ผู้เขียน หัวข้อ: บันทึกธรรม...๘ ส.ค.๕๒  (อ่าน 1023 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ รวี สัจจะ...

  • รองประธาน
  • *****
  • กระทู้: 1137
  • รวี สัจะ-สมณะไร้นาม-วจีพเนจร
    • ดูรายละเอียด
    • รวี สัจจะ สมณะไร้นาม (เคลื่อนไหวดุจสายลม)
บันทึกธรรม...๘ ส.ค.๕๒
« เมื่อ: 09 ส.ค. 2552, 06:48:05 »
 :059:"กมฺมุนา วตฺตตีโลโก".....
สัตว์โลกทั้งหลายย่อมเป็นไปตามกรรม
ที่สุดของพรหมวิหาร ๔ ก็คือการวางอุเบกขา
เพราะเราเมตตาสงสาร จึงเข้าไปสงเคราะห์ช่วยเหลือ
ถ้าเขาดีขึ้นเราก็ยินดีด้วยกับเขา...แต่ถ้าสงเคราะห์แล้ว
ยังเหมือนเดิมหรือแย่ลงกว่าเดิมก็ต้องทำใจปล่อยวาง
เพราะว่าเราทำหน้าที่ของเรานั้นสมบูรณ์แล้ว
สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมันเป็นวิบากกรรมของเขาเองที่จะต้องได้รับ
.....อุเบกขา......
เพราะเราเข้าใจในวิสัยของสัตว์โลกที่มีกรรมเป็นของเฉพาะตน
มิได้เกิดความน้อยใจหรือเสียใจเพราะไม่ได้หวังอะไรจากการสงเคราะห์เขา
เราทำหน้าที่ของเราให้สมบูรณ์ก็เพียงพอแล้ว...ถือว่าเป็นการสร้างบารมี
ผลจะอกมาอย่างไรเป็นเรื่องของวิบากกรรมของแต่ละคน
เรารับเอาแต่บุญไม่ไปร่วมในบาปกรรมของเขา
สิ่งที่ทำลงไปแล้วใจเป็นสุขทุกครั้งที่คิดถึงนั้นคือบุญ
แต่ถ้าทำไปแล้วใจเป็นทุกข์ แสดงว่าการกระทำนั้นยังไม่ถูกต้อง
แม้เรื่องนั้นจะเป็นเรื่องที่ดีงามก็ตาม
เพราะเราทำไปโดยหวังผล ทำเพื่อตอบสนองความต้องการของเราเอง
จิตของเรานั้นยังไม่บริสุทธิ์เพียงพอใจมันเลยเศร้าหมอง
แต่ถ้าเราบริสุทธิ์ใจไม่หวังผลตอบแทนในการกระทำ...ใจของเราก็จะเกิดปิติ
....กว่าจะถึงวันนี้....
ที่เรารู้จักการวางใจให้เป็นอุเบกขาได้นั้น
ต้องผ่านวันเวลามายาวนานพบพานหลายสิ่งที่สะเทือนใจ
กว่าจะรู้กว่าจะเข้าใจเราต้องวุ่นวายใจไปหลายครั้ง
เพราะเราไปมุ่งหวังในการกระทำของเรา
ไปกำหนดผลความสำเร็จไว้ล่วงหน้า เมื่อไม่ได้มาก็เสียใจ
วันเวลาที่ผ่านไปเราได้เรียนรู้อะไรเพิ่มขึ้นอีกมากมาย
และสอนเราให้เข้าใจในเรื่องของผลกรรม.....
 :054:กรรมแหละเป็นที่พึ่งของสัตว์ทั้งหลายในปรโลก :054:
                 เชื่อมั่นในเรื่องของกรรมและวิบาก
                       รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม
๙ สิงหาคม ๒๕๕๒ เวลา ๐๖.๔๘ น. ณ กุฏิน้อยริมน้ำโขง ชายแดนประเทศไทย

ใช่หวังจะดังเด่น  จึงมาเป็นสมณะ
เพียงหวังจะลดละ  ซึ่งมานะและอัตตา
เร่ร่อนและรอนแรม ไปแต่งแต้มแสวงหา
สัญจรร่อนเร่มา  ผ่านร้อยป่าและภูดอย
ลาภยศและสรรเสริญ  ถ้าหลงเพลินจิตเสื่อมถอย
พาใจให้เลื่อนลอย  จิตเสื่อมถอยคุณธรรม
       ปณิธานในการปฏิบัติธรรม

ออฟไลน์ derbyrock

  • คณะกรรมการ
  • *****
  • กระทู้: 2494
  • เพศ: ชาย
  • สติมา ปัญญาเกิด........ปัญหามา ปํญญามี.......
    • MSN Messenger - derbyrock@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: บันทึกธรรม...๘ ส.ค.๕๒
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 09 ส.ค. 2552, 09:35:55 »
วันเวลาที่ผ่านไปเราได้เรียนรู้อะไรเพิ่มขึ้นอีกมากมาย
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ ผมอ่านบันทึกธรรมของพระอาจารย์แล้ว ทำให้ผมได้รู้ว่า ถ้าเรามีสติและปัญญา ทุกๆวันของชีวิตจะมีคุณค่า ไม่ว่าวันนั้นจะดีหรือไม่ดี เพราะถ้าเราเรียนรู้จากวันนั้นๆ สิ่งที่เราเรียนรู้ก็จะเป็นประโยช์นให้กับตัวเองในวันต่อๆไปครับ

ความสุขที่แท้จริงรอคอยคุณอยู่.......เพียงแค่คุณนั่งลงแล้วหลับตา

ออฟไลน์ ~เสน่ห์ack01~

  • ผู้คุมกฎ
  • *****
  • กระทู้: 5330
  • เพศ: ชาย
  • " ไม่เมาเหล้าแล้วเรายังเมารัก"
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: บันทึกธรรม...๘ ส.ค.๕๒
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 10 ส.ค. 2552, 07:44:36 »
สิ่งที่ทำลงไปแล้วใจเป็นสุขทุกครั้งที่คิดถึงนั้นคือบุญ
แต่ถ้าทำไปแล้วใจเป็นทุกข์ แสดงว่าการกระทำนั้นยังไม่ถูกต้อง
แม้เรื่องนั้นจะเป็นเรื่องที่ดีงามก็ตาม
เพราะเราทำไปโดยหวังผล ทำเพื่อตอบสนองความต้องการของเราเอง
จิตของเรานั้นยังไม่บริสุทธิ์เพียงพอใจมันเลยเศร้าหมอง
แต่ถ้าเราบริสุทธิ์ใจไม่หวังผลตอบแทนในการกระทำ...ใจของเราก็จะเกิดปิติ

.....กราบนมัสการขอบพระคุณพระอาจารย์ครับที่เมตตาสอนเรื่อง อุเบกขา....

...กำลังศึกษาและหาวิธีการในการวางอุเบกขาอยู่พอดีครับ...

ทำบุญ วันคล้ายวันเกิด หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ
วันอาทิตย์ ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๕