ขโมยของพระกับผู้หญิงหัวขาด
หลวงลุงที่เล่าถึงนี้ท่านคือ หลวงปู่ศุข คับ
. ง่า
. แต่ไม่ใช่หลวงปู่ศุขวัดปากคลองมะขามเฒ่านะ <<< ถ้าวัดปากคลองฯ ท่านเป็นอาจารย์ของหลวงพ่อที่เรานับถืออยู่ รู้จักเหมือนกัน แต่ไม่ใช่หลวงปู่ศุขที่กำลังกล่าวถึง (เรื่องของเรื่องคือชื่อเหมือนกันไง)
หลวงปู่ศุขหรือที่เราเรียกว่าหลวงลุง ปัจจุบันยามนี้ท่านมรณะภาพไปนานมากแล้ว ตอนยังมีชีวิตอยู่นั้นท่านเป็นเจ้าอาวาสอยู่ที่วัดเจริญวราราม (วัดน้อยคลองด่าน) และเรียกได้ว่าเป็นเกจิอาจารย์ที่มีวิชชา มีอภิญญาติดตัว มีญาณมองเห็นภูต ผี วิญญาณ เทพ เทวดา แถมทอล์คกิ้งเซฮัลโหลกันได้สบายๆ (สงสัยเราจะได้รับสืบทอด DNA ส่วนนี้มาอ่ะนะ) นอกจากจะมองเห็นพูดคุยกับสปีชี่ย์ต่างมิติ (ก็คุณผีนั่นแหล่ะ) ได้แล้ว ท่านยังรักษาโรคให้ป่วยได้ด้วย เก่งแค่ไหนนั้นก็ขนาดรักษาคนเป็นมะเร็งหายได้นั่นแหล่ะ
วิธีการรักษาของหลวงลุงท่านจะใช้วิธีคุยกับเจ้ากรรมนายเวร ขอนุญาตกันก่อนว่าเขาจะยอมให้รักษาหรือไม่ จะยอมอโหสิกรรมให้คนป่วยได้ไหม ถ้ายอมเขาจะเอาอะไรบ้าง บางทีก็ต้องทำพิธีแก้กรรมกันก่อนถึงจะรักษาได้ ก็แล้วแต่ไปเคสไป<<<เก่งกว่าเรามากๆ เพราะข้าพเจ้ามีปัญญาแค่คุยกับเจ้ากรรมนายเวรเฉยๆ
ว่าแล้วก็นึกถึงได้อีกเรื่่องของหลวงลุง เป็นเรื่องก่อนที่เราจะเกิด (สมัยคุณป๋ายังหนุ่ม) คุณป๋าเล่าให้ฟังว่าไอ้คนบ้านข้างๆ มันลื่นล้มหรืออะไรยังไงเนี่ยแหล่ะ ก็ไปนอนรพ. หมอบอกว่าป่วยชิวๆ รักษาได้ ไม่ตายยาก ตอนนั้นหลวงลุงยังไม่ได้บวช ไม่ได้รู้เรื่องอะไรกับเขาเลยนะ ท่านนั่งเล่นอยู่ตรงท่าน้ำ คุณป๋าไปเรียก อยู่ดีๆ หลวงลุงก็บอกว่า
ไอ้
(ชื่อคนข้างบ้าน)
มันตายคืนนี้แหล่ะ เสร็จแล้วก็เดินกลับบ้าน คุณป๋าอย่างงงๆ เหวอๆ เลยว่าหลวงลุงรู้ได้ยังไงหว่าว่าเจานั้นอยู่ รพ. <<< แล้วก็นั่นแหล่ะ ไปแช่งเค้า คนนั้นเลยตายเลยในคืนนั้นนั่นแหล่ะ
ทีนี้ตอนที่หลวงลุงท่านมาอยู่บ้านเรา เป็นประมาณช่วงที่เรนอยู่ ป.3 หรือ ป.5 ได้ ความทรงจำไม่ค่อยเที่ยงตรงเท่าไหร่(<<ออกแนวเที่ยงบ่ายเป็นส่วนใหญ่) แต่คิดว่าน่าจะ ป.3 มากกว่า (ถ้าจำไม่ผิดนะ) คือช่วงนั้นหลวงลุงท่านอาพาธ ต้องเข้ามารักษาตัวในกรุงเทพฯ คุณป้าท่านก็เลยรับหลวงลุงเข้ามาให้มาอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน แล้วก็เลยสร้างบ้านหลักเล็กๆ อีกหลังให้หลวงลุงท่านอยู่โดยเฉพาะ
บ้านหลังนั้นตอนที่สร้างจะไปติดกับต้นมะม่วงต้นใหญ่อยู่หนึ่งต้น (ที่บ้านโรงเรียนตอนนั้นมีต้นมะม่วงเยอะมาก คุณปู่ปลูกเอาไว้เกือบครบทุกสายพันธุ์มะม่วงเลย<<ปัจจุบันโดนคุณป้าตัดออกไปเกือบหมด วันที่ตัดตรงมะม่วง<<ทั้งที่เราห้ามแล้วนะ เพราะแต่ละต้นมีคนคุ้มครองอยู่ แล้ววันที่ตัดนั่นแหล่ะ หลังคาห้องน้ำำถล่ม แถมคุณป้ายังลื่นล้ม เจ็บรอบเอวผ่ากลางลำตัวเลย<<กรรมดีแท้ ห้ามแล้วแต้ๆ เลย เฮ้อ) ตอนสร้างบ้านตอนนั้นคุณป้าก็จะตัดต้นมะม่วงต้นนี้ออกไปทีแล้ว แต่หลวงลุงท่านไม่ยอม บอกให้สร้างเว้นๆ ไปเพราะต้นมะม่วงมีเทวดาคุ้มครองอยู่ ดังนั้นบ้านเล็กๆ ที่สร้างขึ้นมาก็เลยมีรูให้ต้นมะม่วงอยู่ด้วย 1 รู
ช่วงนั้นหลังจากที่หลวงลุงท่านมรณะภาพไปแล้วบ้านหลังเล็กนี้เลยเกิดอาการน้ำท่วมยามฝนตก ก็สืบเนื่องมาจากรูที่ต้นมะม่วงนี้แหล่ะ แต่น่าแปลก เพราะตอนที่หลวงลุงท่านยังมีชีวิตและพักอยู่ที่นี่กลับไม่มีฝนรั่วลงมาเลย
บ้านหลังเล็กพอสร้างเสร็จหลวงลุงท่านก็ทำพิธี ให้บ้านหลังนั้นเป็นเขตวัดเสีย พวกเรา (คือเรนและพวกญาติๆ) ก็เลยเรียกบ้านเล็กหลังนั้นว่า กุฏิ
หลังจากกุฏิสร้างเสร็จก็เป็นเรื่องของการย้ายศาลพระภูมิ (จุดเริ่มของการย้่ายศาลแต่ดันลืมย้ายบริวารไปด้วยไง) ศาลพระภูมินี่ทีแรกอยู่ส่วนหน้าบ้านค่ะ แต่พอหลวงลุงท่านมาสงสัยพระภูมิท่านจะเฮฮา (พระภูมิบ้านโรงเรียนท่านเฮอาปาร์ตี้ดีมากเลย) อยากมีเพื่อนคุย ท่านก็เลยขอย้ายมาอยู่หน้ากุฏิหลวงลุง (ท่านบอกผ่านมากับหลวงลุง<<คนเอ๊ย! พระที่ฟังท่านพูดรู้เรื่องอ่ะ) พอย้ายศาลมาที่ดินตรงศาลเดิมก็ว่างเป็นหลุม เลยเอาต้นพลับพลึงมาปลูกไว้ (ก็คือเรื่องผีมันอยู่ในต้นพลับพลึงค่ะ)
ทีนี้ก็ช่วงนั้นนั่นแหล่ะ ช่วงที่หลวงลุงท่านมาพักรักษาตัวอยู่ที่กุฏิ ตอนนั้นที่บ้านมีคนขับรถมาอยู่ด้วยคนหนึ่ง เป็นคนขับรถโรงเรียน (เหตุที่เรื่องผีในบ้านเค้าโดนจัดอยู่ในหมวด เรื่องผีในโรงเรียน ก็เพราะว่าบ้านเค้าเป็นโรงเรียนนี่แหล่ะค่ะ) คนขับรถก็มีลูกด้วยอีกหนึ่งคน ปกติแล้วเรื่องดูแลหลวงลุงท่านตอนกลางวันๆ คุณม่ามี๊เราท่านจะเป็นผู้ดูแลรับใช้ใกล้ชิด ขาดเหลืออะไรก็จะจัดหาให้ แต่ตอนกลางคืนไม่ได้ ก็หลวงลุงท่านเป็นพระอ่ะ จะให้ผู้หญิงไปค้างด้วยได้ยังไง ตอนกลางคืนท่านก็เลยต้องอยู่รูปเดียวไปตามระเบียบ
และแล้ว
(เออวุ้ย!
ร่ายมาตั้งยาวเพิ่งจะเริ่มเข้าเรื่อง) คืนวันหนึ่งที่ไม่มีพระอาทิตย์ขึ้น (ก็แน่ล่ะ ประเทศไทยนะ พระอาทิตย์จะขึ้นตอนกลางคืนได้ยังไง เดี๋ยวปั๊ด!!) สรุปคือในคืนหนึ่งอยู่ๆ ก็มีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้น
ที่มา
http://ghost.renrengang.com/ghost76-