พึ่งตนพึ่งธรรม - อะไรคือหัวใจพุทธศาสนา 2/2
ท่านชอบพุทธศาสนาในเหลี่ยมไหน?
อย่างที่เรารู้ๆ กันอยู่ พุทธบริษัทของเรา มักเข้าใจ หรือชอบใจ พุทธศาสนากันไปในมิติที่แตกต่างกัน หนำซ้ำ ยังไม่ชัดเจนในเป้าหมายสูงสุดของศาสนา เหมือนกับประดาศาสนิกชนอื่น ซึ่งหากลองไปถามเป้าหมายสูงสุดของพวกเขาเหล่านั้นดู ก็จะได้คำตอบที่ค่อนข้างจะชัดเจน และไม่แตกต่างกันไปมากนัก ส่วนพวกเราชาวพุทธ บางทีลองถาม ๑๐ คน อาจจะได้คำตอบถึง ๕ แบบด้วยกัน ... ในหนังสือ คู่มือมนุษย์ จึงเปิดประเด็นไว้ในหลายๆ มิติ เช่น บางคนชอบพุทธศาสนาในฐานะที่เป็นปรัชญาบ้าง, ในฐานะที่เป็นจิตวิทยาชั้นสูงบ้าง, ในฐานะที่เป็นวิทยาศาสตร์บ้าง, ในฐานะที่เป็นหลักวัฒนธรรม หรือ ศิลปะบ้าง, ในฐานะที่เป็นสัจธรรมที่ลึกซึ้งเร้นลับบ้าง, หรือในฐานะที่เป็นระเบียบปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้นบ้าง เป็นต้น
เมื่อผู้ที่ชอบในมิติ ที่ต่างกันไป ก็เลยไปถึงการเข้าถึงหัวใจศาสนาที่แตกต่างกันไป เช่นกัน จึงมีคำตอบที่หลากหลายสำหรับ หัวใจพุทธศาสนา มีตั้งแต่ ทางสายกลาง, อริยสัจ ๔, อิทัปปัจยตา, โอวาทปาฏิโมกข์, ไตรสิกขา (ศีล-สมาธิ-ปัญญา) หรือแม้กระทั่ง... นิพพาน เป็นต้น ผู้เขียนนึกสนุก ลองเช็คดูในเน็ต โดยเข้าไปคีย์คำว่า หัวใจพุทธศาสนา ที่ Google ก็พบว่า คำตอบยอดนิยมที่สุด คือ โอวาทปาฏิโมกข์ อันหลักๆ ได้กล่าวถึงหัวใจการปฏิบัติ ๓ ข้อ หมายถึง ละชั่ว-ทำดี-ทำจิตเกลี้ยง วิมุตติ ผ่องใส
อย่างไรก็ดี ท่านอาจารย์พุทธทาส ฝากสรุปหัวใจธรรม ๓ ข้อแห่งโอวาทปาฏิโมกข์ ลงเป็นประโยคเดียว อันเป็นพุทธพจน์ที่สำคัญมากๆ และปราชญ์หลายท่านในแผ่นดินสยาม ถือเป็นคติดำเนินชีวิตเลยทีเดียว ดังเช่น อาจารย์เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ และผมนับเป็นคาถาที่ต้องท่องประจำทุกวันเลย คาถานั้นคือ ...
สพฺเพ ธมฺมา นาลํ อภินิเวสาย
(อ่านว่า สัพเพ ธัมมา นาลัง อะภินิเวสายะ)
สรรพสิ่งทั้งหลาย ทั้งปวง ไม่ควรยึดมั่นถือมั่น
ผมว่า พระคาถาที่รวบยอดอย่างนี้แหละ ทำให้เราไม่เผลอไปหลงงมงายอะไรลงไปมากมาย ตราบเท่าที่สิ่งๆ นั้น ยังเป็น ของคู่ อยู่ คือ มีขั้วตรงข้าม เช่น ชั่ว-ดี, บุญ-บาป, กุศล-อกุศล, รวย-จน, สุข-ทุกข์ ฯลฯ เมื่อไม่หลงไปยึดมั่นอะไรมากมายแล้ว จิตจะปล่อยวาง ว่างเบา โดยธรรมชาติของมันเอง นอกจากการปฏิบัติอานาปานสติแล้ว การโยนิโสมนสิการสิ่งเหล่านี้เป็นธรรมชาติ มองเห็นทุกสรรพสิ่งอยู่ภายใต้กฎของไตรลักษณ์ (อนิจจัง-ทุกขัง-อนัตตา) ท่านพุทธทาสก็ยกให้เป็นวิปัสสนาลัดสั้น ประการหนึ่งเลยทีเดียว อย่างนี้กระมัง พวกเราทุกคน ทุกท่าน จึงสามารถทำนิพพานชิมลอง ได้ ที่นี่และเดี๋ยวนี้
ณ ขณะที่เราไม่แบกอดีต ไม่แบกอนาคต อยู่กับปัจจุบันได้อย่างปล่อยวางในการยึดมั่นในความคิดปรุงแต่งเดิมๆ นี่เอง ที่บันดาลให้เข้าสู่หัวใจแห่งพุทธศาสนาที่แท้จริง นั่นคือสันติภาพที่ทุกคนสามารถทำให้เกิดมีได้
นิพพาน เป็นของแปลก
ยิ่งอยากได้ ยิ่งห่างไกล
หยุดอยากเมื่อไหร่
ถึงได้โดยไร้เจตนา
"พิสุทธิ์ เกรียงบูรพา"
ที่มา
http://www.komchadluek.net/detail/20110624/101253/พึ่งตนพึ่งธรรมอะไรคือหัวใจพุทธศาสนา.html