ที่ผ่านมาเราไปยึดถือสิ่งที่ไร้สาระเอามาเป็นสาระ
ทำให้เสียเวลาในการปฏิบัติธรรม การพัฒนาทางจิตเลยไม่ก้าวหน้า
เพราะมัวแต่เสียเวลาอยู่กับสิ่งไร้สาระตามกระแสของโลก
ซึ่งเมือได้ทบทวนพิจารณาดูแล้ว จึงได้รู้ว่าเราประมาทในชีวิต
การปฏิบัติธรรมนั้นเป็นไปเพื่อออกจากกระแสโลก
คือให้หลุดออกจากโลกธรรม ๘ ซึ่งเป็นกระแสโลกอันได้แก่
สุข-ทุกข์...ลาภ-เสื่อมลาภ...ยศ-เสื่อมยศ...สรรเสริญ-นินทา
ซึ่งสิ่งเหล่านี้นำมาซึ่งความทุกข์ ความเร้าร้อน ความวุ่นวาย
ชีวิตในกระแสโลกนั้นดำเนินไปเพื่อสนองตอบกิเลสและตัณหา
ของตัวเราและคนรอบข้าง เป็นไปเพื่อ กิน กาม เกียรติ
ก่อให้เกิดการเบียดเบียน แข่งขัน แย่งชิง ซึ่งกันและกัน
เพื่อสนองตอบความต้องการของเราเป็นไปอย่างนี้ไม่มีที่สิ้นสุด
เป็นไปเพื่อความอยากมี อยากเป็น อยากได้ เพื่อการสะสมซึ่งกิเลส
.....แต่การปฏิบัติธรรมนั้น.....
เป็นไปเพื่อการ ลดละและปล่อยวาง ทำให้ว่าง ทำให้เบา
จากทิฏฐิมานะ อัตตา กิเลส ตัณหาและอุปาทาน
เป็นไปเพื่อความไม่มี เพื่อความละวางให้จิตเราว่างจากอกุศล
เพื่อความหลุดพ้นออกจากกองทุกข์ทั้งปวง
มัมคงจะถึงเวลาแล้วที่เราต้องหันมาพิจารณาตัวเรา
เรียกร้องตัวเรา บังคับตัวเรา ให้ดำเนินชีวิตไปในกรอบของศีลธรรม
ตามพระธรรมคำสอนของพระศาสดาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
.....ได้เวลาแล้ว.....
:059:แด่ความหลงใหลในกระแสโลกที่ผ่านมาของตัวเรา
ด้วยความปรารถนาดีและไมตรีจิต
รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม-กลุ่มยุทธธรรมสัญจร
๕ กันยายน ๒๕๕๒ เวลา ๐๗.๑๕ น. ณ ศาลาน้อยริมน้ำโขง ชายแดนประเทศไทย