ผู้เขียน หัวข้อ: กอไผ่มรณะ  (อ่าน 7084 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
กอไผ่มรณะ
« เมื่อ: 13 พ.ค. 2554, 10:12:07 »
วันที่ 04 มีนาคม พ.ศ. 2554 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7400 ข่าวสดรายวัน

กอไผ่มรณะ

ขนหัวลุก
ใบหนาด

สมัยเด็กผมเป็นเด็กลำน้ำชี มหาสารคาม มีเรื่องสนุกสนานเยอะแยะเลยครับ แต่วันนี้ขอเล่าเรื่องผีหลอกวิญญาณสุดแสนจะน่าขนลุกขนพองสู่กันฟังแล้วกันครับ

ชีวิตเด็กท้องนาต้องช่วยพ่อแม่ทำมาหากินตัวเป็นเกลียว ไม่ใช่สุขสบายแบบเด็กในเมืองใหญ่ ยิ่งพ่อแม่ร่ำรวยยิ่งเอาอกเอาใจ อยากได้อะไรก็เอาเงินซื้อมาพะนอลูกทุกอย่าง ส่วนเด็กลูกทุ่งต้องเลี้ยงวัวเลี้ยงควาย หาปูหาปลา ยิงนกยิงหนูมาผัดมาแกง ยิ่งหน้าแล้งแบบนี้ต้องออกหาไข่มดแดงมาให้พ่อแม่ขาย...โดนมดกัดเจ็บแทบตายก็ต้องทนเอา

ก่อนจะถึงหน้านาค่อนข้างสนุกกับการหาของกินมาเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง พวกผู้ใหญ่ก็เที่ยวหางูสิง นกคุ่ม สุ่มปลาในหนอง ส่วนเด็กๆ ก็ลงน้ำหาหอยหาปู หรือไม่ก็จับจิ้งหรีด กะปอม บางวันโชคดีได้แย้มาให้แม่แกง กินข้าวกันพุงกางไปทั้งบ้าน

เข้าป่าหาหน่อไม้ก็สนุกครับ!

ช่วงที่รอคอยให้ต้นกล้ามันโตจะได้ดำนาซะที ก็คือต้นหน้าฝนที่พระพิรุณเริ่มสาดซ่าลงมา บรรดาหน่อไม้สารพัดชนิดต่างแทงหน่อกันขึ้นมาล่อตาล่อใจชะมัด ไม่ว่าไผ่ตง ไผ่บง ไผ่สีสุก ไผ่รวก ไผ่ซาง...จะกินสดหรือดองใส่ไหไว้กินตอนหน้าแล้งได้ทั้งนั้น

หน่อไม้รวกกินสด...คือเอามาแกงกับใบหญ้านาง ใส่เห็ดหูหนูกับยอดชะอม น้ำแกงต้มน้ำปลาร้า ปรุงรสเผ็ดเค็มตามใจชอบ รับรองว่าอร่อยที่ซู้ดดด...

หน่อไม้ที่นิยมนำมาดองคือ ไผ่ตง ไผ่สีสุก ไผ่ซาง เป็นต้น

พ่อกับผมมักเข้าป่าหาหน่อไม้กันเป็นประจำ อุปกรณ์ก็มี มีดพร้า เสียม กระบุงใส่หน่อไม้ รวมทั้งหนังสติ๊กกับกระสุนดินเหนียวปั้น สำหรับยิงนกยิงหนูอีกด้วย

ไม่ว่ากอไผ่ชนิดไหนล้วนแต่รกไปด้วยใบแห้งๆ สุมกันเป็นกองพะเนิน พ่อจะคอยเตือนให้เอาเสียมเขี่ยดูก่อนให้แน่ใจ ว่าไม่มีงูหรือแมงป่องที่ซุกซ่อนอยู่ข้างใน เพราะอาจจะโดนมันขบกัดเอาได้ง่ายๆ

ต่อจากนั้นจึงเอามีลิดกิ่งหนามจนถึงโคนต้น แล้วค่อยมองหาหน่อโตๆ หน่อยก่อนจะใช้เสียมขุดเอา... เผลอๆ โชคดียังอาจเจอะเจอเห็ดหูหนูป่าตามขอนไม้ผุๆ ที่โดนฝนเข้าก็งามสะพรั่งขึ้นมา ถือว่าเป็นลาภปากวันนี้ก็แล้วกัน

จนกระทั่งถึงวันเกิดเหตุ!

วันนั้นไม่รู้ว่ามีมือดีที่ไหนดอดมาก่อนเรา ไม่ว่าไผ่รวกไผ่ตงกอไหนก็ล้วนแต่เพิ่งโดนขุดหน่องามๆ ไปกินหมดแล้ว แต่เราไม่ยอมแพ้ง่ายๆ หรอกครับ พ่อออกเดิน ดุ่ยๆ นำหน้าผมก็ตามติดไม่ลดละ...

ให้มันรู้ไปซีน่าว่าไอ้พวกมือดีมันจะขุดหน่อไม้ไปกินจนหมดป่าน่ะ

นั่นไง! ผ่านกอไผˆตายซากนั่นไปหน่อยก็เห็นไผ่สีสุกกอใหญ่ กำลังไหวโอนเหมือนจะทักทายอยู่ในสายลมเต็มตา

พ่อปราดเข้าไปใช้เสียมเขี่ยใบไผ่ที่สุมกันอยู่เต็ม...ไม่มีงูเงี้ยวเขี้ยวขออะไรให้ต้องหวั่นกลัว... และแล้วเราก็มองเห็นหน่อไม้โตๆ งามๆ แทงหน่อขึ้นมาล่อใจ แต่พ่อออกจะขี้ระแวงไปหน่อยเลยหยุดชะงัก ขมวดคิ้วย่น เหลียวซ้ายแลขวาอย่างสงสัยอะไรบางอย่าง ตามสัญชาตญาณของคนที่ผ่านประสบการณ์ชีวิตมาโชกโชน

"ทำไมไอ้พวกนั้นไม่มาขุดหน่อไม้งามๆ นี่ไปกินวะ?"

"ช่างมันเป็นไร! เรารีบขุดกันก่อนเถอะพ่อ..."

ผมร้อง ก่อนที่เสียงจะขาดหายเมื่อมีเสียงแปลกประหลาดดังขึ้นตรงหน้าเรานั่นเอง!

คุณพระช่วย! ไผ่สีสุกที่ดูขึ้นแน่นขนัดกลับไหวโอนไปมาเสียงเอี๊ยดอ๊าดผิดหู ทั้งๆ ที่ลมสงัด สรรพสิ่งเงียบเชียบ ทำให้ได้ยินเสียงกอไผ่เจ้ากรรมดังกระหึ่มขึ้นทุกที

นรกเป็นพยาน! พริบตานั้นเอง กอไผ่แน่นหนาก็แหวกออกจากกันเหมือนโดนมือยักษ์จับกระชาก มองเห็นร่างดำๆ ของหญิงชายคู่หนึ่งกำลังจ้องมองเราเขม็ง...อ้าปากหัวเราะเป็นบ้าเป็นหลังโดยไม่ มีเสียงใดๆ ดังออกมาเลย เล่นเอาเราผงะหน้ากันทั้งสองคน

อุปกรณ์หาหน่อไม้ ไม่ว่ามีด เสียม และกระบุงหล่นจากมือ พ่อคว้าแขนผมแล้วกระโจนอ้าวไปข้างหน้าเหมือนลมพัด...เหนื่อยแทบตายกว่าจะเจอพวกมือดีที่ขุดหน่อไม้ไปก่อนหน้าเรา

ปรากฏว่าเคยมีผัวฆ่าเมียด้วยมีดแล้วเชือดคอตายตามเพราะความหึง...ที่โคนกอไผ่ผีสิงนั่น พ่อผมรู้เรื่องนี้ดีแต่จำผิดกอจนไปขุดหน่อไม้ที่กอไผ่ผีสิงเข้าอย่างจัง...บรื๋อส์!


ที่มา
http://www.khaosod.co.th/
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว....ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา...สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา...กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: กอไผ่มรณะ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 13 พ.ค. 2554, 10:16:48 »
วันที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2554 ปีที่ 21 ฉบับที่ 7441 ข่าวสดรายวัน

ไม้ไล่ผี

ขนหัวลุก
ใบหนาด


"สิงห์น้อย" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากเรื่องใบหนาดปราบผี

ผมขอเล่าเรื่องให้ท่านผู้อ่านได้รับฟังอีกเรื่องนะครับ

น่าแปลกที่มนุษย์เราสมัยก่อนๆ ทำไมถึงมีความคิดริเริ่ม, ค้นคว้าว่าสิ่งนั้นสิ่งนี้ทำให้ชีวิตมีสุขขึ้นมาได้?

ความดีความชั่ว สิ่งเลวร้าย ภูตผีปีศาจ เป็นสิ่งที่มนุษย์เราคิดขึ้น หรือจินตนาการขึ้นมาตามความคิด ความเชื่อของในแต่ละท้องถิ่น หรือว่าอะไรแน่ครับ?

ทำไมคิดว่าพืชชนิดนี้ควรทำอะไร ใช้ทำอะไรถึงจะได้ผล? พืช, ต้นไม้ใช้สกัดทำยาสารพัดชนิด แก้โรคต่างๆ เช่น ปวดหัว ปวดท้อง ท้องเสีย แก้ลมวิงเวียน ฯลฯ ไปจนถึงยาเสพติดร้ายแรง ส่วนใหญ่สกัดมาจากพืชทั้งหลายทั้งปวง

ผมกำลังยกตัวอย่างให้เห็นพืชชนิดหนึ่ง มีใบหนาสีเขียวนวล ใหญ่พอสมควรเราเรียกกันว่า "ใบหนาด" ที่ผมกำลังเล่าเรื่องของมันให้ท่านผู้อ่าน แฟนคอลัมน์ขนหัวลุกได้ฟังดังต่อไปนี้ครับ

ใบหนาดเป็นใบไม้ชนิดหนึ่งที่ใช้ในทางไล่ภูตผีปีศาจ ใช้ปัดรังควานผู้คนที่โดนผีเข้าสิง

เคยได้ยินและได้สัมผัสมาแล้วจากชีวิตจริงของผม!

หมอผี หรือผู้มีคาถาอาคมในสมัยเมื่อกว่า 30 ปี เขาใช้ใบหนาดนี่แหละครับเป็นเครื่องรางของขลัง ร่วมกับการทำน้ำมนต์และการทำพิธีไล่สิ่งชั่วร้าย เมื่อครั้งผมเป็นเด็กวัดได้ไปกับหลวงตาห่อ ท่านเป็นพระลูกวัดของหลวงพ่อเริ่ม ปรโม วัดจุกกะเฌอ ในจังหวัดชลบุรี

จำได้ว่าบ้านโยมคนหนึ่งชื่อป้าตุ๊ อยู่ไม่ไกลจากวัดมากนัก ลูกสาวแกชื่อแจ๋วถูกผีเข้ามีอาการอาละวาด ส่งเสียงดัง ทำตาเหลือกหลอกคนในบ้านไปทั่ว ร้องเสียงแปลกๆ เด็กเล็กร้องไห้จ้า หวาดกลัวจนต้องวิ่งหนีกันกระเจิดกระเจิง

เมื่อเวลาผ่านไปสักพักใหญ่จวนใกล้ค่ำ แจ๋วก็หมดฤทธิ์ เมื่อหลวงตาเดินทางมาถึงบ้านไม่นานท่านก็จัดทำพิธี ตั้งขันน้ำมนต์ จุดเทียน สักพักก็ใช้ใบมะยมที่เตรียมมาพรมน้ำมนต์ที่ตัวของแจ๋ว พรมแล้วพรมอีกแต่ก็ไม่เกิดอะไรขึ้น

นั่นคือเธอยังนอนคุดคู้ ส่งเสียงครางฮือๆ ทำตาเหลือกไปเหลือกมา เหมือนกับว่าน้ำมนต์ของหลวงตาไม่ได้กระทบกระเทือนอะไรเลย

ท่ามกลางสายตาหลายคู่ที่จ้องมองด้วยความสนใจ หลวงตานั่งนิ่งๆ ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้ากับตัวเองเหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ ก่อนจะหันมาสั่งผมด้วยเสียงเรียบๆ

"ไอ้เสริฐ เอ็งไปเก็บใบหนาดข้างป่าช้าเก่าหลังวัดมาให้ข้าหน่อย ข้าจะไล่ผีร้ายตนนี้...ให้มันรู้ไปว่าคาถาของข้าสู้มันไม่ได้"

เด็กวัดอย่างผม เมื่อหลวงตาใช้อย่างนั้นก็ไม่รอช้าเพราะใกล้จะมืดแล้ว วิ่งไป-กลับไม่ถึง 20 นาทีก็กลับมาพร้อมกับใบหนาด 2 กิ่ง มีใบติดมาด้วย 3-4 ใบ โชคดีที่ผมรู้จักใบหนาดนี้เป็นอย่างดี จากยายของผมที่เคยเล่าให้ฟังเรื่องสรรพคุณของใบหนาด และยังบอกให้รู้จักอีกด้วย

เมื่อมาถึง ผมก็ประเคนให้หลวงตา!

ท่านผู้อ่านที่เคารพครับ ทันทีที่แจ๋วผู้ถูกผีเข้าอยู่นั้น เหลือบเห็นใบหนาด 2 กิ่งที่หลวงตายกขึ้นมาเท่านั้น แกก็ร้องเสียงหลง หวีดแหลม จนใครๆ ต่างตกใจ ถึงกับสะดุ้งผวาไปตามๆ กัน

คุณพระช่วย! เสียงนั้นไม่ต่างอะไรกับเสียงภูตผีที่มาจากอเวจี...เป็นเสียงยาว และแหลมเล็ก โหยหวน ...หมาใต้ถุนส่งเสียงเห่าหอนกันเกรียว รับกันเป็นทอดๆ ลมพัดแรงผมขนลุกซ่าไปทั้งตัว...

ท่ามกลางบรรยากาศที่กำลังใกล้มืดค่ำ ตะวันตกดินไปแล้ว มีแต่แสงเหลืองๆ แดงๆ ที่ค้างอยู่ริมยอดไม้ท้ายหมู่บ้านเท่านั้น เสียงนั้นล่องลอยไปไกล ดูยาวนานเต็มทีเหมือนจะไม่มีวันสิ้นสุดง่ายๆ

ในที่สุด แจ๋วก็สิ้นสติไป!

หลวงตาห่อนำใบหนาดประพรมน้ำมนต์ให้เธออีก 2-3 ครั้ง ไม่ช้าแจ๋วก็ฟื้นคืนสติขึ้นมาตามเดิม

เมื่อซักถามหาสาเหตุ เธอก็เล่าว่าเมื่อตอนเช้ามืดใกล้สว่างแล้ว ขณะที่เดินเข้าครัวเพื่อหุงหาอาหารตามปกติ ก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างพุ่งวืดเข้าใส่ ครั้นหันขวับไปดูก็เห็นเหมือนมีดวงไฟเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว...

จากนั้นก็หมดสติไป มารู้สึกตัวอีกครั้งก็ตอนนี้เอง!

เรื่องของภูตผี, เรื่องการเล่นของ, เสกของใส่กัน, ยาสั่งตาย และอวิชชาหรือไสยดำต่างๆ เมื่อสามสิบปีก่อนมีจริงๆ ครับ! บรื๋ออออ...


ที่มา
http://www.khaosod.co.th/

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: กอไผ่มรณะ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 13 พ.ค. 2554, 10:23:13 »

เฮี้ยนสุดใบหนาดขีด

ขนหัวลุก
ใบหนาด


"จอม วศิน" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกเมื่อผีสาวตามมาถึงกรุงเทพฯ

ผมเพิ่งเล่าเรื่องไปเที่ยวหัวหินแล้วเจอผีมาหยกๆ ที่ไหนได้ล่ะ เรื่องที่ทำท่าว่าจะจบน่ะมันยังไม่จบ...ผีที่ผมเจอในโรงแรมนั้นตามมาถึง กรุงเทพฯ พวกเราเจอกันทุกคน!

ขอย้อนเหตุการณ์สักนิดว่าผมกับ เพื่อนๆ ทั้งชายและหญิงเก้าคน นึกสนุกนั่งรถไฟฟรีไปเที่ยวหัวหินเมื่อวันเสาร์ และได้เขาพักในโรงแรมที่มีราคาย่อมเยาแต่บรรยากาศแปลกๆ เราได้ยินเสียงเคาะประตูห้อง แต่เปิดไปไม่มีใคร พอจะเข้านอนก็ปรากฏว่าน้ำหวานเพื่อนผมมองเห็นผีผู้หญิงผมยาวชุดขาว มานั่งอยู่ที่เตียงตรงข้ามที่เพื่อนๆ อีกสี่คนนอนอยู่

พวกเธอหวีดร้อง เพื่อนๆ กรูเข้ามาหา ผีก็ตามมาด้วย และเอาเล็บจิกแขนไว้ไม่ให้เธอบอกเพื่อนๆ ว่าเห็นผี!

เช้าวันรุ่งขึ้น เราทำบุญอุทิศส่วนกุศลแล้วก็ขึ้นรถไฟกลับกรุงเทพฯ เหตุการณ์ดูเป็นปกติดี แต่พี่สาวกับแม่ของผมบ่นว่ารู้สึกพิกลๆ เหมือนมีคนที่ไม่รู้ว่าเป็นใครมาอยู่ในบ้านด้วยทั้งคืน

คืนนั้นเองเจ้าต้น เพื่อนคนหนึ่งที่ไปด้วยกัน โทร.มาเล่าว่าตอนจะเข้าบ้านน่ะ คนข้างบ้านที่เขาเรียกว่า "ป้าแขก" แกเป็นคนทรง อยู่ดีๆ ก็ทักว่า ไปเที่ยวมาสนุกมั้ย? เขาตามมาส่งน่ะ" ป้าแขกพูดลอยๆ ทำเอาต้นขนลุกซู่...ป้าแขกไม่รู้เรื่องผีที่เพิ่งเจอมาสักหน่อย!

ฝ่ายน้ำหวาน สาวผู้โชคดีที่เห็นผีแล้วยังโดนผีหยิกอีกนั้น นึกว่าเรื่องมันจะจบแล้ว แต่เธอเห็นผีผู้หญิงคนเดิมมายืนอยู่นอกประตูกระจก ที่จะเปิดออกสู่ระเบียง...น้ำหวานร้องไม่ออก แต่เข่าอ่อนยวบ ทรุดลงไปกองกับพื้น ก่อนจะคลานไปเคาะประตูห้องแม่ ขอนอนด้วย

ส้มโอ เพื่อนซี้ของน้ำหวานเล่าเสียงสั่นว่า เธออาบน้ำเตรียมตัวนอน พอออกจากห้องน้ำก็มานั่งหวีผมที่โต๊ะเครื่องแป้งในห้องนอน...เธอเหลือบเห็น เงาสะท้อนในกระจกอย่างชัดเจนว่า มีผู้หญิงผมยาวมาก หน้าซีด แต่งชุดขาว มานั่งยิ้มอยู่บนเตียงของเธอ!

เจ้าปั๊มเพื่อนของผมนั่งดูทีวียาม ดึกอยู่กับแม่ ได้ยินเสียงกดออดหน้าประตูรั้ว มันก็เลยลุกขึ้นไปดูว่าใครมา และ...ใช่เลยครับ! ผู้หญิงผมยาวใส่ชุดขาวยืนตัวตรงแหนว...ยิ้มให้อย่างสวยงามอยู่ที่หน้าประตู นั่น

แป้ง เพื่อนสาวร่วมทีมของเราบอกว่าเธอเข้านอน ปิดไฟ ห่มผ้า ตั้งท่าจะหลับอยู่แล้ว ก็พอดีได้ยินเสียงก๊อกแก๊กแบบคนมาค้นของในห้อง พอลืมตามองไปก็เห็นชัดเลยว่าผีผู้หญิง ผมยาวกำลังหยิบเครื่องสำอางของเธอมาดูเล่น...ไฟที่ถนนส่องผ่านหน้าต่างเข้า มา แป้งขยี้ตาแล้วก็ต้องแผดเสียงลั่น เมื่อแน่ใจว่าตัวเองไม่ได้ตาฝาดหรือฝันไป

เพื่อนอีกสามคนก็ได้กลิ่นธูปบ้าง กลิ่นศพและกลิ่นดอกไม้แห้งบ้าง ตามไปไหนต่อไหนด้วยตลอด!

เย็นวันจันทร์ เราได้ฟังเรื่องจากทุกคนแล้ว ก็เลยไปหาป้าแขกเพื่อนบ้านของต้น เพราะแกเป็นที่พึ่งเดียวของพวกเรา ป้าแขกบอกว่าผีผู้หญิงยังอยู่ในกลุ่มของเรานี่แหละ เพราะเธอชอบพวกเรามาก อีกอย่างเธอได้พลังความเป็นวัยรุ่นของเราไป ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้น

ผมกับเพื่อนๆ คุยกันว่า ใช่แล้ว! ผีได้ซึมซับเอาพลังชีวิตของพวกเราไป เหมือนได้ชาร์จแบตเตอรี่น่ะครับ ก็เลยปรากฏตัวให้เราเห็นได้

ป้าแขกบอกว่าเธอไม่ได้ตั้งใจมาหลอกหลอน เธอเพียงแต่ติดใจพวกเราเท่านั้น...เนี่ย! ยังนั่งยิ้มอยู่เลย! ป้าแขกเห็นแบบนั้นจริงๆ แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอเป็นใคร? มาจากไหน? เรา่ขอให้ป้าแขกเจรจาให้หน่อย ให้เธอไปๆ ซะ ไม่งั้นพวกเราแย่แน่ กลัวจนไม่เป็นอันทำอะไรแล้ว

คำแนะนำจากป้าแขกคือ ทำสังฆทานและให้พระท่านสวดมนต์ รดน้ำมนต์ให้! เราก็ไปวัดราชาฯ ใกล้ๆ มหาวิทยาลัย ไปเล่าเรื่องนี้ให้พระท่านฟัง ท่านก็เมตตาช่วยสวดมนต์และพรมน้ำมนต์ให้เรา

ผมบอกจริงๆ ครับ ว่าเราไม่มีทางรู้เลยว่าผีสาวตนนั้นกลับไปหัวหินรึยัง? หรือว่าอยากเที่ยวกรุงเทพฯ ต่อ รู้แต่ว่าเสียวสยองกันสุดฤทธิ์ พวกเรากลายเป็นขวัญอ่อน สะดุ้งง่ายและกลายเป็นเด็กติดแม่ คือตามแม่แจกันทุกคน! แม่เราบางคนหาพระให้คล้องคอให้เรารู้สึกมั่นใจและปลอดภัย ซึ่งก็ช่วยได้ระดับหนึ่งครับ

บอกตรงๆ ขณะเขียนถึงเขาอยู่นี่ผมยังหวาดๆ เสียวสันหลังชะมัด มันรู้สึกแปลกๆ เหมือนมีใครมานั่งดูผมเขียนหนังสืออยู่ตรงนี้ อุปาทานหรือเปล่าก็ไม่รู้สิ...ผมไม่อยากหันไปมองเลยครับ! บรื๋ออออ...


ที่มา
http://www.matichon.co.th/khaosod/

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: กอไผ่มรณะ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 13 พ.ค. 2554, 10:28:36 »
ชีวิตยังไม่สิ้น

ขนหัวลุก
ใบหนาด

"ติชิลา" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกของความหวังที่เป็นจริง

"เปิ้ล" มาหาดิฉันทำไม? เธอต้องการความช่วยเหลือหรือมาร่ำลากันแน่? ถ้าเป็นอย่างแรก ดิฉันจะช่วยเธอได้ยังไงกัน?

"ปภาดา" คือชื่อจริงของเธอค่ะ แต่ทุกคนในบริษัทเราเรียกเธอว่า "เปิ้ล" ฟังแล้วก็สมชื่อที่สุด เพราะเปิ้ลสดสวย เปล่งปลั่ง สดใส เหมือนแอปเปิ้ลที่เพิ่งถูกเด็ดจากขั้ว...แทบจะส่งกลิ่นหอมละมุนด้วยซ้ำไป

เธอมาปรากฏกายให้ดิฉันเห็นได้ยังไงหนอ ทั้งๆ ที่...

ดิฉันขอเล่าตั้งแต่แรกก็แล้วกันค่ะ!

เราทำงานอยู่บริษัทหลักทรัพย์ด้วยกันแถวย่านดาวน�ทาวน์ของกรุงเทพฯ ดูเหมือนจะเป็นคนที่ชอบไปถึงที่ทำงานเร็วกว่าเพื่อนกันทั้งคู่ ก่อนแปดโมงเช้ามักจะพบกันที่ลานจอดรถหรือไม่ก็หน้าประตูลิฟต์ นานๆ ถึงจะมีเพื่อนหรือพนักงานจากบริษัทอื่นๆ มาสมทบกันที่นั่น

เปิ้ลสวยเหมือนก้าวออกมาจากหนังสือแฟชั่น ใบหน้าติดยิ้ม เข้าใกล้จะได้กลิ่นหอมกรุ่นจนพวกผู้ชายที่ขึ้นลิฟต์พร้อมกันจะหันมอง บ้างก็ทำเป็นสูดลมหายใจแรงๆ

"ใครหนอ ทั้งสวยทั้งหอมจนไม่อยากให้ลิฟต์ถึงเร็วๆ เลยแฮะ! ชื่นใจ้ชื่นใจ"

เปิ้ลทำหน้าตาย ก่อนจะหันมายิ้มอารมณ์ดีกับดิฉัน...เราไม่ถึงกับสนิทสนมกันหรอกค่ะ เพราะดิฉันต้นสามสิบแล้ว แต่เธอเพิ่งจะเบญจเพส มีเพื่อนสนิทในวัยไล่เลี่ยกันทั้งนั้น

นอกจากสะสวย ดูหวานใสไปทั้งหน้าตาและเนื้อตัว เปิ้ลยังมนุษยสัมพันธ์ดีมาก พูดหวานขานเพราะ มีน้ำจิตน้ำใจกับเพื่อนร่วมงานทุกคน แต่ก็เป็นตัวของตัวเอง ไม่ใช่ใจอ่อนหรืออ่อนแอจนถูกใครชักจูงได้ง่าย รู้จักปฏิเสธอย่างนุ่มนวล แต่ตรงไปตรงมาน่านับถือ

วันหนึ่ง ดิฉันไปถึงลิฟต์ก่อนแปดโมงเกือบ 15 นาที คิดว่าเปิ้ลยังไม่มาเพราะไม่เห็นรถของเธอ แต่ที่ไหนได้ล่ะ เปิ้ลมายืนคอยลิฟต์อยู่ก่อนดิฉันแล้ว...ทักทายกันเสร็จก็พอดีประตูลิฟต์เปิด ออก ดิฉันก้าวเข้าไปก่อนตามความเคยชิน...ประตูลิฟต์ปิดสนิท ดิฉันหันมาหาเธอ แต่เปิ้ลไม่ได้ยืนอยู่ใกล้ๆ เหมือนเคย!

อะไรกันนี่? จะว่าเปิ้ลเข้าลิฟต์ไม่ทันก็เป็นไปไม่ได้ เพราะมีเรารอกันอยู่สองคนเท่านั้น! ทำไมเธอไม่ตามเข้ามา...ดิฉันรู้สึกหนาวเยือก ขนลุกซ่าไปทั้งตัว ปากคอแห้งผากบัดดล

คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก คอยชะเง้อมองดูเปิ้ลแต่กลับเห็นแต่คนอื่นๆ เดินเข้ามาในห้องทำงาน...ปรากฏว่าเปิ้ลเกิดอุบัติเหตุรถชนกัน อาการโคม่าอยู่โรงพยาบาลตั้งแต่เมื่อค่ำวาน!

จะว่าผีหลอกก็ไม่ใช่ เพราะเธอยังไม่ตายนี่นา

หรือจะเป็นเจตภูตที่ล่องลอยออกจากร่างมาที่บริษัทเพราะเป็นห่วงงาน?

เพื่อนๆ ของเปิ้ลไปเยี่ยมเธอทุกวัน ดิฉันคอยถามข่าวก็ได้ความว่าเธอยังไม่ได้สติ พ่อแม่แทบจะขาดใจตาย เพื่อนๆ ก็น้ำตาไหลกันทุกคน...เปิ้ลมีทีท่าว่าจะกลายเป็นเจ้าหญิงนิทราไปตลอดกาลค่ะ!

"โธ่! เปิ้ล" ดิฉันสะท้อนใจเมื่อนึกถึงหน้าสวยๆ นัยน์ตากลมโตสุกใส เรือนร่างอรชรคล้ายนางแบบ...ต่อไปนี้จะไม่มีเปิ้ลในบริษัทของเราอีกแล้ว

เวลา ผ่านไปราว 7 วัน...ดิฉันก็เห็นเปิ้ลยืนตัวตรงอยู่หน้าลิฟต์ นัยน์ตาที่มองมาดูเศร้าโศก วิงวอน ดิฉันหลุดปากเรียกชื่อเธอด้วยความดีใจ...หายแล้วหรือเปิ้ล...

ประตูลิฟต์เปิดออก ดิฉันเอื้อมไปจับมือเธอเพื่อก้าวเข้าลิฟต์ด้วยกัน แต่สิ่งที่พบคือความว่างเปล่า...ประตูปิด มีดิฉันคนเดียวในลิฟต์อันเวิ้งว้าง และเยือกเย็นสิ้นดี!

ตอนแรกนึกว่าเปิ้ลตายแล้ว แต่เพื่อนที่แวะเยี่ยมตอนเช้ามาเล่าว่าอาการยังทรงอยู่ตามเดิม...ดิฉันไม่ กล้าเล่าให้ใครฟังหรอกค่ะ นอกจากจะรู้สึกสับสนวุ่นวายว่าเปิ้ลมาปรากฏตัวให้เห็นทำไม? เพื่ออะไร? ดิฉันไม่ได้ตาฝาดไปเองแน่นอน

เย็นนั้น ดิฉันตัดสินใจไปเยี่ยมเปิ้ลกับเพื่อนเธออีกสองคน

ภาพ ในห้องไอซียูน่าสลดหดหู่เหลือเกิน เล่นเอาดิฉันตาลายพร่าเมื่อเห็นร่างบอบบางนอนหงายแน่นิ่ง ผิวขาวซีด หลับตาพริ้ม มีสายระโยงระยางเต็มไปหมด ดิฉันแสบร้อนไปทั้งเบ้าตาขณะเอื้อมมือไปกุมมือเย็นซีดของเธอไว้ พลางกระซิบบอกใกล้หู

"อดทนหน่อยนะจ๊ะ เปิ้ลจ๋า ไม่ช้าเธอจะหายดีตามเดิม อย่าสิ้นหวังเป็นอันขาด เธอต้องต่อสู้เข้มแข็งเข้าไว้ ถึงแม้รอบๆ ตัวเธอจะหม่นหมองแค่ไหนก็ตาม...อย่าท้อ! อย่าหมดกำลังใจ วันหนึ่งเธอจะหายดี จะหัวเราะรื่นเริงได้ตามเดิม"

ทำนองนั้นแหละค่ะที่ดิฉันพร่ำบอก รู้สึกมือเธออบอุ่นขึ้นมาด้วยสายเลือด ขยับนิดหน่อย แต่ก็ทำให้ดิฉันขนลุกซู่...เปิ้ลคงรับรู้ และมุ่งมั่นจะยื้อชีวิตของตัวเองกลับคืนมาให้จงได้

ตั้งแต่วัน นั้นดิฉันก็ไม่เห็นเธอที่หน้าลิฟต์อีกเลย! อีกราวสองเดือนเปิ้ลก็ทุเลาจนกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ ในที่สุดก็กลับมาเป็นเปิ้ลที่สดสวยและเข้มแข็งในบริษัทของเราตามเดิม!


http://www.khaosod.co.th/

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: กอไผ่มรณะ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 13 พ.ค. 2554, 11:15:18 »
วิญญาณมารับ

ขนหัวลุก
ใบหนาด

"บุ๋ม" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากลาดพร้าว

ใคร จะไม่เชื่อเรื่องผีก็ช่างเถอะค่ะ เรื่องแบบนี้ถือว่าต่างจิตต่างใจ ดิฉันเองก็เคยคิดว่าตัวเองเป็นเด็กรุ่นใหม่ เรื่องผีๆ สางๆ ไร้สาระเต็มที! แต่เดี๋ยวนี้เหมือนหนังคนละม้วนแล้วค่ะ ดิฉันเชื่อว่าผีมีจริง เพราะได้เจอะเจอกับตัวเองเต็มรัก...ไม่ช็อกตายก็ถือว่าเป็นบุญเหลือหลายแล้ว

สาเหตุสำคัญที่โดนผีหลอกก็เพราะมีอาชีพสาวพริตตี้ น่ะซีคะ

ถูก แล้วค่ะ สาวสวยทั้งรูปร่างหน้าตา แต่งตัวเซ็กซี่ที่คุณเห็นโชว์โฉมอยู่ในงานแสดงรถยนต์หรูหรา ราคาคันละไม่กี่แสนจนถึงหลักล้านและ 20-30 ล้าน ปรากฏอีกทีในทีวีและหนังสือพิมพ์ เพิ่มเติมสีสันให้ชีวิต...โดยเฉพาะเป็นจุดสนใจของคุณผู้ชายทุกคน

มี ลีลาของนักแสดงที่โชว์ใบหน้าและเรือนร่างนัวเนียอยู่กับรถ ทั้งทำท่าเปิดประตูบ้าง อิงเอนอยู่ข้างรถบ้าง แต่ไฮไลต์มักจะอยู่ตรงการแนบกายกับบังโคลน ยิ้มหวานไม่แพ้พวกประกวดนางงามทั้งหลายแหล่

เนินอกอวบๆ กับท่อนขาขาวๆ เป็นโฟกัสสำหรับสายตาทุกคู่ก็ว่าได้

ทั้ง เชิญชวน อ้อล้อและท้าทายสายตาของคุณป๋าคุณเสี่ยให้เข้ามาจ้องมองแบบใกล้ชิดไงล่ะคะ! เพราะเหตุนี้เองที่ทำให้พวกเราถูกกล่าวหาว่า "มีเสี่ยเลี้ยง"

สวยแต่ ไม่มีสมอง! เห็นแก่เงินมากกว่าศักดิ์ศรีลูกผู้หญิง เห็นถือกระเป๋าแบรนด์เนม รองเท้าหรูๆ อินเทรนด์แทบทั้งเนื้อทั้งตัว ก็ถูกกล่าวหาว่ามีเสี่ยเลี้ยง มีป๋าดูแลแน่ๆ เลย

อาจจะมีจริงแต่ก็น้อยค่ะ!

อย่า ลืมว่าพวกเราแทบทุกคนเรียนระดับปริญญานะคะ บางคนกำลังทำโทอยู่ด้วยซ้ำ รายได้ก็ตกวันละพันถึงห้าพันบาท...สำหรับพริตตี้ยอดสวย มีความสามารถสูง คนจ้างเขาตาถึง ดูออกว่าใครเก่ง เสน่ห์แรงแค่ไหน...เราเลี้ยงตัวเองได้สบายอยู่แล้ว ไม่ต้องมีเสี่ยเลี้ยงก็ได้(ย่ะ)

อ้อ! โปรดทราบว่าพริตตี้ไม่ใช่งานเบาๆ แต่หนักหนาสาหัสเหลือเชื่อ

ขนาด เช่าห้องอยู่แถวลาดพร้าวนี่เอง ดิฉันยังต้องตื่นตั้งแต่ตีสี่ จัดการทำธุระส่วนตัวล่กๆ แล้วแล่นลงไปนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างขาประจำ บึ่งออกจากซอยไปยังจุดที่มีผู้คนพออุ่นใจเพื่อรอแท็กซี่...โชคดีที่ไม่ได้ อยู่แถวลาดพร้าวด้านลึกๆ เข้าไปที่ติดอันดับต้นๆ ของซอยอันตรายในกรุงเทพฯ

"พี่ วิน" คนขับแมงกะไซค์คุ้นเคยกันมาหลายเดือนแล้ว ตกลงว่าจะมารับทุกเช้ามืด หน้าตาคมสัน หุ่นบึกบึนสมชาย แต่สุภาพเรียบร้อย นัยน์ตาที่มองมาก็ดูใสๆ ซื่อๆ ดี ไม่มีอะไรน่าระแวง แต่นั่นแหละค่ะ ดิฉันถือคติว่า...รู้หน้าแต่ไม่รู้ใจ! เพื่อความปลอดภัยของเราเอง

ในกระเป๋าติดสเปรย์พริกไทยเอาไว้ เผื่อฉุกเฉินอะไรขึ้นมาไงคะ!

เมื่อ ถึงจุดนัดหมายก็ต้องทำหน้าทำผม ไม่ใช่เยินเหมือนเพิ่งตื่นนอนหรอกค่ะ มีการอบรมแนะนำสำหรับวันนั้นๆ ว่าจะพูดอะไร? แนวไหน? เป้าหมายคือพรีเซ็นต์ให้ลูกค้าฟังแล้วน่าเชื่อถือมากที่สุด...ก่อนจะเยื้อง กรายในชุดเซ็กซี่ออกไปยิ้มหวานกับผู้คน เฮ้อ....ตั้งแต่เช้ายันเย็นน่ะ คิดดูเถอะว่าจะอ่อนล้าแค่ไหน?

จนกระทั่งวันเกิดเหตุ!

เช้ามืด วันนั้นไม่อยากจะลุกเลย ทั้งปวดเมื่อยและตะครั่นตะครอยังไงบอกไม่ถูก อาจจะเพราะอากาศเปลี่ยนกะทันหันก็ได้...แต่การงานต้องมาก่อน ยกเว้นแต่จะลุกไม่ไหวจริงๆ

ลงไปถึงหน้าหอพักช้าไปราว 15 นาทีได้ พี่วินก็น่ารักที่ไม่บ่นซักคำ...บางครั้งก็นึกสงสัยความหมายในแววตาของแก เหมือนกัน แต่คงคิดได้ว่าเพ้อเจ้อไปเองเปล่าๆ นึกแล้วก็น่าสงสารเหมือนกันค่ะ

"ไหนๆ บุ๋มก็ช้าแล้ว พี่จะไปส่งถึงที่เลยนะ...บอกมาเลย ไม่ต้องกลัวว่าจะทำให้บุ๋มเป็นอะไรแน่ ตอนนี้ถนนโล่งๆ อยู่ด้วย"

พี่วินบอกตอนที่ออกรถเลี้ยวขวาเพื่อจะออกถนนใหญ่ อารามรีบร้อนไม่อยากโดนตำหนิหรือคิดว่าหาปมเด่นเลยบอกไปว่า...ตกลงค่ะ!

ไม่ รู้ว่าคิดถูกหรือเปล่า เพราะพี่วินซิ่งรถเหมือนจะเหาะไปซะงั้น ดิฉันต้องกอดเอวแกไว้แน่น ซบหน้าบนหลังไหล่กำยำ...ถ้าเกิดอะไรขึ้นก็อาศัยร่างพี่วินนี่แหละเป็นเกราะ กันภัย

ไปถึงจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัย...ดิฉันยัดแบงก์ห้าร้อยใส่มือแกพร้อมกับขอบคุณเสียงหวาน แล้ววิ่งตื๋อโดยไม่หันไปมองอีกเลย

ดิฉัน ต้องหยุดงานไปสามวัน จนทำใจได้ว่าซื้อรถใช้เองดีกว่า...สาเหตุก็เพราะมารู้ข่าวค่ำนั้นเอง ว่าพี่วินได้เกิดอุบัติเหตุที่ถนนรัชดา...คอหักตายคาที่ตั้งแต่คืนวาน แต่วิญญาณอุตส่าห์มารับดิฉันตามสัญญาน่ะซีคะ! บรื๋อออ...

http://www.khaosod.co.th/
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13 พ.ค. 2554, 11:22:32 โดย ทรงกลด »

ออฟไลน์ saken6009

  • อย่ากลัวคนจะมาตำหนิ แต่จงกลัวว่าตัวเองจะทำผิด อย่ากลัวที่จะรับรู้ความบกพร่องของตน แต่จงกลัวว่าตนจะเป็นคนที่ดีได้ไม่จริง
  • ก้นบาตร
  • *****
  • กระทู้: 893
  • เพศ: ชาย
  • ชีวิตของข้า เชื่อมั่นศรัทธา หลวงพ่อเปิ่น องค์เดียว
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: กอไผ่มรณะ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: 14 พ.ค. 2554, 04:48:28 »
ห้าเรื่อง ห้ารส ขนลุก ขนพอง 41; 41;
                                             
อ่านไปอ่านมา เดียวรอเช้าก่อนค่อยไปห้องน้ำ ฝนตกรำไร กรรมอนาถ ตกใจเสียงฟ้าร้อง :075: :075:
         
ขอขอบคุณท่าน ทรงกลด ที่นำเรื่องผี-วิญญาณมาให้พี่น้องศิษย์วัดบางพระได้อ่านครับ  :053: :053:

ติดตามอยู่ครับ อ่านแล้วเพลินดีมากๆครับ และ ได้ความกลัวแถมมาครับผม :016: :053: :015: 
     
(ขออนุญาตเข้ามาอ่าน ขอบคุณครับ)  :054: :054:
 
   
   

กราบขอบารมีหลวงพ่อเปิ่น คุ้มครองศิษย์ทุกๆท่าน ให้แคล้วคลาด ปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง สาธุ สาธุ

ออฟไลน์ โบตั๋นสีขาว

  • ไม้คดใช้ทำขอ เหล็กงอใช้ทำเคียว แต่คนคดเคี้ยวใช้ทำอะไรไม่ได้เลย
  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 146
  • เพศ: หญิง
  • จะสูงจะต่ำอยู่ที่เราทำตัวจะดีจะชั่วอยู่ที่ตัวเราทำ
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: กอไผ่มรณะ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: 14 พ.ค. 2554, 08:14:26 »
ขอบคุณมากคะ สำหรับเรื่อง ผี-วิญญาณ ปรกติชอบอ่านมากคะ ออกมาหลอกแบบนี้เริ่มไม่ดีละคะ  :090: :074: :090:
เคารพ กตัญญู บูชา หลวงพ่อเปิ่น ฐิตคุโณ ทั้งครอบครัวคะ