆเล็กน้อย
คืนนี้นัดรวมตัวเป็นพิเศษ เพราะเป็นวันเกิดของเพื่อนข้าพเจ้า นัดกันตอน3ทุ่ม เจอกันที่เรือขนทรายลำใหญ่
ถึงเวลาทุกคนก็มากันอย่างพร้อมเพียงครับ อาหาร ขนม น้ำหวานหลากหลายสี ไม่ได้กินเหล้านะครับ
กินกันไปซักพัก ข้าพเจ้าก็นึกอุตริอีกแล้วครับท่าน หลอกผีชาวบ้านที่พายเรือผ่านไปมาดีกว่า
เสียงตอบรับดีมาก เออเอาซิ เออได้เลยบ้านเพื่อนอีกท่านติดริมคลองเดินไปนิดเดียวเอาอุปกรณ์หลอกก่อน
สิ่งที่เอามา มุ้งขาวๆหลังใหญ่มาก แป้งขาว สีแดง และก็ไฟฉาย อุปกรณ์พร้อม คนพร้อม
ได้เวลาละ4ทุ่มกว่าดึกดีละ แต่งหน้าได้คล้ายผีดีแล้ว ต่อตัวกัน3คนครับ ขี่คอกันแบบคณะสิงโตครับ
เอามุ้งคลุมตั้งแต่ศีรษะลงไป ชายมุ้งก็ปล่อยให้ปลิวไปปลิวมา ปากแดงๆเหมือนกินเลือดมาก็ว่าได้
ข้าพเจ้าอยู่บนสุดเพราะตัวเล็กสุด เฮ้ยๆมีเรือมาแล้ว1ลำ เตรียมพร้อมนะ คุยแบบเสียงกระซิบเบาๆ
พอเรือผ่านมาได้ที่ตรงจังหวะ ไฟฉายก็ส่องใส่หน้าตัวเองส่องจากใต้คางขึ้นไปบนหน้าข้าพเจ้า
ทำเสียงแบบเย็นยะเยือก ไปไหนมา ข้าอยากกินเลือด มรึงตาย กรรมจริงหลอกเองดันกลัวซะเอง
สิ้นเสียงโหยหวน สิ่งที่ตามมาคือ คนพายเรือมองมาทางข้าพเจ้าที่ปลอมเป็นผี มองอย่างตั้งใจมาก
มองได้ประมาณ30วินาที สิ่งที่เกิดขึ้น คือ คนพายเรือพายอย่างไม่คิดชีวิตเลย จ้ำพรวด จ้ำพรวด
เสียงตะโกนฟังได้ชัด ผีหลอกโว้ย ปากก็ตะโกนไป มือก็จ้ำพรวดไปด้วยความเร็วสุดยอด
จุดที่ข้าพเจ้าหลอกนั้น คนจมน้ำตายก็มีครับ ศพลอยมาติดก็มีครับเป็นที่ลือว่าเฮี้ยนมาก
บาปกรรมฉิป.. แต่ก็หัวเราะกันตัวขดตัวงอ หัวเราะแบบไม่ออกเสียงทรมานจริงๆเหนื่อยมากๆ
เริ่มจะเที่ยงคืนละ ต่างคนต่างแยกย้ายกันละ ทุกคนกลับหมดเหลือเพียงข้าพเจ้ากับเพื่อนที่อยู่ริมน้ำ
ก็แวะเข้าบ้านเพื่อนก่อน เดินไป คุยไป ยังขำไม่เลิก เรื่องหลอกผีคนพายเรือครับ
พอไปนั่งคุยที่บ้านเพื่อนริมน้ำก็เริ่มดึกมากแล้ว บวกกับเริ่มง่วงแล้ว จึงบอกเพื่อน กรูกับบ้านก่อนนะ
เพื่อนบอกกรูเดินไปส่งเอามะ ข้าพเจ้าก็บอกไม่เป็นไร กรูเดินไปได้กรูไม่กลัว ไปละวุ๊ย
พอเดินมาซักพักหนึ่งก็เป็นทางเปลี่ยว มืดมากแต่พอมองเห็นนิดๆ จุดนี้คนโดนผีหลอกบ่อยครับ
ทางเดินตรงนี้จะเป็นทางแคบๆ แค่คนเดินสวนกันได้แต่ต้องเอียงตัวเวลาเดินสวนกันครับ
มีต้นไทรใหญ่มากข้างสะพานไม้ แคบๆที่ข้าพเจ้าเดิน ลางไม่ดีละนึกในใจ เริ่มเดินเร็วขึ้น
ตอนเดินนี้ซิ ความรู้สึกเหมือนมีคนเดินตาม เดินหนึ่งก้าว เสียงที่ได้ยินก็ตามมาหนึ่งก้าว ใจไม่ดีละ
เสียงเหมือนเดินซ้อนกัน ข้าพเจ้าก็ตัดสิ้นใจกลั้นใจเลยก็ว่าได้ หันหลังกลับไปดูแต่ก็ไม่พบอะไร
เสียงฝีเท้าที่เดินตามเริ่มหายไปละ พอใกล้จะผ่านต้นไทรนี้ซิ ลมก็ไม่ได้พัดอะไร แต่ต้นไทรสั่นอย่างแรง
ใบไม้ร่วงตกมาพอประมาณ อะไรของมันวะนึกในใจ ตอนที่กำลังนึกอยู่นั้น ปรากฏว่า เหมือนมีอะไร
ซักอย่างพุ่งทะยานมาด้วยความเร็ว เป็นความรู้สึกเองนะครับ ตัดสินใจหันกับไปดูอีกไม่เจออะไรเช่นเคย
แต่ต้นไทรยังสั่นไหวอยู่ ลมก็ไม่มี ข้าพเจ้าไม่รู้สึกว่าลมพัดเลย ทุกอย่างเงียบสนิดวังเวงฉิป..
ข้าพเจ้าคิดได้ว่า มีผู้ใหญ่บอก ถ้าอยากเห็นผึ ก็ให้ก้มลงมอง รอดใต้ระหว่างขา แล้วจะเห็นผี
พอเลยต้นไทรมานิดหน่อย เอาวะลองดูซิเป็นไงก็เป็นกัน ตัดสินใจก้มลงไป มองรอดใต้หว่างขา
เวรกรรม สิ่งที่เห็น เป็นเงาดำๆ สูงใหญ่มากๆ เหมือนมองมาทางข้าพเจ้า ความคิดยังไม่ทันสั่งการ
ข้าพเจ้า วิ่งทะยานไปด้วยความเร็วสูงสุด แต่ก็ยังพอมีสติอยู่บางยังอุสานึกถึง ผู้ใหญ่ท่านเล่าให้ฟัง
ถ้าไม่อยากให้ผีตามมา ให้กระโดดแบบ สลับซ้ายไปขวา ขวาไปซ้าย 11ก้าว ข้าพเจ้าก็วิ่งตามนี้ แต่ว่า
แต่ละก้าวกระโดด นั้นไกลจริงๆ เหมือนตัวลอยได้ สงสัยอาจจะตกใจมากๆ จึงเกิดพลังแฝงมั้งครับ
พอผ่าน11ก้าวกระโดดแล้ว ที่นี้ละของถนัดละทางตรงไม่ต้องพูดถึง วิ่งไปเร็วมากๆสายลมปะทะใบหน้า
พอมาถึงตรงที่มีแสงไฟ บวกกับเริ่มมีผู้คน ความเร็วในการวิ่งก็ลดลงตามลำดับ เหนื่อยฉิป..พักหายใจก่อน
พอถึงบ้านได้ไม่ต้องอาบน้ำละคืนนี้ เข้าไปนอนซุกตัวใกล้คุณยายของข้าพเจ้า คุณยายจึงตื่นมาถาม..
เจ้าเป็นอะไร ปรกติไม่เคยนอนกับคุณยายได้ใกล้ชิดเบบนี้ ข้าพเจ้าก็เล่าให้คุณยายฟังสิ่งที่เจอมาครับ
คุณยายก็หัวเราะ เจ้านี้มันน่านักเล่นอะไรไม่เล่น แล้วก็หัวเราะอีก เดียวตื่นเช้าเจ้าไปกับยายนะ
พอตื่นเช้ามาเริ่มหายกลัวละ เลยเดินไปหาคุยยาย ยายจะพาผมไปไหนรึครับ ยายบอกไปวัด
คุณยายพาข้าพเจ้าไปทำบุญ ถวายสังฆทาน และ กรวดน้ำให้กับสิ่งที่ผมเห็น กับ เจ้ากรรมนายเวร
และ ก็ขออโหสิกรรมต่างๆ ที่ข้าพเจ้าได้กระทำอะไรลงไป ขอบคุณคุณยายที่แสนใจดีของข้าพเจ้า
ปัจจุบันคุณยายของผมเสียไปแล้วครับ ด้วยวัย86ปี ถึงทุกวันนี้ข้าพเจ้าก็คิดถึงคุณยายตลอดครับ
จบแล้วครับ ไว้โอกาสหน้า ข้าพเจ้าจะมีเรื่องมาเล่าให้ฟังอีกนะครับ สวัสดี..