ผู้เขียน หัวข้อ: ปฐวีกสิณ+อากาสกสิณ (สำหรับคุณเปียกปูน และทุกคน)  (อ่าน 2068 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ NaMaPaTa

  • ปัญจมะ
  • *****
  • กระทู้: 90
  • เพศ: ชาย
  • { ลูกหลวงพ่อบ้านแหลม }.....(((ศิษฐ์หลวงพ่อเปิ่น)))
    • MSN Messenger - SIT1802@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
? ปฐวีกสิณ
 
? ? ? ? ? กสิณนี้? ท่านเรียกว่า? ปฐวีกสิณ? เพราะมีการเพ่งดินเป็นอารมณ์ ศัพท์ว่า "ปฐวี" แปลว่า
"ดิน"? กสิณ แปลว่า "เพ่ง"? รวมความแล้วได้ความว่า? "เพ่งดิน"?

อุปกรณ์กสิณ

? ? ? ? ? ปฐวีกสิณนี้? มีดินเป็นอุปกรณ์ในการเพ่ง จะเพ่งดินที่เป็นพื้นลานดิน ที่ทำให้เตียนสะอาด
จากผงธุลี หรือจะทำเป็นสะดึงยกไปยกมาได้ ก็ใช้ได้ทั้งสองอย่าง ดินที่จะเอามาทำเป็นดวงกสิณนั้น
ท่านให้ใช้ดินสีอรุณอย่างเดียว ห้ามเอาดินสีอื่นมาปน ถ้าจำเป็นหาดินสีอรุณไม่ได้มาก ท่านให้เอาดิน
สีอื่นรองไว้ข้างล่างแล้วเอาดินสีอรุณทาทับไว้ข้างบน ดินสีอรุณนี้ ท่านโบราณาจารย์ท่านว่าหาได้จาก
ดินขุยปู เพราะปูขุดเอาดินสีอรุณขึ้นไว้ปากช่องรูที่อาศัย เมื่อหาดินได้ครบแล้ว ต้องทำสะดึงตาม
ขนาดดังนี้ ถ้าทำเป็นลานติดพื้นดิน ก็มีขนาดเท่ากัน

ขนาดดวงกสิณ

? ? ? ? ? วงกสิณที่ทำเป็นวงกลมสำหรับเพ่ง? อย่างใหญ่ท่านให้ทำไม่เกินเส้นผ่าศูนย์กลาง ๑ คืบ ๔
นิ้ว อย่างเล็กไม่เล็กกว่าขอบขัน ระยะนั่งเพ่งบริกรรม? ท่านให้นั่งไม่ใกล้ไม่ไกลกว่า ๒ คืบ ๔ นิ้ว
ตั่งที่รองวงกสิณ? ท่านให้สูงไม่เกิน ๒ คืบ ๔ นิ้ว? ท่านว่าเป็นระยะที่พอเหมาะพอดี? ?เพราะจะได้
ไม่มองเห็นรอยที่ปรากฏบนดวงกสิณ? ที่ท่านจัดว่าเป็นกสิณโทษ? เวลาเพ่งกำหนดจดจำ? ท่านให้
มุ่งจำแต่สีดิน? ท่านไม่ให้คำนึงถึงขอบและริ้วรอยต่าง ๆ


กิจก่อนการเพ่งกสิณ

? ? ? ? ? เมื่อจัดเตรียมอุปกรณ์เรียบร้อยแล้ว ท่านให้ชำระร่างกายให้สะอาด แล้วนั่งขัดสมาธิที่ตั่ง
สำหรับนั่ง หลับตาพิจารณาโทษของกามคุณ ๕ ประการ ตามนัยที่กล่าวในอสุภกรรมฐาน ต้องการ
ทราบละเอียดโปรดเปิดไปที่ บทว่าด้วยอสุภกรรมฐาน จะทราบละเอียด เมื่อพิจารณาโทษของ
กามคุณจนจิตสงบจากนิวรณ์แล้วให้ลืมตาขึ้นจ้องมองภาพกสิณจดจำให้ดีจนคิดว่าจำได้ก็หลับตาใหม่
กำหนดภาพกสิณไว้ในใจ ภาวนาเป็นเครื่องผูกใจไว้ว่า "ปฐวีกสิณ" เมื่อเห็นว่าภาพเลือนไปก็ลืมตา
ดูใหม่? เมื่อจำได้แล้วก็หลับตาภาวนากำหนดจดจำภาพนั้นต่อไป ทำอย่างนี้บ่อยๆ หลายร้อยหลายพัน
ครั้งเท่าใดไม่จำกัด จนกว่าอารมณ์ของใจจะจดจำภาพกสิณไว้ได้เป็นอย่างดี จะเพ่งมองดูหรือไม่
ก็ตาม ภาพกสิณนั้นก็จะติดตาติดใจ นึกเห็นภาพได้ชัดเจนทุกขณะที่ปรารถนาจะเห็นติดตาติดใจ
ตลอดเวลา อย่างนี้ท่านเรียกว่า "อุคคหนิมิต" แปลว่า นิมิตติดตา อุคคหนิมิตนี้ ท่านว่ายังมีกสิณ
โทษอยู่มาก คือภาพที่เห็นเป็นภาพดินตามที่ทำไว้ และขอบวงกลมของสะดึง ย่อมปรากฏริ้วรอย
ต่าง ๆ? เมื่อเข้าถึงอุคคหนิมิตแล้ว ท่านให้เร่งระมัดระวังรักษาอารมณ์สมาธิและนิมิตนั้นไว้จนกว่า
จะได้ปฏิภาคนิมิต ปฏิภาคนิมิตนั้น รูปและสีของกสิณเปลี่ยนจากเดิม คือกสิณทำเป็นวงกลมด้วย
ดินแดงนั้น จะกลายเป็นเสมือนแว่นแก้ว มีสีใสสะอาดผ่องใสคล้ายน้ำที่กลิ้ง อยู่ในใบบัว ฉะนั้น
รูปนั้นบางท่านกล่าวว่าคล้ายดวงจันทร์ที่ปราศจากเมฆหมอกปิดบัง เอากันง่าย ๆ ก็คือ เหมือน
แก้วที่สะอาดนั่นเอง รูปคล้ายแว่นแก้ว จะกำหนดจิตให้เล็กโตสูงต่ำได้ตาม ความประสงค์
อย่างนี้ท่านเรียกปฏิภาคนิมิต เมื่อถึงปฏิภาคนิมิตแล้วท่านให้นักปฏิบัติเก็บตัว อย่ามั่วสุมกับ
นักคุยทั้งหลาย จงรักษาอารมณ์ รักษาใจให้อยู่ในขอบเขตของสมาธิเป็นอันดี อย่า สนใจใน
อารมณ์ของนิวรณ์แม้แต่น้อยหนึ่ง เพราะแม้นิดเดียวของนิวรณ์ อาจทำอารมณ์ สมาธิที่กำลัง
จะเข้าสู่ระดับฌานนี้ให้สลายตัวได้โดยฉับพลัน ขอท่านนักปฏิบัติจงระมัดระวัง อารมณ์รักษา
ปฏิภาคนิมิตไว้ คล้ายกับระมัดระวังบุตรสุดที่รักที่เกิดในวันนั้น


อากาสกสิณ อากาสกสิณ แปลว่า "เพ่งอากาศ"
อากาสกสิณนี้ ภาวนาว่า อากาสกสิณังๆ ๆ
ท่านให้ทำเหมือนในอาโลกกสิณ คือ เจาะช่องฝาเสื่อหรือหนัง หรือมองอากาศ คือความว่างเปล่าที่ลอดมาตามช่องฝา หรือหลังคา หรือตามช่องเสื่อ หรือผืนหนัง
โดยกำหนดว่า อากาศๆ ๆ จนเกิดอุคคหนิมิตซึ่งปรากฏเป็นช่องตามรูปที่กำหนด
ปฏิภาคนิมิตนั้น ปรากฏคล้ายอุคคหนิมิต แต่มีพิเศษที่บังคับให้ขยายออกให้ใหญ่เล็ก สูงต่ำได้ตามความประสงค์ คำอธิบายอื่นก็เหมือนกสิณอื่น


อาโลกสิณ อาโลกสิณ แปลว่า "เพ่งแสงสว่าง"
ท่านให้หาแสงสว่างที่ลอดมาตามช่องฝา หรือช่องหลังคา หรือเจาะเสื่อลำแพน หรือหนังให้เป็นช่องเท่า ๑ คืบ ๔ นิ้ว ตามที่กล่าวในปฐวีกสิณ
แล้วภาวนาว่า อาโลกสิณังๆ ๆ ๆ อย่างนี้ จนอุคคหนิมิตปรากฏ
อุคคหนิมิตของอาโลกสิณ เป็นแสงสว่างที่เหมือนรูปเดิมที่เพ่งอยู่
ปฏิภาคนิมิตนั้น ปรากฏเป็นแสงสว่างหนาทึบ เหมือนกับเอาแสงสว่าง มากองรวมกันไว้ที่นั่น
แล้วต่อไปขอให้นักปฏิบัติจงพยายาม ทำให้เข้าถึงจตุตถฌาน เพราะข้อความที่จะกล่าวต่อไปก็เหมือนกับที่กล่าวมาแล้วในปฐวีกสิณ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03 พ.ย. 2549, 11:52:35 โดย NaMaPaTa »
อิติปิโสวิเสเสอิ�� � � อิเสเสพุทธะนาเมอิ
อิเมนาพุทธะตังโสอิ� � � อิโสตังพุทธะปิติอิ

ออฟไลน์ นาย วัชรพล น้ำใจดี(###เปียกปูน###)

  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 433
  • เพศ: ชาย
  • ***มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุระนารี***
    • MSN Messenger - w_nai2525@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sut.ac.th/sutweb/index.html
    • อีเมล
ขอบคุณ คราบ เอ้แล้ว สีของ ดิน นี้มันยังไงกันแน่คราบ....ปู มันก็อยู่หลายที่ด้วยซิ ดินก็แต่กต่างกันไป...ไปอ่านหนังสือเจอ มาบ้าง คนที่เก่งเรื่องนี้ ถึงกับ สามารถ เหาะ ดำดิน ลงน้ำ ได้เลย ที่เดียว คุณ NAMAPATA    ว่าไงคราบ....ขอความรู้เรื่อง  สี  ดิน  อีกนิดคราบ...
*** คิดดี ทำดี พูดดี สิ่งดีๆ ต่างๆ ก็จะทำให้เราได้ดี***
     คนเราจะดีได้...ต้องทำที่ชั่วให้ดีก่อน
     ที่ดีอยู่แล้ว อย่าไปทำราย...

ออฟไลน์ ~EN13~

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 301
  • เพศ: ชาย
  • รักและเคารพ ศิษย์วัดบางพระทุกคนครับ^ ^
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
อ่านแร้ว ก้อ  งง  ไม่ค่อยมีฟามรู้เรื่องนี้เรยย


สิ่งสำคัญที่สุดของชีวิต