วันที่ 04 เมษายน พ.ศ. 2554 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7434 ข่าวสดรายวัน
คนส่งของ
ขนหัวลุก
ใบหนาด
"บุษบา" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกของคนไม่เชื่อเรื่องผีดิฉันเชื่อมั่นว่าตัวเองมีการศึกษาพอสมควร จบบัญชีจากมหาวิทยาลัยชื่อดังไม่เชื่อถือในสิ่งที่ไร้เหตุผลรองรับหรือพิสูจน์ได้ตามหลักวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะเรื่องปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติด้วยแล้วคิดว่าเป็นเรื่องตลกมากกว่า
ไม่ว่าเรื่องผีๆ สางๆ หรือการทรงเจ้าเข้าผี ถือว่าไร้สาระเต็มทีทั้งนั้นแหละค่ะ
วันหนึ่ง ดิฉันก็พบกับเรื่องแปลกประหลาดเข้าที่บ้านตัวเอง!
ลืมบอกไปว่าที่อยู่คือวิภาวดีฯ 5 ชื่อดั้งเดิมคือซอยอายุสูบ 1 เป็นบ้านจัดสรรของโรงงานยาสูบมาราว 40 ปีแล้ว ต่อมาเจริญขึ้นบ้านเหล่านั้นก็มีการซื้อขายต่อๆ กันมา จากบ้านไม้สองชั้นกลายเป็นบ้านตึกใหญ่โตก็มี เป็นอพาร์ตเมนต์ก็มี ดูเหมือนจะเหลือแต่บ้านดิฉันหลังเดียวที่ยังสภาพเดิม
บุพการีล่วงลับไปตามอายุขัย แต่ก็มีลูกๆ หลานๆ อยู่อาศัย ถึงกับสร้างเรือนหลังเล็กๆ เพิ่มข้างรั้วในเนื้อที่ 100 ตร.ว. ก็อยู่กันอบอุ่นตลอดมาค่ะ
ดิฉันเกษียณอายุราชการเมื่อ 2-3 ปีก่อน ตอนแรกก็ได้โอกาสเที่ยวทั้งในเมืองไทยและต่างแดน ไปกับทัวร์สะดวกสบายที่สุด แต่ตอนหลังมานึกว่าตัวเองมีวุฒิบัตร "ผู้สอบบัญชีรับใบอนุญาต" ก็น่าจะนำมาใช้ประโยชน์ในการหารายได้เพิ่มกับแก้เหงาดีกว่า
ไม่เฉพาะตัวเองเท่านั้น แต่ยังมีลูกหลานกับอดีตผู้ใต้บังคับบัญชาได้ทำงานด้วย
การทำบัญชี, ตรวจบัญชี เกี่ยวกับรายรับรายจ่ายของบริษัทห้างร้านต่างๆ อาจจะปกปิดซ่อนเร้น หรือไม่ผิดพลาดอย่างใดอย่างหนึ่ง กฎหมายจึงกำหนดให้ต้องผ่านการตรวจตราจาก "ผู้สอบบัญชีรับใบอนุญาต" เสียก่อน ซึ่งมีทั่วประเทศราว 5,000 ราย แต่ที่มารับจ้างเป็นผู้สอบฯ จริงๆ จังๆ คิดว่าไม่น่าจะเกิด 2,000 ราย
ทางการที่ต้องนำเสนอมีอยู่สองแห่ง คือกรมสรรพากร กระทรวงการคลัง กับกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งมีวิธีกำหนดเวลาแตกต่างกันเล็กน้อยค่ะ
กรมสรรพากรนับจากวันต้นปีไป 5 เดือน กระทรวงพาณิชย์นับ 150 วัน
คิดง่ายๆ ว่าจากวันแรกของปีไปจนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคมก็แล้วกัน
มีผู้ใฝ่ฝันจะเป็น "ผู้สอบฯ" มากมาย แต่ค่อนข้างแสนเข็ญเอาการ เช่น สมมติว่ามี 8 วิชา สอบวิชาไหนได้ก็เก็บไว้ให้ ต่อมาเข้าสอบวิชาอื่นอีก ถ้าได้ก็แล้วไป แต่ถ้าสอบไม่ผ่าน 3 ปีติดกัน วิชาที่สอบได้นั้นจะสูญทันที เรียกว่าหมดอายุความ ต้องสอบกันใหม่
หลายคนพากเพียรมา 10-20 ปีก็มี...แถมมีประวัติบอกกล่าวด้วยว่าสอบปีใด
เพราะการเป็นนักสอบบัญชีเล็กๆ อยู่กับบ้าน แต่มีงานจากบริษัทห้างร้านซึ่งส่วนมากเป็นเจ้าประจำ ทั้งทำบัญชี สอบบัญชี หลั่งไหลเข้ามาเต็มบ้าน ยิ่งในเดือนเมษายนกับพฤษภาคมด้วยแล้ว ต้องบอกว่าทุกๆ คนล้วนเร่งรีบจนพวกเราแทบลืมหูลืมตาไม่ขึ้นทั้งนั้น
ลูกค้าที่คุ้นเคยกันก็มีทั้งมาส่งและมารับงานเอง ที่ขาดไม่ได้ก็คือของฝากจากต่างจังหวัด หรือบางทีก็ในกรุงเทพฯ นี่แหละค่ะ ไม่ว่าขนม, ผลไม้, อาหารทะเลจากเหนือจากอีสานมีหมด...แม้แต่ใครไม่ว่าง ให้เมสเซ็นเจอร์มาส่งมารับก็มีของฝากติดมาด้วยค่ะ
"คุณปิ่น" สาวใหญ่เป็นลูกค้าที่สนิทสนมกันเป็นพิเศษ ว่างก็โทร.มาคุย ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ ดีอย่างที่ไม่เอ่ยปากเร่งงานแต่เป็นที่รู้ๆ กันอยู่ในที บางทีก็ขับรถพาลูกสาวสิบกว่าขวบชื่อน้องแป้น กำลังน่ารักมากมาด้วย...ทุกครั้งไม่เคยขาดของฝาก ไม่ว่ามะพร้าวน้ำหอม แตงโม แก้วมังกร ส้มจากเมืองจีนลูกเล็กๆ อร่อยมาก ทุเรียนกับลิ้นจี่หอบหิ้วมาฝากทุกครั้ง
รายนี้รับจ้างทำบัญชีด้วยค่ะ แต่ก็ต้องส่งมาถึงมือ "ผู้สอบฯ" ตามกฎหมาย
เย็นหนึ่งคุณปิ่นก็โทร.มาบอกว่าเพิ่งกลับจากเหนือ ได้แหนมหม้อ ไส้อั่ว น้ำพริกหนุ่ม แคบหมู กับเนื้อเค็มมาฝาก แต่ยังล้าเต็มทีเลยให้เด็กขี่มอเตอร์ไซค์จากบ้านที่ลาดพร้าวมา
...แทบจะไม่ขาดเสียงด้วยซ้ำ มอเตอร์ไซค์ก็ดังกระหึ่มที่หน้าประตูรั้ว หลานสาวที่ช่วยงานบัญชีอยู่ที่โต๊ะใกล้ๆ ก็ลุกไปเปิดประตู ทักทายกันสองสามคำเพราะคุ้นหน้ากันดี เขาส่งของพะรุงพะรังให้แล้วลากลับ เพราะฟ้ามืดครึ้มราวกับจวนค่ำ แถมส่งเสียงคำรามครืนๆ น่ากลัวอีกด้วย หลานก็รับมาวางที่โต๊ะกินข้าวติดๆ กันแล้วทำงานต่อ
ดิฉันเปลี่ยนอิริยาบถลุกจากห้องออกมาเดินเหินข้างนอก เอะใจที่อากาศเย็นเยือกชอบกล...พอดีมีเสียงโทรศัพท์ดังจากโต๊ะที่เพิ่งลุกมาหยกๆ ก็ย้อนกลับไปรับ
คุณปิ่นโทร.บอกข่าวด้วยเสียงแหบแห้งว่า หลานชายที่ให้ไปส่งของน่ะถูกรถกระบะชนตายที่ปากซอย...ตอนนี้ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ต้องขอโทษพี่ด้วยที่ของไปไม่ถึง! เล่นเอาโทรศัพท์แทบร่วงจากมือ แข็งใจเดินไปถามหลานสาวเสียงสั่นเครือว่าเอาของฝากไว้ที่ไหน
คำตอบก็คือบนโต๊ะนี่เองค่ะ...ตามด้วยเสียงร้องวี้ดว้าย...เอ๊ะ! หายไปไหนหมด? หนูเพิ่งวางหยกๆ เมื่อกี้เอง...เดี๋ยวนี้ดิฉันเชื่อเรื่องผี ยอมรับว่าผีมีจริงแล้วค่ะ!
ข้อมูลจาก ข่าวสด
ที่มา
www.khaosod.co.th