ผู้เขียน หัวข้อ: คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๔ ตค. ๕๔ ...  (อ่าน 2875 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ รวี สัจจะ...

  • รองประธาน
  • *****
  • กระทู้: 1137
  • รวี สัจะ-สมณะไร้นาม-วจีพเนจร
    • ดูรายละเอียด
    • รวี สัจจะ สมณะไร้นาม (เคลื่อนไหวดุจสายลม)
คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๔ ตค. ๕๔ ...
ตถตาอาศรม เขาเรดาร์ บ้านบึง ชลบุรี
พุธที่  ๕  ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๔
          เสร็จจากกิจของสงฆ์ในภาคเช้า ตรวจดูความเรียบร้อยของอาศรม
เพราะเมื่อกลางคืนที่ผ่านมานั้น ฝนตกและลมพัดแรง จึงมีใบไม้และกิ่งไม้
ร่วงลงมามาก เก็บกวาดใบไม้เศษไม้ จัดผลไม้แบ่งให้ นก กระรอก กระแต
ที่อาศัยอยู่ในบริเวณอาศรม ซึ่งจะลงมากินผลไม้และอาหารที่วางไว้ให้ทุกวัน
อากาศเย็นมีหมอกตั้งแต่เช้าจนถึงบ่าย ใช้เวลาเกือบตลอดวันกับการฟังธรรม
อ่านหนังสือ เขียนบทความ บทกวี ทบทวนพิจารณาธรรม ที่เคยได้ยินได้ฟังมา
จากหลวงปู่ หลวงพ่อ ครูบาอาจารย์ แต่ละท่าน แต่ละสำนัก ที่เคยไปศึกษามา
จิตมาหยุดพิจารณาที่คำของหลวงปู่ท่อน ญาณธโร วัดศรีอภัยวัน จังหวัดเลย
ที่ท่านได้กล่าวสอนไว้ เป็นข้อความที่จำได้ประทับใจท่านกล่าวไว้ว่า........
...อย่ากินของร้อน (ราคะ โทสะ โมหะ)
...อย่านอนบนไฟ (โลภ โกรธ หลง)
...ให้ไปอย่างแร้ง (ไม่ยึดติด ไม่สะสม)
 ...แสวงหาบริสุทธิ์ (ของที่ชอบธรรม)
        กิเลสตัณหาทั้งหลาย ล้วนเป็นของร้อน เป็นไฟเผาไหม้อยู่ภายในจิตในใจ
ของเราเสมอมา ใจเรารุ่มร้อนกระวนกระวายเพราะกิเลสตัณหา ความอยากมีอยากได้
ความพอใจและไม่พอใจในสิ่งที่มี การยึดถือในตนเองจนมากเกินไป ความรัก ความใคร่
ความลุ่มหลง เสน่หาล้วนแล้วแต่พาให้ใจเรารุ่มร้อน เหมือนมีไฟมาสุมอยู่ในใจเรา......
      พยายามเตือนตน เตือนจิต ปรับความคิด ยกเอาการประพฤติปฏิบัติของหลวงปู่
หลวงพ่อครูบาอาจารย์ท่านทั้งหลายมาเป็นแบบอย่าง ปรับให้เข้ากับตัวเราเพื่อความ
เหมาะสมในการประพฤติปฏิบัติธรรม แบบอย่างที่ดีมีอยู่มากมายที่จะให้เราได้ศึกษา
และเรียนรู้ดูเป็นตัวอย่าง การประพฤติปฏิบัติตนของบุคคลที่ได้ชื่อว่าเป็นพระภิกษุ
ตามแนวทางปฏิปทาของครูบาอาจารย์ก็คือ...มีน้อยใช้น้อย มีมากเอาไว้สงเคราะห์
ผู้ที่ไม่มี อยู่ไปตามมีตามได้ พอใจในสิ่งที่มีอยู่ ไม่ร้องขอใคร ยินดีอยู่กับความเพียร
เพื่อหวังความพ้นทุกข์....
        ทบทวนถึงสิ่งที่ยังค้างคาที่อยู่ในใจ  สิ่งที่เคยตั้งใจไว้และสิ่งนั้นยังไม่ได้ทำ
ให้เป็นผลสำเร็จ ซึ่งเป็นเรื่องของทางโลกมิใช่เรื่องของทางธรรม สิ่งที่ยังค้างคาใจ
ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของหมู่คณะเพื่อนพ้องน้องพี่ ที่เคยใกล้ชิดสนิทสนมกันมา
ในสมัยที่เป็นฆราวาส พยายามที่จะจัดการให้ทุกอย่างที่เคยคิดไว้ เคยกล่าวไว้
ให้มันเป็นรูปธรรมขึ้นมา ซึ่งมันเป็นปลิโพธเป็นความกังวลสิ่งเดียวที่ยังตัดไม่ได้
ในปลิโพธ ๑๐ ประการ มันเป็นสิ่งที่ยังค้างคาใจอยู่ตลอดมา จึงต้องจัดการให้มัน
เรียบร้อยลงตัว ก่อนที่จะปลีกตัวจากหมู่คณะ ปลีกวิเวก ยุติบทบาทของตนในสังคม
ให้เวลาแก่ปฏิบัติธรรมอย่างเต็มที่ ทำเพื่อสิ่งที่ได้ตั้งใจไว้ในทางธรรม ตามบทบาท
และหน้าที่ของความเป็นสมณะนั้นให้สมบูรณ์.....
 ...เคารพศรัทธาในคำครู ที่สอนให้รู้ถึงความพอดีและความเพียงพอ...
                      ด้วยความปรารถนาดีและไมตรีจิต
                       รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม-วจีพเนจร
๕ ตุลาคม ๒๕๕๔ เวลา ๐๐.๓๕ น. ณ ตถตาอาศรม บ้านบึง ชลบุรี
ใช่หวังจะดังเด่น  จึงมาเป็นสมณะ
เพียงหวังจะลดละ  ซึ่งมานะและอัตตา
เร่ร่อนและรอนแรม ไปแต่งแต้มแสวงหา
สัญจรร่อนเร่มา  ผ่านร้อยป่าและภูดอย
ลาภยศและสรรเสริญ  ถ้าหลงเพลินจิตเสื่อมถอย
พาใจให้เลื่อนลอย  จิตเสื่อมถอยคุณธรรม
       ปณิธานในการปฏิบัติธรรม

ออฟไลน์ boomee

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 339
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๔ ตค. ๕๔ ...
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 05 ต.ค. 2554, 07:47:13 »
กราบนมัสการครับพระอาจารย์   :054:
หากตัวท่านไรซึ่งความหวัง  กายท่านจะคงอยู่เพื่อสิ่งใด

ออฟไลน์ yout

  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 1742
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๔ ตค. ๕๔ ...
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 05 ต.ค. 2554, 01:37:02 »
กราบนมัสการรพะอาจารย์ครับ........... :090: :090: :114: :090: :090:..............

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๔ ตค. ๕๔ ...
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 05 ต.ค. 2554, 05:33:21 »
กราบนมัสการท่านพระอาจารย์ :054:

อ้างถึง
...อย่ากินของร้อน (ราคะ โทสะ โมหะ)
...อย่านอนบนไฟ (โลภ โกรธ หลง)
...ให้ไปอย่างแร้ง (ไม่ยึดติด ไม่สะสม)
 ...แสวงหาบริสุทธิ์ (ของที่ชอบธรรม)

จำง่ายดีครับ :001:
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว....ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา...สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา...กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ