แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - เคจัง_เสน่ห์ล้านนา

หน้า: [1]
1
เราก็ศิษย์ตุ๊ลุงเดชเหมือนกัน  ล่าสุดท่านเมตตาเสือเจ็ดป๊อดให้

เอามาแบ่งกันชมบ้างสิ
จะรอชมเด้อครับ
 :002:

2
ได้ของดีอีกแล้วน้องเรา
กราบนมัสการพระอาจารย์เดช ด้วยครับ
สาธุ สาธุ สาธุ
 :054: :054: :054:

3
ขออนุโมทนาบุญในวาระนี้ด้วยครับ
สาธุ สาธุ สาธุ

4
ต้องหนักแน่นและเชื่อมั่น 
ฟังหูซ้ายทะลุหูขวาอย่าไปสนใจ
มีคนที่จะจ้องโจมตีเยอะครับ

5
ด้านหน้าเจ็บนะขอบอก อิอิ
 :002: :002:

6
http://www.bp.or.th/webboard/index.php?topic=14268

ลองศึกษาดูนะคับ
ไม่ทราบว่าจะตรงกับที่ท่านต้องการหรือไม่
ผิดถูกประการ ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย ครับ
สาธุ สาธุ สาธุ

8
ภาพเดี๋ยวจะทะยอยลงให้ครับ เก็บรูปมาได้ไม่ค่อยเยอะ
เพราะไม่ค่อยถนัดถ่ายคนเยอะมากครับ

 :002: :002: :002:

9
ยินดีต้อนรับครับ
ที่นี้มีแต่ความอบอุ่นและจริงใจให้ท่านเสมอ

10
ห่างหายไปนานเลยครับ
แต่ก็ยังกลับเอาความรู้ดีๆมาฝากเหมือนเดิม
ขอบคุณมากครับ
สาธุ สาธุ สาธุ

11
ยินดีต้อนรับครับ

วิธีโพสรูปตามลิ้ง
ศึกษาเอานะครับ
http://www.bp.or.th/webboard/index.php/topic,5684.0.html

12
มี"นะ นาคราชน้อย" ด้วยนะนี่ :001:

ใช่แล้วครับท่าน gottkung 
ท่านเรียนวิชามาจาก ท่านอาจารย์แก้ว (มณี สายทองดี ) ครับ
สาธุ สาธุ สาธุ
 :054: :054: :054:

13
เต็มตัว

เต็มจนได้น้องเอ่ย
มาต่อกับท่านอาจารย์แก้ว ที่กรุงเทพอีก
เดี๋ยวสงกรานต์กลับบ้านเจอกันเด้อ ครับ

14
สวยงามมากๆเลยครับ......ไม่รู้ว่าสักที่สำนักไหนเหรอครับ...จะได้ไปเยื่ยมชมบ้างครับ.....ขอบคุณสำหรับรูปภาพนะครับ.... :093: :093: :093: :025: :025: :025: :058: :058: :058:

พระอาจารย์เดช เชียงราย ครับ
สาธุ สาธุ สาธุ
 :054: :054: :054:

15
ผมเองก็ได้แวะเวียนมาเยี่ยมชม เวปวัดบางพระ มานานพอสมควร

แต่ไม่ได้มีโอกาสเอาลายสักยันต์ของตัวเองมาให้พี่ๆน้องๆชมบ้างเลย

วันนี้กล้องว่าง ก็ถือโอกาสถ่ายเอาลงให้ชม ครับ

ด้านหน้า อักขระหน้าเสือ สายภาคเหนือ

ส่วนด้านหลังนี้หลายอาจารย์ สายภาคกลาง

ติชมก็ได้ตามสบาย ครับ







16
ถามประดับความรู้ครับ

สักเสือหลายๆตัว ไม่ร้อนฯหรือครับ



ผมมีเสืออยู่7ตัวครับพี่เบิร์ท..
..เวลาร้อน ก็จะอาบน้ำ ปะแป้งเย็น เปิดแอร์ ครับ..
..แหย่เลยนะครับพี่.. :095:

ถามว่ามียันต์เสือๆจะร้อนรุ่มหรือไม่ อันนี้อยู่ที่จิตของคนที่ควบคุมครับ
ถ้าจิตอ่อน ใจไม่แข็งก็อาจหงุดหงิดง่าย ขี้โมโหได้เหมือนกันครับ



ตามที่คุณ ~เสน่ห์ack01~ พูดถูกต้องเลยครับ
มีอีกอย่างก็หมั่นสวดมนต์ทำสมาธิบ่อยๆครับ
สาธุ สาธุ สาธุ
 :054: :054: :054:

ใช่พระอาจารย์ท่านนี้ป่าวครับ
http://www.bp.or.th/webboard/index.php?topic=9593.msg91037#msg91037


17
ตกใจหมดนึกว่า โยมเพชร มาแล้ว
ที่ไหนได้ขุดกระทู้เก่า
อิอิ
 :002: :002: :002:

18
คิดถึงเหมือนกัน
ผู้ใกล้ชิดชี้แจงด้วยครับ

19
ขอให้สมหวังดั่งใจ ครับ
สาธุ

20
Google ช่วยท่านได้ครับ

21
เอ๋ !!! ช่วงนี้โยมเพชร หายเงียบไปไหน หรอครับ

22
ลองเข้าไปดูล่ะกันนะ
ที่นี้คงมีทางออกให้ท่านครับ  >>>>>  http://www.kasina.org/

สาธุ
:054:  :054:  :054:

23
หายใจ
เข้า พุธ ออก โธ
เวลาใจร้อนก็ท่องไว้นะ

หมั่นนั่งสมาธิไว้ ครับ

สาธุ  :054: :054:

24
ยันต์ของ อาจารย์ถึง คงทน ครับ

http://fws.cc/sidkongton/index.php?topic=287.0

25
คำเตือน
คุณคิดดีกับเขา แต่คุณรู้บ้างไหมว่าเขาคิดอะไรกับคุณอยู่

โอว มีกุมารแบบร้ายลึกด้วยหรอครับพี่ชาย

เขาอยากจะไปเกิดไปขานก็ไม่ได้ไป

แล้วถ้าเป็นคุณคิดอย่างไรครับ

สุดท้าย เขากันคุณก็สร้างเวรกรรมกันอีก

ภพต่อไปคุณอาจถูกเลี้ยงคุณจะรู้สึกอย่างไร
 
เหมือนนกที่อยู่ในกรงแล้วแขวนทิ้งไว้กลางป่า

ป่าอยู่ใกล้แค่เอื้อมแต่ออกไป ไม่ได้

สาธุ  :054: :054: :054:


26
การเลี้ยงและบูชากุมารทองฉบับล้านนา

   กุมารทองเป็นเครื่องลางของขลังประเภทมีจิตวิญญาณ กุมารของล้านนาที่มีชื่อเสียงมากที่สุดเห็นจะเป็นกุมารของหลวงปู่ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี จังหวัดเชียงใหม่ กุมารของสามเณรวิเศษณ์  สิงห์คำ และกุมารทองของครูบาหาญ วัดดงลานครับ ส่วนทางฆราวาสเห็นจะมีพ่อหนานสม บ้านต๋ม จังหวัดเชียงใหม่ ส่วนในจังหวัดแพร่ก็มีหลายท่านครับ จริงๆแล้วสำหรับคติเรื่องกุมารทองในล้านนาไม่มีครับ แต่ได้รับอิทธิพลมาจากทางภาคกลาง กุมารทองล้านนาจึงแบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆคือ

1.กุมารทองเทพ กุมารทองเทพเป็นกุมารที่เกิดจากการตั้งธาตุ หนุนธาตุ และบรรจุมวลสารที่เป็นของมงคลล้วนๆ ไม่มีผงผีเจือปน อาจารย์ผู้ทำต้องมีจิตที่แข็งแกร่ง ต้องประสิทธิ์ประสาทอาคมให้ตัวกุมารทองมีพลังมากที่สุด ในนิมิตกุมารทองต้องดิ้นได้ นั่งบนกองเงินกองทอง เป็นต้น สำหรับกุมารประเภทนี้ ไม่มีอันตรายใดๆเพราะเป็นวิญาณสมมติขึ้นมา อาจเซ่นด้วยขนม น้ำหวานตามวาระโอกาส แต่ข้อจำกัดของกุมารทองประเภทนี้คือ บนบานสานกล่าวอาจเห็นผลช้า ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับว่าอาจารย์ผู้ทำกุมารทองประเภทนี้แข็งแกร่งเพียงใด อาจารย์ที่ทำกุมารทองประเภทนี้ได้เก่งที่สุดคือ อาจารย์ฝ่ายพระเกจิที่มีพรรษามากๆ และอาจารย์ที่เป็นหมออาคมสายพุทธคุณครับ


   และกุมารประเภทนี้ กำลังระบาดอย่างมากในสำนักทรง ถ้าเป็นกุมารปลอมก็จะไม่มีตัวตน เสมือนหุ่นธรรมดา แต่สำนักทรงบางสำนักที่ทำกุมารทองออกมาจริงๆ ในจังหวัดแพร่ที่มีชื่อเสียงได้แก่ กุมารทองสำนักทรงแม่เลี้ยงเย็น และกุมารทองเทพสำนักทรงพ่อหนานพร ซึ่งเป็นที่ประจักษ์ในเรื่องของประสบการณืแก่ศิษย์ในจังหวัดแพร่อย่างมากมายครับ

2 . กุมารกึ่งเทพกึ่งพราย กุมารประเภทนี้ คล้ายกับกุมารทองประเภทแรก แต่มวลสารที่ผสมเพิ่มเติมคือผงพรายกุมาร หรือผงอาถรรพ์ต่างๆ เช่นดินเจ็ดป่าช้า กระดูกผี น้ำมันพรายกุมารฯลฯ การทำกุมารประเภทนี้จะอาศัยการเชื้อเชิญเอาจิตวิญาณที่อยู่ในมวลสารอาถรรพ์เหล่านั้นมาสถิตเพื่อสร้างบุญบารมี แต่จิตที่มาอยู่ในองค์กุมารนั้น ไม่ใช่จิตของผีพรายโดยตรง เป็นเพียงขวัญ(ล้านนาเรีกว่าขวัญ มีความเชื่อว่า วิญาณของมนุษย์เรามี 32 ขวัญ) แบ่งมาสถิตในองค์กุมาร กุมารทองประเภทนี้เป็นที่นิยมมาก เพราะบูชาง่าย ไม่มีอันตราย เห็นผลเร็ว บางรายถ้าจิตสื่อถึงกันได้ก็สามารถมาบอกเหตุการณ์ต่างๆในฝันได้ ยิ่งไปกว่านั้นบางรายอาจสื่อกันถึงขั้นได้ยินเสียงกะซิบ หรือเห็นเป็นตัวเป็นตนเลยก็มี ความเก่งกล้าของกุมารประเภทนี้ ขึ้นอยู่กับบารมีของอาจารย์ที่ปลุกเสก ต้องทำ้ด้วยใจบริสุทธิ์ และวิญญาณที่มาสิงสถิตย์ต้องเป็นวิญญาณที่พลีมาโดยถูกต้อง ไม่ได้มาในสภาพถูกบังคับ กุมารก็จะขลังมากๆ กุมารทองประเภทนี้ในจังหวัดแพร่ที่ผมรู้จักและเคยบูชามีอาจารย์น้อยโชคชัย บ้านนาแหลมใต้ที่ทำออกมาได้เข้มขลัง และอาจารย์ของท่านอีกท่านหนึ่งคือ ครูบาเจ้าแก้วก็เข้มขลังไม่แพ้กันครับแต่กุมารของท่านยังไม่มีออกให้บูชาครับ มีแต่ลูกศิษย์หรือคนรู้จักมาขอร้องให้อาจารย์ท่านทำ แต่อาจารย์บอกว่ามวลสารยังไม่ครบตามตำราครับ


3. พรายกุมาร หรือผีพราย กุมารประเภทนี้ หลายๆท่านอ่านแล้วอาจสนใจ กุมารพรายประเภทนี้เป็นกุมารที่เกิดจากการผูกเอาผีเด็กมาใช้งาน ถ้าเป็นผีผู้ใหญ่เรียกว่า ผีพราย ขั้นตอนการทำคร่าวๆ อาจารย์ที่จะทำจะต้องเตรียมสะตง3แจ่ง(เครื่องพลีเลี้ยงผีตายโหงมีลักษณะเป็นกระทงของภาคเหนือ มี 3 มุม ภายในมีเครื่องเซ่นต่างๆ) พร้อมวัสดุที่จะให้กุมารหรือพรายสถิต เช่นขวดน้ำมัน หุ่น เป็นต้น แล้วไปตั้งเครื่องเซ่นที่ป่าช้า หรือทางสามแพร่ง ในกรณีที่จะเอาผีเด็ก ก็ต้องทราบข่าวมาว่าป่าช้าไหนมีศพเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีบ้าง เมื่อพลีเสร็จอาจารย์ก็จะประกอบพิธีกรรมบูชาเจ้าที่ แล้วก็ขอเอาผีพรายมาสิงสถิตในหุ่น หรือน้ำมัน แล้วว่ากล่าวเชื้อเชิญข้อแลกเปลี่ยนตามแต่อาจารย์จะกำหนด เมื่อธูปดับหมดแล้ว ก็พาพรายตนนั้นไปเซ่นเลี้ยงที่บ้าน

   กุมารพรายประเภทนี้ เป็นกุมารพรายของแท้ 100% บางอาจารย์มักเอาหัวกะโหลกมาเซ่นเลี้ยงเลยก็มี สำหรับข้อดีของกุมารประเภทนี้คือ มีตัวตนจริง สัมผัสได้จริงขึ้นอยู่กับสภาวจิต เห็นผลเร็วไว และสามารถสั่งใช้งานได้ตามใจชอบ ข้อเสียก็คือ กุมารประเภทนี้อันตราย ต้องหมั่นเซ่นเลี้ยงทุกวันพระ และต้องควบคุมให้ดี มิฉะนั้นกุมารจะสร้างความเดือดร้อนให้คนในบ้าน เช่นบ้านที่มีเด็กเล็กไม่ควรเลี้ยงเป็นอันขาด


   สำหรับกุมารประเภทนี้ ในจังหวัดแพร่มีอาจารย์วัตร สัปเหร่อบ้านถิ่นที่ทำให้บูชาเป็นรายบุคคลไปค่าครูไม่แพง แต่ใช้เวลานาน เพราะไม่ได้ทำได้ใน 1-2 วัน แต่อาจต้องรอเป็นเดือนเลยก็มี กุมารพรายของท่านไม่มีผลเสียกับผู้เซ่นเลี้ยง เพราะท่านกำกับมาแล้วอย่างรอบคอบและเข้มขลังเป็นอย่างดี และอีกท่านหนึ่งก็เห็นจะมี พ่อหนานมี บ้านปงป่าหวายที่เชี่ยวชาญทางด้านนี้เหมือนกันครับ





--------------------------------------------------------------------------------


ขั้นตอนขอการบูชากุมารทอง

1.การนำกุมารทองเข้าบ้าน

ตำราล้านนาของอาจารย์น้อยโชคชัย  บ้านนาแหลมใต้ กล่าวเกี่ยวกับการนำกุมารทองเข้ามาบูชาในบ้านไว้ว่า ผู้ใดต้องการหากุมารทองมาเลี้ยง ให้ดูโฉลกวันเดือนปีเกิดของเจ้าของกุมาร โดยห้ามให้นำกุมารทองเข้าบ้าน ตามวันที่ปรากฎในตำราดังนี้

1.1 ผู้เกิดวันจันทร์                       ห้ามนำกุมารทองเข้าบ้านในวัน   ศุกร์

1.2 ผู้เกิดวันอังคาร                      ห้ามนำกุมารทองเข้าบ้านในวัน   อาทิตย์


1.3 ผู้เกิดวันพุธกลางวัน               ห้ามนำกุมารทองเข้าบ้านในวัน   จันทร์

1.4 ผู้เกิดวันพุธกลางคืน               ห้ามนำกุมารทองเข้าบ้านในวัน   อังคาร


1.4 ผู้เกิดวันพฤหัส                       ห้ามนำกุมารทองเข้าบ้านในวัน    พฤหัส


1.5 ผู้เกิดวันศุกร์                          ห้ามนำกุมารทองเข้าบ้านในวัน    เสาร์


1.6 ผู้เกิดวันเสาร์                          ห้ามนำกุมารทองเข้าบ้านในวัน    วันพุธกลางคืน


1.7 ผู้เกิดวันอาทิตย์                      ห้ามนำกุมารทองเข้าบ้านในวัน    วันพุทธกลางวัน


ขั้นตอนของการนำกุมารทองเข้าบ้าน(ฉบับล้านนา)

1 . เตรียมธูป 16 ดอก ( แทน 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน ) ดอกไม้ หมาก 1 แว่น ใบพลู 1 ใบ เรียกว่า "หมากคำพลูใบ" เพื่อบอกกล่าวแก่พระแม่ธรณี

2 . จุดธูปปักตรงกลางแจ้งของบ้าน พยายามหาที่ปักที่เป็นพื้นดิน หากหาไม่ได้จริงๆให้ปักในทรายหรือดินใส่ภาชนะหรือกระถางธูปก็ได้ โดยเริ่มบอกกล่าวตั้งแต่ศาลพระภูมิบ้าน ศาลเจ้าที่ และนำหมากคำพลูใบนี้ วางลงบนพื้นดิน เพื่อเป็นการบอกกล่าวแก่พระแม่ธรณี โดยกล่าวว่า

"....สาธุ สาธุ สาธุ ขอฝากกลิ่นธูปควันเทียนและกลิ่นดอกไม้หอมนี้ ไปยังเทวดาทั้งหลาย พระอินทร์พระพรหม พญายมราช ครุฑนาคน้ำทั้งมวล ตลอดถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย อันมีพระแม่ธรณี ผู้เฝ้ารักษาผืนแผ่นดินแห่งนี้ เจ้าที่เจ้าทางทั้งหลาย ที่เฝ้ารักษาเขตละแวกนี้ วันนี้ตัวลูกชื่อ.............................................................ได้นำเอาลูกกุมารทองเข้ามาอยู่ในบ้านจำนวน.......องค์มีชื่อว่า...........................ลูกขออำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ที่เฝ้ารักษาผืแผ่นดินนี้ เฝ้ารักษาบ้านหลังนี้ ของจงเมตตาเปิดทางให้ลูกของข้าพเจ้าที่นำมาในวันนี้ เข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ด้วยเถิด เพื่อที่จะได้มาช่วยลูกทำมาค้าขาย เฝ้าบ้านเฝ้าเรือน ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย รับทราบและรับรู้สิ่งที่ลูกบอกกล่าวด้วยเถิด สาธุฯ

3 . เมื่อทำตามขั้นตอนที่ 2 เสร็จแล้ว ให้นำกุมารมาตั้งในที่ที่เหมาะสม หากบ้านมีรูปผีบรรพบุรุษที่ล่วงลับ หรือมี ห้องพระภายในบ้าน ก็ควรบอกกล่าวด้วยวาจา หรือจะบอกกล่าวโดยจุดธูปจำนวน 5 ดอกบอกรวมๆเลยก็ได้ คล้ายๆกับขั้นตอนที่ 2


4 . การตั้งบูชากุมารให้ตำ่กว่าพระพุทธรูป และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งปวง การนำกุมารทองเข้าบ้านครั้งแรก ตามตำราควร หาแผ่นทองคำเปลวมาปิดบนหน้าผากกุมารเพื่อรับขวัญ หรืออาจหาของเล่น เครื่องเซ่นไหว้มารับขวัญก็ได้ แล้ว่าคาถาบูชากุมารทองดังนี้

นะโม 3 จบ ระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย และครูอาจารย์ที่ปลุกเสกกุมารองค์นี้ แล้ว่าดังนี้

"...เอหิ ตาตะ ปิยะปตตะ ปุเรถะ มะมะ ปาระมิง หะทะยัง เมถิสันเจถะ กะโรถะ วะจะนัง มะมะ..."

สวดอย่างน้อย 3-5 จบ แล้วเรียกลูกๆมารับของเซ่นด้วยวาจานุ่มนวล เสมือนพูดจาอยู่กับลูกแท้ๆของเราเอง ตามตำราท่านบอกว่าให้พูดเองเออเองว่า " ลูกจ๋า มาอยู่กับพ่อรึยังจ๊ะ" ตอบเองว่า " มาแล้วครับพ่อ " ถามอีกว่า "ลูกมาอยู่กับพ่อแล้ว ช่วยดูแลพ่อ และช่วยหาเงินหาทองได้ไหมจ๊ะ" ตอบเองว่า " ได้จ๊ะพ่อ ลูกจะช่วยหาเงินหาทองให้พ่อร่ำรวยเลยแหละ" แล้วให้แนะนำว่าในบ้านมีใคร ชื่ออะไรบ้าง ให้ลูกกุมารทองรู้จัก

****แต่..จริงๆแล้วทางล้านนาไม่มีคาถาบูชากุมารทองครับ เราจะเคยได้ยินคาถาสากลกันว่า จิเรจุนิ เจตตะสิกัง............ฯลฯ ซึ่งใช้ได้กับกุมารทุกสำนักครับ เพราะแปลออกมาแล้วเป็นข้อความที่เราพูดกับกุมาร บูชายกย่องกุมารครับ แต่คาถาข้างบนนี้ อาจารย์น้อยโชคชัยได้มาจากอาจารย์ท่านที่สอนการทำกุมารทองครับ เลยเอามาเผยแพร่เป็นวิทยาทาน และอีกประการหนึ่ง ผู้เฒ่าผู้แก่ในล้านนามักไม่ชอบเลี้ยงกุมารทอง เหตุเพราะเป็นผีเด็ก เรื่องมาก บางท่านที่เลี้ยงเคยเล่าให้ผมฟังว่า การเลี้ยงกุมารทองของเมืองเหนือจริงๆ จะพูดจาแบบน่าเกรงขาม ให้ลูกกุมารเคารพ และเชื่อฟัง พูดอ่อนโยนแสดงอาการเอ็นดูบ้างเป็นบางครั้ง แต่อย่าใจดีเกินไป เดี๋ยวจะดื้อและกำราบไม่อยู่ครับ


อ้าวววววว.....ถ้าไม่มีคาถาจะทำอย่างไง????? จริงๆแล้วถ้าไม่ใช้คาถาใช้วาจาปากของเราดีที่สุดครับ ไม่ต้องไปสนใจภาษาบาลี ขนาดเรายังไม่เข้าใจความหมายเลย โบราณล้านนาเวลาเลี้ยงพราย เลี้ยงกุมารก็มักกล่าวกันด้วยวาจาปล่าวครับ คือพูดอะไรก็ได้ตามแต่ที่เราจะพูดครับ


5 . บอกสัญญาไปว่า ทุกวันไหนจะถวายน้ำแดง หรือขนม หรือว่าจะถวายทุกวันพระก็ได้ อีกประการหนึ่งตำรากล่าวไว้ว่า ต้องมีน้ำเปล่า 1 แก้วตั้งอยู่หน้ากุมารทองอย่างน้อย 1 แก้วอย่าให้ขาด


****กุมารทองล้านนาจริงๆ จะไม่ยกผีให้สูงกว่าตน กล่าวคือจะไม่เอาอกเอาใจจนเกินไป เพราะมีความเชื่อว่ากุมารจะเคยตัว และไม่ทำงาน บางรายเลี้ยงกุมารผิดๆบูชากุมารทองเป็นพ่อเลยก็มี จะทำให้กุมารไม่เชื่อฟังเรา หรืออาจรุนแรงที่สุดก็คืออาจทำร้ายเราได้ถ้าเราควบคุมไม่ดี

****กุมารทองประเภทพราย กึ่งภูติกึ่งพราย ในล้านนามักนิยมเซ่นเลี้ยงก่อนวันพระ 1 วัน ซึ่งต่างจากสำนักอื่นๆที่ต้องเซ่นเลี้ยงในวันพระ แต่กุมารประเภทกุมารเทพจะเซ่นเลี้ยงในวันพระ แต่ปัจจุบัน หลวงพ่อ และอาจารย์ส่วนใหญ่มักแนะนำให้เซ่นในวันพระเพราะจะได้ไม่เป็นการยุ่งยากจนลำบากใจเกินไป ซึ่งก็ไม่ถือว่าผิดธรรมเนียมแต่อย่างใดครับ

****ข้อนี้สำคัญที่สุด โบราณล้านนาเชื่อว่า กุมารทองจะมีนิสัยใจคอเหมือนกับผู้เลี้ยง เหมือนเราเลี้ยงลูกครับ เลี้ยงให้เขาเป็นคนดี สอนให้เขาเป็นคนดี ลูกเราก็เป็นคนดีครับ แต่สอนเ้ค้าเป็นคนไม่ดี มีความอาฆาตต่อผู้อื่น กุมารทองก็จะไม่ต่างอะไรไปจากอสรพิษดีๆนั่นเองครับ บางร้ายอาจย้อนกลับทำร้ายเจ้าของก็มี ที่จังหวัดแพร่มีเห็นอยู่ในบางรายครับ


6 . สุดท้ายหมั่นพูดคุยกับลูกๆ และหมั่นแผ่เมตตา และระลึกถึงคุณครูบาอาจารย์อยู่เสมอ กุมารทองก็จะขลังและวิเศษยิ่งนักแลฯ




ตำราการเลี้ยงและบูชากุมารทองนี้ สามารถนำไปประยุต์ใช้ได้ทุกสำนักครับ ไม่จำกัดว่าเฉพาะกุมารสายล้านนา อย่าคิดมากว่าอย่างนั้นถูกอย่างนี้ผิด เหมือนเราเลี้ยงลูกคนนึกนะครับ เลี้ยงบูชาด้วยใจศัทธา ปาฏิหาริย์ก็จะบังเกิดครับ


*****จบการนำกุมารทองเข้าบ้านเพียงเท่านี้*****




   ขอขอบพระคุณอาจารย์น้อยโชคชัย ที่ให้ข้อมูลและอนุญาติให้นำข้อมูลมาเผยแพร่เแก่สมาชิกเป็นวิทยาทานครับ.

ที่มา http://www.yimwhan.com/board/show.php?user=gumaro&topic=149&Cate=1
 
 


 

27
ก่อนอื่นนั้น


1. เราจะต้องคิดก่อนว่าเราจะเลี้ยงเค้าเพื่ออะไร ถ้าคุณตอบว่าอยากเห็นเค้ามากระโดดโลดเต้นเหมือนในละครก็ อย่าเลี้ยงเลยครับ
2. คุณพร้อมที่จะดูแลและเลี้ยงเค้ามั้ย ถ้าไม่พร้อมก็ อย่าเลี้ยงครับ
3. การเลี้ยงกุมารนั้นเรื่องสัจจะเป็นสำคัญนะ บอกว่าให้ตอนไหนก็ต้องให้ตอนนั้น
4. ถ้าทำตามทุกๆข้อที่ผมกล่าวมาได้นั้น เริ่มเลี้ยงได้เลย


เมื่อคุณสมบัติผ่านแล้วต่อไปคือ


1. คิดดูว่าจะเลี้ยงกุมารเทพ หรือพราย
2. เมื่อคิดออกแล้วให้คุณศึกษาหาวัดหรือสำนักที่มีการสร้างเสกกุมารทองขึ้นมา และที่สำคัญเราต้องศรัทธาในอาจารย์ผู้สร้างและองค์กุมารทองที่บูชานั้นด้วย เพราะศรัทธาเป็นแรงที่ทำให้เกิดปาฏิหารย์
3. ศึกษาวิธีการบูชาของแต่ละสำนักที่เราจะไปนำกุมารทองมา


ปล. บางท่านอาจจะใช้วิธีซื้อหุ่นกุมารทองมาแล้วนำไปให้สำนัก หรือวัดท่านผูกกุมารทองให้ อันนั้นก็แล้วแต่ความชอบครับ


กุมารเทพ


ข้อดี
1. เราไม่ต้องเซ่นเลี้ยงด้วยอาหารหยาบ
2. ไม่ให้โทษแก่ผู้เลี้ยงเมื่อเราไม่ได้เซ่นดูแล
3. หน้าตาจิ้มลิ้ม (อันนี้ไม่เกี่ยว แต่ลูกของผมบอกมา)


ข้อเสีย
1. เมื่อบนบาลอะไรแล้วได้ผลช้าหน่อย
2. ไม่ค่อยแสดงฤทธิ์เดชให้เห็น


กุมารพราย


ข้อดี
1. แสดงฤทธิ์บ่อยๆ
2. ได้ผลเร็วเมื่อบนบาลแล้ว


ข้อเสีย
1. ต้องเซ่นเลี้ยงด้วยอาหารหยาบอย่างขาดมิได้ (ยกเว้นบางตำหรับ)
2. หากขาดการเซ่นเลี้ยงแล้วอาจให้โทษแก่ผู้เลี้ยงได้(ยกเว้นแต่อาจารย์ผู้สร้างนั้นกำกับมาดี)


ขั้นตอนเมื่อเราได้กุมารมาแล้ว


1. เมื่อเราได้กุมารมาแล้วให้เราจัดการตั้งชื่อให้กับเขา โดยแบ่งได้ดังนี้


1.1 ชื่อที่เน้นโชคลาภ เช่น ทองมา เรียกทรัพย์ พูลเงิน พูลทอง ทองไหลมา เป็นต้น
1.2 ชื่อที่เน้นทางดุดัน เฝ้าบ้าน แคล้วคลาด เช่น ชัย เพชรมั่น คง กล้า แกร่ง เป็นต้น


2. ก่อนนำเข้าบ้านให้ทำตามนี้


2.1 หาที่ตั้งให้เหมาะสมโดย ไม่อยู่สูงกว่าพระ หรือ ต่ำติดพื้น และไม่ควรหันหน้าไปทาง ทิศตะวันตก
2.2 จุดธูปกลางแจ้ง 12 ดอก บอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทางดังนี้
ข้าพเจ้าขอตั้งจิตอธิฐานบอกกล่าวแด่ พระภูมิ เจ้าที่ ผีปู่ ผีย่า ผีตา ผียาย ผีเหย้า ผีเรือน และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่
อยู่ภายในสถานที่ แห่งนี้ วันนี้ข้าพเจ้าได้นำ เจ้า...... เข้ามาเลี้ยงภายในบ้าน เพื่อให้เจ้า..... เฝ้าทรัพย์สิน ให้โชคให้ลาภ
ขอให้ พระภูมิเจ้าที่ ผีปู่ ผีย่า ผีตา ผียาย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายเปิดทางให้เจ้า.... เข้ามาอยู่อาศัยในบ้านได้สะดวกด้วยถิด
2.3 เมื่อทำการเปิดทางให้กับเจ้ากุมารลูกของคุณแล้ว ให้นำกุมารมาตั้ง ณ ที่ที่เตรียมไว้แล้วจุดธูปบอกกุมาร โดย พราย 1 ดอก เทพ 5 ดอก ว่า
เจ้ากุมารทองของพ่อเอ๋ย ต่อไปนี้เจ้าชื่อ ..... และต่อไปนี้คนนี้คือพ่อของเจ้า พ่อจะเรียกเจ้าว่า ..... มาอยู่ที่บ้าน
ให้ช่วยกันดูแลบ้านเฝ้าบ้านให้ดี ช่วยกันทำมาหากินนะ แล้วพ่อจะซื้อของเล่นให้ เวลาพ่อไปไหนก็ไปกัน เวลาพ่อกินอะไรก็กินกันนะ ไม่ต้องรอให้พ่ออนุญาติ อยากได้อะไรอยากกินอะไรมาบอกพ่อนะ(หากมีกุมารอยู่แล้วให้กล่าวเพิ่มว่า เจ้า...(ชื่อกุมารองค์เดิม).... วันนี้พ่อนำ น้องเค้ามาอยู่ด้วยนะ อยู่ด้วยกันก็รักกันนะช่วยกันดูแลบ้าน หาเงินหาทองอย่าทะเลาะกันนะ)

ทุกๆวันพระให้เรานำข้าวปลาอาหาร หรือขนม หรือผล ไม้ ดอกไม้ มาบูชา เค้าแล้วบอกกล่าวเค้าว่าให้ช่วยกันหาเงินหาทอง เฝ้าบ้านดูแลคนในบ้าน ขาดเหลืออะไรบอกพ่อนะ


สำนึกของผู้ที่เลี้ยงกุมารทอง


1. คุณต้องระลึกไว้เสมอว่ากุมารนั้นคือลูกของคุณ เสมือนคนจริงๆ
2. หมั่นหาของเล่นขนมมาให้เค้า
3. หมั่นคุยกับเค้า
4. หากเบื่อแล้วคิดจะเลิกเลี้ยง นั้นควรนำเค้าไปปล่อยโดยให้ผู้ที่มีพลังจิต หรือพระปลดปล่อยเค้าไป


หมายเหตุ คุณลองคิดว่าคุณเบื่อลูกคุณแล้วคุณขายลูกคุณสิ มันคืออะไร
สุดท้ายนี้ขอให้คนที่รักกุมารทองทุกๆคนนั้น มีกุมารทองน่ารักๆ เก่งๆกันทุกคน

จาก www.palungjit.com

คำเตือน
คุณคิดดีกับเขา แต่คุณรู้บ้างไหมว่าเขาคิดอะไรกับคุณอยู่

28
เท่าที่ผมทราบมากุมารนั้นจะเป็นสายใดขึ้นอยู่กับมวลสารและผู้ปลุกเสกครับ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับรูปลักษณ์
อย่างมวลสารก็เช่นว่ามีดินเจ็ดป่าช้ามั๊ย มีกระดูกผีหรือเปล่าเป็นต้นครับ และก็ผู้ปลุกเสกว่าจะให้เป็นเช่นไร
ยกตัวอย่างกุมารของครูบาดวงดี วัดท่าจำปี จ.เชียงใหม่ อันนี้เป็นกุมารเทพ เพราะครูบาดวงดีท่านได้ทำการอัญเชิญดวงจิตของเทพมาสถิตย์ในองค์กุมาร
กับ กุมารของครูบาสุบิน อันนี้เป็นกุมารพรายครับ เพราะมีมวลสารอาถรรพ์ อีกทั้งพิธีกรรมการเสกก็ไปกระทำในป่าช้า

ซึ่งทั้งสองกุมารนั้นก็มีรูปลักษณ์ที่ไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ครับ  อันนี้เป็นความเห็นของผมนะครับผิดถูกขออภัยด้วยครับ

ตามนั้นเลยครับ
ดูรูปลักษณ์ภายนอกบอกไม่ได้หรอกครับว่าเป็นเทพหรือพราย ครับ
ขึ้นอยู่กับการปลุกเสกและมวลสารที่ใช้อุดไว้ในตัวกุมารครับ
 :002: :002: :002:

29
ตามนี้ครับ

http://www.bp.or.th/webboard/index.php?topic=7827

30
เมื่อวานไปผมยังเห็นท่านสักอยู่ครับ
 :054: :054: :054:

31
ในความคิดของผมว่ายังไม่สมควรอ่ะครับ
อยากให้ท่านเรียนจบแล้วมีงานทำหมั่นคงก่อนถึงค่อยลงหมึกดีกว่า
สักน้ำมันหรือสักหมึกก็เหมือนกันล่ะครับ
ผมเป็นห่วงถึงอนาคตของท่านครับ
เนื่องจากกระผมเคยผ่านประสบการณ์ช่วงนี้มาเลยอยากจะแนะนำให้ท่าน


ถ้าความคิดเห็นของกระผมไม่ถูกใจอะไรท่านก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย
 :054: :054: :054:

32
ได้มาแล้วฮะขอบคุณพี่ๆมาก ได้ยันอะไรไม่รู้ครับไม่ใช่เก้ายอดพอดีคนเยอะมากกว่าผมจะได้สักก็5ทุ่มกว่าสักหมึกฮะ

อายุ 17 สักหมึกเลยหรอครับ  :074: :074: :074:

33
ยินดีต้อนรับครับ

34
ปัจจุบัน ทำงาน กรุงเทพ ครับ
บ้านเกิด พาน เชียงราย ครับ

35
ผิดอย่างใหญ่หลวงเลยครับ
แต่งงานก็คืออยู่ร่วมกันฉันสามีภรรยา
การพรากสามีหรือภรรยาผู้อื่นผิดศีล
ผู้หญิงอาจมีใจให้เราแต่ถ้าทางฝ่ายสามีเค้ารู้ภายหลังทำให้เค้าเกิดทุกข์
นั้นและครับคือบาป
ผิดศีลครับ

คราวต่อไปรู้แล้ว อย่าทำเลยครับ มันไม่ดีหรอกครับ
คนเรามีสิทธิ์เริ่มต้นใหม่ได้ ไม่สายครับ

:069: :069:

36
เหรียญมืดมากครับ เห็นไม่ค่อยชัดเลย

ถ้าเห็นชัดเดี๋ยวอยากได้อีกล่ะสิพี่ อิอิ

39
พูดดี คิดดี ทำดี

3 อย่างนี้ล่ะครับ

คือ เมตามหานิยมที่ดีที่สุด ไม่มีอะไรเท่าครับ่ทาน

40
ส่วนใหญ่คนที่สักแค่ด้านหลังจะคิดว่าบริเวณแถวหมูทองแดงจะเจ็บสุดๆ
แต่ถ้าได้มาลองมาสักเต็มด้านหน้าและสีข้างก็จะทราบว่าด้านหลังนั้นมันแค่จิ๊บๆ ครับ

41
ขอบคุณเพื่อนๆพี่ๆสมาชิกครับ ผมก็คงไปวัดแต่เช้าเหมือนกันครับ ใจจริงก็อยากกลับไปไหว้แม่ที่บ้าน แต่บ้านอยู่ไกลเหลือเกินครับ.....เเม่สาย.....หนือสุดยอดในสยามครับ คิดถึงแม่ ครับ 

ไม่ไกลหรอกครับ
ปีหนึ่งมีแค่ครั้งเดียววันแม่
แม่ก็มีแค่คนเดียว
ถ้าไม่ติดธุระอะไรก็คงสละเวลาได้นะครับ
สักยันต์เมื่อไหร่ก็สักได้
วัดไม่หนีไปไหนหรอกครับ
พ่อแม่สำคัญที่สุดครับ

42
เห็นด้วยครับท่าน
น่าจะมีป้ายติดไว้เลยนะครับ
แต่งกายไม่สุภาพห้ามขึ้น ครับ

43
WEB มีปัญหารึป่าวครับ หรือว่าเป็นเฉพาะเครื่องผมครับ
เนื่องจากผมโพลสรูปไม่ได้ ตัวอัพโหลดไม่ปรากฏ หาย
บางครั้งเวลาผมล็อคอินไปแสดงสถานะผมออนไลน์
แต่มุมบนซ้ายกลับฟ้องว่าผมเป็นบุคคลทั่วไป
เลย งง

44
การจุดธูปบูชา เสริมดวงชะตาหรือขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นเรื่องของความเชื่อที่สืบทอดต่อๆกันมา
การจุดธูป เทียน หมายถึง ไหว้พระรัตนตรัย สิ่งศักดิ์สิทธิ์
การจุดเทียน เป็นตัวแทนของ แสงสว่างชีวิต ดอกไม้หอม แทนคุณงามความดี ความเจริญ
การสักการะถือเป็นการทำอมิสบูชาให้เกิดมงคลแก่ชีวิตโดยการบูชาสิ่งที่ดี ทำให้ตัวเรา มีบารมีมากขึ้น จึงใจสงบขึ้น
 
การสักการะใช้ธูปกี่ดอก
1.พระพุทธรูป ใช้ 3 ดอก แทนพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ
2.พระสงฆ์ ใช้ 3 ดอก แทนพระรัตนตรัยและผู้มีพระคุณ
3.พระสงฆ์ พระเกจิอาจารย์บรรลุธรรม  จุดธูป 9 ดอก แทนพระรัตนตรัยและผู้มีพระคุณ
4.พระพุทธเจ้าหลวง เสด็จพ่อรัชกาลที่ 5 ขอพร จุดธูป 9 ดอก
5.พระโพธิสัตว์กวนอิม ขอพรจุดธูป  9 ดอก
6.พระแม่อุมาเทวี  ขอพรจุดธูป  9 ดอก
        (องค์เทพองค์พรหม) -บน 39 ดอก
        - บวงสรวง 16 ดอก
7.ปู่ฤาษี ขอพรจุดธูป  9 ดอก
8.พระภูมิเจ้าที่ -เทพ ใช้ธูป 9 ดอก
         - เทวดาธรรมดา 5 ดอก
         - ผี 1 ดอก
9.กุมารทอง -จากวัด ใช้ธูป 5 ดอก
         - วิญญาณลูก 1 ดอก
10.ไหว้บรรพบุรุษ  ให้จุดธูป 1 ดอก
11.ว่านมงคลกาหลง  ให้ธูป 5 ดอก
12.พระแม่นางกวัก  ให้จุดธูป 9 ดอก

การจุดธูป 1 ดอก : เป็นการจุดไหว้เจ้าที่เจ้าทาง ผีบ้านผีเรือน วิญญาณภาคพื้น
การจุดธูป 2 ดอก : เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับวิญญาณและการจุดธูปบนอาหาร
การจุดธูป 3 ดอก :  เป็นการจุดธูปบูชาพระรัตนตรัย บูชา พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
การจุดธูป 4 ดอก : เป็นเรื่องเกี่ยวกับธาตุสี่ ใช้ในการสวดเสริมดวงชะตาราศี
การจุดธูป 5 ดอก : เป็นการจุดธูปบูชาพระพุทธ พระธรรม  พระสงฆ์ พ่อแม่และครูบาอาจารย์
การจุดธูป 6 ดอก : เป็นการ จุดธูปเสริมดวงชะตาตามกำลังไฟของอาทิตย์(1) คนที่เกิดวันอาทิตย์
การจุดธูป 7 ดอก : เป็นการจุดบูชาจิตวิญญาณตามศาลเจ้าพ่อเจ้าแม่ และครูบาอาจารย์ที่เสียชีวิตแล้ว
จุดธูป 8 ดอก : เป็นการเสริมดวงชะตา ตามกำลังพระอังคาร (3) และตามจำนวนอัฎฐเคราะห์
จุดธูป 9 ดอก เป็นการจุดธูปบูชาผู้มีพระคุณ พระภูมิเจ้าที่ -เทพ เจ้าป่า เจ้าเขา รุกขะเทวดา ศาลพระภูมิ ศาลเทพ
จุดธูป 10 ดอก เกี่ยวข้องกับธาตุไฟ ตามกำลังของพระเสาร์ (7) มีกำลัง 10 เพื่อใช้ในการสวดเสริมดวงชะตา
จุดธูป 11 ดอก : ใช้บูชาเทวดาชั้นสูง
จุดธูป 12 ดอก : ในการบูชาตามกำลังพระราหู (8) ใช้ในการสวดเสริมดวงชะตา คนที่เกิดวันพุธกลางคืน
จุดธูป 13 ดอก : เป็นเลขไม่เป็นมงคล จึงไม่นิยมจุดบูชา
จุดธุป 14 ดอก ใช้จุดธูปบูชารูปปั้นพระสงฆ์ (เป็นการบูชาคุณพระสงฆ์)
จุดธุป 15 ดอก ใช้สวดบูชาดวงชะตา เกี่ยวข้องกับธาตุ ตามกำลังของดาวจันทร์ (2)
จุดธุป 16 ดอก เป็นการจุดธูปบูชาเทพชั้นสูง บูชาเทพชั้นครู หรือ พิธีกลางแจ้ง ที่มีการอัญเชิญเทวดา ที่สำคัญหมายถึงสวรรค์ 16 ชั้น
จุดธุป 17 ดอก เป็นการเสริมดวงชะตา สวดเสริมดวงชะตา
จุดธูป 18 ดอกไม่นิยมจุด
จุดธูป 19 ดอก บูชาเทวดาทั้ง 10 ทิศ
จุดธูป 21 ดอก บูชาพระคุณของพ่อ การบูชาแม่พระธรณี
จุดธูป 32 ดอก ใช้สวดชุมนุมเทวดาทั้ง 4 ทิศ การไหว้ 16ชั้นฟ้า 15ชั้นดินครับและ 1โลกมนุษย
จุดธูป 39 ดอก การบูชาพระแม่โพสพ
จุดธูป 56 ดอก เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับบูชาคุณพระพุทธเจ้า
จุดธูป 108 ดอก บูชาสิ่งสูงสุดทั่วทั้งโลกทุกชั้นฟ้า

45
อยากสักเสือเจ็ดป๊อดครับ
ครัยมีรูปภาพขอดูหน่อยครับ
สักแล้วพุทธคุณด้านใหนครับ แรงป่าว ยังไง
ขอบคุณครับ



ดูเอาล่ะกันครับท่าน

46
นอกจากสักแล้ว ท่านสร้างวัตถุมงคลอะไรให้บูชาบ้างไหมครับ
พอดีมีเพื่อนอยู่เชียงรายครับ ไปเที่ยวครั้งหน้าจะได้ไปกราบและบูชาของท่านครับ
ขอบคุณครับ

เมื่อ สามสี่ ปีก่อนทราบข่าวว่าท่านได้ทำขุนแผนออกมาพิมพ์หนึ่ง นะครับ
ล่าสุดผมก็ไม่ทราบข่าวเหมือนกันว่าท่านได้สร้างอะไรมาใหม่บ้างนะครับ
ลองเข้าไปสอบถามท่านดูละกัน
ถือโอกาสไปกราบท่านด้วยนะครับ
ขอให้โชคดีนะครับ

47
รูปไม่ใช่ประเด็นที่ว่าเจ็บหรอกครับ
ประเด็นเจ็บมันอยู่ที่ตำแหน่งที่จะลงรอยสักต่างหากครับ
เช่น ตำแหน่งพวกนี้ครับ
กลางหัว สีข้าง หน้าท้อง รอบหัวนม รักแร้ สุดๆ อิอิ
 :095: :095: :095:

48
ตอนนี้ผมมีปัญหาด้านความรักอย่างรุนแรงมาก เพราะผมรักผู้หญิงคนหนึ่งมา 4 ปี ก็คบเป็นเพื่อนไปเรื่อง จนวันหนึ่งผมบอกรักเธอ แต่เธอไม่รักผม และหนำซ้ำยังตีตัวห่าง เหมือนกับว่าเรามิใช่เพื่อนกัน
ผมรู้สึกแย่มาก
ผมพยายามมองคนอื่น จีบคนอื่นแล้ว ผมรู้สึก ว่า ผมไม่ต้องการใครอื่น มันเหมือนคนอื่น ดีกว่า สวยกว่า แต่ผมกลับไร้ความรู้สึกที่จะรักแล้ว
ขนาด หลังจากตีตัวห่าง จนหมดหวัง ผมเลย ลองไปมีความสัมพันธ์ระยะสั้น หรือมีเซ็กซ์ล้วนๆกับคนอื่น หลายคน (แบบยินยอมนะครับ มิใช่หลอกฟันใคร) เพื่อหวังจะลืมเธอ และเจอคนใหม่ๆ แต่ก้ลืมเธอไม่ลง เพราะมันเป็นรักที่ฝังลึกมากๆ
เหมือนกับว่า คงไม่มีผู้ใหญิงคนไหน อีกแล้ว ที่ทำให้ผมรักได้ เพราะนี่มันก็ผ่านมาสักพัก ที่เราห่างกัน
แต่ผมก็ยังไม่ลืมเธอ เธอก็ยังคุยกับผม แต่ดูออกว่ามีกำแพง และเหมือนตีตัวออกห่าง ผมอยู่ไม่ได้แน่ๆ ถ้าไม่มีเธอ ถึงอยู่ไปก็ไม่มีความสุข เพราะทำมาทุกวิธีแล้ว ไปเที่ยว คบคนอื่น ทำบุญ ไปวัด ไปกินเหล้า อู่กับเพื่อนๆ มันก็ไม่ลืมได้เลย

ผมเลยกำลังคิดว่า จะเล่นสายพราย น้ำมันพรายอะครับ จะเวริคไหมครับ
เพราะผมตั้งใจ จะไม่ใช้พร่ำเพรื่อ แค่อยากได้เธอคนนั้นก็พออะครับ
แล้วต้องเซ่นตลอด ไหมครับ แล้วจะมีผลอะไรไหมครับ ถ้าเราเซ่นตลอดไม่ขาดอะไร
แล้วถ้ากินเหล้า หรือไปเที่ยวกลางคืน ผิดศีลเรื่องดื่มสุรา จะมีผลไหมครับ หรือลอดใต้ราวผ้า ผ้าถุงไรแบบนี้

อยากได้ความคิดเห็นพี่น่ะครับ ว่ามันจะดีไหม แล้วถ้าเล่นจะเปนไรไหม มีอันตรายไหม

อ้อ แล้วถ้า ผู้หญิงที่ผมรัก เป็นคนห้อยพระ ไปทำบุญทุกเดือน (วัดธรรมกาย) น้ำมันจะได้ผลไหมครับ หรือว่า ไม่ได้ผลครับ

ผมกะจะใช้น้ำมันพราย ของท่านอาจารย์เสือ เข็มเทวดา  อะครับ เห็นขายในเว็บนึง ประมาณ 500 ไม่ค่อยแพง เลยอยากรู้ว่ามันของจริงหรือหลอก หรือว่าเวริคไหมอะครับ ตามในรูปอะครับ

ของดำอย่าเลย
บาปครับ
คุณลองคิดว่า
ถ้าคุณมีลูกแล้ว
ถ้าลูกคุณโดนแบบนี้มั้งคุณจะรู้สสึกดีมั้ยล่ะครับท่าน

49
ขอบคุณครับ
สำหรับเนื้อหา ความรู้ดีๆ

50
ท่านไปดีแล้ว
เสียใจด้วยครับท่าน

51
ขอบพระคุณครับ
สำหรับข้อคิดดีๆ นะครับ

52
ผม ครับ อยู่ พาน
ไป สักที่ แม่จัน เดือนละสองครั้งมั้ง ครับ
แล้วแต่จะสะดวก ครับ

พระอาจารย์ ท่านสัก ได้ทั้ง ตัวล้านนา และ ขอม ครับ
ท่านไม่ค่อยดังเท่าไร ชอบสงบ ครับ
แปลกคนทางภาคกลางชอบมาสักกับท่านเยอะครับ
สงสัยดังเงียบ อิอิ
ด้านคงกระพันนี้สุดยอด
แถวแม่จันรู้จักท่านดี

ถ้าสนใจ PM เบอร์โทรมาล่ะกัน ครับ




53
ขอบคุณครับท่าน

54
ท่านเป่าและเสกครับ ไม่ได้สักครับ

57
พระครูอมรธรรมาภิรัติ เจ้าคณะตำบลป่าแดด วัดป่าแงะเมืองชุม เชียงราย อายุ 99 ปี




58
เมื่อก่อนผมก็ทำงานที่ กทม. ครับ พักแถว พระราม2

แต่ตอนนี้กลับมาสานต่อกิจการอยู่ บ้านที่ พาน แล้ว ครับ

ถ้าเพื่อนกลับบ้านมาที่ พาน ว่างๆ จะพาไปกราบ ครูบาเดช แม่จัน ยันต์ท่าน ข่ามนักแล ครับ อิอิ

ศิษย์ท่าน เด็กปั๊มโดน มีดชาวเขาแทงเสื้อขาดกระจุย แต่เนื้อตัวไม่มีแผลเลยครับ

หวังว่าคงได้เจอกันครับท่าน

59
มีใคร อยู่ พะเยา พาน มั้งครับ
ผมอยู่ อำเภอ พาน
พอดี หาดี หาเพื่อนที่ชอบ การสักยันต์
เดินทางไปสักยันต์ที่วัดป่าบงแม่จัน ด้วยกัน ครับ
อิอิ

60
ด้วยความเคารพครับ
   ก่อนอื่นต้องขอบพระคุณสำหรับท่านอาจารย์สำหรับความรู้
ที่มอบให้คนรุ่นหลังครับ  ไม่งันของแท้จะกลายเป็นของเทียม
ของเทียมจะกลายเป็นของแท้
    เรื่องของ ท่านอ.เที่ยง น่วมมานา
ผมได้ยินชื่อเสียงของท่านตั้งแต่ผมยังเด็ก
   คนของพ่อผมท่านหนึ่งเป็นลูกศิษย์ของ ท่านอ.เที่ยง
ทุกวันนี้ถ้าอ.ป่องเห็นหน้าอาจจะจำเค้าได้ เค้าเป็นหาบขนมถ้วยขาย
ที่สำนักของท่านอ.เที่ยง มาก่อน สักยันต์มาหลายยันต์
  เค้าเล่าให้ผมฟังเหมือนกันเรื่องฝนตก ท่านอ.เที่ยงเดินตากฝนไม่เปียก

แต่หากนับถือท่านจริงก็ตั้งจิตระลึกถึงท่านได้ครับพกติดดตัวรับรองว่าคุ้มตัวได้แน่ครับ
เรื่องวัตถุมงคลท่านอ.เที่ยง ผมเคยอยากได้เหรียญหมู(มีดี) มากมาย
จะตัดสินใจเช่าหาตั้งหลายหน แต่พอได้คุยกับครูบาอาจารย์ท่านหนึ่ง
แล้วเปลี่ยนใจ  คิดว่านำเงินนั้นใส่บาตรตอนเช้าดีกว่า
ผมได้รูปท่านอ.เที่ยง ทำใหม่จากเพื่อนท่านหนึ่ง ยังนำติดตัวไว้ในรถถึงทุกวันนี้
  จุดๆนี้อยากให้ครูศิษย์ของท่านอ.เที่ยง ทำล๊อคเก็ตภาพอ.เที่ยงไว้บูชา
ขอแสดงความนับถือ
Gearmour


อยากได้เหมือนกันครับ ล๊อคเก็ตภาพอ.เที่ยง เอาใจช่วยอีกแรง

61
ในความคิดของผม คิดว่า การเถียงพ่อแม่ ไม่ใช่สิ่งที่ผิด ครับ
เพราะว่า บางสิ่งบางอย่างที่เราเถียงไปมันมีเหตุผลพอ ครับ
เนื่องจากคนโบราณสมัยก่อนนั้นบางสิ่งบางอย่างเชื่อในสิ่งที่ผิดๆ ที่พิสูจน์ไม่ได้
แล้วนำมาสอนลูกหลานให้เชื่อตามครับ

แต่การเถียงโต้แย้งจะมีอยู่ 2 ประเภทนะครับ
1. เถียงด้วยวาจารุนแรง ผมว่าชั่ว
2. เถียงด้วยวาจาสุภาพ ผมว่าดี

สมัยนี้พ่อแม่เลี้ยงลูกก็ต้องเปิดใจ ยอมรับความคิดเห็น ของลูกบ้าง ไม่ใช่รึครับ อย่าคิดว่าตัวเองจะถูกเสมอ
คุณลองคิดดูนะครับ ก็เหมือนการทำงานในองค์กรบางองค์กร ผู้บริหารก็ต้องยอมรับความคิดเห็นการโต้เถียงของลูกน้องบ้างครับ
ไม่งั้นองค์กรนั้นก็ไม่เจริญก้าวหน้า ไปสู่ชั้นแนวหน้าได้หรอก เนื่องจากผู้บริหารเค้าไม่ได้ไปเจอหน้างานเหมือนกับลูกน้องหรอกครับ
เค้าไม่รู้หรอกว่าปัญหาที่ประสบที่หน้างานมีอะไรบ้าง ลูกค้าเค้าต้องการอะไรบ้าง คุณลองคิดดูครับ
ถ้าคุณทำงานคุณก็จะรู้ครับ

อีกอย่างถ้าพ่อแม่ไม่ยอมรับความคิดเห็นของลูกบ้าง
เวลาถ้าลูกมีปัญหาอะไร เค้าก็จะไม่มาปรึกษาเรานะครับ
ยิ่งวัยรุ่นสมัยนี้ท่านก็น่าจะรู้อยู่ว่าแสบกันแค่ไหน
แล้วเพื่อนมีอิทธิพลมากแค่ไหนต่อลูกเมื่อย่างเข้าสู่วัยรุ่น
จะให้เค้าต้องไปปรึกษาเพื่อนหรอครับ

อีกอย่างเรื่องเวรกรรมที่เกิดกับภรรยาผมก็ว่าไม่มีหรอกครับ
ถ้าเราเข้าใจกันแล้วคุยกันดีๆ พอมีปัญหามานั่งคุยกันแบบสุภาพ
ก็ไม่ได้ร้ายแรงแบบที่แม่ชีเค้าว่าหรอก
เพราะว่าผมเป็นคนเถียงพ่อแม่เหมือนกันครับ
ผมเจอมากับตัวครับ

ที่ว่าลูกหลานจะทำกับเรานั้น
ถ้าคุณศึกษาด้วยจิตวิทยาก็จะทราบว่า
มันเกิดมาจากพฤติกรรมเลียนแบบมาจากพ่อแม่นั้นละครับ
ก็ลูกเห็นพ่อแม่ตัวเองเถียงปู่ย่า ลูกก็เลยทำตาม

มันอยู่ที่การสั่งสอนครับ




62
ประสบการณ์พอสังเขปของท่าน

     เมื่อครั้งหนึ่งพ่อเที่ยงจะหยิบพระจากบนหิ้งมาแจกลูกศิษย์ ด้วยหิ้งพระสูงท่านจึงต่อเก้าอี้ แล้วพลัดตกลงมา แขนจึงไปถูกกับเข็มสักที่ตั้งหงายอยู่ กลับไม่มีบาดแผลแม้รอยบางบอน แต่เข็มสักบิดเบี้ยวไปเลย ท่านก็หันมายิ้มแล้วบอกกับศิษย์ว่า "คนแก่แล้ว หนังมันหย่อนยาน เลยไม่เข้า" แล้วก็ทำการลับเข็มสักใหม่เป็นการใหญ่เลยทีเดียว

    เมื่อครั้งที่พ่อเที่ยงกลับมาจากข้างนอก กำลังจะกลับบ้าน ฝนเกิดตกซะก่อน ก็ต้องพากันเดินตากฝนกลับ พอมาถึงที่บ้านแล้ว กลุ่มลูกศิษย์ก็พากันหาผ้ามาให้ท่านเช็ดตัวเป็นการใหญ่เลย เพราะกลัวว่าท่านจะเป็นหวัด  พอหยิบผ้ามากำลังจะยื่นให้ท่าน กลับพบว่า ตัวท่านไม่เปียกฝนเลยแม้แต่น้อย

     เมื่อตอนพ่อเที่ยงไม่สบายอยู่ที่โรงพยาบาล ลูกศิษย์ของท่านคนหนึ่งหลังจากกลับจากธุระแล้ว ระหว่างขับรถ กำลังชั่งใจอยู่ว่าจะนำของกินไปให้แม่ก่อน หรือว่าจะไปเยี่ยมอาจารย์ก่อน เมื่อคิดแล้วก็วนรถกลับไปเยี่ยมอาจารย์ที่โรงพยาบาล   เมื่อตอนจะกลับพ่อเที่ยงก็บอกกับศิษย์คนนั้นว่า "รีบกลับเอาของกินไปให้แม่เถอะ" ทั้งๆที่ไม่ได้บอกกล่าวเรื่องนี้เลย แต่ท่านก็สามารถทราบได้

      มีคนรู้จักท่านคนหนึ่ง (ไม่แน่ใจว่าเป็นเพื่อนของท่านหรือป่าว) ข้องใจ สงสัย อยากรู้ว่าผีมีจริงหรือป่าว เลยเข้ามาถามกับพ่อเที่ยง   ท่านก็ตอบกลับไปว่า "มีจริง" แล้วก็นัดเวลาให้มาพบท่านแล้วพาไปที่หนึ่ง (คาดว่าจะเป็นป่าช้า) หลังจากนั้นก็ทำเอาคนอยากรู้หัวโกร๋น ไม่สบายไปหลายวันเลยทีเดียว เพราะท่านรู้จริง ทำได้จริง พิสูจน์ได้

     เมื่อก่อนงานไหว้ครูอาจารย์หาญ ซึ่งเป็นศิษย์พ่อเที่ยงคนหนึ่ง ได้เข้ามาหาท่าน แล้วก็แจ้งวันไหว้ครู พร้อมกับเชิญท่านให้ไปงานไหว้ครูให้ได้ ท่านจึงได้รับปาก    เมื่อถึงเวลา ท่านก็ออกเดินทางพร้อมกับลูกศิษย์ขับรถไปส่ง ขณะถึงกลางทางโรคหัวใจท่านกำเริบ จะพาท่านไปส่งที่โรงพยาบาล ท่านก็ไม่ยอมไปจะต้องไปบ้านอาจารย์หาญให้ได้ ท่านก็ไปอยู่จนเสร็จพิธี จากนั้นก็ไม่ไหวลูกศิษย์ก็พาท่านเข้าโรงพยาบาลครับ  ท่านจะบอกกับลูกศิษย์ว่า "วาจาเราใช้เสกเป่าคาถาให้ศักดิ์สิทธิ เราต้องมีสัจจะ"

     เมื่อครั้งไปเยี่ยมลูกศิษย์ที่ต่างจังหวัด ได้มีอาจารย์สักเจ้าถิ่นในแถบนั้นทราบเข้าก็เกิดไม่พอใจ คิดว่าจะมาสักทับถิ่น จึงให้ลูกศิษย์ไปเชิญมาเพื่อเจรจา ก็ไม่สามารถตกลงกันได้ พ่อเที่ยงจึงกล่าวว่า "ถ้าพวกท่านจับผมได้ ผมจะไปทันที" จากนั้นก็ลุกออกไป โดยที่กลุ่มลูกศิษย์นั้นไม่มีใครสามารถลุกจากพื้นได้เลย    ว่ากันว่าวิชานี้ เสด็จเตี่ย ท่านก็เคยใช้ แม้กระทั้งปืนหรือมีดที่พกอยู่ ก็ไม่สามารถดึงหรือชักออกมาได้

     งานไหว้ครูพ่อเที่ยงสมัยก่อน ตอนนั้นมีพระเข้ามาหาท่าน ลูกศิษย์จึงนำน้ำชามาถวาย  เมื่อถึงตรงหน้าแล้วพระรูปนั้นก็ใช้ฝ่ามือตบลงไปที่แก้วแตกกระจาย
แล้วหันหน้ามาทางพ่อเที่ยงพร้อมกล่าวว่า       "แบบนี้ท่านทำได้มั้ย"
   พ่อเที่ยงท่านก็เฉยๆ บอกให้ลูกศิษย์มาเก็บกวาดแล้ว ไปนำมาถวายให้ใหม่
เมื่อนำมาถวายแล้ว พระรูปนั้นก็ทำอีกเช่นเดิม และกล่าวว่า
"แบบนี้ท่านทำได้รึป่าว"
    พ่อเที่ยงก็ให้ศิษย์มาเก็บกวาด แล้วให้รินน้ำชามาให้ท่าน
จากนั้นพ่อเที่ยงก็นำน้ำชามาถวายพระรูปนั้นเอง และกล่าวว่า
"อัปปมาโน ยั้งไว้ซึ่งความประมาท"
   พระรูปนั้นก็ตบไปที่แก้วอีกเช่นเดิม แต่คราวนี้แก้วบาดทะลุมือ ร้องโอดโอย
ท่านจึงให้ลูกศิษย์มาไปส่งที่โรงพยาบาล ครับ

ที่มาครับ http://fws.cc/sukyant/index.php?topic=25.0

63
อาลัยยิ่งครับ
เห็นรูป พ่อเที่ยง แล้วขนลุกซู่ เลยอ่ะ
บอกไม่ถูกเลย ครับ

ขอขอบพระคุณ พ่อทอง พ่อประโยชน์ พระครูบาเดช ที่ได้ลงยันต์ของท่านให้ครับ

64
พอดีผมอยากได้ยันต์นายขนมต้มแบบนี้อ่าครับ ใครมีแบบอัขระชัดๆมั่งครับช่วยกรุณาเอามาลงทีครับ
ที่ผมหามีอักขระไม่ชัดอ่าครับ



ถ้าคิดจะลอกลายไปสักเลียนแบบ
อย่าทำเด็จขาด มันเป็นสิ่งที่ไม่ดี ครับ

ถ้าคุณคิดจะสักเท่ห์ๆ ล้มเลิกคิดไปเถอะครับ

ถ้าเข้าใจอะไรบางประการผิดไป ขออภัย ไว้นะที่นี้ด้วยครับ

65
 :016: :015:

ครูบาเดช วัดป่าบง แม่นก่อครับ

ถ้าแม่น ขอกราบนมัสการครูบา ด้วยเน้อครับ

เดี๋ยวถ้า หน้าเสือ ผมเต็มสมบูรณ์แล้วจะนำเอามาให้ชมนะครับ

 :002: :002:

66
ผมคน อำเภอพาน เชียงราย
คนบ้านเดียวกันเลยครับ
ถ้าสนใจ PM เบอร์โทรมาให้ผมเลยครับ
เดี๋ยวผมติดต่อกลับครับ
สาย พ่อเที่ยง นะครับ


67
ผมก็ว่าจะไปนะครับ

แต่กลัวค่าครูแพง

แต่อยากได้มานานละครับ


PMทำยังไงหรอครับ

อยากรู้จิงๆ

PM ไปหาแล้วนะครับ (ก็คือส่งข้อความนั้นละครับ)

68


หลังของผมเน้อ

อักขระขลัง สวยดีครับ

อยากทราบว่าอยุ่สายเดียวกับหลวงพ่อเปิ่นด้วยหรือป่าวครับ บังเอิญว่าตอนนี้ผมมาทำงานประจำอยู่ที่ อ.เมือง จ.เชียงรายอ่ะครับ

สายพ่อเที่ยง อาจารย์ทอง ตลาดพูล ครับ

69
ขอข้อมูลด้วยครับ ว่า พระอาจารย์เดช อยู่ที่ไหนหรอคับ
--คนเจียงฮายคับเน้อ--

อยู่ แม่จัน ครับ วัดป่าบง ครับ
ถ้าสนใจครั้งต่อไป ไปสักตวยกั๋นก่อครับ
PM มาคุยกั๋นก็ได้ครับ เดี๋ยวโทรคุยกั๋นครับ

70
ม่ะวานไปลงมาแล้วครับ ลองดูล่ะกันครับ ที่ เชียงราย
http://www.bp.or.th/webboard/index.php/topic,16775.html

72
สร้อยสังวาลย์ พระอาจารย์เดช เชียงรายครับ
พึ่งไปลงมาม่ะวานอ่ะครับ อิอิ
กำ โพลสรูปไม่ขึ้นงง ครับ

75
พี่คนไหนมีรูปคนสัก หน้าเสือ หน้าหนุมาน ที่เป็นอักขระ ตรงหน้าอกใหญ่ๆ บ้างขอด้วยจ๊ะ

76
ไม่ทราบว่าหน้าอกสักยันต์ ไรกันมั้งครับ
แบ่งปันให้เป็นแนวทางกันบ้างครับ
มีรูปจะดีเลยครับ
ขอบคุณล่วงหน้าครับ

หน้า: [1]