คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๑๙ กย. ๕๔ ...
ตถตาอาศรม เขาเรดารร์ บ้านบึง ชลบุรี
อังคารที่ ๒๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๔
เมื่อวานที่ผ่านมานั้น ได้เตรียมการก่อสร้างโรงฟืนโรงไฟภายในอาศรม
ต้องช่วยกันแบกขนวัสดุอุปกรณ์ขึ้นเขา ทั้งเสาไม้ประดู่และกระเบื้องมุงหลังคา
ซึ่งเป็นงานที่ต้องใช้กำลังแรงกายอย่างมาก ในการแบกของที่หนักเดินขึ้นเขา
ซิ่งการทำงานที่ใช้กำลังเราต้องระวังสำรวมสติ การทำงานที่ต้องใช้แรงงานนั้น
มันย่อมมีผลต่อร่างกายและจิตใจ และต้องใช้ความอดทนที่สูงเป็นอย่างมาก
เพราะถ้าขาดสติตามดูตามรู้ตามเห็นไม่ทัน กิเลสนั้นมันก็จะแสดงออกมา
ความเอาแต่ใจตัวเอง ความเห็นแก่ตัว ความน้อยใจ ความเสียใจ ความมักง่าย
ความขี้เกียจ ความโกรธจะปรากฏขึ้น ที่เป็นเช่นนั้นเพราะกิเลสมันถูกเผาให้เร้าร้อน
มันถูกกระตุ้นด้วย ความเหนื่อย ความร้อน ความหิวกระหายเมื่อไม่ได้ตามที่ใจปรารถนา
กิเลสมันก็จะปรากฏชัดออกมา.....
การทำงานก็คือการสอบอารมณ์ของเรา เพราะเราต้องเผชิญกับตามเป็นจริง
และสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น มันคือชีวิตจริงสิ่ที่เราต้องประสพพบอยู่ทุกวันในการดำเนินชีวิตของเรา
ขณะที่เรานั่งสมาธิภาวนานั้น มันไม่มีผัสสะของจริงมากระทบจิต เราอยู่กับความสงบ
กิเลสมันถุกกดทับด้วยอารมณ์สมาธิ มันจึงมองไม่เห็นกิเลส และอาจจะหลงคิดไปว่าไม่มีกิเลสแล้ว
อารมณ์ในสมาธินั้นมันเป็นโลกส่วนตัวของเรา เฉพาะตัวเรา แต่เมื่อเราออก จากอารมณ์สมาธิแล้ว
กลับมาสู่ความเป็นจริง คือปัจจุบันธรรม สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนั้น ซึ่งมันมีทั้งแรงดูดและแรงต้านใ
ห้เราคล้อยตามหรือปฏิเสธ ถ้าสติและสัมปชัญญะมีกำลังอ่อน เราก็จะถูกกิเลสนั้นเข้าครอบงำ
คล้อยตามกิเลสที่กิดขึ้น แต่ถ้ากำลังของสติสัมปชัญญะ มีความสมบูรณ์ เราจะรู้เท่าทันกิเลสนั้น
จิตก็จะปฏิเสธไม่คล้อยตามในอารมณ์นั้น........
" ไม่มีใครรู้ซึ้งเท่าหนึ่งจิต " เราต้องรู้จักตัวเรา เพราะไม่มีใครจะรู้เหตุและผลของตัวเรา
เท่ากับตัวเรา เราเองต้องเป็นผู้สอบอารมณ์ของตัวเรา ไม่ต้องให้ใครเขามาสอบอารมณ์ของตัว เรา
" จงรู้จักกาย รู้จักจิต รู้จักความคิด และรู้ในสิ่งที่กระทำ" เราจึงจะไม่หลงทาง หลงตัวเอง หลงกิเลส
และการสอบอารมณ์ที่ดีที่สุด ก็คือการทำงาน ที่ใช้กำลังแรงงานร่วมกับผู้อื่น เพราะเราจะได้เจอผัสสะ
(สิ่งที่มากระทบ)ทั้งภายนอกและภายใน เรา จะได้เห็นความหวั่นไหวและความสงบนิ่งของเรา
ซึ่งมันคือของจริง คือสิ่งที่กำลังเผชิญอยู่ แล้วเราจะได้รู้ว่าการปฏิบัติธรรมของเรานั้น มันก้าวหน้าไปถึงไหน
รู้ได้ เมื่อภัยมา ปัญหาไม่มา ปัญญาไม่มี บารมีไม่เกิด ไม่ใช่นั่งคิดนั่งฝันว่ามันเป็นอย่างนั้น มันเป็นอย่างนี้
มันต้องมีของจริงมาพิสูจน์ มาทดสอบอารมณ์ของเรา.....
แด่การทำงานที่สอนให้เข้าใจถึงการปฏิบัติธรรม
เชื่อมั่น-ศรัทธา-ปรารถนาดีในหลักธรรม
รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม-วจีพเนจร
๒๐ กันยายน ๒๕๕๔ เวลา ๐๕.๓๓ น. ณ ตถตาอาศรม บ้านบึง ชลบุรี